ชิเอโกะ [Yaoi] บทที่ 2
ร่างบอบบางรีบเดินจ้ำอ้าวกลับเข้าไปในหมู่บ้าน ในเวลาพลบค่ำเช่นนี้ชาวบ้านเริ่มเก็บบ้านเรือนเตรียมใช้เวลาส่วนตัวอยู่กับครอบครัว โกโกะเดินไปจนถึงท้ายหมู่บ้านที่มีพุ่มไม้สูงขึ้นไปทั่วทั้งบริเวณ ขาเรียวเดินไปตามทางเดินเล็กๆ เผยให้เห็นบ้านหลังหนึ่งที่ปลูกขึ้นเยื้องอยู่ห่างไกลจากตัวหมู่บ้านหลักออกไปเล็กน้อย มือขาวอ่อนนุ่มผลักประตูให้เปิดออกเบาๆ
"ท่านพ่อ" เสียงหวานเอ่ยทักทายชายวัยกลางคนค่อนไปทางมีอายุ เขากำลังใช้มือที่เปื้อนฝุ่นเล็กน้อยของเขาจัดเนื้อตากแห้งที่เขาเพิ่งเก็บมันเข้ามาหลังจากที่ใช้เวลาตากลมอยู่หลายวัน คนเป็นพ่อหันมามองลูกสาว เขาเอ่ยทักทายตอบกลับนิดหน่อยแล้วหันไปจัดการธุระของตนเองต่อ โกโกะเม้มปากเข้าหากันเบาๆ ราวกับกำลังรวบรวมความกล้าเพื่อที่จะพูดบางสิ่ง นางมองไปยังเนื้อสดที่ถูกแล่เสร็จอย่างดีเตรียมไว้สำหรับแบ่งไปทำอาหารและสำหรับขายให้กับชาวบ้าน ดวงตากลมโตอันน่าหลงใหลมองไปที่พ่อของตนแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานแกมขอร้องอยู่นัยๆ
"ท่านพ่อ… ท่านจะว่าอะไรไหมหากข้าอยากจะขอแบ่งเนื้อไปสักหน่อย" พ่อของนางดูไม่ได้แปลกใจอะไรนักกับคำขอนั้นของลูกสาว เขาเอ่ยถามอย่างเรียบๆ ตามประสา
"เอาไปทำไมเหรอ ลูกไปเจอขอทานมาอีกแล้วรึ" กล่าวถึงขอทานนอกหมู่บ้านที่โกโกะมักจะมีน้ำใจเอาของกินไปให้ทุกครั้งที่เขามาแถวๆ นี้ ขอทานคนนั้นหายไปนานช่วงหนึ่ง สงสัยคงจะกลับมาอีกแล้ว พ่อคิดพลางแขวนเนื้อไว้บนท่อนไม้สีเข้มที่ติดอยู่ข้างกับผนัง โกโกะส่ายหัวเล็กน้อยปฏิเสธ
"เปล่าเจ้าค่ะ ข้าอยากจะแบ่งเนื้อให้กับท่านอิชิฮาระเพื่อตอบแทนตระกูลอิชิฮาระ เผื่อเขาจะได้เมตตาหมู่บ้านเล็กๆ ของเรา อีกไม่นานท่านก็คงจะกลับไปที่ปราสาท เดี๋ยวจะไม่มีโอกาสแล้ว" พ่อฟังลูกสาวพร้อมกับคิดตามคำพูดนั้น สิ่งที่นางพูดออกมาก็เป็นความจริงเพราะตั้งแต่การปกครองของไดเมียวอิซามุเป็นต้นมา ชาวบ้านก็มีกินมีใช้ ไม่อดๆ อยากๆ ต่างจากสมัยก่อนที่ไดเมียวคนอื่นไม่ค่อยได้ให้ความสนใจชาวเมืองมากนัก พ่อคิดแล้วพยักหน้าเบาๆ เป็นอันตกลง
"ได้สิ เอาเนื้อส่วนที่ดีที่สุดไปให้ท่านอิชิฮาระก็แล้วกัน" พูดเสร็จก็จัดการนำเนื้อสดส่วนหนึ่งไปล้างน้ำสะอาดอย่างดีก่อนจะนำมันห่อลงใส่กล่องไม้ขนาดย่อม โกโกะยิ้มด้วยความดีใจจนแก้มแทบปริ พ่อหันมามองลูกสาวแล้วเอ่ยอย่างเรียบๆ
"ไปเปลี่ยนชุดเถอะไป เจ้าดูมอมแมมเหลือเกิน"
"เจ้าค่ะ" ตอบกลับด้วยน้ำเสียงสดใส นางรีบเข้าห้องไปเลือกชุดที่ดูสะอาดที่สุดเท่าที่จะหาได้ เมื่อจัดการตัวเองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็รับกล่องไม้จากพ่อแล้วขอตัวออกไปก่อนที่ท้องฟ้าด้านนอกจะมืดลงไปกว่านี้
ขาเรียวเดินตรงไปยังที่พักชั่วคราวที่อยู่ในป่าเยื้องห่างออกไปจากหมู่บ้านไม่ไกลมากนัก ทุกย่างก้าวที่เข้าไปใกล้หัวใจดวงน้อยก็ยิ่งสั่นระรัวราวกับกลองใหญ่ กองไฟบริเวณหน้าที่พักส่องสว่างอยู่ในความมืดของตอนหัวค่ำ ร่างบอบบางกอดกล่องไม้เอาไว้แน่นพลางชำเลืองมองดูองครักษ์สองสามคนที่ยืนอยู่บริเวณด้านหน้าด้วยความกล้าๆ กลัวๆ พลันสายตาคมขององครักษ์คนหนึ่งก็หันมาเห็นเธอพอดี เสียงทุ้มตะโกนถามทันทีอย่างไม่เกรงกลัว
"นั่นใคร! ออกมาเดี๋ยวนี้!!" โกโกะสะดุ้งโหยงกับเสียงดังกังวาลที่ห้าวหาญสมกับเป็นองครักษ์ฝีมือดี นางรีบเดินออกมาจากเงามืดพร้อมกับก้มหน้ามองพื้นดินด้วยดวงใจที่สั่นไหวระคนความกลัว องครักษ์คนหนึ่งขมวดคิ้วเข้าหากันอย่างสงสัยเมื่อภาพตรงหน้าคือหญิงสาววัยแรกรุ่นที่ปกติแล้วไม่ควรออกมาเดินเพ่นพ่านนอกบ้านในยามวิกาลเช่นนี้
"หยุดอยู่ตรงนั้น เจ้าเป็นใคร มีธุระอะไร" เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยอำนาจสั่งการ โกโกะรีบคุกเข่าลงกับพื้นในทันที
"ข้า… ข้าเป็นลูกสาวคนขายเนื้อ อยากจะนำเนื้อมามอบให้กับท่านอิชิฮาระเจ้าค่ะ" เมื่อฟังจบ เหล่าองครักษ์ก็มองหน้ากันด้วยความฉงนสงสัย แต่ยังไม่ทันที่จะได้เอ่ยขับไล่ เสียงของประตูที่เปิดออกเบาๆ ก็ทำให้พวกเขาหันไปมองอย่างรวดเร็ว
"เอะอะเสียงดังอะไรกัน" น้ำเสียงทุ้มต่ำแต่นุ่มนวลเป็นเอกลักษณ์ทำให้หัวใจของโกโกะเต้นดังผิดจังหวะ นางที่ทราบว่าคนที่เพิ่งปรากฏตัวเป็นใครก็ยิ่งไม่กล้าเงยขึ้นไปสบตาคนเบื้องหน้า องครักษ์เอ่ยรายงานแด่นายเหนือหัวของตน สิ้นเสียง สายตาคมคายก็ตวัดไปมองหญิงสาวที่กำลังนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นที่เย็นเฉียบ เนื้อตัวของนางผู้นั้นดูมอมแมมเล็กน้อยแต่เสื้อผ้าก็ดูสะอาดสะอ้านไม่น่าเกลียดนัก นางกอดกล่องไม้เอาไว้ในอ้อมอกอย่างหวงแหนราวกับกลัวว่ามันจะสัมผัสโดนพื้นเสียอย่างนั้น ฮิโรมาสะเดินเข้าไปใกล้ กลิ่นกายหอมรัญจวนใจของชายชาตรีที่เป็นเอกลักษณ์ของชนชั้นสูงทำเอาโกโกะแทบจะเป็นลมล้มพับด้วยความเขินอายที่มีมากมายเหลือคณานับ ดอกไม้ในหัวใจบานสะพรั่งเป็นเท่าทวีคูณ
"เจ้านำเนื้อมาให้ข้าเช่นนั้นรึ" น้ำเสียงไม่ร้อนไม่เย็น ฟังดูอบอุ่นนุ่มนวลแต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขามอยู่ในที โกโกะพยักหน้าเบาๆ แล้วเอ่ยตอบด้วยใบหน้าหวานซับสีเลือด
"ข้าน้อยรู้ตัวว่าเป็นคนต่ำต้อย แต่ตระกูลอิชิฮาระมีพระคุณ ทำให้ครอบครัวของข้าพอจะลืมตาอ้าปากได้บ้าง วันนี้เลยขอเอาเนื้อส่วนที่ดีที่สุดมาให้แด่ท่านเพื่อตอบแทนบุญคุณเจ้าค่ะ" เอ่ยพลางหยิบผ้าผืนบางออกมาวางลงบนพื้นเพื่อเป็นที่รองก่อนจะเอากล่องไม้วางทับลงไปอย่างแผ่วเบา ท่วงท่ากิริยาที่น่าดูชมทำให้ฮิโรมาสะนึกแปลกใจที่ชนชั้นต่ำผู้นี้ถูกสอนมารยาทมาเป็นอย่างดี เขาเงียบไปครู่หนึ่งราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่งแล้วเอ่ยปฏิเสธเสียงราบเรียบแต่จริงจัง
"ข้ารับรู้ความปรารถนาของเจ้าแล้วล่ะ ข้าขอขอบใจ แต่ว่าเก็บเนื้อของเจ้าไปเถิด หากเอาไปขายคงจะได้หลายชู* (ค่าเงินสมัยเอโดะ) " สิ้นเสียง โกโกะก็สั่นหัวปฏิเสธ
"มิได้เจ้าค่ะ… ข้าน้อยคอยเฝ้ามองท่านมาตั้งแต่หลายปีที่แล้วแต่ไม่กล้าล่วงล้ำ ในที่สุดปีนี้ก็รวบรวมความกล้านำมามอบให้จนได้ ได้โปรดรับไว้เถิดเจ้าค่ะ" โค้งตัวลงจนศีรษะแทบจะติดพื้น ฮิโรมาสะเห็นเช่นนั้นก็ใจอ่อนลงอย่างมิอาจห้าม ใบหน้าหล่อเหลาคมคายหันไปหาองครักษ์ที่ยืนอยู่ด้านหลัง พยักหน้าเบาๆ เป็นสัญญาณให้มาเก็บเอาเนื้อไป หญิงสาวยิ้มด้วยความดีใจอย่างหาที่สุดมิได้
"ขอขอบพระคุณท่านฮิโรมาสะ" เสียงเพราะพริ้งเอ่ยด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นางค่อยๆ ลุกขึ้นยืนกำลังเตรียมตัวจะกลับ ฮิโรมาสะเห็นเช่นนั้นเสียงทุ้มก็เอ่ยห้ามอย่างกะทันหัน
"อย่าเพิ่งไป" หญิงสาวหันมามองเขาตามเสียงแทบจะในทันที ดวงตากลมโตส่องกระทบเข้ากับแสงของกองไฟที่กำลังลุกโชนเป็นประกาย ดวงตาคู่สวยสบเข้ากับดวงตาคมอยู่ชั่ววินาทีหนึ่งก่อนจะรีบหลบสายตาลงอย่างรวดเร็ว ใบหน้าสะสวยเกินกว่าหญิงใดที่เขาเคยพบเจอทำให้หัวใจของฮิโรมาสะเต้นผิดจังหวะไปเสียดื้อๆ เสียงทุ้มรีบเอ่ยต่อในทันที
"รอคนปรุงทำให้เสร็จก่อนแล้วค่อยเอาไปแบ่งครอบครัวของเจ้าด้วย" โกโกะเงยหน้าขึ้นมองเขาด้วยดวงตาที่เบิกขึ้นเล็กน้อยราวกับตกใจกับคำพูดนั้น
"ไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ข้าไม่อาจ…"
"ไม่ได้หรอก มีของอร่อยก็ควรจะแบ่งกัน หากท่านพ่อรู้ว่าข้าให้เจ้ากลับไปตัวเปล่าข้าคงจะโดนเอ็ดเอาได้" คำอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบกลับมีมนตร์เสน่ห์อย่างน่าแปลกประหลาดสำหรับหญิงสาวที่บัดนี้หัวใจของนางได้พองโตไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางไม่กล้าเอ่ยปฏิเสธ ได้แต่ตอบรับว่า 'ขอบพระคุณเจ้าค่ะ' ด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานระคนเขินอาย ขาเรียวก้าวเดินออกห่างอาณาเขตของที่พักแล้วนั่งลงบนบริเวณพื้นหญ้าริมทะเลสาบด้วยความเจียมเนื้อเจียมตัว ครู่ต่อมาอาหารเลิศรสก็ถูกปรุงจนเสร็จ ฮิโรมาสะนำมันมาให้นางด้วยตนเองเพราะรู้สึกประทับใจในความจิตใจดีและกิริยาที่น่าเชยชม กล่องอาหารที่ปิดฝาอย่างดีค่อยๆ ถูกวางลงตรงหน้าหญิงสาวอย่างแผ่วเบา โกโกะรีบโค้งตัวลงแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงสั่นเครือเล็กน้อยด้วยความตื้นตันอันล้นพ้น
"ขอบพระคุณเจ้าค่ะ ท่านพ่อของข้าน้อยจะต้องดีใจที่ได้ทานของอร่อยเช่นนี้เป็นครั้งแรก" หยาดน้ำตาใสไหลลงมาบนแก้มขาวอย่างเงียบๆ ฮิโรมาสะสายตาอ่อนลงกับความนุ่มนวลอ่อนหวานของคนตรงหน้า
"ขาดเหลืออะไรก็บอกข้าได้ ข้าจะอยู่ที่นี่อีกสักสองสามวันแล้วจะเดินทางกลับไปยังปราสาทอิชิฮาระ"
"เจ้าค่ะ ขอบพระคุณเจ้าค่ะ"
"อืม" ฮิโรมาสะมองหญิงสาวครั้งสุดท้ายแล้วเดินกลับเข้าที่พักไป มือเล็กค่อยๆ เก็บเอากล่องข้าวขึ้นมากอดแนบอก มืออีกข้างปาดน้ำตาออกอย่างช้าๆ ก่อนที่ร่างของหญิงสาวจะเดินหายกลับเข้าไปในหมู่บ้านด้วยความรู้สึกอบอุ่นเต็มตื้นในหัวใจอย่างอธิบายไม่ถูก
ในยามดึกสงัดของค่ำคืนในฤดูใบไม้ผลิที่เงียบสงบ เสียงของเหล่าแมลงได้เงียบลงไปแล้วหลังจากที่ร้องระงมมาตลอดทั้งหัวค่ำ ฮิโรมาสะนอนมองพระจันทร์ดวงสวยที่อวดโฉมงดงามอยู่บนท้องฟ้าด้านนอกหน้าต่าง
"อ่า… นางชื่ออะไรกันนะ" ครางออกมาเบาๆ กับตนเองเพราะดันลืมถามชื่อของนางไปเสียได้ น่าแปลกใจที่ภาพของนางผู้นั้นยังคงติดรบกวนอยู่ภายในจิตใจจนยากที่จะสลัดมันออก ฮิโรมาสะถอนหายใจแผ่วเบาพยายามไม่คิดอะไรให้มากความก่อนจะพยายามข่มตาให้หลับลงในคืนที่เปล่าเปลี่ยว
วันต่อมาในช่วงบ่ายที่อากาศแจ่มใส ลมทะเลสาบพัดวูบมาแฝงไอแดดอบอุ่นและกลิ่นใบไม้ ฮิโรมาสะมองไปยังชายคาของหมู่บ้านที่อยู่ห่างไกลออกไปไม่มากนัก ด้วยแรงปรารถนาอยากจะเห็นหน้าหญิงสาวที่เขาเฝ้าคิดถึงมาทั้งคืนวันจึงทำให้ร่างสูงโปร่งตัดสินใจเดินเข้าไปในหมู่บ้านด้วยความหวังว่าจะได้เจอนวลนางอีกสักครั้งให้หัวใจได้คลายกังวล เหล่าชาวบ้านยังคงเคารพเขาเหมือนอย่างเคย ฮิโรมาสะหยุดยืนพูดคุยกับชาวบ้านอย่างไม่ถือตัวพลางสายตาก็สอดส่ายหาใครบางคนไปด้วย
ร่างสูงเดินมาจนเกือบจะถึงท้ายหมู่บ้าน บริเวณนี้มีแต่พุ่มไม้ขึ้นสูง ดูท่าทางจะไม่มีบ้านอื่นอีกแล้วหลังจากที่ข้ามบริเวณเขตตรงนี้ไป คิดพลางถอนหายใจออกมาเบาๆ อย่างหมดความหวัง ทันใดนั้นเอง หางตาก็เหลือบไปเห็นควันไฟที่กำลังลอยพุ่งขึ้นมาจากที่ใดสักแห่งในบริเวณนั้น ฮิโรมาสะเดินตามทางเดินเล็กๆ เข้าไปแล้วก็ต้องพบเข้ากับบ้านโทรมๆ หลังหนึ่งที่ตั้งแยกอยู่ห่างออกไปจากบริเวณหมู่บ้านหลัก กลิ่นหอมของเนื้อรมควันที่อบอวลอยู่ในอากาศทำให้เขามั่นใจได้ทันทีว่านี่คือบ้านของคนขายเนื้อ ฮิโรมาสะถือวิสาสะเดินเข้าไปสำรวจรอบบริเวณตัวบ้าน ประตูที่ปิดสนิทและใช้เชือกมัดไว้หลวมๆ จากด้านนอกทำให้ทราบว่าด้านในน่าจะไม่มีคนอยู่
เขาเดินอ้อมไปอีกทางก็เจอเข้ากับหญิงสาวที่กำลังก้มๆ เงยๆ จัดการกับเสื้อผ้าที่เพิ่งซักเสร็จมาหมาดๆ นางสะบัดผ้าออกอย่างรวดเร็ว หยาดน้ำกระเซ็นเปียกลงที่พื้นหญ้าด้านล่าง มือเล็กจัดการตากผ้าด้วยความชำนาญก่อนจะหันมาหยิบชุดต่อไปที่นอนรออยู่ในตะกร้าไม้สานสีอ่อน ดวงตากลมโตสังเกตเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก ทั้งคู่สบสายตากันในทันที โกโกะหัวใจแทบจะหยุดเต้นกับภาพตรงหน้า นางยืนตรึงอยู่กับที่ เบิ่งตากว้างด้วยความประหลาดใจปนสั่นไหว ฮิโรมาสะเห็นดังนั้นเขาก็ยิ้มด้วยท่าทางนุ่มนวลสง่างามก่อนจะรีบเอ่ยขอโทษที่เข้ามาไม่ให้สุ้มให้เสียงเช่นนี้ ริ้วแดงแล่นขึ้นแก้มขาวของหญิงสาวจนนางไม่อาจปิดบังรอยยิ้มขวยเขินเอาไว้ได้ แต่ถึงเช่นนั้นสีหน้าของนางก็มีความเป็นกังวลกับบางสิ่ง เสียงหวานรีบเอ่ยห้ามฮิโรมาสะที่กำลังเดินเข้ามาใกล้ในทันที
"ท่านอิชิฮาระ อย่าเพิ่งเข้ามาเจ้าค่ะ เดี๋ยวเสื้อผ้าจะเหม็นกลิ่นเนื้อเจ้าค่ะ" ฮิโรมาสะชะงักกึก เขามองดูหญิงสาวที่กุลีกุจอรีบออกไปยืนตรงบริเวณอื่นที่มีลมโกรก ใบหน้าสวยหันมาหาเขาแล้วโค้งศีรษะลงเบาๆ เป็นเชิงบอกให้มาทางนี้จะดีกว่า ฮิโรมาสะทำตามอย่างว่าง่าย เขาเดินเข้าไปใกล้หญิงสาว ดวงตาคมมองไปที่ผิวกายขาวสะอาดอ่อนนุ่ม มือเล็กยังคงเปียกปอนไปกับหยาดน้ำที่พร่างพราวอยู่เล็กน้อยจากการจัดการกับผ้าผ่อนเมื่อครู่ นางไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสบตาผู้ที่มียศสูงกว่า เวลานี้นางคงจะสงสัยว่าเขามาถึงที่นี่ได้อย่างไรและมีเหตุผลอันใด แต่ริมฝีปากเล็กสีชมพูระเรื่อนั้นกลับปิดเงียบสนิทไม่กล้าแม้แต่จะเอ่ยคำถามใดๆ ออกมา ฮิโรมาสะเห็นเช่นนั้นก็เอ่ยชี้แจงแถลงไข
"ข้าลืมถามชื่อของเจ้า" สิ้นเสียง หญิงสาวก็กะพริบตาปริบราวกับสงสัยว่าเพียงเพราะเหตุผลแค่นี้น่ะหรือเขาถึงยอมเสียเกียรติดั้นด้นมาถึงที่นี่ แต่ถึงกระนั้นร่างบอบบางก็รู้สึกอุ่นวาบขึ้นในอก นางเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงถ่อมตน
"ข้าชื่อโกโกะเจ้าค่ะ"
"เช่นนั้นรึ"
"เจ้าค่ะ" สิ้นเสียง ความเงียบก็เข้ามาปกคลุม เสียงใบไม้ที่ถูกลมพัดปลิวไหวดังเอื่อยๆ แทรกกับเสียงของนกร้องในยามบ่าย เสียงทุ้มของฮิโรมาสะเอ่ยถามต่อด้วยความอยากรู้ระคนสงสัยในตัวของหญิงตรงหน้า
"เจ้าอยู่ที่นี่คนเดียวรึ" โกโกะส่ายหัวปฏิเสธ
"เปล่าเจ้าค่ะ ท่านพ่อของข้าออกไปตากเนื้อที่เนินภูเขาด้านนั้น ช่วงเย็นๆ คงจะกลับเจ้าค่ะ" มือเล็กชี้ตรงไปที่ภูเขาลูกหนึ่ง เอ่ยเสร็จดวงตาคู่สวยก็สบเข้ากับสายตาคมคายที่จ้องมองนางอยู่อย่างไม่วางตา แก้มขาวขึ้นริ้วแดงอย่างไม่อาจห้าม หลบสายตาคู่นั้นด้วยหัวใจสะท้านไหว โกโกะที่ไม่ได้เอ่ยถึงแม่ทำให้ฮิโรมาสะไม่ได้ถามอะไรต่อ แม่ของนางอาจจะเสียไปแล้วซึ่งเป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นในสมัยเอโดะ ความเงียบเกิดขึ้นอีกครั้ง ฮิโรมาสะเองที่ไม่รู้จะถามอะไรต่อก็อ้ำๆ อึ้งๆ ความจริงแล้วเขาไม่ค่อยได้สนทนากับสาวใดแบบจริงๆ จังๆ มาก่อนเพราะชีวิตของเขายุ่งอยู่แต่กับเรื่องการบริหารบ้านเมืองและฝึกอย่างหนักเพื่อจะได้เป็นนักรบและไดเมียวที่เก่งกาจต่อจากอิซามุ ท่านพ่อของเขา โกโกะที่เห็นว่าฮิโรมาสะเงียบไปก็เริ่มทำตัวไม่ถูก ความเขินอายและหัวใจที่เต้นรัวเร็วทำให้นางแทบจะเป็นลมล้มพับเสียตรงนั้น เสียงหวานตัดสินใจเอ่ยขออนุญาตแม้จะทราบว่าเป็นการไม่สมควร
"ถ้าเช่นนั้น... ข้าน้อยขอไปตากผ้าก่อนได้ไหมเจ้าคะ เกรงว่าแดดจะหมดเสียก่อนเจ้าค่ะ" ฮิโรมาสะรีบตอบกลับในทันทีราวกับเพิ่งรู้ตัวว่ากำลังรบกวนเวลาส่วนตัวของนาง
"ได้สิๆ เชิญ" ผายมือให้กับนางราวกับอยากให้นางทำตัวตามสบายอย่างไม่ต้องเกรงใจ โกโกะยิ้มรับออกมาเป็นครั้งแรก รอยยิ้มคล้ายดอกไม้แรกแย้ม เจิดจรัสสะดุดตาทำให้ฮิโรมาสะรู้สึกได้ถึงพลังในกายของชายชาตรีที่อยากจะปกป้องและครอบครองหญิงสาว นางอันเป็นที่รักของเขา
ดวงตาคมมองตามร่างบอบบางที่กำลังเดินกลับไปยังลานตากผ้าขนาดย่อมที่เดิม ฮิโรมาสะไม่ได้มีความดูถูกดูแคลนคนตรงหน้าเลยแม้แต่น้อย หนำซ้ำยังรู้สึกอยากจะปกป้องดูแลและอยากให้นางได้มีชีวิตอย่างสุขสบาย โกโกะมองตามฮิโรมาสะที่กำลังเดินอ้อมกลับไปยังทางออก หญิงสาวโค้งตัวทำความเคารพอีกครั้ง รอยยิ้มอ่อนโยนทรงเสน่ห์ของร่างสูงถูกส่งมาให้กับพร้อมกับฮิโรมาสะที่เดินลับหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่เพียงเสียงหัวใจที่เต้นรัวเร็วอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุดของหญิงสาวเอาไว้เบื้องหลัง
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 448
แสดงความคิดเห็น