ตอนที่ 366 เห็นดีกัน

ในที่สุดเซี่ยเฟยก็เข้าใจแล้วว่าทำไมอุปกรณ์ล่องหนเครื่องนี้ถึงถูกนำมาประมูลเป็นสินค้าชิ้นสุดท้าย เพราะมันคืออุปกรณ์ล่องหนที่ถูกผลิตโดยเอสทาเมล ซึ่งมันเป็นอุปกรณ์ล่องหนที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ

นอกเหนือจากที่เอสทาเมลจะเป็นหัวหน้ากลุ่มโจรสลัดกุสตาส เธอยังเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่โดดเด่นที่สุดในอารยธรรมโบราณอีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ที่มีสัญลักษณ์ของเอสทาเมลประดับอยู่ต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นอุปกรณ์ล้ำค่าตั้งแต่สมัยโบราณ และถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นมาอย่างยาวนาน แต่ชื่อเสียงของเธอก็ยังคงตราตรึงอยู่ในใจของทุกคน

ภายใต้สถานการณ์ปกติเมื่อยานรบเปิดระบบล่องหนมันจะส่งผลกระทบต่อความเร็วของยานรบเป็นอย่างมาก ซึ่งอุปกรณ์ล่องหนในปัจจุบันก็จะทำให้ความเร็วของยานรบลดลงอยู่ที่ประมาณ 90-95%

แม้ว่าระบบล่องหนจะทำให้ยานกลมกลืนไปกับทะเลดาวอันกว้างใหญ่ แต่มันก็ทำให้ยานอวกาศเคลื่อนที่อย่างเชื่องช้าเช่นเดียวกัน แต่อัตราการลดความเร็วของระบบล่องหนของกลุ่มโจรสลัดกุสตาสอยู่ที่ 75% เท่านั้น ซึ่งมันต่ำกว่าระบบล่องหนที่ใช้อยู่ในปัจจุบันอย่างเทียบไม่ติด

สำหรับอุปกรณ์ล่องหนของเอสทาเมลที่กำลังถูกประมูลอยู่ก็มีข้อมูลบันทึกว่ามันจะส่งผลลดความเร็วของยานอวกาศเพียงแค่ 30% เท่านั้น ซึ่งมันก็ยังทำให้ตัวยานยังสามารถเคลื่อนที่ไปข้างหน้าได้ด้วยความเร็วพอสมควร

สมมุติว่ายานรบลำหนึ่งสามารถเคลื่อนที่ในสภาวะปกติได้ด้วยความเร็ว 100 กิโลเมตรต่อวินาที แต่หลังจากที่ยานรบลำนี้ได้เปิดระบบล่องหนของเทคโนโลยีในปัจจุบัน ความเร็วในการเคลื่อนที่ของมันก็จะลดลงเหลือ 5 กิโลเมตรต่อวินาทีในทันที

ในกรณีที่ยานรบลำนี้เปิดระบบล่องหนของกลุ่มโจรสลัดกุสตาส มันก็จะมีความเร็วในการเคลื่อนที่ลดลงเหลือ 25 กิโลเมตรต่อวินาที แต่ในกรณีที่ยานรบลำนั้นเปิดระบบล่องหนของเอสทาเมล มันก็ยังสามารถที่จะเคลื่อนที่ได้ด้วยความเร็วสูงสุดถึง 70 กิโลเมตรต่อวินาที!!

หากยานรบตกอยู่ภายใต้วงล้อมของศัตรู การอยู่ตรงนั้นนานเท่าไหร่ก็จะยิ่งเป็นอันตรายต่อชีวิตมากขึ้นเท่านั้น แต่ถ้าหากว่าเขาได้ใช้ระบบล่องหนของเอสทาเมลมันก็อาจจะทำให้เขาหนีรอดออกมาจากสถานการณ์อันเลวร้ายได้สำเร็จ ซึ่งในความเป็นจริงหากกัปตันประเมินสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็ว พวกเขาก็อาจจะใช้ระบบล่องหนหลบหนีไปทำให้ไม่ตกอยู่ในวงล้อมของศัตรู

ยิ่งไปกว่านั้นอุปกรณ์ชิ้นนี้ยังมีข้อดีที่น่าทึ่งมากที่สุดอยู่เรื่องหนึ่ง คือมันสามารถช่วยให้ยานรบสามารถทำการวาร์ปในขณะที่มันกำลังทำการล่องหนอยู่ได้!!

ปกติยานรบทุกลำที่กำลังใช้ระบบล่องหนจำเป็นจะต้องเปิดเผยตัวออกมาก่อนถึงจะสามารถเปิดระบบวาร์ปขึ้นมาได้ มันจึงทำให้ช่วงเวลานั้นกลายเป็นช่วงเวลาอันตราย เพราะยานของพวกเขาจะถูกพบเห็นโดยศัตรู

อย่างไรก็ตามหากยานรบได้ติดตั้งระบบล่องหนของเอสทาเมล พวกเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องปรากฏกายในระหว่างที่ทำการใช้ระบบวาร์ปเลย มันจึงทำให้ยานรบที่ติดตั้งอุปกรณ์ชิ้นนี้สามารถหลบหนีออกไปทั้ง ๆ ที่ยังคงอยู่ในระบบล่องหน และมันก็คงไม่จำเป็นจะต้องอธิบายว่าการหนีด้วยระบบวาร์ปโดยที่ศัตรูไม่รู้ตัวมันได้ทำให้อุปกรณ์ชิ้นนี้กลายเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากแค่ไหน

นี่คือคุณสมบัติที่ไม่เหมือนใครและมันก็มีเพียงแต่อุปกรณ์ล่องหนของเอสทาเมลเครื่องนี้เพียงเครื่องเดียวเท่านั้น ที่ทำให้ยานรบสามารถวาร์ปหนีออกไปโดยไม่จำเป็นจะต้องเปิดเผยตัวออกมา

เซี่ยเฟยไม่รู้ว่าเอสทาเมลสามารถพัฒนาอุปกรณ์ล่องหนที่โดดเด่นแบบนี้ขึ้นมาได้อย่างไร แต่ความเป็นจริงได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าอุปกรณ์ที่เธอคิดค้นมีความล้ำหน้าแม้กระทั่งอุปกรณ์จากอารยธรรมโบราณด้วยกัน

เหล่าฝูงชนเริ่มส่งเสียงขึ้นมาอย่างตื่นเต้น เพราะอุปกรณ์ล่องหนของเอสทาเมลเพิ่งปรากฏตัวขึ้นมาเป็นครั้งแรก แล้วมันก็คงจะไม่มีใครอยากปล่อยโอกาสที่หาได้ยากในครั้งนี้ไป

เซี่ยเฟยกำหมัดแน่นอย่างตึงเครียด ซึ่งแน่นอนว่าอุปกรณ์ชิ้นนี้ย่อมส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยในระหว่างที่เขาเดินทางไปยังดินแดนเซิร์กอย่างไม่ต้องสงสัย ปัญหาเพียงอย่างเดียวคือเขากลัวว่าเงินทุนที่เขามีอยู่ในตอนนี้อาจจะยังไม่เพียงพอ

แขกทุกคนภายในงานประมูลต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในพันธมิตร และถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะมีเงินในระดับที่สูงมากเมื่อเทียบกับภูมิภาคดาวอื่น ๆ แต่เมื่อต้องเทียบกับเหล่าบรรดาเศรษฐีในงานประมูลแห่งนี้แล้วชายหนุ่มก็ไม่ต่างไปจากคนธรรมดาที่หาพบได้โดยทั่วไป

“คุณตาทูรามครับ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง

“มีอะไร?” ทูรามถามด้วยความสงสัย

“ผมอยากได้อุปกรณ์เครื่องนั้น”

ทูรามจ้องมองไปทางเซี่ยเฟยเป็นเวลานาน ซึ่งใบหน้าที่จริงจังของชายหนุ่มก็ทำให้เขาส่งเสียงหัวเราะออกมา

“โอเคจัดไป! นายยื่นราคาไปได้เลย เดี๋ยวฉันช่วยเติมเงินในส่วนที่เหลือให้”

“ขอบคุณมากครับ อุปกรณ์เครื่องนั้นมันสำคัญสำหรับผมมากจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

“เอาล่ะครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ผมคิดว่าตอนนี้ทุก ๆ ท่านคงจะรู้ดีอยู่แล้วว่าสมบัติชิ้นนี้ควรค่าแก่การครอบครองมากแค่ไหน ตอนนี้ถึงเวลาอันสมควรแล้วผมขอเริ่มการประมูลอุปกรณ์ล่องหนของเอสทาเมลที่เพิ่งปรากฏขึ้นมาเพียงแค่ชิ้นเดียวในจักรวาล!!” พิธีกรกล่าวเปิดงานอย่างปลุกเร้าอารมณ์ จากนั้นเขาก็กล่าวต่อไปว่า

“ราคาเริ่มต้นของสมบัติชิ้นนี้อยู่ที่ 500,000 ล้านสตาร์คอยน์ เชิญทุกท่านเริ่มประมูลได้เลยครับ!”

ต่อมามันก็มีหน้าจอประมูลปรากฏขึ้นด้านหน้าของที่นั่งแต่ละคน ซึ่งมันได้แสดงราคาประมูลในปัจจุบันและมีปุ่มกดเพื่อให้แขกได้ส่งเสียงเสนอราคาประมูลขึ้นมา

เซี่ยเฟยยังคงจ้องมองไปยังหน้าจออย่างนิ่งสงบ เพราะท้ายที่สุดการแข่งขันยังเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น ซึ่งคนส่วนใหญ่จะต้องถูกตัดออกไปเสียก่อน เขาจึงรอช่วงเวลาสำคัญที่จะเริ่มทำการเสนอราคา

ในเวลาเพียงแค่พริบตาราคาของสมบัติชิ้นนี้ก็ทะลุ 1 ล้านล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งมันก็ทำให้คนที่พกเงินมาเพียงแค่นี้ก็กลายเป็นยาจกสำหรับการประมูลในครั้งนี้เลย

“1.2 ล้านล้านสตาร์คอยน์” ชายร่างใหญ่ตะโกนขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ซึ่งบนลำคอของเขาก็เต็มไปด้วยเส้นเลือดที่ปูดโปนและการหายใจของเขาก็กำลังส่งเสียงดังขึ้นเรื่อย ๆ

น่าเสียดายที่ราคาที่เขาเสนอออกไปถูกคนอื่นเสนอราคาสู้อย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากที่เวลาได้ผ่านพ้นไปเพียงแค่ไม่นานราคาประมูลก็เดินทางมาจนถึง 2 ล้านล้านสตาร์คอยน์

เงินจำนวนมากขนาดนี้มากพอที่จะซื้อยานบัญชาการชั้นนำในพันธมิตรได้เลย ซึ่งมันก็แสดงให้เห็นว่าสมบัติชิ้นนี้เป็นสิ่งที่ล้ำค่ามากแค่ไหน

ราคาประมูลในปัจจุบันเริ่มทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกระวนกระวาย เพราะเขาเตรียมเงินมาประมูลเพียงแค่ 2.5 ล้านล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น แต่เมื่อเห็นทีท่าของแขกภายในงานมันก็ไม่มีทางที่การประมูลจะจบลงในเร็ว ๆ นี้เลย

ในที่สุดภาพที่เซี่ยเฟยไม่อยากเห็นก็ปรากฏขึ้นจริง ๆ เพราะมันมีคนเสนอราคาขึ้นมาที่ 3.1 ล้านล้านสตาร์คอยน์

หากเขาสู้ราคานี้เขาก็จำเป็นจะต้องยืมเงินจากทูราม 600,000 ล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งมันก็ทำให้เขาเริ่มคิดอย่างหนักใจแล้วว่ามันเป็นเรื่องที่คุ้มค่าไหมที่จะต้องทุ่มเงินมหาศาลเพื่อซื้ออุปกรณ์ล่องหนเพียงชิ้นเดียว

“3.5 ล้านล้านสตาร์คอยน์” เซี่ยเฟยกัดฟันตะโกนเสนอราคาขึ้นไป ซึ่งราคานี้เทียบเท่าได้กับผลกำไรทั้งปีของบริษัทควอนตัม

“ใจเย็น ๆ ของชิ้นนี้ควรค่าแก่การซื้อไปใช้งานแล้ว ดังนั้นนายไม่จำเป็นจะต้องกังวลเรื่องราคา ตราบใดก็ตามที่นายต้องการเชิญนายเสนอราคาเท่าไหร่ก็ได้ตามแต่ใจของนายเลย” ทูรามกล่าวพร้อมกับตบไหล่เซี่ยเฟยเบา ๆ

เซี่ยเฟยพยักหน้าพร้อมกับพยายามสลัดความกังวลภายในใจ ซึ่งในตอนนี้เขาก็ได้ตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่าเขาจะต้องทุ่มเทอย่างสุดความสามารถ เพื่อคว้าอุปกรณ์ล่องหนชิ้นนี้กลับมาติดตั้งบนยานอวกาศของเขาให้ได้!! 

“3.6 ล้านล้านสตาร์คอยน์” หญิงวัยกลางคนพูดด้วยน้ำเสียงอันอ่อนโยน แต่เธอก็กำลังมองไปยังเซี่ยเฟยด้วยแววตาที่ไม่เป็นมิตร ราวกับกำลังจะบ่นว่าชายหนุ่มเสนอราคาเพิ่มขึ้นมาครั้งเดียวมากเกินไป

ทันใดนั้นทั้งวิลเลียมและนิโคลต่างก็มองมาทางเซี่ยเฟยในเวลาเดียวกัน ซึ่งเซี่ยเฟยเข้าใจดีว่าวิลเลียมกำลังพยายามสื่อถึงอะไร แต่เขาไม่แน่ใจว่านิโคลกำลังพยายามสื่อสารอะไรกับเขากันแน่

“4 ล้านล้านสตาร์คอยน์ พวกคุณต้องการจะแย่งชิงของสิ่งนี้กับทางกองทัพจริง ๆ เหรอ?” วิลเลียมกล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันจริงจัง

ทันใดนั้นทุกคนก็ชะงักค้างไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะมันไม่มีใครคิดว่าวิลเลียมที่นั่งดูการประมูลอยู่อย่างเงียบ ๆ จะเสนอราคาขึ้นมาอย่างกะทันหันแบบนี้ ที่สำคัญคือเขายังใช้กรมทหารออกมากล่าวอ้างเพื่อไม่ให้มีใครกล้าเสนอราคาแข่งกับเขา

“ทางกองทัพต้องการเครื่องล่องหนเครื่องนี้งั้นเหรอ?”

“ช่างมันเถอะ ในเมื่อจอมพลวิลเลียมต้องการเครื่องล่องหนนี่ พวกเราก็ไม่จำเป็นจะต้องไปขัดแย้งกับกองทัพด้วยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ”

“ตอนนี้ราคาก็เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับที่สมเหตุสมผลแล้ว ฉันว่าการประมูลคงจะจบลงเพียงแค่นี้แล้วล่ะ”

แม้ว่าผู้มีอำนาจบางคนจะกล้าท้าทายยักษ์ใหญ่อย่างสมาพันธ์จัสทิสกับสมาพันธ์เฮอร์มิทอย่างลับ ๆ แต่น้อยคนนักที่จะกล้าท้าทายกับกรมทหาร เพราะท้ายที่สุดกรมทหารคือผู้ควบคุมกองกำลังทหารในพันธมิตรทั้งหมด มันจึงทำให้แม้แต่ประธานาธิบดีก็ยังจำเป็นจะต้องเกรงใจนายพลทั้งสามคนนี้

ทันใดนั้นทั่วทั้งห้องประมูลก็เงียบเสียงลง เพราะมันไม่มีใครกล้าท้าทายจอมพลจากกรมทหาร แม้แต่พิธีกรจัดงานประมูลก็ยังรู้สึกหดหู่ใจมากที่เขาไม่สามารถเรียกราคาไปให้สูงได้มากกว่านี้

“4.1 ล้านล้านสตาร์คอยน์” ทันใดนั้นเซี่ยเฟยก็เสนอราคาขึ้นมาอย่างใจเย็น

“นี่เขาบ้าไปแล้วหรือเปล่า?”

“เขากล้าท้าทายจอมพลซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้เลยเนี่ยนะ!”

“ฉันจำได้ เขาคือเซี่ยเฟยที่พึ่งเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกรมทหาร”

“แบบนี้มันก็หมายความว่ากรมทหารเป็นลูกค้าคนสำคัญของบริษัทเขานะสิ มารอดูกันว่าเขาจะอธิบายเรื่องนี้ต่อหน้าจอมพลว่ายังไง?”

ฝูงชนเริ่มให้ความสนใจเรื่องนี้อย่างว่องไวและมันก็มีแววตามุ่งร้ายค่อย ๆ จับจ้องมองไปยังเซี่ยเฟยทีละคู่ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงความสงบนิ่งเอาไว้ราวกับว่าเขาไม่ได้สังเกตปฏิกิริยาของสังคมรอบ ๆ ตัวเขาเลย

ระหว่างนั้นสีหน้าของนิโคลเปลี่ยนไปมาอย่างหลากหลายอารมณ์ และเธอก็พยายามส่ายหัวเป็นสัญญาณให้เซี่ยเฟยราวกับพยายามเตือนว่าอย่าเป็นศัตรูกับทหาร

“4.2 ล้านล้านสตาร์คอยน์” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับจ้องมองไปทางเซี่ยเฟย

“4.3 ล้านล้านสตาร์คอยน์” เซี่ยเฟยกล่าวเสนอราคาต่อทันทีโดยไม่รู้สึกลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว

“4.4 ล้านล้าน!” วิลเลียมเสนอราคาด้วยน้ำเสียงราวกับว่าเขากำลังจะหมดความอดทน

“4.5 ล้านล้าน” เซี่ยเฟยยังคงเสนอราคาต่อไป แต่ความมั่นใจของเขาเริ่มลดน้อยลงมากกว่าเดิม

เหตุการณ์นี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะก่อนหน้านี้วิลเลียมส่งสัญญาณราวกับว่าชายชราจะช่วยให้เขาได้รับสินค้าชิ้นนี้มา แต่ในระหว่างที่มันไม่มีใครเสนอราคาทำไมวิลเลียมถึงเสนอราคาแข่งกับเขา?

อย่าลืมนะว่าทุกครั้งที่มีการเสนอราคาแข่งขันกัน มันก็หมายความว่าราคามันจะเพิ่มขึ้นไปทีละ 100,000 ล้านสตาร์คอยน์

ในที่สุดวิลเลียมก็หยุดเสนอราคา ก่อนที่เขาจะยืนขึ้นและจ้องมองไปทางเซี่ยเฟยด้วยแววตาอันเย็นชาเป็นเวลานาน

“แล้วเราจะได้เห็นดีกันคุณเซี่ยเฟย!!”

***************

เอ๊าาา อย่าบอกนะว่าจู่ๆก็จะเป็นศัตรูกัน??