บทที่ 552: ชายหนุ่มเนื้อหอม
ในยามนี้ขอแค่พวกเขาจับตัวหยินชางมาได้ การจับเหยื่อก็ไม่นับว่าลำบากยากเย็นอะไร
ถึงแม้ว่าหมอผีจะต้องการเหยื่อเป็นสิบหรือเป็นร้อยตัว เขาก็จะจัดการหามาให้ได้
เมื่อหยินเสวี่ยได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกมีความสุขมาก นางจึงรีบพูดขอบคุณคนเป็นหัวหน้า
“ขอบคุณท่านหัวหน้า ถ้าข้าได้เหยื่อมาแล้ว ข้าจะนำตัวหยินชางมาให้ท่านอย่างแน่นอน”
ในเวลานั้นนางจะสามารถใช้ข้ออ้างว่าจะเอาเหยื่อไปตอบแทนให้กับหมอผีแล้วออกจากบ้านที่สกปรกโสโครกหลังนี้
ขณะเดียวกัน พอหยินซางรู้ว่าเด็กที่มีสายเลือดภูตอสูรอยู่ในเผ่าเยว่หู เขาก็รู้สึกมีความสุขมาก การที่เขาจะต้องทำงานหนักในไร่ในนามันก็ไม่ใช่เรื่องที่ลำบากอีกต่อไป
ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ชายหนุ่มยังไม่สามารถจัดการกับหูหลินและคนในเผ่าเยว่หูได้ด้วยตัวคนเดียว
แต่หากเขาได้รับเลือดของภูตอสูรมา สถานการณ์ทุกอย่างก็จะเปลี่ยนไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ
เมื่อความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นถึง 2 เท่า ในตอนนั้นมันก็จะเป็นเรื่องง่ายมากหากเขาต้องการครอบครองเผ่าเยว่หูแห่งนี้เอาไว้ในมือ
“อืม” ผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไป๋ผีพยักหน้าด้วยความพึงพอใจและสัญญากับหญิงสาวว่า
“ถ้าเจ้าสามารถนำตัวหยินชางกลับมาได้สำเร็จ ข้าจะตบรางวัลให้เจ้าอย่างงาม”
แต่สถานการณ์ตอนนี้เขายังคงอยู่ภายใต้การควบคุมของคนในเผ่าเยว่หู ดังนั้นเขาจึงไม่สะดวกออกหน้าจัดการเรื่องดังกล่าวด้วยตัวเอง มันเป็นเรื่องสมควรอย่างยิ่งที่จะฝากเรื่องเด็กให้หยินเสวี่ยจัดการ
หลังจากชายหนุ่มกล่าวจบ เขาก็กังวลว่าตนจะเผลอเผยเจตนาที่แท้จริงของตัวเองออกไป เพราะฉะนั้นเขาจึงลดสายตาลงแล้วทำท่าทางเหมือนกับว่าเขากำลังทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“หยินเสวี่ย เจ้าก็รู้ว่าเผ่าไป๋ผีของเราให้ความสำคัญกับสายเลือดมากที่สุด แม้ว่าหยินชางจะเป็นลูกของพี่ชายของเจ้า แต่เลือดของเขาไม่บริสุทธิ์ ตามกฎของเผ่าเราจึงไม่อาจปล่อยเขาเอาไว้ได้ แต่ในกรณีนี้ถ้าเขายอมอยู่ภายใต้การดูแลของข้า ข้าก็จะให้โอกาสเขา”
ชายผู้เป็นหัวหน้าเผ่าไป๋ผีพูดเหมือนกับว่าเขายอมเสียสละเพื่อหยินชางมากมาย
ในขณะนั้นไม่ใช่ว่าหยินเสวี่ยจะไม่รับรู้ว่าจุดจบของหลานชายเป็นเช่นไร แต่นางก็ไม่ได้สนใจความเป็นความตายของอีกฝ่ายเลยแม้แต่น้อย
“ท่านหัวหน้า ท่านไม่ต้องกังวล ข้ารู้ว่าท่านมีเจตนาที่ดีต่อตัวเด็ก หยินชางจะต้องเข้าใจท่านอย่างแน่นอน” หญิงสาวพูดอย่างตื่นเต้น
ทันทีที่หัวหน้าเผ่าไป๋ผีได้รับคำตอบที่น่าพึงพอใจ เขาก็ออกจากกระท่อมอันไม่น่าพิสมัยไป
อีกไม่กี่วันต่อมา เขาพยายามทำงานในไร่ให้เสร็จก่อนแล้วรีบออกไปล่าสัตว์ในป่า
ในช่วงเวลาปัจจุบันมันไม่ง่ายเลยที่จะจับเหยื่อธรรมดา การที่เขาจะหาเหยื่อขนาดใหญ่ตอนนี้จึงเป็นอะไรที่ยากมาก
แถมเหยื่อขนาดใหญ่โดยส่วนมากมักจะไม่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มใหญ่และพวกมันก็มีนิสัยก้าวร้าว
ประกอบกับเวลาที่ผ่านมาชายหนุ่มทั้งขาดสารอาหารและถูกใช้ให้ทำงานหนักมาเป็นเวลานาน ดังนั้นพละกำลังของเขาขณะนี้จึงไม่ได้มีมากล้นเหมือนแต่ก่อน ซึ่งการจับเหยื่อตัวใหญ่ก็ยังคงเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
หยินซางจึงทำได้เพียงพาภูตคนอื่น ๆ ของเผ่าไป๋ผีออกไปล่ากับเขาเท่านั้น
แค่อาศัยความสามารถในการพูดล้างสมองของผู้อาวุโส เหล่าภูตในเผ่าก็เต็มใจที่จะทำงานหนักมากกว่าเดิมแล้ว
...
ในเวลาเดียวกัน
หูเจียวเจียวกับหลงโม่ได้พาลูก ๆ ของพวกเขาไปอาศัยอยู่ในบ้านหลังใหม่ในเผ่าเยว่หู
อากาศที่นี่เย็นสบายกว่าที่เผ่าเฟิงโชวมาก ในตอนกลางวันก็มีร่มเงาของต้นไม้ที่ขึ้นรกครึ้มคอยบดบังแสงแดดให้ จิ้งจอกสาวรู้สึกว่าตนเองได้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง
เดิมทีเธอคิดว่าตัวเองจะได้มาพักผ่อนสบาย ๆ อยู่ในเผ่าเยว่หู
ทว่าหลังจากที่ย้ายห้องนอนลงมาอยู่ชั้น 1 เจ้ามังกรตัวใหญ่ก็ยิ่งทำตัวไร้ยางอายมากขึ้นไปอีก เธอถูกอีกฝ่ายกระทำอย่างรุนแรงจนเธอไม่มีแรงออกไปข้างนอกเป็นเวลากว่า 5 วัน
โชคดีที่ลูก ๆ ทั้ง 6 รู้สึกตื่นเต้นกับสภาพแวดล้อมใหม่จึงพากันไปเที่ยวเล่นในเผ่าทุกวัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่ทันได้สังเกตเห็นความผิดปกติของแม่จิ้งจอก
เนื่องจากอากาศที่ร้อนจัด เธอจึงมักจะทำอาหารง่าย ๆ กิน ซึ่งส่วนใหญ่ก็เป็นน้ำแกงต่าง ๆ
หลังจากที่หลงโม่ฝึกฝีมือหลายครั้ง ในที่สุดเขาก็สามารถทำอาหารให้ลูกกินได้ด้วยตัวเอง
ด้วยเหตุนี้ หูเจียวเจียวจึงไม่เหลืองานอะไรให้ทำอีก
พอตื่นเช้ามา เธอก็เดินออกไปที่ลานหน้าบ้านก่อนจะเห็นผู้หญิงหลายคนมายืนออกันอยู่ด้านนอก
ผู้หญิงเหล่านี้ล้วนทำตาเป็นประกายราวกับฝูงหมาป่าผู้หิวโหยที่กำลังจับจ้องเหยื่อของพวกมัน
ในระหว่างที่หญิงสาวกำลังรู้สึกสงสัย ร่างสูงสง่าก็เดินกลับมาพร้อมกับถังน้ำ 2 ถัง
เนื่องจากที่บ้านไม่มีบ่อน้ำ หลงโม่จึงต้องเดินไปตักน้ำที่ทะเลสาบเยว่หูทุกเช้าเพื่อเอามากักเก็บไว้ใช้ในวันนั้น ๆ
วันนี้ชายหนุ่มสวมเสื้อกั๊กบาง ๆ ที่เปิดแผงอกอันแข็งแกร่ง แล้วมีเม็ดเหงื่อจับตัวอยู่บนผิวสีคล้ำแดดของเขา ส่งผลให้เสื้อกั๊กที่ทำจากผ้าฝ้ายนั้นแนบติดกับร่างกายของเจ้าตัวซึ่งมันช่วยขับให้เขายิ่งน่าดึงดูดมากขึ้น
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ท่าทางที่เยือกเย็น สุขุม และดุดันนั้น แค่มองเพียงเสี้ยววินาที ทุกคนก็บอกได้ว่าเขาเป็นคนที่ทรงพลังมากแค่ไหน
ในสายตาของภูตหญิง ไม่ว่าจะมองจากมุมใด เขาก็เป็นชายที่เหมาะสมที่สุดในการเอามาเป็นคู่ครอง
พอหูเจียวเจียวเห็นภาพเบื้องหน้า เธอก็เข้าใจทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
ในช่วงเวลาวิกฤตเช่นนี้ การมีคู่ครองที่แข็งแกร่งถือได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก
ผู้หญิงพวกนั้นคงจินตนาการไปไกลแล้วว่าตัวเองได้ตัวมังกรหนุ่มไปครอบครอง และวาดฝันถึงอนาคตอันวิเศษมากมาย
มันทำให้จิ้งจอกสาวก็รู้สึกรำคาญใจเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะเดินไปหามังกรหนุ่มโดยที่ไม่ต้องรอให้เขาเข้ามาในลานบ้านก่อน
“หลงโม่ เจ้ากลับมาแล้วหรือ!”
เสียงหวานหยดย้อยคล้ายเสียงพิณที่ขับกล่อมทำให้ดวงตาสีทองสั่นไหวในขณะที่เขามองภรรยาสาว
ยังไม่ทันที่ร่างสูงจะได้เปิดปากพูด มือเรียวขาวก็ยื่นออกมาช่วยเขาเช็ดเหงื่อบนใบหน้าของเขาเบา ๆ
แล้วภาพที่กลุ่มผู้หญิงด้านนอกเห็นก็คือ ชายหนุ่มตัวสูงผู้เคร่งขรึมกำลังยืนเคียงคู่อยู่กับหญิงสาวร่างเล็กผู้มีเสน่ห์ ทั้งคู่นั้นเหมาะสมกันราวกับสวรรค์สร้าง
ภาพดังกล่าวทำให้เหล่าสตรีที่เฝ้าดูอยู่รอบ ๆ รู้สึกเสียดาย แม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้ว่าชายหญิงคู่นี้เป็นอะไรกัน
“ที่แท้ผู้ชายคนนี้ก็มีคู่ไปแล้ว...”
“เอาเถอะ ผู้ชายที่เก่งกาจที่สามารถจับเหยื่อได้วันละหลายตัวแบบนี้คงไม่ตกมาถึงมือของพวกเราหรอก”
“ดูคู่ของเขาสิ นางงดงามมาก พอมาเทียบกับเราแล้ว เขาคงไม่ชายตามองเราหรอก”
เหล่าสตรีทั้งหลายยิ้มเยาะดูถูกตัวเองพลางพูดด้วยน้ำเสียงอิจฉา
ผิวของคู่ของชายคนนั้นทั้งขาวเนียนและเปล่งปลั่งมาก พวกนางไม่แน่ใจว่าถ้าแค่จับตัวนางเบา ๆ แล้วมันจะมีน้ำซึมออกมาจากผิวอีกฝ่ายหรือเปล่า ตอนนี้หญิงสาวไม่ต่างจากเทพธิดาที่อยู่ท่ามกลางผู้หญิงผิวคล้ำเลย
การที่พวกนางมามัวยืนเสียเวลาอยู่ที่นี่ก็คงทำได้เพียงแค่วาดฝันแบบลม ๆ แล้ง ๆ
พอกลุ่มภูตหญิงในเผ่าเยว่หูรู้ว่ามังกรหนุ่มมีคู่ครองอยู่แล้ว ทุกคนก็ยืนดูอย่างเสียดายอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ฝูงชนจะสลายตัวไป
ในเวลานั้นหลงโม่ไม่ได้สนใจหันไปมองรอบ ๆ รวมถึงไม่ได้สนใจผู้หญิงที่อยู่รอบตัวเขาเลย
หูเจียวเจียวเป็นคนเดียวที่อยู่ในสายตาของเขา พอชายหนุ่มเห็นหญิงสาวที่มีดวงหน้าสดใสฉีกยิ้มจนเห็นฟันขาวเดินเข้ามาหาตน มุมปากของเขาก็ยกขึ้นเป็นรอยยิ้มจาง ๆ
“วันนี้ทำไมเจ้าตื่นเร็ว เจ้าหิวหรือยัง เดี๋ยวข้าจะไปหาอะไรมาให้เจ้ากิน”
เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา มังกรหนุ่มเพิ่งค้นพบว่าตัวเองมีความสุขมากแค่ไหนเวลาที่ได้ทำอาหารให้กับลูกเมียของตัวเอง
หลังจากที่เขาจัดการภรรยาสาวจนนางแทบไม่มีแรงลุกขึ้นจากเตียงแล้ว หน้าที่ทำอาหารจึงตกเป็นของเขาไปโดยปริยาย
ทั้งที่เขาเป็นคนทำอาหารไม่เก่ง แต่ความหลงใหลในการทำอาหารของเขาก็ยังไม่เคยลดลงเลย เขาพยายามฝึกฝนจนฝีมือพัฒนาไปได้อีกขั้น
เมื่อหูเจียวเจียวเห็นท่าทางของหลงโม่ที่ไม่สนใจผู้หญิงคนอื่นเลย ความรู้สึกที่จะแสดงความเป็นเจ้าของก็ลดลงทันที
เจ้ามังกรซื่อบื้อคนนี้คงไม่รู้ตัวจริง ๆ ว่าเขาทำให้ผู้หญิงในเผ่าเยว่หูรู้สึกอิจฉาเธอมากแค่ไหน
ขณะนั้นร่างบอบบางยืนเขย่งเท้าช่วยคนตัวสูงกว่าเช็ดเหงื่อออกจากใบหน้า จากนั้นจึงเสยผมบนหน้าผากของเขาเล่นจนหน้าผากกว้างเรียบเนียนถูกเปิดเผยออกมาสู่สายตา
ยามนี้หญิงสาวรู้สึกอารมณ์ดีมากขึ้นแล้ว เธอจึงยกยิ้มมุมปากก่อนจะพูดว่า
“ช่วงนี้ข้าได้ดื่มน้ำแกงอยู่ทุกวัน ข้าไม่อยากดื่มมันแล้ว วันนี้ข้าจะทำอาหารกินเอง”
“เอาเถอะ งั้นข้าจะไปช่วยเจ้าจุดไฟ”
หลงโม่พูดเอาใจภรรยาคนสวย
หลังจากที่หูเจียวเจียวปล่อยมือแล้ว ผู้เป็นสามีก็เดินเข้าไปในลานบ้านพร้อมกับถังน้ำแล้วเทน้ำในถังใส่โอ่ง
ไม่นานจิ้งจอกสาวก็เพิ่งจำได้ว่าหลงโม่กำลังถือถังน้ำ 2 ถังเต็ม แต่เขาไม่ทำน้ำหกออกมาเลยสักหยดเดียว
นี่เขาจะต้องเดินนิ่งแค่ไหนกันเนี่ย!
ปัจจุบันพวกเด็ก ๆ ที่กินอาหารเช้าที่พ่อมังกรทำเอาไว้ได้ออกไปเล่นกันหมดแล้ว ภายในห้องครัวก็สะอาดสะอ้าน ดูเหมือนว่ามังกรหนุ่มจะทำความสะอาดเอาไว้เรียบร้อยแล้วเช่นกัน
เมื่อหูเจียวเจียวนึกถึงสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ เธอจึงทำแค่เนื้อย่างที่ช่วยประทังความหิวของเธอกับหลงโม่ได้เป็นอย่างดี
จากนั้นเธอก็คุยธุระกับชายหนุ่มทันที
“หลงโม่ วันนี้ข้าเข้าไปในป่ากับเจ้าได้ไหม?”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: มีผัวหล่อและแข็งแกร่งขนาดนี้ ใครไม่หวงก็บ้าแล้วววว 55555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 117
แสดงความคิดเห็น