บทที่ 73: ข้าเลี้ยงลูกคนเดียวได้
ความจริงแล้วเหล่าเด็กน้อยไม่ได้เป็นห่วงเขา พวกเขาแค่ไม่ชอบกินเนื้อย่างรสชาติแย่ ๆ ที่เขาทำอย่างนั้นหรือ?
ขณะนี้หลงโม่รู้สึกเหมือนถูกลูกทั้ง 5 เอาไม้มาตีหัว
พอหูเจียวเจียวกลับมาบ้าน หลงหลิงเอ๋อกับหลงเหยาก็ทำตัวเหมือนเด็กน้อยขี้อ้อนอยู่ในอ้อมแขนของนาง ซึ่งแตกต่างจากตอนที่เขากลับมาก่อนหน้านี้ เด็กสาวแค่ทักทายเขาเพียงไม่กี่คำเท่านั้น
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันทำให้ชายหนุ่มเสียศูนย์
เขาในฐานะพ่อที่ใช้ความพยายามออกไปล่าสัตว์อยู่ทุกวันยังไม่ดีเท่าผู้หญิงคนนี้ที่ทำร้ายพวกเขาอยู่ที่บ้านหรอกหรือ?
“ท่านพ่อ” เมื่อหลงอวี้เห็นพ่อมังกรยืนอยู่ที่ประตูจึงเรียกเขา
เสียงของลูกชายทำให้หูเจียวเจียวชะงักไปชั่วครู่แล้วหันหน้ามองไปที่ประตูบ้าน
เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเธอก็ตกตะลึง
สิ่งที่ปรากฏในสายตาของหญิงสาวคือผู้ชายร่างสูงเพรียวที่มีใบหน้าเย็นชา ในขณะที่รอบตัวของเขามีออร่าเย็นเยียบแผ่ออกมาตลอดเวลา ซึ่งภาพนั้นไม่ต่างจากยมทูตผู้หล่อเหลาที่มีส่วนผสมอย่างลงตัวระหว่างความงดงามจากรูปลักษณ์ภายนอกและความมืดมนที่ซ่อนอยู่ภายใน
ดวงตาสีทองคู่นั้นมีกระแสแสงคล้ายกับหลุมดำที่สามารถดึงดูดทุกอย่างเข้าไปได้ มันทั้งมืดและลึกล้ำจนรู้สึกหนาวเหน็บในยามที่มองเข้าไป
เห็นได้ชัดว่าเขายังหนุ่มยังแน่น แต่หูเจียวเจียวดูเหมือนจะเห็นความผิดหวังปนเกลียดชังต่อโลกใบนี้ในสายตาของเขา
ทันใดนั้น เธอก็ต้องตกตะลึง
จิ้งจอกสาวรู้เพียงว่าหลงโม่เป็นวายร้ายที่กระทำชั่วทุกประเภทและเข่นฆ่าผู้คนได้ในพริบตา แต่เธอไม่รู้เลยว่าวายร้ายคนนี้จะมีหน้าตาที่หล่อเหลามาก ถึงขั้นที่ว่าอิงหยวนยังเทียบไม่ติดเลย
เธอนึกไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าทำไมร่างเดิมถึงไล่หลงโม่ผู้ทรงเสน่ห์คนนี้ออกจากบ้านไป นางไม่สนใจเขาสักนิดเลยหรือ แล้วยังไปทำตัวเป็นสุนัขเลียแข้งเลียขาอิงหยวนผู้หลงตัวเองคนนั้นอีก?
“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไรไป?” หลงหลิงเอ๋อดึงมือแม่จิ้งจอกพร้อมกับถามอย่างสงสัย
ในตอนนั้นเอง หูเจียวเจียวมีสติกลับมาเพราะเสียงของลูกสาว เธอจึงรีบหันกลับไปมองทางอื่น
“ไม่มีอะไรหรอก พวกเจ้าคงหิวแล้ว งั้นพวกเจ้ากินผลไม้รองท้องไปก่อนเดี๋ยวแม่จะไปทำของอร่อย ๆ ให้กิน”
ต่อมา เธอแจกจ่ายส้มโอกับลูกพลับให้ลูกทั้ง 5 คนทันที ทว่าหลงจงยังไม่หายโกรธ เขาจึงไม่ยอมรับผลไม้จากเธอ “ข้าไม่กิน”
ขณะนั้นหลงหลิงเอ๋อมองแม่จิ้งจอกสลับกับพ่อมังกรอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะหยิบลูกพลับมายัดเข้าปากพี่ชาย “พี่สาม กินเร็วเข้า มันอร่อยมากเลยนะ”
ระหว่างที่พูด นางก็ดึงหลงจงออกมาและขยิบตาให้พี่ใหญ่
“ข้าเพิ่งนึกได้ว่าข้าลืมบางอย่างไว้ที่ริมแม่น้ำ พวกท่านไปส่งข้าตามหามันหน่อยสิ”
หลงอวี้เข้าใจสิ่งที่น้องสาวพูดทันที เขาจึงรีบอุ้มหลงเหยาและจูงมือหลงเซียวเดินออกไปจากบ้าน
เวลาไม่ถึงอึดใจ ตอนนี้ทั้งบ้านก็เหลือเพียงหูเจียวเจียวกับหลงโม่
“เอ่อ... เจ้าเป็นคนช่วยเราจากนอกเผ่าเมื่อกี้ใช่ไหม ขอบใจเจ้ามากนะ...” แม้ว่าดวงตาของผู้ชายคนนี้จะน่าขนลุก แต่หญิงสาวก็ยังกัดฟันเอ่ยถาม
เธอจำได้ว่าตอนนั้นมังกรดำยังมีเลือดไหลอยู่ และหลงโม่ต้องแบกรับความเจ็บปวดมาจนกระทั่งปัจจุบัน แต่เธอไม่รู้ว่าบาดแผลนั้นอยู่ตรงไหนในตอนที่เขากลายร่างเป็นมนุษย์
ทางด้านมังกรหนุ่มจ้องจิ้งจอกสาวเขม็ง ดวงตาสีทองของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชาและความขยะแขยง
“เจ้าเรียกข้ากลับมาทำไม? บอกข้ามาตามตรง แล้วข้าจะไปหลังจากนั้น” น้ำเสียงของชายร่างสูงฟังดูไม่ไยดีและไร้ความรู้สึก
“ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าอยากให้เจ้ามาอาศัยอยู่ในเผ่า เจ้าอย่ากลับไปอยู่ในป่าอีกเลย”
เมื่อหูเจียวเจียวสัมผัสได้ถึงสายตาของชายตรงหน้า เธอก็รู้สึกเพียงว่าหนังศีรษะของเธอชาไปหมดและไม่สบายใจ
ออร่านี้ทำให้หญิงสาวแทบช็อคตายตามที่คาดไว้ไม่มีผิด!
หลงโม่หรี่ตาสีทองของเขา ซึ่งเผยให้เห็นท่าทางที่ระแวดระวัง
อาศัยอยู่ในเผ่า? ผู้หญิงสารเลวคนนี้กำลังพยายามทำอะไรกันแน่?
“หากเจ้าไม่พูด ข้าจะถือว่าเจ้ายินยอม จากนี้ไป เจ้าจะอยู่กับลูก ๆ ที่นี่ ไม่ต้องกลับไปนอนในป่าอีกแล้ว” พอจิ้งจอกสาวเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบอะไร เธอก็ตัดสินใจเอาเองโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ปฏิเสธ…
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ภาพลักษณ์ของเธอในสายตาเขาไม่ได้ดีสักเท่าไหร่ ถ้าเขาปฏิเสธไม่กลับมาอยู่ที่บ้านล่ะก็… เธอคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรเพื่อแก้ไขเรื่องนี้
ก่อนที่หลงโม่จะทันได้พูดอะไรต่อ หูเจียวเจียวก็ดึงเขาเข้าไปในลานบ้าน
“ข้าจำได้ว่าเจ้าได้รับบาดเจ็บ เจ้าถอดเสื้อออกแล้วให้ข้าดูหน่อยว่าเจ้าบาดเจ็บตรงไหน ข้าจะช่วยรักษาบาดแผลให้เจ้าเอง ไม่อย่างนั้นอาการของเจ้าจะยิ่งแย่ลง”
แม่จิ้งจอกพูดพร้อมกับมองหาบาดแผลบนร่างกายของชายหนุ่มไปด้วย
เมื่อหลงโม่เห็นหญิงสาวขยับมือสะเปะสะปะเพื่อตามหาบาดแผลบนตัวของตน ออร่ารอบตัวเขาก็มืดมนไปชั่วขณะ ใบหน้าที่เคร่งขรึมนั้นดูเหมือนจะแข็งเป็นรูปปั้น และสายตาของเขาก็จับจ้องไปที่อีกคนนิ่ง
ในที่สุด มังกรหนุ่มก็กัดฟันพูดออกมาว่า “หูเจียวเจียว ถึงเจ้าจะรู้สึกร้อนรุ่ม ข้าก็ช่วยอะไรเจ้าไม่ได้หรอกนะ…”
ความสัมพันธ์เดียวระหว่างเขากับหูเจียวเจียวคือการช่วยกันเลี้ยงดูลูกเท่านั้น
เขาจะทิ้งผู้หญิงคนนี้เมื่อลูกทั้ง 5 โตพอที่จะดูแลตัวเองได้แล้ว ซึ่งก่อนจะถึงเวลานั้น เขาจะไม่มีวันเชื่อการกระทำไร้สาระของจิ้งจอกสาวอีกต่อไป นอกจากนี้ เขาก็สาบานกับตัวเองว่าจะไม่มีวันมีความสัมพันธ์กับนางอีก
“หา? เจ้าพูดเรื่องอะไร?”
ใบหน้าของหูเจียวเจียวเต็มไปด้วยเส้นสีดำเหมือนในการ์ตูน เธอแค่ต้องการดูบาดแผลของเขา ทำไมเธอต้องรู้สึกร้อนรุ่มด้วย?
“หูเจียวเจียว! อย่ามาทำตัวใส่ซื่อต่อหน้าข้า เก็บอุบายของเจ้าเอาไว้ไปยั่วยวนอิงหยวนเถอะ อย่าเอามาใช้กับข้า มันน่าขยะแขยง!”
ครู่ต่อมา หลงโม่คว้ามือของแม่จิ้งจอกที่วางอยู่บนตัวเขา ในขณะที่เขาจ้องมองอีกฝ่ายด้วยดวงตาคมดุ “เจ้าไม่ต้องเสแสร้งเวลาอยู่ต่อหน้าข้า แม้ว่าเจ้าจะไม่ทำอย่างนั้น ข้าก็จะคอยเลี้ยงดูเจ้าและลูก ๆ อย่างแน่นอน”
หูเจียวเจียวที่ถูกต่อว่าสูดหายใจเข้าลึก ๆ
อดทนไว้…
ทนไม่ไหวแล้วโว้ยยย!
จากนั้นหญิงสาวก็ยกมืออีกข้างทุบหน้าอกของมังกรหนุ่มด้วยความโกรธ “ใครอยากจะให้เจ้ามาเลี้ยงดูข้ากับลูก ๆ เราไม่ต้องการให้เจ้ามาเลี้ยงดู!”
ถ้าไม่ใช่เพราะกลัวว่าเขาจะเข้าสู่ด้านมืดแล้วกลับมาฆ่าตน เธอจะไม่มีวันมาเอาใจไอ้คนน่ากลัวแบบนี้แน่!
นี่เขายังมีหน้ามาบอกว่าเธอน่าขยะแขยงอีกหรือ?
แม้ว่าเจ้าของร่างเดิมจะน่าขยะแขยงจริง ๆ แต่เธอก็เป็นแม่ของลูก ๆ ของเขา ถึงอย่างไรความจริงข้อนี้ก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้อยู่ดี
ใบหน้าของหลงโม่ขุ่นมัวยามที่ได้ยินถ้อยคำของหูเจียวเจียว เขาถอยหลังไป 2 ก้าวก่อนจะสะบัดมือของเธอออกอย่างแรง “ใช่ ข้าไม่จำเป็นจะต้องมาแบกรับเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำ ทำไมเจ้าไม่ให้อิงหยวนมันเลี้ยงดูพวกเจ้าล่ะ”
ดวงตาที่มืดมิดเต็มไปด้วยความโกรธ ราวกับว่าเขากำลังจะฉีกคนตรงหน้าออกจากกันเป็นชิ้น ๆ ได้ตลอดเวลา
ท่าทางของเขาทำให้จิ้งจอกสาวรู้สึกเหมือนถูกสาดด้วยน้ำเย็น ทันใดนั้นความโกรธก็ถูกความเย็นดับลงทันที
เธออยากจะตบตัวเองให้ตายเสียจริง!
หูเจียวเจียวเอ๋ย หูเจียวเจียว ทำไมเธอถึงมาอารมณ์เสียใส่เจ้าจอมวายร้ายคนนี้นะ หรือเธอคิดว่าตัวเองยังตายไม่เร็วพอ!
เมื่อหลงโม่เห็นว่าจิ้งจอกสาวเงียบไป เขาก็มั่นใจในการคาดเดาของเขามากยิ่งขึ้น
จากนั้นเขาก็พูดเย้ยหยันเธอว่า “อย่างที่คาดไว้ หูเจียวเจียว ข้าจะบอกเจ้าไว้นะ อย่าพยายามคิดแบบนี้อีก ข้าเลี้ยงลูกคนเดียวได้!”
“ก็ได้ ข้าจะให้เจ้าเป็นคนเลี้ยงดู คำไหนคำนั้น เจ้าอย่ากลับคำเสียล่ะ”
หูเจียวเจียวยิ้มและพยักหน้าตอบรับอย่างไร้เหตุผล
เธอต้องเตือนตัวเองตลอดเวลาว่าตอนนี้มังกรหนุ่มเป็นหัวหน้าครอบครัว และเธอต้องทำตามอีกฝ่าย
หลงโม่ไม่คาดคิดว่าหญิงสาวจะยอมง่ายเช่นนั้น ในขณะที่ร่องรอยของความประหลาดใจฉายแววในม่านตาสีทอง
บัดนี้บรรยากาศกำลังย่ำแย่ ชายหนุ่มเลยหันหลังตั้งท่าจะเดินหนีออกไป แต่จู่ ๆ จิ้งจอกสาวก็สังเกตเห็นถึงสิ่งผิดปกติ
“หลงโม่ ทำไมเจ้ามอมแมมแบบนี้?”
หูเจียวเจียวถามพลางยื่นมือออกไปจะคว้ามือหลงโม่ เอ่อ… แต่เธอยังไม่ทันได้แตะมือของเขา อีกฝ่ายก็ชักมือหลบไปแล้ว
เธอจึงทำได้เพียงเดินวนไปข้างหน้ามังกรหนุ่มเพื่อขวางทางเขาไว้ ก่อนจะพบว่าเสื้อผ้าหนังสัตว์ที่เขาสวมใส่อยู่เปียกโชกแล้วก็มีกลิ่นเลือดโชยมา
“แผลเจ้ายังมีเลือดไหลอยู่หรือเปล่า?”
แม่จิ้งจอกขมวดคิ้วพร้อมกับรีบเอื้อมมือไปแตะหน้าอกของคนตรงหน้า
แน่นอนว่ามีเลือดติดมาที่มือข้างนั้น
เนื่องจากเสื้อหนังสัตว์บนตัวของหลงโม่เป็นสีดำ บวกกับบาดแผลมีเลือดไหลออกมาตลอดเวลา อีกทั้งเสื้อผ้าหนังสัตว์นั้นไม่ซับน้ำ จึงทำให้หญิงสาวไม่ทันได้สังเกตเห็นมันจนกระทั่งเมื่อกี้นี้
“นั่งลง อย่าขยับ ให้ข้าดูแผลของเจ้าหน่อย”
หูเจียวเจียวยืนเขย่งเท้าขึ้นกดไหล่ชายร่างสูงให้นั่งลงด้วยใบหน้าจริงจัง
อาจเป็นเพราะหาได้ยากที่จะเห็นผู้หญิงคนนี้ทำสีหน้าจริงจัง หลงโม่จึงยอมนั่งลงอย่างเชื่อฟังโดยไม่มีการขัดขืนเลยสักนิด
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: เจอหน้ากันบรรยากาศก็ตึงเครียดเลย จะไปกันรอดไหมเนี่ยครอบครัวนี้ ฮือ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 247
แสดงความคิดเห็น