[SF] My Flower, I love you. [Vocaloid Fukase x Flower] Part1: My name is Flower.
จะมีใคร สนใจ คนแบบฉัน
คนเงียบๆ มึนๆ ไม่ค่อยพูดคุยกับใคร
คนขี้อาย ไม่กล้าเข้าสังคม ไม่กล้าคุยกับคนอื่น
ฉัน ไม่สิ ผม... เอ่อ..ฉัน...
แต่…ฉันก็เป็นผู้หญิงนะ (อ้าว?)
และความทรงจำวันนั้น ที่ฉันได้แนะนำตัวกับเพื่อนๆ โวคัลลอยด์ทั้งสตูที่มารวมตัวกันเพราะการนัดหมายของคุณคาซาเนะ
“วันนี้เราจะมีโวคัลลอยด์คนใหม่...”
“นี่ๆ เลน ฉันสงสัยว่าวันนี้นายกินยาไม่เขย่าขวดหรือเปล่า?” อยู่ๆ เสียงใครคนหนึ่งก็โพล่งขึ้นมาก่อนที่คุณคาซาเนะจะพูดจบ
“หา เรื่องอะไร?” เลนถาม
“ก็แหม ฉันเห็นนั่งจ้อง PSP มาตั้งห้านาทีกว่าแล้วน้า ยังเก็บเหรียญไม่หมดอีกหรอ?” เสียงนั้นฉันจำได้ดีว่าใครเป็นคนพูด แล้วบทสนทนาก็ดำเนินต่อไปอีกพักใหญ่
แต่ก่อนหน้านั้นห้านาที...
รา นา รา นา รา นา รา นา รา นา รา นา รา...
เสียงร้องเพลงใสๆ ของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งดังอยู่ข้างตัว ฉันจึงหันไปมอง ก็พบกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง อายุประมาณ 14-15 ปีกำลังเดินมาหา บนหัวมีฮู้ดรูปหมีสีรุ้งสวมอยู่ด้วย
“เอ่อ ขอโทษนะคะ” เด็กคนนั้นเอ่ยถามขณะหยุดยืนข้างๆ ฉัน ส่วนสูงผิดกันลิบลับเลยแฮะ
“มีอะไร?” ฉันเอ่ยถามเรียบๆ
‘งื้อ…คนนั้นเป็นใครน่ะ น่ากลัวจัง’
“คุณน่ะ ใช่คนที่จะมาแนะนำตัวพร้อมกับฉันหรือเปล่าคะ?” ได้ยินเสียงหวานใสแต่ก็สั่นนิดๆ ถามขึ้นเบาๆ เอ่อ..ฉันไม่ได้น่ากลัวขนาดนั้นซะหน่อย จะกลัวทำไมน่ะ
“ใช่แล้วละ เอ่อ..ตอนนี้..ใกล้เวลาหรือยังน่ะ” ฉันถาม พอดีกับที่คุณคาซาเนะเดินมาเรียกให้เข้าไปข้างใน
และแล้ว เด็กฮู้ดหมีคนนั้นก็เริ่มเอ่ย
“สวัสดีค่ะ รานะค่ะ อายุ15 เป็นเด็กฝึกค่ะ ยินดีเป็นเพื่อนกับทุกคนเลย ขอฝากตัวด้วยนะคะ”
“ว้าว น่ารักจังเลย//เนอะๆ//ฮู้ดบนหัวนั่นน่ารักดีนะ//ถ้าเอาไปขายคงได้เงินเยอะน่าดู//!@#$%^&*()_++”
“ต่อไปก็…แนะนำตัวเลยค่ะ” เสียงคุณคาซาเนะเอ่ยเรียก ตาฉันแล้วสินะ
“อืม…” อาจเพราะฉันเป็นคนปากหนัก นานทีเดียวกว่าฉันจะพูดออกมาได้ หันไปมองก็เห็นทุกคนที่นั่งอยู่ ณ ที่นั้นทำหน้าฉงนกันเป็นแถบๆ อะไรกัน? หน้าตาฉันมันแปลกขนาดนั้นเลยหรอ?
‘เขาเป็นใครนะ คนนั้น/ผู้ชายเหรอ?/ดูลึกลับ น่ากลัวยังไงไม่รู้ ดำแทบจะทั้งชุดเลย/น่าค้นหาดีนะ คนแบบนี้/!@#$%^&*()_+’
“ฟะ…ฟลาวเวอร์ ฉันชื่อ ฟลาวเวอร์ ค่ะ” อาจจะด้วยโทนเสียงของฉันที่ทั้งห้าวและต่ำ ทุกคนจึงไม่เชื่อว่าฉันเป็นผู้หญิง บวกกับฉันชอบสีดำด้วย เพราะมันดูลึกลับดี ดังนั้นชุดที่ใส่อยู่ทุกวันจึงเป็นสีดำซะส่วนใหญ่ นี่จึงเป็นปัญหาที่ฉันต้องเผชิญอยู่ตอนนี้ไง
“เดี๋ยวนะ เธอ…เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอ”
“ถึงจะเห็นฉันแบบนี้ก็เถอะ แต่ฉันเป็น ผู้หญิงค่ะ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ””
“ผู้หญิง?” เสียงหนึ่งทวนคำ ฉันพยักหน้า
และด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก ก็ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้เดือดร้อนนี่นา
แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ฉันจะไม่มีเพื่อนเลยซะทีเดียว ฉันยังมีรุ่นพี่ที่รักมากอีกสองคน เป็นทั้งรุ่นพี่และคนสนิทในเวลาเดียวกัน แถมฉันยังเข้ากับเพื่อนผู้หญิงไม่ค่อยได้ด้วย เพราะพวกเธอมักจะเรียกฉันด้วยชื่อที่ฉันอายทุกครั้งเมื่อได้ยิน
“ฮานะจัง” ครั้งแรกที่ฉันได้ยิน หน้าของฉันแดงแจ๋ด้วยความเขิน “อย่าเรียกฉันแบบนั้นนะ ฉันชื่อฟลาวเวอร์ต่างหาก”
“อ้าว เรียกฮานะไม่ได้เหรอ? น่ารักกว่าตั้งเยอะ อ่อนโยนกว่าด้วย เธอก็เป็นผู้หญิงเหมือนกันนี่นา” นี่คือเหตุผลของพวกเธอ ฉันเข้าใจ แต่..ก็อดรู้สึกแปลกๆ ไม่ได้
ฟลาวเวอร์ ดีที่สุดแล้วละ…
และวันหนึ่ง ก็มีผู้ชายคนหนึ่งเดินเข้ามา
เขาเป็นผู้ชายร่างสูงเพรียว ผมแดง ดวงตาสีโกเมนแวววาว แสดงว่าเป็นคนที่มีความเชื่อมั่นในตัวเอง แต่ขณะเดียวกัน ฉันก็เห็นแววอ่อนโยนอยู่ในดวงตาคู่นั้นเหมือนกัน
และเขาก็ได้แนะนำตัวให้ทุกคนได้รู้จักเช่นเดียวกับฉัน
“สวัสดีครับ ผมชื่อฟุคาเสะ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ” น้ำเสียงนุ่มๆ ฟังดูลื่นหู ขัดกับภาพลักษณ์ที่ดูร้อนแรงอย่างสิ้นเชิง
“ว้าว หล่อจัง//ท่าทางใจดีเนอะ ถึงภายนอกจะดูแรงไปหน่อยก็เถอะ//ฯลฯ”
ฉันมองฟุคาเสะแล้วนึกถึงตัวเอง..
ฉันมีอะไรดีบ้างนะ? ร้องเพลงพอใช้ได้ แต่เรื่องเข้าสังคมนี่..ไม่ ไม่ได้เรื่องเลย หาเรื่องคุยกับคนอื่นไม่ค่อยจะได้ เฮ่อ...
วันหนึ่ง ฉันกำลังนั่งซึมอยู่ที่ริมระเบียงห้องของตัวเอง ทุกวันผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน
ฉันอยากมีเพื่อนคุยสักคน แต่ พี่มิซึกิกับพี่ยูมะ ไม่มีใครอยู่สักคน
ทุกคนต่างก็มีความเป็นตัวเองกันทั้งนั้น แต่ฉันล่ะ? นี่ฉัน พยายามเป็นใครกัน? ความเป็นตัวเองล่ะ อยู่ไหน?
ฉันเป็นหญิงหรือชาย กันแน่? ทั้งสไตล์การแต่งตัวที่ชอบกับน้ำเสียง ทุกคนลงความเห็นว่าฉันเหมือนผู้ชาย แต่..ฉันเป็นผู้หญิงนะ
“อ้าว! ฮานะจัง มานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ล่ะ?” เสียงนุ่มๆ ขึ้นจมูกนิด ที่คุ้นเคย ทำให้ฉันหลุดจากภวังค์ แล้วหันไปมองเจ้าของเสียงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“พะ…พี่มิซึกิ”
“จ้ะ เป็นอะไรหรือเปล่า ดูเครียดๆ นะ”
“เปล่าค่ะ”
“แน่ใจเหรอ?” พี่เขาพูดพลางยื่นกระจกมาส่องหน้าฉัน ฉันมองตัวเองในกระจกก็เห็นใบหน้าของตัวเอง ใบหน้าที่มองยังไงก็ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม ใบหน้านิ่วคิ้วขมวดที่บ่งบอกถึงความเครียดอย่างชัดเจน
“หรือยังเครียดเรื่องนั้นอยู่?”
“คะ…ค่ะ”
“เฮ่อ…ฮานะจัง” ร่างเพรียวบางเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พลางใช้มือบางแตะไหล่ฉันเบาๆ “พี่รู้นะ ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่พี่รบกวนอะไรหน่อยสิ”
“อะไรเหรอคะ?”
“ไปซื้อดอกกุหลาบมาประดับแจกันให้พี่หน่อย”
“หา!?” ฉันทั้งอึ้ง ทึ่ง และไม่อยากเชื่อ นานทีปีหนพี่มิซึกิจะใช้ฉันไปซื้อดอกไม้มาให้แบบนี้
“ใช่จ้ะ ไปซื้อดอกกุหลาบมาให้พี่หน่อย”
“อ่า…อืมๆ” ฉันพยักหน้ารับก่อนจะเดินออกจากห้องไปเป็นจังหวะเดียวกับที่พี่ยูมะเดินสวนมา
“อ้าว ฮานะ” พี่เขาร้องทัก “จะไปไหนน่ะ”
“ไปซื้อดอกไม้ค่ะ” ฉันตอบเบาๆ
“อ๋อ..งั้น พี่กลับบ้านก่อนนะ ไว้เจอกันล่ะ” ฉันโบกมือลาก่อนจะเดินต่อไป
ฉันเดินต่อไป จุดหมายคือร้านขายดอกไม้ที่อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากนัก เห็นผู้คนเดินสวนกันไปมาแลดูคึกคักในบรรยากาศยามเย็นที่อากาศเริ่มจะหนาวมากขึ้นทุกที
ไม่นาน ฉันก็มาหยุดยืนอยู่หน้าร้านขายดอกไม้ เห็นดอกไม้วางเรียงอยู่ในกระถางมากมาย ว่าแต่ ดอกกุหลาบอยู่ตรงไหนนะ
“ขอโทษนะครับ มาซื้อดอกอะไรเหรอ?” เสียงนุ่มๆ ที่คุ้นเคยร้องทักจากด้านหลัง ฉันเหลียวไปมองก็เห็นฟุคาเสะกำลังมองมาทางฉัน ดวงตาสีโกเมนนั่นอีกแล้ว ฉันเผลอจ้องค้างอยู่พักหนึ่ง ก่อนจะส่งยิ้มให้และตอบกลับไปว่า
“ดอกกุหลาบน่ะ นายล่ะ”
“เหมือนกันครับ ว่าแต่ เรียกผมว่าฟุคาเสะเถอะ คุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
“ฟะ…ฟลาวเวอร์ ฉันชื่อฟลาวเวอร์”
“ฟลาวเวอร์…ที่แปลว่าดอกไม้น่ะเหรอ เหมาะกับเธอดีนะ” ฟุคาเสะพูดยิ้มๆ
“ใช่แล้วละ ขอเรียกว่าฟุคาเสะคุงได้มั้ย?”
“ได้สิ ฟลาวเวอร์จัง”
“ฮะๆ ว่าแต่ นายคิดว่า กุหลาบดอกไหนสวยสุดเหรอ?”
“ฉันว่าสวยทุกดอกนะ สวยแบบแตกต่างกันน่ะ”
“หมายความว่ายังไง?”
“ดอกไม้ทุกดอก สวยไม่เหมือนกันหรอก ไม่ว่าจะดอกเล็ก หรือดอกใหญ่ ก็ให้ความรู้สึกต่างกัน เหมือนกับคนเรา ก็มีสไตล์ที่ต่างกัน ไม่มีใครเหมือนกัน และไม่มีใครเลียนแบบใครได้หรอกนะ”
ฉันงงกับคำพูดนั้นสักพัก ก่อนจะหันไปมองดอกกุหลาบในกระถางที่แข่งกันชูช่อบานสะพรั่งให้คนเลือกซื้อ
นั่นสินะ ขนาดดอกไม้แต่ละดอก มองแล้วก็ยังให้ความรู้สึกที่ต่างกัน แล้วทำไมคนเรา ถึงอยากจะเป็นที่หนึ่งกันนัก ทำไมต้องชิงดีชิงเด่น ต้องเปรียบเทียบกันด้วย ทั้งๆ ที่แต่ละคน ไม่เหมือนกันเลยสักอย่าง
‘แต่ละคนล้วนมี ความเป็นตัวเอง ฮานะจังก็คือฮานะจัง เลียนแบบคนอื่นไม่ได้หรอกจ้ะ แล้วก็ไม่มีใครที่เลียนแบบฮานะจังได้ด้วยนะ’ คำพูดของพี่มิซึกิผุดขึ้นในหัว ฉันหันไปมองฟุคาเสะก็เห็นเขาเลือกช่อกุหลาบช่อหนึ่งได้ แล้วเดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ “ฉันไปก่อนนะ ฟลาวเวอร์จัง ไว้เจอกันใหม่นะ” เขาโบกมือลาก่อนจะเดินออกจากร้านไป ทิ้งฉันให้ยืนอยู่ในร้านเพียงลำพัง
ฉันมองกุหลาบดอกแล้วดอกเล่า ทุกดอกก็สวยในแบบของมัน ฉันทำหน้าลำบากใจก่อนจะเลือกช่อกุหลาบแดงช่อหนึ่งออกมา เดินไปจ่ายเงินแล้วตรงกลับบ้านทันที
ระหว่างทาง ฉันก็คิดถึงคำพูดในเพลงเพลงหนึ่งขึ้นมา
“ทุกคนต่างก็เป็นดอกไม้ดอกเดียวในโลก” ไม่มีใครเหมือนใคร ไม่มีใครเลียนแบบใครได้ ขอให้เราเป็นตัวของตัวเอง และพยายามแย้มกลีบ เบ่งบานในแบบของตัวเองก็พอ”
เป็นตัวของตัวเองงั้นเหรอ?
นั่นสินะ
ฟลาวเวอร์=ฮานะ=ฉัน
ดอกไม้...
ฉันอยากเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานในหมู่โวคัลลอยด์ทุกคน ถึงจะไม่ได้เป็นที่หนึ่งอย่างมิกุ แต่ฉันจะพยายามเป็นตัวเองให้ได้มากที่สุด
ฉันเปิดประตูบ้านเข้าไป ก็เห็นพี่มิซึกิรออยู่แล้ว มีพี่ยูมะยืนอยู่ข้างกัน ทั้งคู่ต่างพูดคุยกันอย่างสนิทสนม
“อ้าว ฮานะจัง กลับมาแล้วเหรอ?”
ฉันเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยื่นถุงดอกกุหลาบที่ซื้อมาให้พี่มิซึกิ
“ขอบใจจ้ะ” พี่เขายิ้มให้ ก่อนจะเอาดอกกุหลาบไปใส่แจกัน ฉันมองมันชูช่อบานอยู่ในแจกันนั้น สวยดีนะ..
“คราวนี้ เธอคงจะคิดได้แล้วนะ ฮานะ” พี่ยูมะเปิดประเด็นขึ้น
“ขอบคุณมากนะคะ พี่มิซึกิ จากนี้ ฉันจะพยายามเป็นตัวของตัวเองให้ได้มากที่สุด จะไม่เกร็งเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นอีกแล้ว”
“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ เห็นฮานะจังคิดได้ พี่ก็จชื้นขึ้นบ้าง ว่าแต่ ยิ้มบ้างสิ หน้าเฉยตลอดเวลาแบบนี้ ใครจะกล้าคุยด้วยล่ะ” พี่เขาพูดยิ้มๆ
“นั่นสิ รู้ตัวหรือเปล่าว่า ฮานะตอนทำหน้าเครียดน่ะ มันน่ากลัวขนาดไหน” พี่ยูมะพูดพลางแกล้งทำหน้าล้อเลียน ทำให้ฉันหัวเราะออกมาได้ในที่สุด
“แหมๆ ยูมะละก็ ไปล้อฮานะจังทำไม ดูสิ หน้าแดงเลย”
“แหม พี่มิซึกิ ผมอยากเห็นฮานะน่ารักกับเขาบ้างน่ะ”
“พะ..พวกพี่ละก็ ฉันชื่อฟลาวเวอร์ ไม่ใช่ฮานะซะหน่อย” ฉันโพล่งขึ้นเสียงดังแก้เก้อ
“แหมๆ ฮานะน่ารักกว่าตั้งเยอะ”
“ใช่ๆ ดูเป็นผู้หญิงขึ้นเยอะเลย”
“ใช่ๆ อ่อนโยนกว่าด้วย”
“ฮานะ กับ ฟลาวเวอร์ ก็เหมือนกันนี่นา” <นี่คือความเห็นของเหล่าโวคัลลอยด์คนอื่น>
“ทุกคน มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ฉันเอ่ยถามเมื่อเห็นทุกคนมารวมตัวกันที่บ้านพี่มิซึกิ ห้องนั่งเล่นที่ดูกว้างขวางบัดนี้แคบลงไปถนัดจนที่ยืนแทบจะไม่พอ
“พี่เรียกมาเองแหละ เอาเถอะ ฮานะจัง ร้องเพลงสักเพลงสิ แสดงให้ทุกคนเห็นไปเลยว่าเราก็มีความสามารถนะ”
“แต่ว่า...”
“ไม่มีแต่ วันนี้คือวันของเธอ ร้องเลยๆ” ฉันเกือบตั้งตัวไม่ทัน ผมที่ยาวประบ่าปลิวสยายจนต้องหาอะไรมารวบไว้ ก่อนที่เพลงเพลงหนึ่งจะดังขึ้น
“ก็ได้…ขอบคุณนะคะ จะพยายามค่ะ”
“ทุกคนต่างก็เป็นดอกไม้ดอกเดียวในโลก” ไม่มีใครเหมือนใคร ไม่มีใครเลียนแบบใครได้ ขอให้เราเป็นตัวของตัวเอง และพยายามแย้มกลีบ เบ่งบานในแบบของตัวเองก็พอ”
เช่นเดียวกับดอกไม้ดอกนี้ ที่ยังเป็นเพียงดอกไม้ดอกเล็กๆ ยังไม่บานเต็มที่ ยังต้องเรียนรู้สิ่งต่างๆ อีกมากมาย แต่สักวันหนึ่ง จะต้องเบ่งบาน เป็นดอกไม้ที่สง่างามในแบบของตัวเองแน่นอน
To be continue in next Chapter.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 575
แสดงความคิดเห็น