ภูพิง-อิงธารา บทที่ 12
แดดยามบ่ายส่องลอดไม้ต้นใหญ่ตกกระทบม้าหินอ่อนที่หญิงสูงวัยกำลังง่วนอยู่กับการใช้มีดปลอกเปลือกแอปเปิ้ลอยู่หน้าเรือนหลังน้อย นานๆ ครั้งก็จะเงี่ยหูฟังความเคลื่อนไหวและปรายตาไปยังจุดที่เป็นห้องนอนของนายสาวอย่างห่วงใย ป้ามะลิทอดถอนใจอย่างหม่นเศร้า เมื่อรู้ว่าอิงธาราได้รับอุบัติเหตุระหว่างไปทำงานต่างจังหวัดจนล้มป่วย และต้องนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลเป็นเดือน
ระหว่างที่อิงธารารักษาตัวอยู่นั้นคุณอรรถผู้ที่อ้างตนว่าเป็นลุงของนายจ้างของอิงธาราก็เข้ามารับเป็นเจ้าของไข้ ดังนั้นป้ามะลิจึงไม่กังวลว่าจะต้องไปขอร้องให้บ้านนั้นช่วยออกค่ารักษาให้กับคุณหนูของตน ลำพังตัวแกเองไม่ลำบากใจที่จะทนฟังคำเสียดสีจากคนบ้านนั้น แต่หญิงสาวที่อยู่ในความดูแลของแกนั้นไม่ควรที่จะถูกทำร้ายจิตใจและถูกปฏิเสธอย่างไม่ใยดีอีกแล้ว แม้ว่าหญิงสูงวัยจะสงสัยว่าคุณหนูของตนไปรู้จักมักจี่กับครอบครัวของคุณอรรถได้ยังไง แต่แกไม่มีสถานะที่จะซักถาม จึงปล่อยให้เป็นเรื่องของเจ้านายไป
เมื่ออาการของอิงธาราดีพอที่จะกลับไปพักฟื้นที่บ้านได้ คุณหมอก็อนุญาตให้เธอออกจากโรงพยาบาล คุณอรรถแสดงน้ำใจให้พวกเธอไปพักฟื้นที่บ้านด้วยกัน แต่คุณหนูปฏิเสธ โดยให้เหตุผลถึงความไม่เหมาะไม่ควร สุดท้ายทั้งป้ามะลิและอิงธาราก็กลับมาพักยังเรือนหลังน้อยในรั้วบ้านวจีลิขิต หญิงสูงวัยแอบกังวลใจกลัวว่าคุณหนูของตนจะถูกระราญจากคนบ้านใหญ่ แต่เวลาล่วงไปเกือบอาทิย์กว่าๆ แล้วที่บ้านยังคงสงบดี ทำให้แกวางใจได้บ้าง
แต่เรื่องที่ทำให้หญิงสูงวัยกลัดกลุ้ม คือการแต่งงานแบบสายฟ้าแลบของอิงธาราและหลานชายของคุณอรรถที่จะมาถึงในอีกสองอาทิตย์นี้แล้ว แกพยายามตะล่อมถามถึงสาเหตุของการแต่งงานในครั้งนี้ อิงธาราก็จะบ่ายเบี่ยงทุกครั้งไป ป้ามะลิจึงได้แต่ปล่อยวาง และดูแลดวงใจของผู้มีพระคุณให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้
"สวัสดีค่ะป้า" เสียงสดใสของแขกคนแรกของวันทำให้ป้ามะลิหลุดจากความคิด แกเงยหน้าขึ้นส่งยิ้มให้อย่างเบิกบานเมื่อเห็นว่าผู้มาใหม่เป็นใคร
"อ้าว! คุณแคท ไปไงมาไงคะเนี่ย มาค่ะมา เดี๋ยวป้าเปิดประตูให้" หญิงสูงวัยวางมือแล้วกุลีกุจอไปเปิดประตูรั้วรับหญิงสาวร่างเล็กที่หอบข้าวของพะลุงพะลังเดินเข้ามา
"อาการของพี่น้ำอิงดีขึ้นไหมคะ" แคทริยาวางข้าวของลงบนโต๊ะ แล้วปรายตาไปยังห้องนอนของเจ้าของชื่อ
"ดีขึ้นมากแล้วค่า แผลหายหมดแล้ว เดินเหินได้สะดวกขึ้นโข"
"นี่ผลไม้ของพี่น้ำอิงใช่ไหมคะ เดี๋ยวแคทถือเข้าไปให้นะคะ พอดีมีเรื่องจะปรึกษาสักหน่อย วานป้าเอาอาหารพวกนี้จัดใส่จานให้ด้วยนะคะ" พูดจบเธอก็คว้าจานแอปเปิ้ลเดินเนิบนาบตรงไปยังห้องนอนของเจ้าของบ้านทันที
'ก๊อก! ก๊อก!' เสียงเคาะประตูทำให้อิงธาราที่กำลังนั่งเหม่อสะดุ้ง หญิงสาวขมวดคิ้วอย่างแปลกใจก่อนจะเดินไปเปิดประตู พอเห็นว่าเป็นใครก็ระบายยิ้มออกมาอย่างยินดี ความสดใสของผู้มาใหม่ทำให้อารมณ์ของอิงธาราดีขึ้น
"อ้าว!แคท ทำไมถึงมาได้ เข้ามาก่อนมา" หญิงสาวเปิดประตูให้กว้างขึ้นเพื่อเชื้อเชิญ สาวร่างเล็กวางจานผลไม้ลงบนโต๊ะเครื่องแป้ง เสื้อยืดสีขาวลายการ์ตูนกับกางเกงขายาวสีดำที่อยู่บนเรือนร่างทำให้เธอไม่ต่างจากเด็กวัยรุ่น ผมยาวรวบมัดเป็นหางม้า กิริยานุ่มนวลอ่อนหวานทำให้อิงธาราสบายใจทุกครั้งเมื่อได้อยู่ใกล้
"เป็นไงบ้างคะ แผลที่เท้าดีขึ้นหรือยัง" แคทริยาส่งสายตาไปยังเท้าที่บาดเจ็บของเจ้าของห้องอย่างห่วงใย หญิงสาวส่งยิ้มขอบคุณให้อีกฝ่ายแล้วเลื่อนเก้าอี้ให้ก่อนที่จะหย่อนตัวนั่งลงบนเตียง
เกือบเดือนที่อิงธาราต้องนอนรักษาอาการบาดเจ็บจากการหลบหนีในครั้งนั้น โชคดีที่แคทริยาเด็กในอุปถัมภ์ของอรรถผู้เป็นลุงของภูพิง เป็นคนเฝ้าไข้เธอ หญิงสาวคอยช่วยเหลือและดูแลผลัดเปลี่ยนกับป้ามะลิ และช่วยปิดบังไม่ให้คนในครอบครัวรู้ถึงอาการของเธอ ด้วยบุคลิกที่อ่อนโยน ใจเย็น และอัธยาศัยดีทำให้อิงธารานิยมชมชอบหญิงสาวร่างเล็กได้ไม่ยาก
"ตกสะเก็ดแล้วล่ะ เดินลงน้ำหนักก็ไม่เจ็บแล้ว แคทมีธุระแถวนี้หรือไงจ๊ะถึงได้แวะมาได้"
"แคทตั้งใจมาหาพี่น้ำอิงค่ะ" พูดพลางก็เปิดกระเป๋าค้นหาอะไรบางอย่าง ปากก็จ้อไปเรื่อยๆ
"คุณท่านถให้เอาแบบชุดเจ้าสาวมาให้พี่น้ำอิงเลือก เรามีเวลาไม่มากแล้ว กลัวช่างจะตัดชุดออกมาไม่ทัน...อ้อนี่ไงเจอแล้ว" ได้ยินแล้วอิงธาราก็ถอนใจอย่างหม่นเศร้า ใบหน้าโศกสลดของเจ้าของห้องทำให้แคทรียาหุบยิ้ม ได้แต่ส่งสายตาเห็นใจเพื่อปลอบประโลม
"เอายังไงก็ได้จ้ะ แคทเลือกให้พี่เลยแล้วกัน"
"งานแต่งทั้งที พี่ก็เลือกหน่อยเถอะนะคะ" แคทริยาเดินมาทรุดนั่งลงข้างๆ หญิงสาว มือก็พลิกเปิดหนังสือแบบชุดเจ้าสาวไปทีละหน้า
"แคทก็รู้ว่ามันไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด ถ้าภาพพี่กับนายภูพิงไม่หลุดจนเป็นข่าว เรื่องอย่างนี้มันก็คงไม่เกิด...แล้วถ้าพ่อพี่ไม่ประมาทขับรถชนครอบครัวของเขาตาย ...แล้วถ้าเขาไม่แค้นจนต้องวางแผนลักพาตัวพี่ไปที่เกาะนั่น..." อิงธารายกมือปิดหน้าอย่างสิ้นหวัง
'ทำไมกัน...ทำไมต้องเป็นฉันที่จะต้องรับผิดชอบเรื่องบ้าๆ พวกนี้ด้วย ทั้งๆ ที่ฉันไม่ได้เป็นคนก่อ'
"พี่น้ำอิงคะ แคทเข้าใจพี่นะคะ แต่ในเมื่อเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว สิ่งที่ทำได้คือป้องกันความเสียหายระหว่างพี่กับคุณภู เรากลับไปแก้ไขมันไม่ได้ พี่น้ำอิงก็รู้ อีกอย่างคุณท่านให้แต่งงานเพื่อกลบข่าวของพี่กับคุณภูก็เท่านั้นเองค่ะ อย่ากังวลไปเลย ยังไงแคทกับพี่คีและคุณท่านก็ไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ตั้งแต่ต้น ก็คิดซะว่าเป็นการหนีจากการคุกคามของคุณวีร์นัชชาก็ได้นี่คะ"
"แต่มันตั้งปีหนึ่งเลยนะแคท" อิงธาราโอดครวญ
"แค่ปีเดียวเองค่ะ แป๊บๆ เดี๋ยวก็ผ่านไป โฟกัสที่เงินสิบล้านที่จะได้ ส่วนวิธีการรับมือกับคุณภูแคทจะช่วยเอง" ว่าพลางยัดหนังสือใส่มือหญิงสาว
"เอาล่ะค่ะ เลิกกังวลได้แล้ว แคทว่าพี่มาเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุดในจังหวัดดีกว่า" หญิงสาวร่างเล็กลุกอย่างกระฉับกระเฉง
"เดี๋ยวแคทต้องกลับแล้วค่ะ พี่เลือกแบบชุดได้แล้วก็ไลน์บอกแคทเลยนะคะ"
แคทริยาออกไปนานแล้วแต่อิงธารายังคงนั่งจมอยู่กับความคิดของตัวเอง นานหรือยังที่หญิงสาวตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ สภาพที่ไม่มีโอกาสได้เลือกทางเดินของตัวเอง ทุกอย่างที่เข้ามาในชีวิตล้วนเป็นสิ่งที่คนรอบข้างยัดเยียดให้ทั้งนั้น การย้ายออกจากคฤหาสน์หลังใหญ่มาอยู่เรือนหลังเล็ก ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันก็ต้องกระเหม็ดกระแหม่ แม้กระทั้งการแต่งงานบ้าๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้นนี่ก็ด้วย ทุกอย่างมันเกิดขึ้นหลังที่แม่จากไปจริงหรือ
อิงธาราเพิ่งตระหนักได้ว่าพ่อของเธอเกลียดแม่มากเพียงใด จากการกระทำและคำผรุสวาทที่เขาพ่นออกมายามเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอ บางครั้งก็อดคิดไม่ได้ว่าเธอใช่ลูกสาวของเขาจริงหรือไม่ จากข้อเสนอก้อนโตที่คุณอรรถยื่นให้ ทำให้พ่อของเธอไม่ลังเลที่จะตอบตกลง เขาไม่แม้จะหันมามองเธอด้วยซ้ำ มีเพียงการโอบกอดจอมปลอมที่แสดงให้คนทั้งโลกรู้ว่าเธอยังเป็นหนึ่งในวจีลิขิตเท่านั้น แต่อ้อมกอดของเขามันไม่มีความอบอุ่นอยู่เลย
หญิงสาวได้แต่ทอดถอนใจ เธอไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าออกไปใช้ชีวิตอย่างที่ปรารถนา ไม่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมหรือถูกกดขี่จากคนในครอบครัว แต่เงินเก็บในบัญชีที่เธอเก็บหอมรอมริบนั้นยังไม่พอที่จะให้เธอและป้ามะลิใช้ชีวิตได้อย่างสบายๆ อิงธาราจึงพยายามหางานทำ แต่ก็โชคร้ายที่งานล่าสุดทำให้ชีวิตของเธอพลิกคว่ำพลิกหงายดั่งเรือน้อยอยู่ท่ามกลางมรสุมอันบ้าคลั่งกลางทะเลลึก เสียงประตูห้องนอนดังแทรกความคิดทำให้หญิงสาวเงิยหน้าขึ้น สายตาปะทะเข้ากับร่างของหญิงสูงวัยที่เดินเนิบนาบเข้ามาในห้อง
"คุณแคทกลับไปแล้ว คุณน้ำอิงจะทานข้าวเลยไหมคะ วันนี้บ้านใหญ่ส่งผัดผักมาอย่างเดียว ป้าเลยไปซื้อไข่พะโล้กับแกงจืดหมูสับจากตลาดมาเพิ่ม"
นี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เธออึดอัดใจ อาหารการกินบ้านใหญ่ไม่เคยส่งอะไรดีๆ มาให้เธอเลย เป็นกับข้าวบ้านๆ รสชาติก็ไม่ได้ดี เผลอๆ แกงถุงในตลาดยังรสชาติดีกว่าอาหารที่เธอได้รับเสียอีก
"ทานเลยก็ได้ค่ะป้า" หญิงสาวลุกจากท่านั่ง เดินออกจากห้องนอนตรงไปยังมุมกินข้าวเล็กๆของบ้าน
บางทีข้อเสนอที่คุณอรรถยื่นให้มันอาจจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดในขณะนี้แล้ว อย่างน้อยวีร์นัชชาก็ไม่ต้องมาหาเรื่องเธอกับกฤตดนัยอีก แล้วเธอก็จะได้พ้นจากบ้านนี้อย่างถาวรเสียที
""ไว้ป้ามาช่วยน้ำอิงเลือกชุดแต่งงานด้วยนะคะ เลือกสองหัวดีกว่าหัวเดียว" หญิงสาวพูดในขณะที่นั่งลงหน้าโต๊ะอาหาร ป้ามะลิมองแผ่นหลังบอบบางตั้งตรงของหญิงสาวอย่างเห็นใจ แต่ก็รู้ดีว่านี่คงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับคุณหนูของตนแล้ว
"ได้ค่ะ" หลังรับคำก็จัดแจงตักอาหารให้ผู้เป็นนายอย่างเอาใจ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 4403
แสดงความคิดเห็น