ตอนที่ 10 : ข้าขอละทิ้ง
ไทเนอร์ ที่หลังจากประกาศชัยชนะของซีคออกไปแล้ว ยังไม่รู้จะพูดอะไรต่อเหมือนกับทุกๆคนรอบสนามประลอง
ไม่มีเสียงเชียร์ ไม่มีโห่ร้อง ไม่มีการเห็นใจใดๆเกิดขึ้น บางคนเงียบ บางคนครุ่นคิด หรือ กำลังพูดคุยกับคนข้างๆ ชัยชนะครั้งนี้ของซีคมันน่าเหลือเชื่อเกินกว่าที่ใครในที่นี้คาดคิดมาก่อน ผู้คนรู้สึกอลหม่าน
สวบ!
มีคนเข้ามาคว้าแขนของซีค
“ ตอนนี้ถึงเวลาที่ข้าต้องรักษาท่านแล้วไม่มีการปฏิเสธทั้งนั้น ”
นักชวชกระโดดเข้าสู่สนามประลองทันทีหลังการต่อสู้จบ สีหน้าที่แดงก่ำดูเหมือนยังไงก็ต้องรักษาอาการบาดเจ็บของซีคให้ได้
" ทำตามหน้าที่เจ้าเถอะ ข้าเหนื่อยแล้วเหมือนกัน!”
ซีค โยนดาบในมืือทิ้งไว้ส่วนตัวเองนั่งลงกับพื้น ที่ตอนนี้เขายังขยับตัวได้ด้วยพลังใจล้วนๆ เขาอาจจะหมดสติไปแล้วก็ได้ถ้าคำประกาศออกมาช้ากว่านี้อีกหน่อย
แต่ไม่ว่ายังไงก็ตาม มันเป็นชัยชนะของเขาแล้ว
ซีค มองไปทางเกร็คที่ตอนนี้ได้รับการรักษาอยู่เช่นกัน บริเวณใต้ตาของเขาบุบลงไป ใบหน้าผิดรูปไปหมด ที่สำคัญเกร็คเสียเลือดไปมาก
' หมดธุระกับเขาแล้ว '
ซีครู้สึกพอใจกับเรื่องนี้นิดหน่อย
‘ เด็กที่เย่อหยิ่งมากคนหนึ่ง ถูกทำลายความภูมิใจจากคนที่ตัวเองดูถูกมาโดยตลอด เด็กนี่จะยืดหยัดได้อีกครั้งมั้ยก็ไม่รู้ ’
แต่นั่นมันสำคัญกับเขาด้วยหรอ?
' แค่นี้มันพอแล้วหรือเปล่านะ '
เพราะเท่านี้เกร็คก็พังลงด้วยน้ำมือเขาแล้ว ทำให้เขาหมดความสนใจไป
‘ เอาละ ถึงเวลาเริ่มฉากสุดท้ายของละคร ’
ซีคยังเหลือสิ่งที่เขาต้องจัดการอยู่ พวกคนรับใช ฮาน และ —
‘ สตีลวอลล์ทั้งหมด ’
ทุกคนที่เคยเหยียดหยามเขา ดูถูกเขา ซีคไม่ปล่อยมันไปง่ายๆแน่
“ เจ้ารักษาเสร็จหรือยัง ”
“ ค่ะนายน้อย มันเสร็จแล้ว แต่ตัวท่านเสียเลือดไปมาก ท่านควรพักมากกว่านี้หน่อย ”
ซีค เมินเฉยต่อคำพูดของนักบวช พร้อมลุกขึ้นทันที
" น-นายน้อย! ท่านจะลุกขึ้นกระทันหันอย่างนี้ไม่ได้นะ! "
“ อา ข้าไม่เป็นไร ข้ารูัจักร่างกายของตัวเองดี แค่นี้สบายมาก ”
ซีค ไม่ฟังเสียงรบกวนที่ดังอยู่ข้างหลังเขา ซีคเดินไปช้างหน้า
ฟึบ!
ซีคหยุดเดิน เงยหน้ามองไปที่เคานต์สตีลวอลล์ที่นั่งอยู่ชั้นบน
“ ข้าเป็นผู้ชนะ พ่อ”
“…ใช่ ข้าเห็นแล้ว ”
เหมือนอย่างที่คิดไว้ เป็นคำตอบแสนสั้นซะเหลือเกิน ขณะเดียวกันสายตาของนายหญิงฟรอเรลจ้องมาที่เขาอย่างกับจะเสียบเขาให้ทะลุ ซีคเมินมันแล้วพูดต่ออย่างใจเย็น
“ นี้ท่านจะไม่พูดอะไรเลยงั้นหรอ แล้วที่ท่านเคยพูดว่า ผู้ชนะในการประลองนั้นเหมาะสมแล้วที่จะขึ้นเป็นท่านเคานท์คนต่อไปละ "
ผู้คนเริ่มกระซิบกัน พวกเขาไม่คิดเลยว่าซีคจะกล้าพูดเรื่องนี้ออกมาตรงไปตรงมา ต่อให้มีข่าวลือเกี่ยวกับเงื่อนไขข้อตกลงแพร่กระจายออกไป แต่พวกเขาไม่ได้ประกาศเป็นทางการ
เส้นเลือดโผล่ออกมาจากหน้าผากของเคานต์สตีลวอลล์ทันที
“ หยุดพูดเรื่องเหลวไหลได้แล้ว! การประลองตัวต่อตัวแบบนี้จะสามารถตัดสินอะไรได้หะ! ”
แน่นอน ด้วยความจริงที่ว่าเขาไม่ได้ประกาศเงื่อนไขข้อตกลงต่อสาธารณะ ดังนั้นเหมือนสัญญาเรื่องนี้ไม่มีอยู่จริง
' ก็ไม่เป็นไร '
เมื่อเคานต์สตีลวอลล์ตวาดออกมา ซีคก็ยังยิ้ม
' นี้เขากำลังคิดจะทำอะไร ' เทรลขมวดคิ้วของเขา
' ทำไมนายน้อยพูดเรื่องที่แค่ลือกันออกมาแบบโจ่งแจ้ง แบบนี้มันไม่ได้ช่วยอะไรเลย '
แม้ว่าซีคได้แสดงมุมใหม่ให้เห็นแล้ว แต่ยังไม่ทำให้พวกเขาเปลี่ยนได้เลยทันที เหมือนอย่างคริส นันท์ที่เมื่อกี้กำลังมีท่าทางชื่นชมซีคอยู่ ตอนนี้เริ่มทำหน้าบึ้งแทน
‘ นี่เขากำลังมองอะไรแบบตื่นๆ เพราะความรีบร้อนงั้นหรอ
ถ้าเป็นเพราะเรื่องนี้ เทรลต้องประเมินซีคใหม่อีกครั้งแล้วหักคะแนนบางส่วน
แต่ไม่สำคัญ ทุกคนในที่นี้ไม่มีใครจะเข้าใจว่าซีคต้องการอะไร รวมถึงเทรลด้วย
“ ข้ารู้อยู่แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้! ”
ซีค ถอดแหวนวงหนึ่งออกมาจากนิ้ว จากนั้นโยนมันขึ้น ลอยโค้งไปในอากาศ
กลิ้ง! กลิ้งงง!
แหวนวงนั้น ตกไปแถวที่นั่งบุคคลสำคัญ กลิ้งไปหยุดตรงหน้าท่านเคานต์ บรรดาผู้คนที่อยู่ใกล้หรือมองเห็นว่าแหวนวงนั้นคืออะไรต่างผงะ
“ เจ้า… ที่เจ้าทำหมายความว่ายังไงกัน! ไอ้เด็กเวร”
“ หมายความว่าอย่างไรงั้นหรอท่านพ่อ ข้าจะหมายถึงอะไรได้อีกจากการที่ทิ้งแหวนประจำตระกูลออกไปแล้ว ”
ซีคที่สูดหายใจเข้าลึกแล้วตะโกนด้วยเสียงอันดุดัน
“ ข้า ซีค สตีลวอลล์ ขอละทิ้งสิทธิ์การเป็นทายาทของสตีลวอลล์ นับจากนี้ไป!! ”
คลื่นความตกใจเหมือนโดนกระบองทุบเข้าหลังศีรษะของทุกคน ท่านเคานต์ นายหญิงฟรอเรล ทหารอัศวิน ข้าราชการ บ่าวรับใช้ แม้แต่เกร็คและเหล่านักบวช ยังมองไปที่ซีคด้วยอาการเหวอ
หลังกล่าว ซีคได้สูดอากาศเข้าไปอย่างสดชื่น
" ที่ผ่านมาเพียงเพราะข้าไม่โต้ตอบ—พวกเจ้าเห็นข้าเป็นเศษดินเศษโคลนอยู่ใต้เท้าสวะออร์คหรือยังไง ข้ากำลังหมายถึงพวกแกทุกคน พวกแกรวมกันเพื่อกดดันกีดกั้นคนแค่คนเดียว—พวกเจ้าคิดว่าข้าควรทนอยู่ต่อไปเหมือนคนไร้สมอง? "
คำพูดอันหยาบกระด้างดังไปทั่วสนาม ทุกคนที่ได้ยินออกอาการติดอ่าง
“ ข้าจะไม่ยอมอยู่ในตระกูลที่เส็งเคร็งแบบนี้เด็ดขาด! ”
“ เจ้ากำลังพูดบ้าอะไรอยู่!! ”
“ หูของแกมันตันเกินไปหรือเพราะแกแก่เกินไปหะ เคานต์สตีลวอลล์ ข้ากำลังบอกว่าจะออกไปจากตระกูลสตีลวอลล์อยู่ไง! ”
ซีค ไม่ได้ใช้คำว่า ท่านเคานต์ หรือ ท่านพ่อเลย ทำเอาใบหน้าท่านเคานต์นั่นสั่นเทาจากความโกรธ
“ มันเป็นสิ่งที่แกคาดหวังอยู่แล้วไม่ใช่หรือไงหะ แกมันก็แค่ไอ้เวรสายตามืดบอด รอที่จะทีบหัวส่งข้ามาตลอดนิ ”
“ และตั้งแต่นี้ต่อไปก็ยกทั้งหมดให้บุตรชายสุดที่รักได้ตามสบาย ”
“เจ้า ไอ้้…!”
“ ที่ผ่านมาก็บอกข้าตรงๆ ป่าวประกาศมันออกมาว่าไม่ต้องการให้ข้าเป็นผู้สืบทอดตั้งแต่แรก ”
" ทำเอาข้าละอายจริงๆ สตีลวอลล์ที่ถูกยกให้้เป็นป้อมปราการเหล็กของอาณา ยังต่ำช้าที่ใช้อุบายน่ารังเกียจขนาดนี้ "
“….!”
เคานต์สตีลวอลล์โกรธมากจนไม่มีคำพูดอะไรออกมา เคราที่เหมือนเส้นลวดกระตุกตึง
“ แกมัน ไอ้เวรรรรรรร! ”
บึมมม!
" เห้ยๆเกิดอะไรขึ้น! "
“ อาาาา! ”
กระแสพลังอันรุนแรงก่อตัวขึ้นรอบตัวเคานต์สตัลวอลล์ นายหญิงฟรอเรล เทรล และคนอื่นๆที่เป็นคนธรรมดาเกิดความวุ่นวายขึ้นทันที
“ ได้โปรดระงับโทษะก่อน! ท่านเคานต์!”
คริส นันท์ กำลังคว้าจับ ส่วนไทเนอร์ก็รีบขึ้นมา เพื่อจะช่วยกันห้ามเคานต์สตีลวอลล์ไว้
“ ดีมาก! ถ้าแกต้องการแบบนั้นก็ออกไปซะ! อย่ามาข้าเห็นอีกต่อไป ไม่งั้นข้านี่แหละจะฟันเจ้าเป็นสองส่วนด้วยมือตัวเอง! ”
“ ได้-ได้โปรดระงับอารมณ์ ก่อน! ท่านเคานต์”
" ไม่ต้องกังวล! ข้าก็ไม่มีแผนจะกลับมาเหนียบที่นี่อีก!”
“น-นายน้อย! ท่านก็ควรสงบลงด้วย…!”
คริส นันท์ พยายามอย่างเต็มที่เพื่อแก้ไขสถานการณ์ แต่สองพ่อลูกได้เดินข้ามเส้นแบ่งที่ไม่มีวันหวนกลับมาอีก
ฟึบ!
ซีค หันกลับโดยไม่เหลียวมองอีก เดินตรงไปทางออกสนามประลอง ทุกสายตามองตามอย่างไม่กระพริบ ซีคคนนี้ได้กลายเป็นคนละคนกับเด็กที่พวกเขาเคยมองข้ามมาโดยตลอดไปแล้ว
ทัันใดนั้นซีคก็หันศีรษะไปรอบๆเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ จนสายตาไปหยุดจ้องอยู่ที่ฮาน
“เฮ้ ฮาน!”
ฮาน ซึ่งถูกแขวนอยู่บนผนังตอบด้วยความผวาว่า “ ครับ ครับท่าน!”
" มาติดตามข้าซะ "
" หะท่าน! ท่านซีคพูดอะไรนะครับ? "
“ จงติดตามไปกับข้าซะ! ”
“ ที่-ที่ไหน ”
" ข้ากำลังคิดอยู่ว่าอยากได้คนใช้อย่างน้อยสักหนึ่งคนตอนออกจากตระกูลไป งั้นข้าจะพาเจ้าไปด้วย "
ใบหน้าของฮานซีดเซียวขึ้นทันที เขารู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นมันเลวร้ายแค่ไหนถ้าเขาต้องติดตามซีคไป
“ต-นั่น…!”
แต่ตอนนี้ซีคน่ากลัวเกินไป เขาไม่กล้าพูดปฎิเสธ เขาพูดไม่ได้ แต่ก็เหมือนมีเสียงมาไถ่ชีวิตอีกครั้ง
“ เจ้าจะพาฮานไปไม่ได้! ฮานเป็นคนรับใช้ของสตีลวอลล์! ”
มันคือเสียงของนายหญิงฟรอเรล เธอคำรามราวกับพูดต่อหน้าศัตรูที่ฆ่าพ่อแม่เธอไป ด้วยเหตุการณ์ที่ซีคเพิ่งลงมือกับเกร็คจะทำให้เธอแทบบ้า
ใบหน้าฮานสดใสขึ้นทันที
“ หืม ทำไมท่านถึงเข้ามาขวางไม่ให้ข้านำตัวฮานไปละ ”
“ คนอย่างแกไม่สมควรได้อะไรสักอย่าง! ”
“ ถ้างั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ ”
นายหญิงฟรอเรลต้องงุนงงเพราะซีคดูยอมถอยง่ายเกินไป แต่ได้ไม่นานก็กลายเป็นเรื่องสยองเมื่อซีคดึงดาบขึ้นมา แล้วเดินไปที่ฮาน
" แกหยุดเดียวนี้นะ! "
“ ไม่เห็นต้องตกใจขนาดนั้นเลยท่านหญิง ข้าทำไม่นานก็เสร็จแล้ว ”
ซีค เปลี่ยนจากการเรียกนายหญิงฟรอเรลว่าท่านแม่มาเรียกท่านหญิงแทน ตามจริงแล้วเธอโล่งใจที่ไม่ต้องได้ยินซีคเรียกเธอว่าท่านแม่อีกเพราะทำให้เธอขนลุก แล้วมันก็ไม่ได้ทำให้ซีคหยุดแต่อย่างใด
“หมายความว่าไง ไม่ต้องตกใจอะไร! ดูยังไงเจ้าก็กำลังจะผ่าคอฮานออก!”
" ใช่ ก็ถูกแล้วนิ "
" อะไรนะ? "
นายหญิงฟรอเรลพูดไม่ออก สีหน้าของฮานตอนนี้ซีดยิ่งกว่าตอนแรกอีก แต่ซีคก็ยังพูดออกมาด้วยท่าทางใจเย็น
“ ทำไม ก็ถูกแล้วนิที่ข้าต้องตัดคอของฮานมันออก ”
“ ส-สุดท้ายแก แกมันบ้าไปแล้วจริงๆด้วย! ”
“ ท่านหญิงพูดอะไรออกมา ข้าปกติดีท่านไม่ควรมากล่าวหากัน ท่านลืมไปแล้วหรือไงว่าทำไมข้ากับอัศวินไบเนอร์ต้องประลองกัน ”
ไบเนอร์และฮาน อ้างว่าพวกเขาไม่ได้เป็นฝ่ายยั่วยุ ดูหมิ่นเกียรติของซีคในฐานะเจ้านายพวกเขา ในขณะที่ซีคกล่าวโทษว่าพวกเขาทำ ทุกอย่างจึงตัดสินด้วยเกียรติของการประลอง และผู้ชนะคือซีค
“ แล้วก็ไบเนอร์เป็นถึงอัศวิน ยังไงสตีลวอลล์คงมีบทลงโทษกับเขาที่หมิ่นเกียรติผู้เป็นนายอย่างเหมาะสม แม้ตอนนี้ข้าจะละทิ้งมันไปแล้ว แต่ชัยชนะของข้าได้ตัดสินไปแล้ว "
" ที่นี้ข้าก็มีสิทธิ์ในชีวิตของมันพอหรือยัง ”
ในที่สุดนายหญิงฟรอเรลก็เข้าใจสถานการณ์เกินตัว
“ท่-ท่านเคานต์!”
ท่านเคานต์เป็นคนเดียวที่น่าจะแก้ไขได้
นายหญิงฟรอเรลรีบดึงเคานต์สตีลวอลล์มาเกี่ยวข้อง หลังจากที่ซีคสละสิทธิ์การสืบทอดไปแล้ว ช่องว่างระหว่างสองพ่อลูกมันลึกเกินกว่าจะถมได้แล้ว เธอคงคิดว่าเคานต์สตีลวอลจะทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้สถานการณ์นี้ได้
“…”
สิ่งที่ตามมาคือความเงียบของท่านเคานต์ แม้เขาจะอยากตะโกนให้คนลากตัวซีคออกไปแค่ไหน แต่น่าเสียดายซีคคำนวณถึงเรื่องนี้ไว้แล้ว ถ้าตอนนี้ไม่มีสายตาคนจำนวนมากอยู่สถานการณ์คงแตกต่างไป ฐานะหน้าที่กำลังค้ำคอท่านเคานท์อยู่ เขาไม่สามารถก็ทำลายกฏเกณฑ์ต่อหน้าผู้คนมากมายที่มีความสำคัญได้
การทำให้เรื่องบานปลายไปกว่านี้มีแต่ผลเสียย้อนกลับมาหาเขา
ฟึบบ!
“อ่ะ มะ-ไม่!”
ฮานร้องลั่นเมื่อดาบแหลมเข้าใกล้คอมากขึ้น ช่างเป็นประสบการณ์ที่เลวร้าย ดาบสีดำเคลือบไปด้วยโลหิตสีแดงกำลังถูกผลักเข้าที่คอของเขา
“เฮ้ฮาน ฟังข้าให้ดี ถึงที่ผ่านมาเจ้ากล้าลองดีกับข้า แต่ข้าจะเมตตาให้ทางเลือกกับเจ้า”
ซีค ยกชูนิ้วโป้งและนิ้วกลางสองนิ้วนี้ขึ้นแสดงให้ฮานเห็น
“ แกมีสองทางเลือก หนึ่งตายตอนนี้เลยโดยตัดหัวโง่ๆแกทิ้งไปซะ สองยอมจำนนติดตามรับใช้ข้า สองทางเลือก แกจะเลือกทางไหนดีละฮาน ”
น้ำเสียงซีคฟังดูเป็นคนใจดี แต่ความกดดันนั้นแทบไม่ให้ฮานได้เลือกเลย ฮานพยายามหันมองขอความช่วยกับนายหญิงที่ตอนนี้กำลังจับปลายเสื้อคลุมของเคานต์สตีลวอลล์เพื่ออ้อนวอน แต่ได้กลับมาแค่ความนิ่งขรึม
ตอนนั้นเองที่ฮานเข้าใจแล้วว่านายหญิงผู้สนับสนุนเขามาโดยตลอด ไม่มีอำนาจพอจะช่วยเขาจากสถานการณ์ตอนนี้
“ ตา…”
" แกว่าพูดอะไร?! เห่าให้มันดังๆหน่อย "
“ ข้าจะติดตามท่าน ข้าจะติดตามท่านไปนายน้อย ”
หยดน้ำตาเล็กๆไหลออกจากดวงตาของฮาน ทีคร่ำครวญของเขาเหมือนวัวที่กำลังถูกลากไปที่โรงฆ่าสัตว์ แทนที่จะเป็นฉากเรียกน้ำตา แต่มันทำให้ซีคยิ้มเยาะแทน
" ลุกขึ้น เราต้องไปแล้ว”
“ อะ-อะไร? ตอนนี้เลยหรือครับ?"
“ มีอะไรให้ต้องลังเล นี่เป็นก้าวแรกของข้าที่จะเผชิญโลก จำไว้ต้องทำทันทีเมื่อตัดสินใจแล้ว ”
“ ต-นั่น…!”
ไม่ทันพูดจบ ซีคคว้าที่ปลอกคอของฮาน ดึงฮานไปสนามประลองจากนั้นลากไปที่ประตูทางออก
โดยไม่ต้องหันไปมอง ซีคก็รู้ถึงทุกสายตาที่กำลังมองเขาตามหลังเขาอยู่ ท่านเคานต์ยังคงคำรามเห่าหอนอยู่ในลำคอ นายหญิงฟรอเรลที่กำชายเสื้อแน่นมองดูฮานถูกเขาลากเดินไป อัศวินไทเนอ,อัศวินคริสนันท์ กำลังมองมาทางเขา และ เกร็คที่ตอนนี้บาดแผลหายดีแล้วนั่งอยู่บนพื้น มองซีคที่เดินหายไปด้วยแววตาอันว่างเปล่า
.
.
.
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 511
แสดงความคิดเห็น