บทที่ 6 การต่อสู้ของยอดฝีมือ 1
บทที่ 6 การต่อสู้ของยอดฝีมือ 1
ก่อนที่คมดาบจะได้ฟาดฟันเข้าใส่ร่างของชายหนุ่ม ทันใดนั้นเองเขาพลันหายตัว แล้วปรากฏเบื้องหลังของหญิงสาว ศิลาใช้ท่าเท้าท่องดาราเก้ามาประชิด ก่อนที่จะพูดว่า
“เอาล่ะมินาโตะ เธอสอบผ่านแล้ว ถ้าหากอยากจะมาต่อสู้กันจริงๆเอาไว้คราวหน้าก็แล้วกัน ”
สิ้นคำกล่าวทุกคนก็โห่ร้องให้กับการกระทำของหญิงสาว เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถึง 3 นาทีทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ที่ดูการประลองอยู่เริ่มครึ้มอยากจะไปประลองฝีมือดูบ้าง โดยที่พวกเขาไม่รู้เลยว่าหากลงไปประลองแล้วสิ่งที่จะพบก็คือความพ่ายแพ้
หลังจากที่หญิงสาวเดินขึ้นมายัง อัศจรรย์ เด็กสาวที่มีอายุ 13 ปีก็เดินลงไปอย่างรวดเร็ว โดยที่เธอไม่คิดจะทักทายกับเพื่อนของตนเองที่พึ่งได้ชัย สำหรับเด็กสาวผมสีน้ำตาลหรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าอาสึนะ เธอรู้ดีว่าการต่อสู้ครั้งนี้คาเสะต้องเป็นคนที่ได้ชัยชนะอย่างง่ายดายแน่นอนอยู่แล้ว
เพราะพลังอำนาจของหญิงสาวมีมากมายมากกว่าพลังเวทย์ของพวกเธอ การก็ลองดังกล่าวถึงไม่ได้อยู่ในสายตาของเธอมากนัก
“หนูขอฝากตัวด้วยค่ะอาจารย์ศิลา”
ชายหนุ่มยิ้มกับคำกล่าวของอาสึนะ ก่อนที่จะพูด “ได้เลย ถ้าอย่างนั้นมาเริ่มกันเถอะ”
ตัดมายังแพทเทวะ
สิ่งที่ถูกเรียกว่าเข็มค่อยๆถูกแทงลงไปยังร่างกายของหญิงสาว ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าบ้านอันเกรียงไกรที่ถูกจารึกไว้บนโลกนี้ นามของเขาเขาได้นามนี้มานามนั้นมีนามว่าแพทย์เทวะ
ชายหนุ่มเฝ้ามองร่างกายที่ไร้การเคลื่อนไหวของหญิงสาว แต่ว่ามันจะไม่เป็นเช่นนี้อีกแล้ว เมื่อประตูแห่งโลกถูกเปิดออกมารและเทพจะถูกอัญเชิญมายังโลกแห่งนี้อีกครั้ง
วิทยาการเวทมนตร์ต่างๆจะหลั่งไหลมาสู่โลกแห่งนี้ ข้างๆเขามีด็อกเตอร์นามว่าเอ็ดเวิร์ด กำลังจับจ้องมองการทดลองของตนเอง
ในอดีต เคยมีเรื่องเล่าเรื่องหนึ่ง เกี่ยวกับเด็กชายผู้หนึ่งที่มีพลังอันมหาศาล
ในโลกที่ไร้ซึ่งความเท่าเทียม เขาหันไปมองชายหนุ่มที่กำลังจับจ้องมองภรรยาของตน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยมีความสัมพันธ์ฉันชู้สาวแก่กันเลยก็ตาม
“รู้จักตำนานของพระเจ้าองค์แรกหรือเปล่า”
ชายหนุ่มหันมามองอชายชรา “ทำไมถึงมาพูดเรื่องตำนานในวันนี้”
“ไม่น่าถามเรื่องโง่ๆเช่นนี้เลย โลกเรามีพระเจ้ากี่องค์กันแน่หามีใครรู้ไม่ แต่ว่าเรื่องเล่าของพระเจ้าองค์แรกยังเป็นที่กล่าวขานถึงในโลกที่ไร้ซึ่งความยุติธรรมแห่งนี้ พระเจ้าองค์แรกเป็นคนสร้างพระเจ้าองค์ที่ 2 และองค์ที่ 3 ขึ้นมา และมีเทพธิดาหลายองค์กี่ทุ่มให้กำเนิดขึ้นมาจากพระเจ้าองค์นั้น”
“นี่จะหมายถึงเทพแห่งความสับสนอย่างนั้นหรอ”
เอ็ดเวิร์ดพยักหน้ารับ “ถูกต้องแล้วขอเล่าตำนานนี้ให้กับลูกศิษย์ของข้าทุกคน แต่ว่ารู้สึกว่าสมัยนี้ตำนานนี้จะหายไปตามกาลเวลาซะแล้ว ในฐานะที่พวกเราจะเป็นคนปลุกชีพปีศาจและเทพเจ้า เจ้าสนใจรับรู้หรือไม่ว่าตำนานนี้เกิดขึ้นมาได้อย่างไร”
ชายหนุ่มส่ายหน้าปฏิเสธ สำหรับเขาไม่ว่าเทพหรือปีศาจก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญ สำคัญก็คือเขาจะสามารถนำวิทยาการกลับมาได้หรือเปล่า
แต่ดูเหมือนว่าเอ็ดเวิร์ดจะไม่สนใจสิ่งที่เขาสื่อออกไปชายชราค่อยๆกล่าวคำอย่างรวดเร็ว
“ก่อนที่โลกนี้จะเรียกเวทมนตร์ว่าเวทมนตร์ โลกของเราเคยเรียกสิ่งนี้ว่ามานา มันเป็นพลังธรรมชาติที่ปะปนอยู่ในร่างกาย แต่ว่าผู้ใช้มันเหมือนกับคนที่ถูกสาปจะต้องถูกไล่ล่า”
“ผู้ใช้เวทถูกล่ายังนั้นหรอ”
“ถูกต้องแล้ว ผู้ที่ใช้เวทมนตร์จะถูกเรียกว่าพ่อมดและแม่มด ก่อนที่โลกของเราจะถูกยอมรับโลกของเราถูกแบ่งเป็นชนชั้น”
“หนังสือของท่านคงจะเป็นนิทานปรัมปราที่น่าสนใจยิ่ง”
“จะน่าสนใจหรือไม่ เจ้าก็รอดูต่อไปหลังจากที่เทพและมารปรากฏตัวบนโลกนี้ หลังจากที่โลกนี้เข้าสู่ช่วงโกลาหล สัตว์อสูรไล่ล่ามนุษย์ มนุษย์ล่าสัตว์อสูรวิชาเวทมนต์ถูกพัฒนาเพื่อให้มนุษย์สามารถดำรงชีพอยู่ต่อไปได้ เมื่อเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นนั่นแหละเจ้าจะได้รู้เรื่องต่างๆของโลกใบนี้”
ตัดมาทำฝั่งของโยดา
“ทั้งทั้งที่มีศิลาแห่งชีวิตมากมายขนาดนั้น ทั้งทั้งที่มีพลังทั้งสามสายแต่ยังไม่คิดที่จะใช้เปลือกอื่นห่อหุ้มร่างกาย นายคงชอบร่างกายของฉันมากสินะ”
ชายหนุ่มที่มีหน้าตาเหมือนกับเมฆายิ้มรับกับคำกล่าว
“คงจะเป็นแบบนั้น เอาจริงๆถ้าสามารถใช้ร่างอื่นได้ แต่ถ้ากลับไม่คิดจะใช้ร่างอื่นในการดำรงชีพ เจ้ารู้หรือไม่ว่าเพราะเหตุใด ส่วนหนึ่งอาจจะชินชากับร่างนี้ที่มีหน้าตามิใช่ชั่ว หรือไม่ก็อาจจะใช้ร่างกายนี้ทำสิ่งนั้นกับภรรยาของเจ้าอีกครั้งหนึ่ง เกมว่านางคงจะได้รับความสุขสมไม่ใช่น้อย”
“เรื่องในวันนั้นหากแกไม่บังคับให้เธอทำกับแก เธอก็ไม่มีทางทำกับแก ภรรยาของฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดนั้น”
“อย่างนั้นเหรอ แล้วสิ่งที่ผูกพันธะพวกเราไว้คืออะไรเล่า ไม่ใช่ลูกชายของข้าอย่างนั้นเหรอ ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกเป็นลูกชายของพวกเรามากกว่า ถ้าหากเจ้ายอมให้ข้ายึดครองร่างเด็กคนนั้นก็คงมีพ่อที่สมบูรณ์แบบพ่อที่มีพลังเวทย์พลังวิญญาณแล้วพลังปราณ”
“ตอนที่ข้าปะทะกับอาจารย์ของเจ้าในวันนั้นข้าใช้หน้าตาของเจ้า ทำเรื่องต่างๆมากมายจนมันเข้าใจผิดว่าคนคนนั้นคือเจ้า ทางอาณาจักรเองก็เช่นเดียวกันพวกมันก็เข้าใจผิดว่าคนที่ทำเรื่องต่างๆเป็นเจ้า แต่ว่ามันคือค่าต่างหากปัจจุบันนี้เจ้าก็คงไม่สามารถกลับไปยืนณจุดนั้นจุดที่เจ้าใช้ชีวิต กับผู้คนต่างๆมากมายเหมือนกับเทพแห่งความสับสนในตำนานของพวกข้าเสียจริงๆ”
“ตั้งแต่ที่เธอตายจากไปฉันก็หมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง ฉันออกจากทางโลกใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพังกับหลุมศพของเธอ แต่ว่าการกระทำของแกที่จะยุ่งวุ่นวายกับลูกๆของฉันทำให้ฉันอดกังวลไม่ได้ นี่แกต้องการอะไรกันแน่อย่าบอกนะว่าต้องการที่จะคืนชีพให้กับเทพและมาร”
ชายหนุ่มแสยะยิ้มกับคำกล่าว
“ถูกแต่ไม่ถูกทั้งหมด จริงอยู่ที่พวกเราต้องการคืนชีพให้กับจอมมารและจอมเทพ พวกเราต้องการให้สงครามเกิดขึ้นอีกครั้งแต่ว่าเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า แต่มันคงเกี่ยวข้องกับเจ้าใช่ไหมผู้ชนะมหาสงคราม ในอดีต ผู้ครอบครองตราทั้งสามโลก”
ชายหนุ่มปลายตาไปยังชายหนุ่มผมทองที่ยืนอยู่ตรงกันข้าม เมื่อวินเห็นดังนั้นเขาจึงยิ้มออกมาอย่างชอบใจ
“รู้แม้กระทั่งว่าฉันมีตราทั้ง 3 ของโลกนี้ แล้วยังรู้อะไรอีกที่เกี่ยวกับตัวของฉันพลังทั้ง 3 สาย ตราทั้ง 3 ของโลก”
"ฉันรู้แม้กระทั่งแกเป็นคนผนึกสัตว์อสูรและปีศาจทั้งหมดของโลกนี้เอาไว้ในตราสัญลักษณ์ทั้ง 3 ตาทั้ง 3 ที่แกมีอยู่ในที่ที่ๆแกคิดว่าปลอดภัยที่สุด ใช่ไหมวิน ผู้ชนะมหาสงคราม แกคงอยากให้โลกนี้สงบสุขและทำทุกๆอย่างแม้กระทั่งท่องเวลาในยุคอดีตมาจนถึงยุคปัจจุบัน แต่สิ่งที่แกไม่คิดก็คือเมื่อโลกเข้าสู่สันติภาพพลังเวทย์ที่มีก็จะถดถอยไปอย่างรวดเร็ว”
“แล้วมันไม่ดีตรงไหนที่พลังเวทย์ถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ในยุคนี้คนไม่ได้ทำสงครามไม่มีผู้คนที่ต้องล้มตาย มี 3 อาณาจักรที่มาคานอำนาจกันเอง”
ชายหนุ่มยิ้มหยั่นกับคำกล่าวของวิน “จริงอยู่ที่โลกนี้เคยมีคนที่ต้องการหาสันติภาพอย่างพวกแก แต่ว่าการกระทำของพวกแกทำให้พวกฉันไม่มีจุดยืนในสังคม คนเราจะทำอะไรได้เมื่อไม่มีจุดยืน สิ่งที่พวกเราใช้ได้คือพลังอำนาจและวิทยาการเวทมนตร์เท่านั้น ฉันจะฟื้นฟูทุกอย่างกลับมาทำให้โลกนี้กลายเป็นยุคแห่งความโกลาหลอีกครั้ง หลังจากนั้นฉันก็จะสร้างอาณาจักรใหม่เพื่อปกครองโลก
“แกนี่มันตัวร้ายในการ์ตูนยุคเก่าชัดๆ “ วินว่า
ชายหนุ่มหัวเราะกับคำกล่าวของวิน
“ตัวร้าย ถ้าไม่มีตัวร้ายผู้กล้าก็ไม่มีวันกำเนิด แต่ว่ามันแตกต่างกันตรงที่ว่าข้าไม่ใช่ตัวร้าย ข้าคือผู้นำแห่งยุคสมัยใหม่ ถ้าเป็นผู้กล้าส่วนตัวร้ายก็คือพวกเทพกับมารที่จะถูกหยิบและส่งมาให้ต่อสู้กับพวกมนุษย์ อย่างเช่นพวกเจ้ายังไงล่ะ”
“นี่แกคิดว่าจะควบคุมเทพและมารได้จริง ๆ ยังงั้นหรือ” เมฆากล่าว
ชายหนุ่มยิ้มรับ “แน่นอน ข้าก็เคยเป็นปีศาจเช่นเดียวกัน วิญญาณของข้าโดนสาปข้าเลยต้องมาอยู่แบบนี้”
“ฮ่าๆๆๆๆๆ แบบนี้แหละที่ผู้ร้ายชอบพูดกัน แต่ว่าไม่ต้องห่วงนะเจ้าตัวร้ายก่อนที่พวกแกจะได้ทำสิ่งที่พวกแกกล่าวมาสำเร็จ พวกเราจะไปจัดการก่อนจริงหรือเปล่า โยดา แอนนา เมฆา”
สิ้นคำกล่าวของชายหนุ่ม ทั้งสามก็เคลื่อนร่างเข้าหาบุรุษหนุ่มตรงหน้า
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 146
แสดงความคิดเห็น