ตอนที่ 3 พยาบาลคนใหม่
ในขณะที่ณเวฬาเดินตามหลังของศรัณย์ไปหัวใจดวงน้อยๆ ของณเวฬาก็เต้นแรงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่งเมื่อรู้ว่าจะได้พบเจอกับใครอีกคนหนึ่งที่เธอรักและเคารพเสมอมา คนที่เธอคุ้นเคยสนิทสนมเปรียบเสมือนหนึ่งว่าเป็นแม่คนที่สองของเธอเลยก็ว่าได้เมื่อครั้งในอดีตที่เคยอยู่ร่วมกันมาความผูกพันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง หรือลบเลือนจางหายไปจากใจของเธอได้เลยแม้แต่น้อย ณเวฬามองแผ่นหลังของศรัณย์ผู้เป็นสามีเมื่ออดีตชาติอยู่ใกล้กันแค่เอื้อมมือแต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ตลอดเวลา 22 ปีที่ผ่านมานี้ถึงพี่ศรัณย์จะอายุมากขึ้นแต่ก็ไม่ทำให้เขาดูแก่ลงไปเลยที่น่าแปลกก็คือเธอดันชอบเขาในแบบนี้มากกว่าดูมีเสน่ห์น่าค้นหาไม่เหมือนเมื่อครั้งที่เจอกันแรกๆ พี่ศรัณย์อายุยังน้อยหน้าตาก็หล่อเหลาตามประสาหนุ่มหน้ามนคนที่เธอหลงรักเมื่อครั้งในอดีตชาตินั้น ความรู้สึกคนละอย่างกันเลยแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงแต่ถึงยังไงเธอก็รักพี่ศรัณย์คนนี้คนเดียวมาตลอดไม่เปลี่ยนใจอยู่แล้ว
ตลอดเวลา 22 ปีที่ผ่านมานี้เธออยากจะถามพี่ศรัณย์เหลือเกินว่าตั้งแต่จากกันไปพี่ศรัณย์ทำอะไรบ้าง ใช้ชีวิตยังไง แบบไหน เมื่อไม่มีเธออยู่บนโลกของเขาแล้ว และในตอนนี้พี่ศรัณย์มีใครคนใหม่ไปแล้วหรือยัง นั่นสิพี่ศรัณย์มีใครคนอื่นอีกไหมนะ ผู้ชายที่เมียตายไปตั้ง 22 ปีเช่นนี้จะไม่มีใครคนใหม่เลยหรือ จะเป็นไปได้เหรอ ถ้าเป็นเช่นนั้นการที่เธอจะบอกความจริงออกไปว่าเธอเป็นใครมาจากที่ไหนสิ่งนี้คงต้องปิดเอาไว้เป็นความลับไปก่อนสักระยะหนึ่งรอให้เธอแน่ใจก่อนแล้วค่อยบอกก็แล้วกันนะ เพราะเรื่องแบบนี้ออกจะเหนือธรรมชาติไปสักหน่อยไม่ใช่ว่าจะเล่าให้ใครฟังได้ง่ายๆ ต้องมีหลักฐานการพิสูจน์อีกมากมายซึ่งมันไม่ง่ายเลยที่จะให้ใครมายอมรับความจริงนี้ของเธอกันได้ทุกคน ความคิดของเธอหยุดลงแต่เพียงเท่านั้นเมื่อพี่ศรัณย์เดินมาหยุดลงที่หน้าเรือนหลังเล็กของคุณหญิงแม่ที่นี่ไม่เปลี่ยนไปเลยเคยเป็นยังไงก็เป็นอย่างนั้นณเวฬามองอย่างสำรวจไปรอบๆ
[ศรัณย์] “คุณหญิงแม่ท่านไม่เคยออกจากเรือนหลังเล็กนี่เลยเป็นเวลา 22 ปีมาแล้ว ช่วงนี้ร่างกายท่านไม่ค่อยแข็งแรง 3 วันดี 4 วันไข้ตามประสาคนแก่น่ะ ในเรือนนี้มีป้าจำปาคนสนิทของคุณแม่คนเดียวที่คอยดูแลท่านผมเกรงว่าแกจะไม่ไหวอายุก็มากแล้วเหมือนกัน เกิดคุณแม่ท่านเป็นอะไรขึ้นมากะทันหันจะลำบากก็เลยจ้างพยาบาลมาดูแลอย่างใกล้ชิดจะดีกว่า”
ในขณะที่เดินไปศรัณย์ก็อธิบายให้กับณเวฬาได้ฟังถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ณเวฬาทำได้แต่เดินตามหลังของศรัณย์ไปเงียบๆ ไม่ได้พูดตอบโต้อะไรจนมาถึงหน้าประตูบานใหญ่ที่เปิดต้อนรับเอาไว้อยู่ก่อนแล้วทันทีที่พี่ศรัณย์ก้าวเข้าไปและเธอก็ก้าวตามเข้ามาภายในห้อง เธอแทบจะร้องไห้ออกมาเลยแต่ก็ต้องพยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้นร่ำไห้เอาไว้จนเจ็บคอไปหมด เมื่อเห็นร่างกายที่ผ่ายผอมของคุณหญิงแม่ที่นอนหลับอยู่บนม้าโยกตัวโปรด ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงเหมือนเดิมยกเว้นก็แต่คนเท่านั้นที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาจนน่าใจหายยิ่งนัก
[คุณหญิงสร้อยสิรินทร์] “ใครมารึ แม่จำปา”
[ศรัณย์] “ผมเองครับ คุณแม่”
[คุณหญิงสร้อยสิรินทร์] “อ้าววว..ชายใหญ่เองรึลูก แล้วนั่นลูกพาใครมาด้วยล่ะจ๊ะ”
[ศรัณย์] “เธอเป็นพยาบาลคนใหม่ที่ผมจ้างให้มาดูแลคุณแม่น่ะครับ”
[คุณหญิงสร้อยสิรินทร์] “โธ่เอ่ยยย ชายใหญ่ไม่น่าเป็นกังวลเลย แม่บอกแล้วว่าแม่สบายดี แม่ไม่ได้เป็นอะไรมากสักหน่อย ไม่น่าต้องลำบากชายใหญ่เลยลูกกก”
[ศรัณย์] “ลูกไม่ได้ลำบากอะไรเลยครับ คุณแม่ ลูกอยากให้มีพยาบาลอยู่ใกล้ชิดดูแลอาการเจ็บป่วยของคุณแม่ คอยอยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณแม่น่ะครับ เธอชื่อณเวฬาครับ คุณแม่”
คุณหญิงแม่ขยับตัวเปลี่ยนจากท่านอนเมื่อสักครู่เป็นลุกขึ้นมานั่งโดยมีคุณชายใหญ่ประคองช่วยแล้วใช้หมอนวางไว้ที่ด้านหลังของท่าน น้ำเสียงของคุณหญิงแม่แหบพร่าเหมือนคนไม่มีเรี่ยวแรงแต่ความทรงจำของคุณหญิงแม่ยังดีอยู่มาก เมื่อคุณชายใหญ่พูดคุยแนะนำกันเสร็จณเวฬาก็คลานเข่าเข้าไปหานั่งพับเพียบลงที่พื้นอยู่ใกล้ๆ กับคุณหญิงแม่แล้วเอื้อมมือของเธอขึ้นไปจับมือที่เหี่ยวย่นตามกาลเวลาของคุณหญิงแม่นั้นเอาไว้อย่างตั้งใจที่จะส่งผ่านความรัก และความคิดถึงไปหาคุณหญิงแม่ให้ได้มากที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้จนรู้สึกถึงการสะดุ้งตกใจเล็กน้อยของคุณหญิงแม่ที่ชะงักงันไปแต่เป็นเพียงครู่เดียวเท่านั้น
[ณเวฬา] “คุณหญิงแม่..”
[คุณหญิงสร้อยสิรินทร์] “ชื่อณเวฬารึ”
ถึงสายตานั้นจะฝ้าฟางมองเลือนลางแต่บางสิ่งบางอย่างที่คุณหญิงแม่คิดว่าต้องใช่แน่ๆ จึงถามออกไปเพื่อความแน่ใจ
[ณเวฬา] “ใช่ค่ะ หนูชื่อณเวฬาค่ะ”
ณเวฬาตอบออกไปตามตรงพร้อมทั้งจ้องมองไปที่ดวงหน้าของคุณหญิงแม่ด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย และตื้นตันจนเกือบทำให้ร้องไห้ออกมา แต่ณเวฬาก็พยายามอดกลั้นเอาไว้จนน้ำตาค่อยๆ แห้งและจางหายไปในที่สุด
[คุณหญิงสร้อยสิรินทร์] “ณเวฬาเหรอออ อืมมม ชื่อเพราะดีนะ อยู่ที่นี่ด้วยกันนานนานนะ อย่าเพิ่งรีบจากกันไปไหนเสียล่ะ”
คุณหญิงสร้อยสิรินทร์รู้สึกสุขใจประหนึ่งว่าของรักที่หายไปได้กลับคืนมาแล้วรู้สึกตื้นตันใจอย่างไรไม่รู้บอกไม่ถูก คุณหญิงสร้อยสิรินทร์ใช้มือของท่านตบลงไปที่หลังมือของณเวฬาเบาเบาหลายต่อหลายครั้งด้วยความรู้สึกถูกชะตาบวกกับความเอ็นดู ความรู้สึกแบบนี้มันห่างหายไปนานน่าจะ 22 ปีได้แล้วมั้งตั้งแต่นับดาวตายจากไปตั้งแต่นั้นมาก็ไม่เคยมีใครเข้ามาแทนที่ความรักและความเอ็นดูในใจของคุณหญิงสร้อยสิรินทร์ได้อีกเลย ไม่มีเลยแม้แต่คนเดียว หลังจากที่ทุกอย่างลงตัวแล้วศรัณย์ก็ขอตัวกลับออกไปก่อนแต่เขาก็ไม่ได้กลับไปที่เรือนหลังใหญ่แต่อย่างใด และไม่ได้กลับไปที่ห้องทำงานของเขาด้วย แต่เขากลับเดินไปที่เรือนไม้ริมน้ำที่มีดอกบัวขึ้นอยู่มากมายแข่งกันบานสะพรั่งกระจายอยู่โดยรอบ ศรัณย์ไม่สนด้วยซ้ำกับอากาศที่มันร้อนจัดแสงแดดสาดส่องไปทั่วบริเวณแบบนี้
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะคะ นักเขียนพิมพ์พัณณิตากำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ ฝากกดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไปและนิยายเรื่องใหม่ ฝากกดถูกใจส่งข้อความเป็นกำลังใจหรือติชมผลงานกันเข้ามาได้นะคะ ขอบคุณมากค่ะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 282
แสดงความคิดเห็น