ตอนที่ 402 15,000 เมตรต่อวินาที
ตอนที่ 402 15,000 เมตรต่อวินาที
ณ เบโอเนท
ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังเดินออกมาจากห้องฝึกด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ ก่อนที่เขาจะทิ้งตัวลงในอ่างน้ำเพื่ออาบน้ำอย่างสบายใจ
ก่อนหน้านี้เขาเก็บตัวพัฒนาพลังติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 11 วัน มันจึงทำให้ผิวพรรณของเขาดูซูบซีดลงเล็กน้อยและร่างกายของเขาก็ดูผอมลงไปจากเดิมมากเช่นกัน
“การดื่มน้ำยาครั้งนี้อันตรายจริง ๆ แล้วมันยิ่งตอกย้ำว่าการพึ่งพาน้ำยาเพื่อเพิ่มพลังของนายใกล้เดินทางมาจะถึงทางตันแล้ว ตอนนี้นายควรจะต้องพยายามซ่อมแซมพื้นที่สมองส่วนที่ 7 กลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด เพื่อที่นายจะได้พัฒนาพลังต่อไปได้โดยไม่มีปัญหา” อันธกล่าวอย่างจริงจัง
เซี่ยเฟยพยักหน้าพร้อมกับดูดบุหรี่และพ่นควันออกมาอย่างเงียบ ๆ ซึ่งในตอนนี้ทั่วทั้งร่างของเขารู้สึกหมดเรี่ยวแรงจนเขารู้สึกขี้เกียจแม้แต่การต่อบทสนทนา
ขณะเดียวกันกระป๋องก็พยายามยื่นขนมปัง, ผลไม้และแก้วน้ำให้กับชายหนุ่ม แต่ในระหว่างที่คนกำลังหมดแรงพวกเขาไม่สามารถกินอาหารเป็นจำนวนมากเข้าไปได้ในทันที ไม่อย่างนั้นร่างกายของพวกเขาจะไม่สามารถปรับตัวได้ทัน เซี่ยเฟยจึงเลือกหยิบผลน้ำค้างขาวขึ้นมากินเพื่อให้ร่างกายและสภาพจิตใจของเขาค่อย ๆ ฟื้นฟูขึ้นมาอย่างช้า ๆ แต่มันก็ยังไม่สามารถที่จะเติมเต็มความหิวภายในกระเพาะของเขาได้
ขนอุยกระโดดลงไปแช่น้ำด้านข้างเซี่ยเฟยและพยายามแสดงท่าทางทุกอย่างเท่าที่มันนึกออกเพื่อให้ชายหนุ่มรู้สึกมีความสุข ขณะที่กระป๋องก็คอยให้บริการชายหนุ่มตลอดเวลาโดยไม่คิดที่จะหยุดพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว
สถานการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยตระหนักว่าแม้ว่ามันจะไม่มีมนุษย์อยู่รอบ ๆ ตัวเขา แต่การได้มีสัตว์อสูร, เครื่องจักรและวิญญาณมันก็เป็นชีวิตที่ไม่ได้เลวร้ายมากเท่าไหร่นัก
ขนอุยจะพยายามคิดอยู่เสมอว่ามันจะทำอย่างไรให้เซี่ยเฟยมีความสุข ส่วนทางด้านของกระป๋องก็คอยอำนวยความสะดวกการใช้ชีวิตประจำวันของชายหนุ่มอย่างไม่รู้สึกเหน็ดเหนื่อย ขณะที่อันธก็เป็นทั้งครูที่ดีและเป็นสหายที่เซี่ยเฟยปรึกษาได้ทุกเรื่อง และการมีสิ่งเหล่านี้อยู่ในชีวิตมันก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เขาใช้ชีวิตในดินแดนเซิร์กอย่างมีความสุข
ก่อนหน้านี้ 11 วันเต็ม ๆ เซี่ยเฟยต้องทนรับความเจ็บปวดจากน้ำยาตลอดเวลา มันจึงทำให้เขารู้สึกอ่อนล้าทั้งร่างกายและจิตใจ เขาจึงแช่ตัวอยู่ในน้ำร้อนนานกว่า 10 ชั่วโมงติดต่อกัน และรับประทานอาหารทุก ๆ 30 นาทีสลับกับการกินผลน้ำค้างขาวเพื่อฟื้นฟูพละกำลัง มันจึงทำให้ความแข็งแกร่งของเขาค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมาเรื่อย ๆ
หลังจากรับประทานอาหารจนอิ่มชายหนุ่มก็เดินมาที่ศูนย์บัญชาการของยานรบเพื่อตรวจสอบหน้าจอเรดาร์ ซึ่งในช่วง 10 กว่าวันที่ผ่านมาเบโอเนทจอดซ่อนตัวอยู่เฉย ๆ โดยคงไว้ซึ่งสถานะล่องหน
ตอนนี้เซี่ยเฟยกำลังเผชิญกับอุปสรรคที่สำคัญคือเขาจะสามารถพัฒนาระดับพลังไปจนถึงระดับลีเจนด์ได้หรือไม่ เพราะไล่ตั้งแต่ระดับสตาร์ไลท์, สตาร์เบส, สตาร์ฟิลด์และสตาร์ริเวอร์ต่างก็ล้วนแล้วแต่ถือว่าเป็นระดับมาตรฐาน ส่วนสุดยอดนักสู้ที่แท้จริงจะถูกนับตั้งแต่นักรบระดับลีเจนด์เป็นต้นไป
เพียงแค่การดูชื่อระดับก็สามารถบ่งบอกถึงความแตกต่างได้แล้ว และสาเหตุที่ระดับลีเจนด์เป็นระดับพลังระดับแรกที่ไม่มีคำว่าสตาร์อยู่ในระดับ นั่นก็เพราะว่ามันเป็นระดับที่ได้รับการยอมรับไม่ว่าเขาจะอยู่มุมไหนในพันธมิตรก็ตาม
“นายมั่นใจไหมว่าคราวนี้นายจะก้าวเท้าเข้าสู่ระดับลีเจนด์?” อันธกล่าวถามขึ้นมาอย่างประหม่า
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน การประเมินพลังความเร็วมันไม่สามารถวัดจำนวนคลื่นกระเพื่อมที่ถูกส่งตรงออกมาจากสมองได้ แต่มันจำเป็นจะต้องใช้การวัดความเร็วในระหว่างการวิ่งแบบเต็มกำลัง ฉันคิดว่าเราควรจะต้องหาพื้นที่ให้ฉันได้ลองทดสอบวิ่งดู เราจะได้รู้ว่าผลลัพธ์มันออกมาเป็นยังไง?” เซี่ยเฟยกล่าว
ความเร็วและความแข็งแกร่งต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นพลังพิเศษที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกาย พลังทั้งสองชนิดนี้จึงจำเป็นจะต้องประเมินระดับพลังผ่านสิ่งที่เกิดขึ้นตามความเป็นจริง ซึ่งแตกต่างจากพลังพิเศษประเภทอื่น ๆ ที่จำเป็นจะต้องวัดจำนวนระลอกคลื่นในสมอง ดังนั้นชายหนุ่มจึงมองระบบเรดาร์เพื่อหาดูว่าพื้นที่แถวนี้มีพื้นที่ที่เหมาะสมให้เขาได้ออกวิ่งอย่างเต็มกำลังหรือเปล่า
ท้ายที่สุดพื้นที่ในเบโอเนทก็มีน้อยมากจนเกินไป ซึ่งเขาก็ยังไม่สามารถที่จะเร่งความเร็วได้เกิน 10,000 เมตรต่อวินาทีภายในยานลำนี้ได้ด้วยซ้ำ ด้วยเหตุนี้เขาจึงจำเป็นจะต้องหาพื้นที่อันกว้างใหญ่เพื่อที่จะให้เขาสามารถออกวิ่งได้ด้วยความเร็วสูงสุด
ขณะเดียวกันแม้แต่เครื่องประเมินความเร็วขั้นสูงก็ไม่สามารถที่จะทดสอบระดับพลังของนักสู้ระดับลีเจนด์ได้ เพราะมันไม่มีเครื่องจักรชนิดใดสามารถทนต่อแรงขับเคลื่อนของผู้ใช้ความเร็วที่มีความเร็วมากกว่า 10,000 เมตรต่อวินาที
นักรบที่แข็งแกร่งที่สุดของเซิร์กมีระดับพลังสูงถึงระดับอีเทอนิตี้ เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องเพิ่มความแข็งแกร่งของตัวเองให้ได้มากที่สุด เพราะเขาคาดหวังที่จะทำลายแมลงที่น่ารำคาญพวกนี้ให้หมดในคราวเดียว ดังนั้นเขาจึงพยายามหาที่ซ่อนอันปลอดภัยและจอดยานรบอยู่เฉย ๆ เพื่อดื่มน้ำยาและพัฒนาพลังมาเป็นเวลามากกว่า 10 วัน
“หือ?” เซี่ยเฟยอุทานด้วยแววตาที่เป็นประกาย
“มีอะไร?” อันธถาม
“ฉันเจอดาวเคราะห์ที่พอจะลงไปทดสอบได้แล้ว และมันก็เป็นดาวเคราะห์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์ด้วย” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างตื่นเต้น
ดาวเคราะห์ดวงนี้อยู่ห่างจากเขาไปประมาณ 1 วันและผลจากการวิเคราะห์ก็แสดงให้เห็นว่ามันเป็นดาวเคราะห์ที่เหมาะสมสำหรับการใช้ชีวิตของมนุษย์จริง ๆ แล้วสิ่งที่น่าสนใจมากยิ่งกว่าคือดาวเคราะห์ดวงนี้ยังไม่มีสิ่งมีชีวิตที่มีสติปัญญาใด ๆ อาศัยมาก่อน
เซี่ยเฟยไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเขาจะสามารถค้นพบดวงดาวบริสุทธิ์แบบนี้ได้ในดินแดนของเซิร์ก ซึ่งถ้าหากว่าเขายังคงอยู่ในพันธมิตรเขาก็อาจจะได้รับรางวัลนักค้นหาดีเด่นจากสมาพันธ์นักสำรวจก็ได้
หลังจากเปิดใช้งานระบบนำทางชายหนุ่มก็ไม่ได้ใช้การวาร์ปเพื่อเดินทางไปยังพื้นที่เป้าหมาย แต่อาศัยเครื่องยนต์ธรรมดาเพื่อค่อย ๆ เคลื่อนที่ไปยังดาวดวงนั้นอย่างช้า ๆ เพราะเขาต้องการที่จะใช้ช่วงเวลานี้ในการฟื้นฟูความแข็งแกร่งกลับมาให้ได้อย่างสมบูรณ์
อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็ไม่รู้เลยว่าการตัดสินใจเคลื่อนไหวโดยใช้เครื่องยนต์ธรรมดาของเขาในครั้งนี้ ได้ทำให้เขาหลบหนีการค้นหาของกองยานเซิร์กที่อยู่บริเวณใกล้เคียงได้อีกครั้ง แล้วมันก็ดูเหมือนกับทูดี้จะโชคไม่ค่อยดีนักเพราะเขาก็ยังคงจะต้องออกตามหาเซี่ยเฟยอย่างไร้ร่องรอยต่อไป
—
27 ชั่วโมงต่อมาเซี่ยเฟยก็ทำการสวมใส่ชุดต่อสู้ครบเซ็ตและเตรียมพร้อมที่จะลงไปทดสอบความเร็วบนดาวเคราะห์ดวงใหม่
สถานที่การทดสอบคือพื้นที่ราบที่เต็มไปด้วยต้นหญ้า โดยทุ่งหญ้าแห่งนี้มีพื้นที่หลายหมื่นตารางกิโลเมตร ซึ่งเป็นพื้นที่ที่เหมาะสมมากสำหรับเซี่ยเฟยที่จะสามารถออกวิ่งได้จนถึงขีดจำกัด
ขนอุยกับกระป๋องก็รู้สึกตื่นเต้นกับการทดสอบเช่นเดียวกัน ซึ่งเจ้าตัวเล็กก็กระโดดซนไปขี่หัวกระป๋องเอาไว้ และแน่นอนว่ากระป๋องก็ไม่ได้รู้สึกรังเกียจพฤติกรรมของสัตว์อสูรตัวน้อยตัวนี้เลย
มนุษย์เคยมีเรื่องเล่าต่อ ๆ กันมาว่าหุ่นยนต์เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ชั่วร้าย แต่กระป๋องเป็นเพียงแค่หุ่นยนต์ที่ไร้เดียงสา แล้วมันก็ไม่สามารถที่จะเชื่อมโยงกระป๋องเข้ากับความชั่วร้ายในตำนานได้เลยแม้แต่นิดเดียว
“พร้อมหรือยัง?” อันธถาม
เซี่ยเฟยพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเริ่มยืดเส้นยืดสายและหมอบตัวลงเหมือนกับนักวิ่งที่เตรียมพร้อมในจุดสตาร์ท
“ระบบเรดาร์ของเบโอเนทจะบันทึกความเร็วในการเคลื่อนที่ของนายเอาไว้ แต่ฉันก็ไม่มั่นใจว่าชุดต่อสู้ที่นายกำลังสวมอยู่จะทนต่อแรงกดดันมหาศาลในระหว่างที่นายวิ่งได้หรือเปล่า ท้ายที่สุดถึงแม้ชุดบลีดดิ้งก็อดจะแข็งแกร่งแต่มันก็ไม่ใช่ชุดที่ถูกผลิตขึ้นมาสำหรับผู้ใช้พลังสายความเร็ว ดังนั้นฉันแนะนำว่าให้นายค่อย ๆ เพิ่มความเร็วไปทีละหน่อย อย่าพึ่งเร่งความเร็วไปจนถึงจุดสูงสุดในคราวเดียว” อันธกล่าว
ในระหว่างที่ผู้ใช้พลังสายความเร็วออกวิ่งมันจะก่อให้เกิดแรงต้านอากาศอย่างรุนแรง ชุดต่อสู้ที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใช้พลังสายความเร็วจึงเป็นชุดต่อสู้ที่ออกแบบมาเพื่อลดแรงต้านของอากาศโดยเฉพาะ เพื่อทำให้ร่างกายของผู้สวมใส่ลดผลกระทบจากการพุ่งเข้าปะทะกับอากาศให้ได้มากที่สุด
ขณะเดียวกันถึงแม้ว่าชุดเกราะบลีดดิ้งก็อดจะสามารถทนรับแรงต้านที่ความเร็ว 10,000 เมตรต่อวินาทีได้ แต่มันก็ไม่ได้หมายความว่ามันจะสามารถทนรับแรงต้านอากาศจากความเร็วสูงสุดของเซี่ยเฟยในตอนนี้ได้ เพราะท้ายที่สุดระดับพลังของเซี่ยเฟยก็เพิ่มสูงมากขึ้น และมันย่อมทำให้ชุดต่อสู้ได้รับแรงกดดันในระหว่างการวิ่งเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเช่นเดียวกัน
เซี่ยเฟยหายใจเข้าลึก ๆ และหลับตาเพื่อตั้งสมาธิ โดยในขณะนี้สมาธิของเขากำลังจดจ่ออยู่กับถนนด้านหน้าโดยไม่คิดฟุ้งซ่านเผลอใช้ความคิดไปกับเรื่องอื่น
ฟุบ!
ชายหนุ่มเริ่มออกตัวด้วยความเร็วราวกับสายฟ้า
“10,500 เมตรต่อวินาที ค่อย ๆ เร่งความเร็วขึ้นไปแบบนี้ ไม่ต้องรีบเร่งมากนัก” อันธกล่าวขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“12,000”
“13,000”
“เร่งต่อไป! เร่งความเร็วมากกว่านี้อีก!!”
“15,000! ตอนนี้ความเร็วของนายเพิ่มขึ้นมาจากเดิมมากกว่า 50% แล้ว”
ชายหนุ่มแอบรู้สึกดีใจขึ้นมาเล็ก ๆ ที่ความเร็วของเขาทะลุ 15,000 เมตรต่อวินาทีไปแล้ว แต่พละกำลังของเขายังคงเหลืออยู่ ซึ่งมันก็หมายความว่าตอนนี้เขายังไม่ได้ใช้ความเร็วสูงสุดในระหว่างการวิ่ง
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 155
แสดงความคิดเห็น