ตอนที่ 1 : ความจริงที่ไม่อาจลืม
ปาร์ตี้งานเลี้ยงสละโสดริมสระส่วนตัวในธนาเรศมว์รีสอร์ต ค่ำคืนนี้บรรยากาศได้อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของความรัก ความยินดีและความสนุกสนาน เสียงหัวเราะพูดคุยกันของชายหนุ่มหญิงสาวดังขึ้นทุกขณะ เรียกได้ว่าไม่มีช่วงว่างที่เงียบเลยแม้แต่นาทีเดียว อาหารคาวหวานชั้นดีมีมาเสิร์ฟมากมายไม่ให้ได้ขาด ไม่ว่าจะเป็นไวน์รสเยี่ยมหรือแชมเปญรสเลิศ ก็จะมีพนักงานคอยเดินบริการตลอดไม่ให้แขกต้องเสียเวลาไปหยิบเอง
ภายในงานหากใครอยากจะร้องเพลงก็จะมีเวทีพิเศษให้อยู่ตรงกลางสระน้ำที่โปรยด้วยกลีบดอกกุหลาบหลากสีสันอย่างสวยงาม ขอแค่มีความกล้า ไม่ต้องอายว่าจะร้องออกมาเป็นแบบไหน หรือใครอยากจะพูดอะไรเพื่อมอบเป็นคำอวยพรล่วงหน้าแก่ว่าที่บ่าวสาวก็ได้ เพราะนี่คืองานเลี้ยงส่วนตัว...ต่อให้คืนนี้ทุกคนที่นี่จะมีสภาพเมามายจนไม่เหลือภาพลักษณ์ที่ดีเลย ก็ไม่ต้องกังวลว่าภาพเหล่านั้นจะหลุดออกไป
“ภูกำชับพนักงานแล้วใช่ไหมคะ ว่าห้ามมีการเก็บภาพภายในเด็ดขาด เราต้องให้ความเป็นส่วนตัวกับไผ่และอรด้วย”
“ไม่ต้องห่วงครับ ผมให้ผู้จัดการรีสอร์ตทำการเก็บโทรศัพท์ของทุกคนไว้ก่อนที่จะเข้ามาเรียบร้อยแล้ว”
“ดีแล้วค่ะ...กับไผ่ดาไม่ค่อยกังวลเท่าไหร่ เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นหนึ่งในเจ้านายพวกเธอ ดากังวลก็แค่กับอรค่ะ...แต่ได้ยินคุณยืนยันแบบนี้ดาก็สบายใจ”
บุณยดากล่าว สายตามองไปบนเวทีกลางสระที่มีร่างแสนสวยของนักแสดงสาวชื่อดังยืนเต้นอยู่ข้างนักร้องหนุ่มสุดฮ็อตอย่างสนุกสนาน ทั้งสองคนไม่มีท่าทีกังวลเลยว่าภาพของทั้งคู่ในตอนนี้อาจจะหลุดออกไปและกลายเป็นประเด็นให้นักข่าวต้องติดตาม
“เฮ้ภู! นายอย่าพึ่งตัวติดกับดาสิวะ อีกไม่กี่วันก็จะตัวติดกันอยู่แล้ว มาย้อนความหลังกับพวกฉันเสียหน่อยเป็นไง...ผมขออนุญาตพาว่าที่สามีของดาไปดื่มกับเพื่อนๆ ทางโน้นหน่อยนะครับ” ชายหนุ่มคนหนึ่งตะโกนเรียกภูริภพ พร้อมกับเดินเข้ามาหาและเอ่ยกับบุณยดาด้วยน้ำเสียงหยอกล้อแววตาขบขัน
“ตามสบายเลยเบส...ฉันก็จะไปคุยกับเพื่อนเหมือนกัน ฝากดูแลว่าที่สามีของฉันให้ดีด้วยล่ะ” บอกเพื่อนด้วยรอยยิ้ม แล้วหันไปพูดกับชายคนรัก “ภูไปดื่มกับเพื่อนภูเถอะค่ะ ดาจะไปหาเพื่อนทางโน้นหน่อย” ชี้ไปทางโต๊ะริมสระที่มีกลุ่มเพื่อนของเธอนั่งคุยกันอยู่
“รับรองว่าจะดูแลให้เป็นอย่างดีเลยครับผม...ไปล่ะนะ”
“อืม...” บุณยดาตอบรับแล้วเดินไปอีกด้านหนึ่งทันที
เนื่องจากทุกคนในที่นี้นั้นรู้จักสนิทสนมกันหมดทุกคน ไม่มีใครที่เธอหรือภูริภพต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ เพราะฉะนั้นวันนี้เธอจึงอนุญาตให้เขาดื่มได้อย่างเต็มที่กับกลุ่มเพื่อนด้วยความเต็มใจ
“ไงจ๊ะว่าที่เจ้าสาว ยิ้มหน้าบานเดินมาเชียว” เจนจิราเอ่ยแซ็วเพื่อนรักที่กำลังเดินมาหาพวกเธอ
“ก็ต้องมีความสุขสิแก” ปริษากล่าว “เฮ้อ...ในที่สุดฉันก็ได้เป็นเพื่อนเจ้าสาวสักที แต่พวกแกดูเพื่อนเจ้าบ่าวแต่ละคนสิ ก็เพื่อนเราทั้งนั้น”
บุณยดาหัวเราะขำท่าทีของเพื่อนรัก “โธ่แป้ง...ฉันขอโทษแทนภูก็แล้วกันนะ ที่ไม่สามารถหาเพื่อนเจ้าบ่าวหน้าใหม่ที่พวกเรายังไม่รู้จักมาให้แกเชยชมได้”
ปริษาทอดถอนใจ “พรหมลิขิตคงยังไม่เดินทางมาถึงดีไซเนอร์สาวสุดสวยอย่างฉันสินะ”
“แต่ฉันว่าพรหมลิขิตเดินมาหาแกตั้งหลายครั้งแล้วนะ แต่แกไม่รับไว้ต่างหาก...อย่าทำมาเป็นบ่น” เจนจิราค้าน เพราะที่ผ่านมามีผู้ชายตั้งมากมายหลายคนให้ความสนใจอยากคบหากับปริษา ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยด้วยกันหรือชาวต่างชาติ แต่ในทุกครั้ง...ยังไม่ทันที่อีกฝ่ายจะเริ่ม เพื่อนรักของเธอก็ถอยห่างเสียแล้ว
“ก็ความรู้สึกมันไม่ใช่อ่ะ แกจะให้ฉันไปต่อได้ยังไง เบรกไว้น่ะดีที่สุดแล้ว” บอกด้วยน้ำเสียงเรียบ จับมือของเพื่อนรักขึ้นมา “ฉันอยากจะเจอคู่ชีวิตแบบแกจังเลยดา ในฐานะเพื่อนแกฉันว่าภูเป็นผู้ชายที่ดีมากๆ เลยนะ ตั้งแต่เป็นเพื่อนยันคบหากันเป็นแฟน จนกระทั่งอีกไม่กี่วันก็จะแต่งงานกัน ภูไม่เคยทำให้เธอเสียใจแม้แต่ครั้งเดียวเลย...ผู้ชายอะไรจะดีได้ขนาดนี้ ถามจริงเถอะ...ตั้งแต่คบกันมา เคยมีทะเลาะกันบ้างไหม”
บุณยดาส่ายหน้าไปมาแล้วยิ้มแทนคำตอบ...เธอกับภูริภพไม่เคยทะเลาะกันแม้แต่ครั้งเดียวตั้งแต่ขยับสถานะความสัมพันธ์จากเพื่อนมาเป็นคนรัก เขาไม่เคยทำให้เธอรู้สึกลำบากใจหรือระแวงใดๆ กับพฤติกรรมของเขาเลยสักครั้ง...ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดื่มสังสรรค์กับเพื่อนหรือเรื่องผู้หญิง
ความสัมพันธ์ของเขากับเธอที่ผ่านมานั้นมันดีมาก...มากเสียจนบางครั้งเธอก็นึกหวั่นกลัว
“ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็...ขอแสดงความยินดีกับเพื่อนสาวในกลุ่มคนแรกที่ขายออกนะคะ” เจนจิรากับปริษาพูดขึ้นพร้อมกัน ก่อนทั้งสามคนจะยกแก้วแชมเปญขึ้นชนแล้วดื่มให้กับว่าที่เจ้าสาว เจ้าภาพงานเลี้ยงในค่ำคืนนี้
“น้องไผ่...น้องไผ่คะ พี่ขอเพลงหวานๆ มอบให้กับว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวหน่อยสิคะ” ดีไซเนอร์สาวตะโกนบอกพัทธดนย์ที่เล่นกีตาร์อยู่บนเวทีกับเพื่อนของเขาอีกสองคน ในขณะที่บุณยดายกมือขึ้นปรามเพื่อนด้วยความอายเล็กน้อย...ถึงจะรู้จักสนิทสนมกันทุกคนก็เถอะ
“จัดให้ตามคำขอครับพี่แป้ง”
พัทธดนย์ตะโกนตอบกลับน้ำเสียงยินดีและเต็มใจทำให้เป็นที่สุด เมื่อเตรียมเพลงและตรวจสอบอุปกรณ์เรียบร้อยแล้วนักร้องหนุ่มจึงพูดก่อนที่จะทำการร้องเพลงตามคำขอของปริษา พลันทำให้เกิดความเงียบเข้ามาแทนบรรยากาศที่กำลังสนุกสนาน สายตาทุกคนต่างจับจ้องอยู่ที่เวทีกลางสระตรงหน้า
“ก่อนที่จะร้องเพลงเพลงหนึ่งให้กับพี่ชายและว่าที่พี่สะใภ้ของผม ผมขอกล่าวอะไรสักหน่อยนะครับ เพราะในวันงานผมต้องไม่ได้ขึ้นกล่าวแน่นอน...พี่ภู พี่ดา ผมยินดีกับพี่ทั้งสองคนด้วยนะครับ จากนี้ไปพี่ดาได้โปรดดูแลน้องชายคนนี้ให้ปลอดภัยจากว่าที่สามีของพี่ด้วยนะครับ ส่วนพี่ภู...ถ้าพี่ดุผม ผมจะฟ้องพี่ดา”
กลายเป็นเสียงหัวเราะจากผู้คนในงานที่ขำขันออกมากลบความเงียบงันที่มี ด้วยคำพูดของนักร้องหนุ่มที่แลดูเหมือนออดอ้อนพี่สะใภ้ แต่กลับข่มขู่พี่ชายตัวเองแทน
ภูริภพผละจากกลุ่มเพื่อนแล้วเดินไปหาบุณยดา แขนแกร่งหนึ่งข้างโอบเอวบางของคนรักเอาไว้อย่างอบอุ่น แววตาทอประกายอ่อนละมุนยามมองใบหน้าหวาน ขณะที่ริมฝีปากหนาก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
“ถ้าอย่างนั้นพี่ก็คงไม่กล้าดุนายแล้วล่ะ แต่พี่จะให้ดาดุนายแทน”
“ไม่ทันไรคุณภูริภพก็ออกอาการกลัวเมียเสียแล้วสิครับ” เพื่อนชายคนหนึ่งตะโกนแซ็ว
“รู้เลยบ้านนี้หลังแต่งงานแล้วใครมีสิทธิ์ขาดในทุกเรื่อง” เพื่อนหญิงอีกคนตะโกนแซ็วเช่นกัน
ระหว่างที่ทุกคนกำลังพูดหยอกล้อเย้าแหย่ภูริภพกับบุณยดาอยู่นั้น พัทธดนย์ก็ได้เริ่มร้องบทเพลงรักอันหวานซึ้งขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันแสนนุ่มละมุน เสียงพูดคุยที่มีก่อนหน้าเริ่มเงียบลงในที่สุด จากนั้นไม่นานทุกคนก็ช่วยกันร้องเพลงแสดงความยินดีให้ว่าที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปพร้อมกับนักร้องหนุ่มที่ถือไมค์อยู่บนเวที
ความสุขมากมายอย่างท่วมท้นที่บุณยดาได้รับในค่ำคืนนี้...ทว่ากลับมีอีกหนึ่งคนที่ได้รับความทุกข์ทรมานและเจ็บปวดอย่างที่สุดเช่นกัน ยินดีไปกับความรัก...ให้กับคนที่เธอรักทั้งสองคน อวยพรให้ทั้งคู่มีความสุข ในขณะที่ข้างในอกของตัวเองนั้นสุดแสนแสนเจ็บปวด...
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 317
แสดงความคิดเห็น