รักกันไม่ใช่เรื่องยาก แต่จะทำอย่างไรให้รักของคุณยืนยาว...นั่นแหละที่ยากกว่า

ดูจากชื่อเรื่อง นักอ่านหลายท่านก็คงเดาได้แล้ว...ว่าบทความนี้เกี่ยวกับความรัก ซึ่งจะว่าไปแล้ว ก็ถือเป็นเรื่องที่ไม่ว่าใครก็คงหลีกหนีไปไม่พ้น

ตั้งแต่เล็กจนโต ไม่รู้ว่าตัวเราเคยถามตัวเองบ้างหรือเปล่า ว่าที่ผ่านมาเรามีความรักไปกี่ครั้งแล้ว ซึ่งคำตอบก็อาจแตกต่างกันไป บางคนจำได้ บางคนจำไม่ได้

เชื่อหรือไม่ว่า การที่เรารักใครสักคน และทำให้คนคนนั้นรักเรานั้น หากมองมุมหนึ่งมันก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เมื่อเรานำความรักที่มีไปเปรียบเทียบกับความแน่นอนและมั่นคง เพราะสิ่งนี้ยากกว่าเยอะ

ประโยคที่ดูจะตรงที่สุดก็คือ "กว่าจะรักกันลำบากแทบตาย แต่เลิกกันง่ายนิดเดียว" เชื่อหรือไม่ว่ามันจริง!

หลายคู่คบกันมา รักกันมาเกือบ 10 ปี บทจะเลิกกันดันใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงด้วยซ้ำ จะว่าไปมันก็แปลก

เคยสงสัยกันมั้ยครับ ว่าทำไมบางคู่คบกันมานานขนาดนั้น ทำไมเขาถึงเลิกกัน?

หากจะว่าไปแล้ว มันก็คงเป็นปัญหาเดิมๆ อาทินอกใจกัน ไปกันไม่ได้ ครอบครัวของอีกฝ่ายไม่โอเค การใช้ชีวิตของทั้งสองคนต่างกัน และอีกสารพัด

จริงๆ จะว่าไป ปัญหาเหล่านี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติ ต่อให้เราใช้บริษัทจัดหาคู่ดีเลิศแค่ไหน ยังไงก็คงหลีกหนีปัญหาพวกนี้ไปไม่ได้ ขึ้นชื่อว่าหมดใจ เอาอะไรมารั้งก็ไม่อยู่

แต่ว่าถ้าอยากให้ความรักยืนยาวและมั่นคง มันก็พอมีวิธีที่พอช่วยได้นะ นั่นก็คือ ตั้งเป้าหมายชีวิตร่วมกัน

เป้าหมายชีวิตก็เช่น จะทำงานอะไร แต่งงานตอนไหน มีลูกมั้ย ถ้ามีลูกจะวางแผนครอบครัวอย่างไร

คือแค่รักกันเฉยๆ ไม่นานก็เบื่อ เพราะคน 2 คนไม่ได้วางอนาคตร่วมกัน ต่อให้ทั้งคู่มีการมีงานทำดีแค่ไหนก็ช่วยอะไรไม่ได้ หากความคิดยังแยกเป็นส่วนของใครของมันอยู่

คำว่า "รัก" มันยังมีอีกคำที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นก็คือ "การใช้ชีวิตร่วมกัน" คำว่า "ร่วมกัน" แน่นอนว่าไม่ใช่คนเดียว แต่มันคือของทั้ง 2 คน ดังนั้นการมีเป้าหมายร่วมกัน วางแผนชีวิตด้วยกัน มันเลยจำเป็น

ถ้าเรายังอยากรักกันแบบไม่คิดอะไร ก็ไม่ต่างจากความรักของวัยรุ่นส่วนใหญ่ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป สุดท้ายก็มีคนใหม่ไปเรื่อย เหลือทิ้งไว้แค่เรื่องราวที่จำบ้างลืมบ้าง

แต่ถ้าอยากมีความรักแบบผู้ใหญ่ มีความรักที่มั่นคง เราก็คงต้องเริ่มวางแผนอนาคตร่วมกันได้แล้ว เพราะถ้ารอนั่นนี่ หรือไม่เริ่มมีความคิดร่วมกัน ไม่นานก็คงเบื่อ สุดท้ายความสัมพันธ์ที่อุตส่าห์ฟูมฟักมาตั้งนาน ก็คงไม่ต่างจากครังที่ผ่านมาเท่าไหร่

ขอบคุณภาพประกอบจาก Pixabay