บทที่ 4...3/3
หน้าผาที่ค่อนข้างชันขนาดนั้น ถ้าคนร้ายมีจริง การปีนลงไปเพื่อขโมยเมมโมรี่การ์ดคงไม่ง่าย อีกทั้งหลังเกิดเหตุชาวบ้านแถวนั้นก็โทรหากู้ภัยทันที เมมโมรี่การ์ดอาจจะไม่มีในกล้องตั้งแต่แรกหรือเปล่านะ ภามและภูมิต่างไม่แน่ใจ
“แต่ถ้าเราสืบจากเหตุปัจจัยน่าจะรื้อคดีมาใหม่ได้ มีใครที่พี่ภูมิสงสัยไหมครับ” ภามเปลี่ยนมาประเด็นนี้แทน
“มี 4 คน” ภูมิตอบได้ทันที
เมษายื่นมือไปใต้โตะตัวเล็กของโซฟาเพื่อหยิบกระดาษกับปากกามาช่วยจด ภามมองแล้วขอบคุณอยู่ในใจ เมษาจะนั่งฟังเฉยๆ ก็ได้ แต่เธออยากช่วยแม้เขาไม่ได้ร้องขอ
“มีใครบ้าง แล้วทำไมพี่ภูมิถึงสงสัย” ภามมีคำตอบบางส่วนอยู่ในใจ แต่ในความเป็นญาติทำให้เขาไม่อาจกล่าวหาใคร หากไม่มีหลักฐาน
“คนแรก ลุงธนิน ภามคงพอรู้ว่าลุงธนินกับพ่อมีเรื่องขัดแย้งกันมาตลอด รวมทั้งการที่พี่ขึ้นรับตำแหน่งประธานบริหารแทนพ่อด้วย ตอนนั้นลุงธนินเสนอชื่อของธีภพ ภามก็รู้ว่าธีภพจบมาด้านบริหาร มีการวางแผนอนาคตเอาไว้แล้ว ก่อนที่พี่จะตายหนึ่งวัน พี่กับลุงธนินทะเลาะกันเพราะพี่ไม่เห็นด้วยที่แต่งตั้งธีภพเป็นรองประธาน คนที่เหมาะสมได้ประกาศออกไปแล้ว แต่จะมาให้ธีภพแทนในตำแหน่งนั้นคงไม่ได้เพราะธีภพไม่เคยเข้ามาทำงานจริงๆ ด้วยซ้ำ”
เมษาจดตามที่ภูมิบอกแทบจะทุกคำ อดคิดไม่ได้ว่าการเป็นคุณภูมิไม่ง่ายเลย ธุรกิจเป็นเรื่องของผลประโยชน์ที่บางครั้งก็น่ากลัว ภามพยักหน้าเพราะเขาเองก็สงสัยลุงธนิน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรที่จะสาวไปถึง ทำให้เขาได้แต่สงสัย
“ถ้าเหตุผลนี้ก็พอเป็นไปได้ แต่ผมคงต้องสืบให้แน่ใจก่อนว่าลุงธนินทำแบบนั้นจริงๆ หรือเปล่า อาจจะต้องใช้เวลาสักหน่อยเพราะคงสืบแบบเปิดเผยไม่ได้”
ภูมิพยักหน้ารู้ดีกว่ามันไม่ง่าย “พี่เข้าใจ คนที่สอง ธีภพ ภายนอกอาจจะเหมือนว่าธีภพไม่ได้สนใจบริษัทของครอบครัวนัก แต่เบื้องหลังเจ้านี่ก็กว้านซื้อหุ้นจากหุ้นส่วนบางคนมาตลอด ถ้าสองพ่อลูกทำสำเร็จ ทั้งสองคนจะมีหุ้นรวมกันมากกว่าที่ภามกับแม่มีรวมกัน พี่เคยทะเลาะกับธีภพ แต่คนของของพี่บอกว่าธีภพน่าจะรู้ตัวว่าถูกพี่ตามสืบ สองวันก่อนพี่ตาย ธีภพขายหุ้นบางส่วนให้ป้านลิน”
ภามชะงักมองพี่ชายไม่คิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้ “เรื่องนี้ผมไม่เคยรู้มาก่อน ทำไมตอนนั้นพี่ภูมิไม่บอกผมบ้างล่ะครับ ผมจะได้ช่วยพี่ได้”
ภูมิส่ายหน้า “มันอันตรายเกินไป ภามไม่ควรต้องมาอยู่ในจุดที่ระแวงคนรอบตัวแบบพี่”
ภามพูดไม่ออก เมษาหันมามองเขาถึงได้รู้ว่าภายใต้ความสมบูรณ์แบบ มีอะไรที่คนนอกไม่เห็นอยู่ คุณภูมิรู้ดีถึงได้ปกป้องน้องชายมาตลอด จนกระทั่งเขาตายอย่างไม่สมควร
“คนที่สาม ไปรยา ตอนนั้นพี่กำลังจะทำเรื่องฟ้องหย่ากับไปร พี่ให้ปุริมช่วยเก็บหลักฐานว่าไปรอาจนอกใจพี่มาเรื่อยๆ แต่พี่ก็ไม่มีโอกาสได้ฟ้องหย่าเพราะตายเสียก่อน รถที่พี่ขับในวันที่เกิดเรื่อง ไปรก็เคยเอาไปใช้”
ภามรู้มาบ้างว่าพี่ชายกับพี่สะใภ้มีเรื่องหมางใจกัน แต่ก็กลับไปคืนดีกันแล้ว ไม่คิดว่าสุดท้ายจะถึงกับฟ้องหย่า โดยที่ไปรยาเป็นฝ่ายนอกใจ แต่สองปีที่ไปรยาย้ายไปอยู่อเมริกาและอาจจะกลับมาเร็วๆ นี้ ไปรยาครองตัวเป็นหม้ายมาตลอด
“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร พี่ภูมิรู้หรือเปล่า”
“ปุริมกำลังสืบให้พี่ แต่พอพี่ตายแล้ว ปุริมคงไม่ได้สืบต่อ” ภูมิคาดเดา
เรื่องนี้ภามคิดว่าสืบไม่ยาก หากปุริมสืบไปก่อนหน้าแล้ว แต่ปุริมไม่เคยบอกเขาเลย ช่างเก็บความลับของเจ้านายได้ดีจนบางทีก็ดีเกินไป
“คนสุดท้ายล่ะครับ พี่ภูมิสงสัยใคร” ภามรีบถามต่อเพราะตอนนี้ใกล้จะครบ 2 ชั่วโมงที่เมษาให้เวลากับเขาแล้ว แต่ภูมิกลับมองมาที่เขา “พี่ภูมิสงสัยผมหรือครับ”
“เปล่า บนโลกนี้นอกจากแม่แล้วก็มีภามอีกคนที่พี่ไว้ใจเท่าๆ กับที่ไว้ใจตัวเอง พี่แค่ไม่แน่ใจ คนที่สี่อาจไม่เกี่ยวข้องเท่าไหร่ แต่พี่ก็ตัดออกไปไม่ได้”
“ใครหรือครับ”
“ป้าลิน”
“ไม่น่าเป็นไปได้” ภามไม่เคยมีชื่อของป้านลินอยู่ในลิสต์คนที่เขาสงสัยมาก่อนเลย “ผมไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมว่าร่างของพี่ภูมิเริ่มจาง”
เมษาเห็นอยู่เหมือนกันแต่ไม่อยากขัดจังหวะภาม บางทีการที่ร่างของคุณภูมิจางลงเรื่อยๆ อาจหมายถึงว่าการติดต่อในครั้งนี้ใกล้จบลงแล้ว
“พี่คงต้องรีบก่อนที่เราสองคนจะไม่เห็นพี่สินะ” ภูมิเอ่ยเสียงเศร้า นานเหลือเกินที่เขาไม่ได้พูดคุยกับน้องชาย “พี่บังเอิญรู้มาว่า ที่จริงแล้วคนที่พ่อต้องหมั้นหมายด้วยคือป้านลิน แต่พ่อมีโอกาสได้ใกล้ชิดกับแม่ แม่ของเราชอบเรียนหนังสือ ส่วนป้านลินชอบเย็บปักถักร้อย พ่อกับแม่ได้พบกันจนกระทั่งรักกัน การหมั้นหมายจึงต้องเปลี่ยนตัวเป็นแม่ของเราสองคนแทน พี่ไม่แน่ใจว่าสาเหตุนี้จะทำให้ป้านลินยังเสียใจจนเจ็บแค้นหรือเปล่า เพราะหลายครั้งที่พ่อกับลุงธนินทะเลาะกัน ป้านลินมักจะเข้าข้างลุงธนิน อีกทั้งยังซื้อหุ้นจากธีภพได้ในเวลาที่พอเหมาะพอเจาะเสียด้วย”
เสียงถอนใจยาวของภาม ทำให้เมษาหันไปมองใบหน้าเหมือนคนผิดหวังของเขา รอบตัวของเขาแทบจะกลายเป็นผู้น่าสงสัยไปเกือบหมดแล้ว การรู้ว่าพี่ชายต้องพบกับอะไรก่อนตาย คงทำให้เขารู้สึกผิดอยู่มาก
“ผมไม่รู้ว่าตอนนั้นพี่ภูมิเครียดแค่ไหน ผมไม่อยากระแวงญาติทุกคน แต่ผมจะสืบจนให้ได้คำตอบ พี่ภูมิวางใจได้ ผมไม่ยอมให้คนทำร้ายพี่ลอยนวลไปได้หรอก”
“บางที...” ภูมิเอ่ยขึ้นแล้วชะงักอย่างไม่แน่ใจ
“อะไรหรือครับ”
ภูมิส่ายหน้าไม่คิดว่าเป็นใครอีกคนที่เกี่ยวข้องกับเขาก่อนตายเช่นกัน
“ช่างเถอะ ไม่น่าจะมีอะไร คราวหน้าพี่จะมารอที่นี่ ภามกับเมษาจะได้ไม่ต้องเดินหาพี่ไปทั่วโรงแรมดีไหม”
ภามรู้สึกได้ว่าร่างของพี่ภูมิกำลังจางลงอีก “ได้ครับ แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน แล้วพบกันใหม่”
ภูมิยิ้มให้น้องชายแล้วร่างก็หายไปจากสายตาของภามทันทีที่เขาปล่อยมือจากเมษา ภามมองมือของเมษาที่ซีดขาวเพราะเราสองคนจับมือกันมา 2 ชั่วโมงแล้ว ยกเว้นช่วงไม่กี่นาทีที่เธอไปเข้าห้องน้ำ แต่เธอไม่บ่นว่าเขาสักคำ เธอแค่กำมือแล้วคลายออก ก่อนจะส่งกระดาษที่จดรายละเอียดของการสนทนาทั้งหมดมาให้เขา
“ฉันคงช่วยคุณได้แค่จดให้ คุณโอเคดีนะ ถ้าเครียดก็บอกฉันได้ ฉันเข้าใจถ้าต้องระแวงญาติตัวเองคงรู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่” การที่ต้องมารู้เรื่องราวของครอบครัวของใครสักคน โดยที่หากเลือกได้ภามคงไม่อยากให้เป็นแบบนี้ ทำให้หญิงสาวคิดว่าต้องระวังไม่ให้ล้ำเส้นไป
ภามยิ้มบางไม่คิดฝันว่าจะเป็นเมษาที่อยู่กับเขาตรงนี้ ผู้หญิงที่กล้าจะตีหัวเขาให้แตกและพร้อมจะปลอบใจเขาเช่นกัน
“ผมไม่เป็นไร ขอบคุณคุณมาก ผมจะให้โมกข์ไปส่งคุณ”
เมษาลุกขึ้นทันที แต่กลับรู้สึกเหมือนตัวเบาๆ อย่างไรชอบกล ภามคิดว่าหญิงสาวหน้าซีดอาจเพราะเธอเหนื่อยที่เดินตามหาพี่ภูมิกับเขาแทบจะรอบโรงแรม การที่หญิงสาวแต่งหน้าบางๆ ทำให้เขาไม่ค่อยแน่ใจนัก ชายหนุ่มเดินเคียงหญิงสาวเข้าไปในลิฟต์ เมษาเพิ่งเห็นหน้าตัวเองว่ามันซีดเซียวเหมือนเธออดนอนมาทั้งคืนอย่างไรอย่างนั้น ดีแล้วที่เธอใส่แมสไว้ แม้ว่าจะถูกถ่ายรูปไปก็คงเห็นแค่ตากับหน้าผาก
เจนนรีนั่งอยู่มุมหนึ่งของลอบบี้ด้วยความจงใจ เพื่อที่จะมาให้เห็นกับตาว่าภามเดินมาส่งผู้หญิงคนหนึ่งที่รถ ซึ่งโมกข์เป็นคนขับรถให้ แสดงว่าเธอคนนี้สำคัญเพราะปกติแล้วโมกข์จะขับรถให้ภามเพียงคนเดียวเท่านั้น มือหนาที่แตะหลังของผู้หญิงคนนั้นเบาๆ พลางยื่นมือรองที่ขอบรถกันไม่ให้อีกฝ่ายเจ็บหากเผลอไปชน เจนนรีเกิดคำถามทันทีว่าผู้หญิงคนนี้เป็นใครกัน ทำไมภามถึงดูทะนุถนอมและใส่ใจถึงขนาดนั้น
* และ ** ข้อมูลจาก เหตุผลทางวิทยาศาสตร์ 5 ข้อ ที่ทำให้คนเห็นผี - BBC News ไทย https://www.bbc.com/thai/international-41819139
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 268
แสดงความคิดเห็น