ตอนที่ 308 ไทสัน
ตอนที่ 308 ไทสัน
“ไทสันนี่นายต้องการทดสอบอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จในสถานการณ์ตึงเครียดระดับ 5 เลยงั้นเหรอ?! มันมากเกินไปหรือเปล่า?” วิลเลียมอุทานขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ
การทดสอบในสถานการณ์ที่ตึงเครียดเป็นการทดสอบแบบเฉพาะของทางกองทัพ เพื่อทดสอบว่าอุปกรณ์ชนิดนั้น ๆ สามารถทนรับสถานการณ์ในสภาวะต่าง ๆ ได้หรือไม่ ซึ่งสถานการณ์ตึงเครียดระดับ 5 ที่ไทสันได้พูดขึ้นมามันก็เป็นสถานการณ์ตึงเครียดในสภาวะสงคราม โดยมันมีระดับความตึงเครียดมากที่สุด
โดยปกติกองทัพจะไม่ทำการทดสอบอุปกรณ์ในสภาวะตึงเครียดระดับนี้ เพราะมันคือการทดสอบที่ไม่ต่างไปจากการทำลาย โดยมันจะทำการจู่โจมเข้าใส่อุปกรณ์นั้น ๆ อย่างต่อเนื่องจนกว่าอุปกรณ์จะถึงขีดจำกัดในที่สุด
อุปกรณ์โดยทั่วไปไม่สามารถผ่านการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ได้ เพราะมันมีแต่อุปกรณ์ชั้นสูงในพันธมิตรเท่านั้นที่สามารถทนรับสภาวะแบบนี้ได้สำเร็จ
ขณะเดียวกันอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จก็ไม่เคยผ่านการใช้งานจากกองทัพมาก่อน แล้วมันก็ยังเป็นอุปกรณ์ที่มีราคาค่อนข้างต่ำ ไทสันกับวิลเลียมจึงคิดว่ามันไม่น่าจะทนรับสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ได้
อุปกรณ์ชั้นสูงแต่ละชนิดต่างก็ล้วนแล้วแต่มีมูลค่ามากกว่า 100 ล้านสตาร์คอยน์แตกต่างจากอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จที่มีมูลค่าเพียงแค่ไม่กี่ล้านสตาร์คอยน์เท่านั้น แน่นอนว่าอุปกรณ์ชั้นสูงย่อมใช้วัตถุดิบชั้นดีในกระบวนการผลิต มันจึงสามารถทนรับสภาวะแรงกดดันในระดับสงครามได้ แต่เนื่องมาจากราคาของอุปกรณ์ชั้นสูงที่สูงมาก มันจึงทำให้พวกเขาไม่ได้ติดตั้งอุปกรณ์ระดับนี้บนยานรบของพวกเขามากนัก
หากจะพูดให้ละเอียดกว่านั้นโดยปกติอุปกรณ์ชั้นสูงก็มักจะถูกใช้ในหน่วยรบพิเศษ ซึ่งมีโอกาสในการปะทะมากกว่าทหารหน่วยอื่น ๆ มันจึงทำให้ยานรบของทหารหน่วยรบพิเศษจำเป็นจะต้องมีความทนทานมากกว่าปกติ ไม่อย่างนั้นการสูญเสียทหารในหน่วยรบพิเศษไปแม้แต่เพียงคนเดียว มันก็เป็นเรื่องยากลำบากเกินกว่าที่ทางกองทัพจะสามารถชดเชยได้ในเวลาอันสั้น
ด้วยการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 เป็นการทดสอบที่มีความพิเศษแบบนี้นี่เอง มันจึงทำให้แม้แต่วิลเลียมผู้ซึ่งเป็นคนมองโลกในแง่ดีก็ยังรู้สึกว่าคำสั่งของไทสันออกจะดูเกินจริงไปสักเล็กน้อย
“บริษัทที่ผลิตอุปกรณ์ชนิดนี้เป็นเพียงแค่บริษัทขนาดเล็กที่ไม่มีประสบการณ์และไม่เคยให้บริการกองทัพมาก่อน ถ้าพวกนายสองคนไม่ได้แนะนำอุปกรณ์ชนิดนี้อย่างจริงจัง ฉันก็คงจะไม่ชายตามองมันเลยด้วยซ้ำ”
“พวกนายก็รู้ว่าหลาย ๆ บริษัทไม่สามารถรับประกันคุณภาพผลิตภัณฑ์ของพวกเขาเนื่องมาจากเหตุผลด้านต่าง ๆ ได้ แต่คุณภาพของผลิตภัณฑ์สำหรับกองทัพไม่ใช่เรื่องตลก เพราะมันอาจจะส่งผลกระทบต่อชีวิตทหารในสภาวะสงครามที่กำลังเสี่ยงอันตรายอยู่ได้เลย”
“ที่สำคัญกว่านั้นทางกองทัพไม่ได้ทำธุรกิจกับคู่ค้าเพียงแค่ไม่กี่ปี เพราะการเซ็นสัญญาแต่ละครั้งอาจจะกินเวลาไปนานหลายร้อยปีเลยก็ได้ ดังนั้นถ้าหากว่าพวกเขาไม่สามารถรับประกันคุณภาพของสินค้าได้ตั้งแต่วันแรก พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพิจารณาผลิตภัณฑ์ของพวกเขาต่อไป”
“เมื่อไหร่ก็ตามที่อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จพวกนี้เข้าสู่รายชื่อซัพพลายเออร์ของกองทัพ มันก็หมายความว่าตราบใดก็ตามที่มันยังมีกองทัพและพันธมิตรอยู่ พวกเขาก็จะเป็นคู่ค้ากับพวกเราไปอย่างยาวนาน”
“ยิ่งไปกว่านั้นพวกเรากำลังพิจารณาการนำอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเข้าสู่รายชื่อซัพพลายเออร์ระดับ A ทั้ง ๆ ที่บริษัทควอนตัมไม่ได้ผ่านเงื่อนไขที่เป็นไปตามข้อกำหนด ที่สำคัญบริษัทควอนตัมเพิ่งจดทะเบียนมาได้เพียงแค่ 2 ปีกว่า ๆ มันจึงไม่มีอะไรที่สามารถรับประกันได้เลยว่าบริษัทนี้จะสามารถรับประกันคุณภาพสินค้าของพวกเขาให้กับกองทัพของพวกเราได้”
“ดังนั้นการทดสอบในครั้งนี้จึงเป็นการให้อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จได้พิสูจน์ตัวเองว่า พวกเขามีคุณสมบัติมากพอที่จะเป็นคู่ค้ากับทางกองทัพพันธมิตรในระยะยาวหรือเปล่า” ไทสันกล่าว
คำอธิบายของไทสันทำให้วิลเลียมกับเลย์ตันรู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย แต่คำอธิบายเหล่านั้นก็ฟังดูสมเหตุสมผลจนพวกเขาไม่สามารถหาคำกล่าวอ้างใด ๆ มาพูดแย้งได้เลย
ท้ายที่สุดไทสันก็เป็นคนเข้มงวดมาโดยตลอด โดยเฉพาะเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกับกองทัพที่ชายคนนี้ไม่เคยผ่อนปรนเลยแม้แต่น้อย
“โอเค ฉันเข้าใจแล้วว่าการจัดหาผลิตภัณฑ์ใหม่ให้กับกองทัพไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ และพวกเราไม่สามารถที่จะประมาทได้ ในเมื่อพวกเราจะทำการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 อยู่แล้ว แล้วพวกเรายังจะต้องทำการทดสอบในระดับปกติอยู่หรือเปล่า?” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับพยักหน้ารับ
“ทดสอบต่อไปเถอะ ฉันอยากจะดูว่าอุปกรณ์ที่พวกนายชื่นชมนักหนามันจะดีสักแค่ไหน หลังจากนั้นพวกเราค่อยทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ทีหลังก็ได้ ว่าแต่ครั้งนี้พวกนายได้ตัวอย่างมากี่ชุด? แล้วพวกนายเอาอุปกรณ์ตัวอย่างพวกนี้มาจากที่ไหน?” ไทสันกล่าว
“พวกเราได้ตัวอย่างมา 6 ชุดเป็นรุ่นพลัส 3 ชุดและรุ่นเอ็กซ์ตร้าอีก 3 ชุด โดยทางเราได้ขอซื้ออุปกรณ์พวกนี้มาจากสมาพันธ์จัสทิส ดังนั้นนายมั่นใจได้เลยว่าบริษัทควอนตัมย่อมไม่รู้ว่าพวกเรากำลังทดสอบผลิตภัณฑ์ของพวกเขาอยู่อย่างแน่นอน” วิลเลียมกล่าว
การแจ้งให้ผู้ผลิตทราบว่าพวกเขาจะทำการทดสอบผลิตภัณฑ์ อาจจะทำให้ทางผู้ผลิตจงใจผลิตสินค้าที่มีคุณภาพสูงกว่าปกติขึ้นมาให้ทางกองทัพได้ทำการทดสอบ ดังนั้นเมื่อทางกรมทหารต้องการที่จะทดสอบสินค้าที่พวกเขาสนใจ พวกเขาก็มักจะทำการซื้อสินค้าเหล่านั้นมาจากตลาดหรือซื้อต่อมาจากองค์กรที่พวกเขารู้จัก
“ทำไมมันถึงต้องแบ่งแยกเป็นรุ่นพลัสกับรุ่นเอ็กซ์ตร้าด้วย?” ไทสันกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“มันไม่ได้มีแค่นั้นนะ บริษัทควอนตัมแบ่งขายอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จออกมาเป็นรุ่นต่าง ๆ 4 ระดับ โดยแต่ละรุ่นก็มีราคาที่แตกต่างกันและมันก็มีคุณภาพที่แตกต่างกันด้วยเหมือนกัน”
“รุ่นสแตนดาร์ดคือรุ่นที่ช่วยเสริมพลังชาร์จได้ 25%, รุ่นพลัสคือรุ่นที่สามารถช่วยเสริมพลังชาร์จได้ 30%, รุ่นเอ็กซ์ตร้าสามารถช่วยเสริมพลังชาร์จได้ 35% และรุ่นลักซูรี่สามารถเสริมพลังชาร์จได้ 38%”
“ส่วนราคาของแต่ละรุ่นนั้น เริ่มต้นอย่างรุ่นสแตนดาร์ดถูกขายออกมาแค่ 2 ล้านสตาร์คอยน์, รุ่นพลัสขายอยู่ที่ 4 ล้านสตาร์คอยน์, รุ่นเอ็กซ์ตร้าขายอยู่ที่ 10 ล้านสตาร์คอยน์และรุ่นลักซูรี่ขายอยู่ที่ 30 ล้านสตาร์คอยน์” วิลเลียมกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ไอ้คนที่ดูแลบริษัทนี่ทำการตลาดเก่งดีจริง ๆ ถึงขนาดแบ่งสินค้าตามกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน แบบนี้ลูกค้าในแต่ละระดับก็จะสามารถเลือกซื้อสินค้าในรุ่นที่เหมาะสมกับตัวเองได้ และถึงแม้ว่าสินค้าระดับล่างจะมีคุณภาพที่แย่กว่า แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ตั้งราคาที่คนทั่วไปสามารถจับต้องได้” ไทสันกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
“พวกเขาใช้กลยุทธ์การตลาดที่ค่อนข้างดีและราคาก็ตั้งขึ้นมาอย่างยุติธรรม รุ่นที่พวกเรากำลังจะทำการทดสอบนี้คือรุ่นที่มีราคา 4 ล้านสตาร์คอยน์ และถ้าหากว่าเราสั่งซื้อสินค้าเป็นจำนวนมากเราก็สามารถที่จะต่อรองราคาได้” วิลเลียมกล่าว
“เอาล่ะเรื่องนั้นค่อยพูดกันทีหลัง เพราะถ้าหากว่าอุปกรณ์พวกนั้นไม่สามารถผ่านการทดสอบไปได้ พวกเราก็ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดถึงเรื่องอื่น” ไทสันกล่าวพร้อมกับโบกมือ
—
การทดสอบในระดับปกติดำเนินไปอย่างราบรื่น โดยยานทดสอบที่ติดตั้งอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเอาไว้สามารถต้านทานการโจมตีได้เพิ่มขึ้นถึง 32.17% ซึ่งมันเป็นตัวเลขที่สามารถเพิ่มอัตราการอยู่รอดในสนามรบได้เป็นอย่างดี
ผลการทดสอบในครั้งนี้ทำให้แม้แต่ไทสันที่เป็นคนแข็งกระด้างมาโดยตลอด ก็แอบคิดว่าการติดตั้งอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จให้กับยานของกองทัพถือว่าเป็นทางเลือกที่ดี แต่ปากของเขายังคงหนักมากเกินไปหน่อย เขาจึงยังไม่ยอมเปิดปากพูดความคิดเห็นของตัวเองออกมา
หลังจากนั้นไทสันก็จากไปอย่างเร่งรีบ เพราะท้ายที่สุดในฐานะที่เขาเป็นผู้บัญชาการสูงสุดมันจึงทำให้เขามีเรื่องที่ต้องคอยจัดการอยู่เสมอ
“ไม่ว่ายังไงก็ต้องทำการทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ให้ได้ ถ้าหากอุปกรณ์ 2 ใน 6 เครื่องสามารถผ่านการทดสอบไปได้ บริษัทควอนตัมถึงจะมีคุณสมบัติเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพ” ไทสันกล่าวเน้นย้ำขณะที่วิลเลียมและเลย์ตันมาส่งเขาที่ยาน
เมื่อไทสันได้ขึ้นยานรบบินจากไป วิลเลียมก็ถอนหายใจพร้อมกับหันมาพูดกับเลย์ตัน
“นี่คงจะเป็นการผ่อนปรนที่ดีที่สุดเท่าที่ไทสันจะยอมรับได้แล้ว ถึงยังไงคุณสมบัติของการเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ก็ไม่ใช่เรื่องที่สามารถมองข้ามได้ง่าย ๆ เพราะถ้าหากว่าบริษัทควอนตัมได้เข้ารายชื่อซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพจริง ๆ พวกเขาก็ไม่เพียงแต่จะได้รับการสนับสนุนทางด้านเงินทุนและเทคโนโลยีจากทางกองทัพเท่านั้น แต่พวกเขายังจะได้รับการคุ้มครองเป็นพิเศษจากทางกองทัพอีกด้วย”
“เพื่อแลกกับสิ่งตอบแทนจากกองทัพพวกเราก็จำเป็นจะต้องมีข้อบังคับที่เข้มงวดมากด้วยเหมือนกัน การเป็นซัพพลายเออร์ระดับ A ของกองทัพต้องแบกรับแรงกดดันเหนือกว่าที่บริษัทโดยทั่วไปจะรับได้ เพราะท้ายที่สุดซัพพลายเออร์ระดับ A ก็ต้องผลิตสินค้าออกมาจำหน่ายแก่กองทัพให้ได้ตามคำสั่ง และคุณภาพของสินค้าก็ต้องตรงตามมาตรฐานที่พวกเราได้กำหนดเอาไว้ด้วย ซึ่งเรื่องนี้ถือว่าเป็นกฎที่ทางกองทัพได้ตั้งมาตั้งแต่สมัยโบราณ”
“การทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 เท่ากับว่าอุปกรณ์จะต้องทำงานเต็มกำลังอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน คล้ายกับว่ามันได้อยู่ในสนามรบขนาดใหญ่ที่กินเวลาในการสู้รบค่อนข้างนาน และถึงแม้ว่าไทสันจะลดข้อกำหนดในการทดสอบลงมาเหลือเพียงแค่ 1 ใน 3 แต่ฉันก็ยังไม่คิดว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จจะสามารถผ่านการทดสอบไปได้อยู่ดี” เลย์ตันกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“ฉันก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน การทดสอบในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 ยังถือว่าเป็นการทดสอบระดับสูงมากเกินไปสำหรับบริษัทน้องใหม่ เพราะมันไม่ใช่เพียงแค่การทดสอบคุณภาพของผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่มันยังต้องทดสอบความทนทานของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ ด้วย” วิลเลียมกล่าวอย่างเห็นด้วย
“นายคิดว่าบริษัทควอนตัมจะยินดีขายเทคโนโลยีพวกนี้ให้กับซัพพลายเออร์ระดับ A ของทางกองทัพไหม? ถ้าหากว่าอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จถูกสร้างขึ้นมาจากคู่ค้าของกองทัพ ไทสันจะต้องยอมรับอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จให้เอามาใช้งานในกองทัพอย่างแน่นอน” เลย์ตันกล่าวพร้อมกับใช้มือลูบคางอย่างใช้ความคิด
“ถ้านายเป็นคนคิดค้นอุปกรณ์เสริมพลังชาร์จขึ้นมา นายคิดว่านายจะขายเทคโนโลยีนี้ให้คนอื่นไหมล่ะ?” วิลเลียมกล่าวพร้อมกับตบไหล่เลย์ตันเบา ๆ
“ใครจะไปโง่ขายล่ะ! ถึงแม้ว่าทางกองทัพจะไม่ซื้อผลิตภัณฑ์ชิ้นนี้แต่มันย่อมเป็นสินค้าที่มีความต้องการทั่วทั้งพันธมิตรอย่างแน่นอน เพราะแม้กระทั่งสมาพันธ์จัสทิสก็พร้อมที่จะยื่นคำสั่งซื้อในชุดที่ 2 ดังนั้นการไม่ได้เป็นคู่ค้ากับทางกองทัพก็ไม่ได้หมายความว่าเส้นทางของบริษัทจะจบลง”
“ตราบใดก็ตามที่พวกเขาได้พัฒนาสินค้าชิ้นนี้ให้กลายเป็นอุปกรณ์มาตรฐานบนยานรบ ไม่ช้าก็เร็วทางกองทัพก็ต้องติดต่อเข้าไปเพื่อซื้อมาใช้ในกองยานของทางกองทัพอยู่ดี” เลย์ตันกล่าวพร้อมกับส่ายหัว
“นายจำได้ใช่ไหมว่านายกับฉันได้มีโอกาสพบกับเซี่ยเฟยมาครั้งหนึ่งแล้ว เด็กคนนั้นแหละคือผู้อยู่หลังบ้านเป็นผู้คอยสั่งการบริษัทควอนตัมอยู่เบื้องหลัง เด็กคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากและแน่นอนว่าสิ่งที่นายคิดได้ย่อมเป็นสิ่งที่เขาก็คิดได้ด้วยเหมือนกัน ดังนั้นมันก็ไม่มีทางที่บริษัทควอนตัมจะเลือกขายเทคโนโลยีของพวกเขาออกไป” วิลเลียมกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เด็กคนนั้นเป็นคนที่ฉลาดมากจริง ๆ เอาล่ะพวกเรามาทดสอบอุปกรณ์พวกนี้ในสภาวะตึงเครียดระดับ 5 กันเถอะ” เลย์ตันกล่าวขึ้นมาอย่างเสียดายเมื่อคิดว่าเขาไม่มีโอกาสที่จะได้ใช้อุปกรณ์เสริมพลังชาร์จเหล่านี้
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 139
แสดงความคิดเห็น