ตอนที่ 17 เก็บความทรงจำ
พร้อมๆ กับความปวดหนึบตรงกายแกร่งที่ขยายตัวอย่างเต็มที่ของเขานั้น ที่มันไม่ได้รับการปลดปล่อยดังใจหวังนี่น่ะสิ "อัศวิน" มอง "นาริน" อย่างหลงไหลดวงตาละห้อย เอื้อนเอ่ยเสียงหวานออกมา
“น้องรินทั้งหอม ทั้งหวาน น่ากินไปทั้งตัวเลยรู้ไหม”
"อัศวิน" เอ่ยนัยน์ตาทอประกายวิบวับแฝงความใน
“พี่วินบ้า”
"นาริน" พูดออกไปอย่างเขินอาย รีบก้มหน้าหลบสายตาเจ้าเล่ห์ของขายหนุ่มที่มองมา
“งั้นเราไปต่อกันที่บ้านนะ สาวน้อย”
ชายหนุ่ม ไม่พูดเปล่าเขาโน้มใบหน้าหล่อลงมาหอมไปที่แก้มขาวนวลใสของ "นาริน" อย่างอดใจไว้ไม่ไหวด้วยความเสน่หาที่มีให้กับสาวน้อยอย่างท่วมท้น ไม่อาจหักห้ามหัวใจตัวเองไว้ได้อีกต่อไปแล้ว
“พี่วิน! พูดอะไรแบบนั้นค่ะ รินไม่คุยด้วยแล้วนะ”
สาวน้อย กล่าวเสียงดัง ก่อนจะรีบหันหลังเดินจากไป แต่ "อัศวิน" ก็ไวกว่าคว้าข้อมือเล็กเอาไว้ได้โดยง่าย ก่อนจะจับจูงมือนุ่มนั้นไว้พร้อมกับเอื้อนเอ่ยเสียงหวาน ส่งสายตาหยาดเยิ้มให้กับเธอ
“กลับบ้านกันเถอะนะ ตอนนี้พี่ไม่มีอารมณ์ทำงานแล้วล่ะ ตอนนี้พี่อยากทำอย่างอื่นมากกว่า”
“พี่วิน! ยังจะพูดอีกนะ”
สาวน้อย เอ็ดใส่เสียงดัง หน้าแดงจนลามไปถึงใบหูแล้วในตอนนี้
“คนอะไรลามกที่สุด คนฉวยโอกาส"
“ครับบบ”
"อัศวิน" ขานรับเสียงหวาน ก่อนจะโอบรอบเอวบางไว้แน่น กระชับร่างบางไว้จนแนบชิดตัวติดกับเขา แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของในตัวของสาวน้อย ต่อไปนี้เขาจะไม่สนใจใครอีกแล้ว ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทำตามเสียงหัวใจของตัวเขาเองสักที
เพราะในตอนนี้ชายหนุ่มได้รู้ถึงหัวใจตัวเองแน่ชัดแล้วว่า เขาต้องการและปรารถนาในตัวของ "นาริน" สาวน้อยคนนี้มากเพียงใด และชายหนุ่มก็จะไม่มีวันปล่อยสาวน้อยไปไหนอย่างเด็ดขาด "นาริน" จะเป็นผู้หญิงของเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น
นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปและตลอดกาล เมื่อเสียงของหัวใจมันบอกว่าเธอคือคนที่ใช่ เป็นสิ่งที่พร่ำเพ้อคนึงหามานานแสนนาน มันเรียกร้องและปรารถนาอยากได้เธอมาเคียงคู่จะรักมั่นยืนยาวเพียงแค่เธอ นับแต่นี้ตราบสิ้นลมหายใจ..
เมื่อ "นาริน" กลับมาถึงบ้านแล้ว สาวน้อยก็รีบหนีขึ้นมาบนห้องนอนของตัวเองในทันที และไม่ลืมที่จะล็อกประตูตามหลังไว้อย่างแน่นหนา "นาริน" รู้สึกเขิลอายจนไม่กล้ามองหน้า "อัศวิน" อีกแล้ว ที่เผลอไผลทำตัวเช่นนั้นออกไปปล่อยตัวปล่อยใจไปกับชายหนุ่มที่ไร่กาแฟนั้น ทำไมเธอถึงทำเรื่องน่าอับอายอย่างนั้นนะ เพียงแค่นึกถึงขึ้นมาใบหน้าก็ร้อนผ่าวกลับมาอีกแล้ว
ทางด้าน "อัศวิน" ช่างแตกต่างกันมาก หลังจากที่ชายหนุ่มกลับมาก็เข้ามาอยู่ในห้องนอนของตัวเอง เขานั่งนึกอะไรไปเรื่อยเปื่อยอมยิ้มไปมาอยู่คนเดียวในห้องกว้าง ห้องที่ทำให้ชายหนุ่มมีความรู้สึกปลอดโปร่ง โล่งสบายใจ อย่างบอกไม่ถูก วันนี้ "อัศวิน" รู้สึกมีความสุขเป็นอย่างมากที่ได้ทำตามความต้องการของหัวใจตัวเองสักที
"อัศวิน" เงยหน้าขึ้นไปมองและชายหนุ่มก็เอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปภาพของ "มินตรา" เมียรักที่ตายจากเขาไปนานหลายปีแล้วขึ้นมาดู "อัศวิน" รู้สึกติดค้างคาใจกับ "มินตรา" หลายๆอย่าง ถึงแม้จะรู้สึกผิดมากมายที่ต้องกลับคำพูดกับ "มินตรา" ที่ว่าเขาจะไม่สามารถรักใครได้อีกแล้ว "อัศวิน" รู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ถึงได้พูดมันออกไป
แต่เขาก็ไม่เคยคิดว่า "มินตรา" จะอายุสั้นจากเขาไปเร็วเช่นนี้ และชายหนุ่มก็ไม่คิดว่าเขาจะมีวันนี้วันที่เขาเปลี่ยนใจจากเธอไปได้ แต่ชายหนุ่มก็ไม่อาจควบคุมหัวใจตัวเองเอาไว้ได้อีกต่อไปแล้วจริงๆ เพราะในตอนนี้ "อัศวิน" มั่นใจแล้วว่าตัวเขาเองรู้สึกอย่างไรกับ "นาริน" ความรู้สึกที่ไม่ใช่ฉันท์พี่น้องอีกต่อไป แต่เป็นความรู้สึกอื่นที่เข้ามาแทนที่
“มินตราที่รัก ผมหวังว่าคุณคงจะเข้าใจและให้อภัยกับผม ผมขอโทษจริงๆ ที่ผมไม่อาจรักษาคำมั่นสัญญาของเราเอาไว้ได้ ผมรู้ว่าผมทำผิดกับคุณ แต่ไม่ว่าผมจะรักใคร คุณก็จะยังอยู่ในใจของผมเสมอ ตลอดชีวิตนี้ของผมจะไม่มีวันลืมคุณเลยเป็นสิ่งเดียวที่ผมจะสัญญากับคุณได้”
"อัศวิน" เอ่ยวาจาด้วยน้ำเสียงที่หวานปนเศร้า แอบสั่นๆ เล็กน้อย ก่อนที่ชายหนุ่มจะเก็บกรอบรูปเมียรักของเขาไว้ในลิ้นชักหัวเตียงอย่างเชื่องช้า ถึงเวลาแล้วสินะ ที่เขาควรจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับใครสักที ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะมีใครอีกคนเข้ามาในหัวใจ แต่เขานั้นก็จะขอเก็บความทรงจำที่ดีๆ ที่ครั้งหนึ่งเขาเคยได้ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันกับ "มินตรา" เมียรักของเขาไว้ในความทรงจำนี้ตลอดไป
"อัศวิน" ปิดเปลือกตาคู่คมลงอย่างช้าๆ ชายหนุ่มพยายามเก็บเรื่องราวและความทรงจำที่ผ่านมา เพียงชั่วครู่ "อัศวิน" ก็ตกอยู่ในภวังค์ความคิด ชายหนุ่มนึกย้อนถึงเรื่องราวที่ทำให้เขาได้รู้จักกับสองสาวพี่น้องแห่งตระกูลรัตนโชติ
“พี่วินค่ะ รินมีใครคนหนึ่งอยากจะแนะนำให้พี่วินได้รู้จักค่ะ นี่พี่ "มินตรา" นะค่ะ เป็นพี่สาวของรินเองค่ะ”
"นาริน" ในตอนนั้นยังเป็นสาวน้อยในวัยสิบกว่าปีเท่านั้น "นาริน" เอื้อนเอ่ยออกมาด้วยรอยยิ้มที่สดใส เมื่อพาสาวสวยอีกคนที่หน้าตาน่ารักเหมือนตุ๊กตา ดูละไม้คล้ายกับเธอ แต่มองดูท่าทางแล้วคนพี่คงจะเรียบร้อยกว่ามาก จากที่เห็นคงจะขี้อายหน่อยๆ ด้วยนะ ผิวของเธอนั้นขาวอมชมพูแลดูสุขภาพดี
"นาริน" พามาแนะนำให้กับชายหนุ่มได้รู้จัก "อัศวิน" นั้นมองใบหน้าสวยหวานตรงหน้าด้วยรอยยิ้มที่จริงใจ ก่อนจะเอ่ยคำทักทายที่สุภาพออกมาให้กับสาวสวยคนที่มาใหม่ แล้วกล่าวออกไปว่า
“สวัสดีครับ "มินตรา" ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ”
ตอนนั้น "อัศวิน" ในวัยยี่สิบกว่าปีก็ได้เอ่ยทักทายสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าอย่างเป็นมิตร ด้วย "อัศวิน" นั้นเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันกับ "นาริน" มาก่อน ครั้งแรกที่เจอกัน "นาริน" ก็ยังเรียนชั้นมัธยมอยู่เลย หลานสาวของ "อัศวิน" ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทของ "นาริน" อีกด้วย ดังนั้น "อัศวิน" กับ "นาริน" จึงค่อนข้างสนิทสนมกันเป็นพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
“ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะค่ะ เรียกมินเฉยๆ ก็ได้ค่ะ พี่วิน”
"มินตรา" เอ่ยทักทายชายหนุ่มอย่างอ่อนหวาน ปนเขินอายเล็กน้อย เธอไม่กล้าที่จะมองสบตากับ "อัศวิน" เพราะรู้ว่าชายหนุ่มนั้นกำลังมองมาที่เธอเช่นกัน..
โปรดติดตามตอนต่อไป รอหน่อยนะคะ นักเขียนถุงแป้ง กำลังสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้นักอ่านทุกท่านอยู่ค่ะ กดติดตามเพื่อไม่พลาดตอนต่อไป และนิยายเรื่องใหม่ กดถูกใจ ส่ง comment เป็นกำลังใจ ติชมผลงานมาได้นะคะ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 281
แสดงความคิดเห็น