บ้านไร่สายสมรตอนที่ 2
ขุนศึก เงยใบหน้าเข้มคมสันที่มีตอหนวดเขียวครึ้มจากแผนที่ที่เขากำลังร่างขึ้น เป็นแผนที่ทับซ้อนที่เขาออกสำรวจนับตั้งแต่วันแรกที่เข้ามารับตำแหน่งนายอำเภอสายทอง อำเภอซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง มีเครือข่ายค้ายาเสพติดอยู่มากที่สุด มีผู้ต้องสงสัยหลายคน แต่ยังไม่มีหลักฐาน ขุนศึกนายอำเภอหนุ่มไฟแรงวัย 27 ปี เลือกที่จะมาลงที่บ้านเกิด ทั้งๆที่เขามีสิทธิ์เลือกไปอยู่ในพื้นที่ดีๆไม่มีปัญหา ในฐานะผู้สอบได้ที่หนึ่งประจำรุ่น
มือถือมีสายเข้า... ชายหนุ่มหยิบมากดรับ กรอกเสียงลงไป
“สวัสดีครับคุณมุกเรียง มีอะไรให้ผมรับใช้ครับ”
“แหมพี่ขุนคะ ทำยังกะคนอื่นคนไกลนะคะ” น้ำเสียงหญิงสาวปลายสายแม้จะมีทีเล่นทีจริง แต่ขุนศึกก็มองเห็นภาพของหญิงสาววัย 25 ปี ท่าทางไว้ตัว รักศักดิ์ศรี ผู้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงคนสำคัญของไร่ ‘สายสมร’
ขุนศึกหัวเราะแล้วคุยต่อว่า
“ผมกำลังจะออกจากที่ว่าการฯครับ พอดีคุณมุกโทร.มา”
“มุกกะเวลาอยู่แล้วละค่ะว่าพี่ขุนกำลังจะเลิกงาน แวะมาที่ไร่หน่อยนะคะ คุณแม่อยากเจอพี่ มาทานข้าวมื้อเย็นด้วยเลยนะคะ มุกจะให้แม่บ้านเตรียมอาหารไว้รอ”
“โอเคครับ งั้นฝากท้องที่ไร่สายสมรนะครับเย็นนี้”
“ค่ะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ”
ร่างสูงก้าวออกมาจากห้องทำงาน กวาดสายตา เห็นบรรยากาศความเงียบเหงาของสถานที่ราชการ นั่นเป็นเพราะเจ้าหน้าที่ทุกคนกลับบ้านกันหมดแล้ว ชายหนุ่มอดคิดถึงคำเตือนของผู้ใหญ่หลายคนเมื่อเอ่ยถึงอำเภอสายทองว่า คือพื้นที่ปราบเซียน ใครที่ว่าแน่จากที่ไหน พอย้ายเข้ามาอยู่อำเภอสายทองแล้ว ต้องเผ่นออกนอกพื้นที่แทบไม่ทัน ด้วยสาเหตุต่างๆเหนือความคาดฝัน
สำหรับขุนศึกแล้ว ไม่ได้นึกหวาดหวั่นใดๆ ตรงกันข้าม นี่คือความท้าทาย ที่ใดมีปัญหาก็ควรจะอยู่ที่นั่นเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ซึ่งไม่เพียงแค่เป็นการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่เหตุผลสำคัญก็คือ อำเภอสายทองเป็นบ้านเกิดของเขา นายอำเภอหนุ่มจึงตั้งใจจะทำให้บ้านเกิดกลายเป็นพื้นที่น่าอยู่ให้จงได้ ที่นี่มีดีมากกว่าการเป็นพื้นที่เครือข่ายยาเสพติดแน่นอน
----------------
ธารใส หญิงสาวผู้ร่าเริงสดใสวัย 23 ปี ชะงักก้าว แล้วรีบหลบเข้ามุม พลางปิดปากสะกดกลั้นเพราะภาพที่เห็นนั้นทั้งขัดตาและน่าขันอย่างที่สุด มุกเรียงผู้เป็นพี่สาวกำลังพยายามทำอะไรสักอย่างอยู่หน้าเตาด้วยท่าทางเก้งก้างแบบคนไม่เคยเข้าครัว
พึ่บ...
“ว้าย”
มุกเรียงร้องเสียงหลง เมื่อเกิดไฟลุกท่วมกระทะ ธารใสตกใจรีบผวาเข้าไป ความลับของมุกเรียงจึงแตก พอไฟดับลง สองสาวหันมองหน้ากันแล้วต่างปล่อยคิกออกมา เพราะมอมแมมทั้งคู่
“พี่มุกจะทำอะไรจ๊ะเนี่ย ร้อยวันพันปีไม่เคยเข้าครัว หรือว่า...”
ธารใสมองหน้าพี่สาวอย่างล้อเลียน “มีอะไรพิเศษแน่ๆเลยใช่มั้ยคะ ใครกันน้า ทำให้พี่มุกลุกขึ้นมาเป็นแม่บ้านแม่เรือน”
มุกเรียงหน้าแดง จริงอย่างที่ธารใสพูด งานของหล่อนเป็นงานกลางแจ้งในไร่มากกว่า ไม่เคยสักครั้งที่จะเข้าครัวเพื่อทำกับข้าว ตรงกันข้ามกับธารใสที่มีนิสัยค่อนข้างเป็นแม่ศรีเรือนมากกว่า
“พี่ขุนจะมาทานข้าว”
“ใครนะคะ”
“พี่ขุนไง”
“ขุนไหนคะพี่มุก”
“นี่อย่าแกล้งพี่หน่อยเลย” มุกเรียงปั้นหน้าขึง เพราะรู้ว่ากำลังถูกน้องสาวล้อเลียน
“ก็มีหลายขุนนี่นา ขุนศึก ขุนน้ำ ขุนทะเล ขุน...”
“บ้านเรามีขุนเดียว”
“นายอำเภอขุนศึก” ธารใสพูดพลางหัวเราะคิก มุกเรียงหน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก ก่อนจะรีบปรับเปลี่ยนเป็นขึงตึง
“คุณแม่นัดพี่ขุนมาที่บ้าน ก็เลยวานให้พี่ช่วยดูแลเรื่องอาหาร”
“ไม่จริงค่ะ ไม่มีทาง คุณแม่รู้อยู่แล้วว่าพี่มุกทำอาหารไม่เป็น”
“ยัยธารใส จะแกล้งพี่ไปถึงไหน”
“ธารใสอยากเช็กดูความรู้สึกของพี่มุกไงคะว่า จะเป็นอย่างที่ธารใสเข้าใจหรือเปล่า ตอนนี้ธารใสเข้าใจแล้วละค่ะว่าพี่มุกรู้สึกยังไงกะพี่ขุน”
“อย่ามาทำเป็นรู้ดีหน่อยเลย ไม่เอาละไม่พูดแล้ว... ว่าแต่เราเถอะ เข้ามาป่วนพี่ทำไมล่ะเนี่ย”
“เปล่าป่วนค้า คุณแม่ให้มาบอกว่า คุณน้าสะอิ้งให้คนเตรียมอาหารเย็นเอาไว้ให้แล้วค่ะ พิเศษด้วยนะคะ ย้ำว่าพิเศษด้วย”
“งั้นเหรอ”
ธารใสพยักหน้าหงึกหงัก นึกขันเมื่อเห็นดวงตาเปล่งประกายมีความหมายของผู้เป็นพี่สาว ใจจริงอยากให้มุกเรียงลงเอยกับขุนศึกเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี เพราะถ้าขืนมุกเรียงยังครองตัวเป็นโสด ความสัมพันธ์ระหว่างหล่อนกับชายหนุ่มคนหนึ่งคงมีอุปสรรคแน่
----------------
ไหมตะวันอาจจะรักสนุก ชอบการเข้าสังคมแบบไฮโซ แต่หล่อนก็มีลิมิตอยู่เหมือนกันว่า ไม่ขอเข้าไปข้องแวะกับเรื่องยาเสพติดราคาแพงอย่างที่ลูกคุณท่านหลานเธอทั้งหลายนิยม ดังนั้นเมื่อถูกอัคราพาเข้ามาในคอนโดของผองเพื่อน พอหล่อนเห็นว่าอัคราและเพื่อนๆกำลังจะสนุกเลยเถิด หล่อนจึงขอตัวกลับ
“จะรีบไปไหนจ๊ะไหม คืนนี้เราจะไปต่อกันที่ผับ”
“ไม่ค่ะ ไหมจะกลับบ้าน” หล่อนยืนกราน อัครารู้สึกเสียหน้าเล็กน้อยที่เขาไม่สามารถควบคุมหญิงสาว ตรงกันข้ามในสายตาของเพื่อนๆ เขาดูด้อยกว่าไหมตะวันเสียด้วยซ้ำ
“ไหมจ๊ะ อย่าดื้อสิคะ พี่กำลังสนุกนะคะ”
“ไม่ค่ะพี่อัค ไหมจะกลับบ้าน”
“เอ้อ...”
เพื่อนของอัคราคนหนึ่งท่าทางกำลัง ‘ได้ที่’ ลุกเดินมาหาหญิงสาว “ไอ้อัค แกนี่ขี้ขลาดชะมัด ก็แค่ผู้หญิง”
แววตาของไหมตะวันลุกวาวขึ้นมาทันที “เมื่อกี้แกว่าไงนะ”
“ไหม อย่า...” อัคราคล้ายกับรู้นิสัยของไหมตะวันดี รีบเข้ามาปราม
“พี่อัคหลีกไป”
“ท่าทางเอาเรื่องเว้ยเด็กของแกเนี่ย” คนพูดทำเป็นยื่นหน้าเข้ามา ในบัดดลนั้นใบหน้าของเขาก็สะบัดเพราะฝ่ามือของไหมตะวัน ท่ามกลางความตกตะลึงของอัคราและเพื่อนที่เหลือ
“เฮ้ย อะไรกันวะ มึงกล้าตบหน้ากู” ความเป็นลูกผู้ดีมีชาติตระกูลอันตรธานสิ้นตั้งแต่วินาทีนั้น อัครารู้นิสัยของเพื่อนคนดังกล่าวดี และรู้นิสัยของไหมตะวันดีเช่นกันว่าไม่เคยยอมคน เขาอยู่ในฐานะคนกลางกลืนไม่เข้าคายไม่ออก
ไฮโซหนุ่มขี้ยาคนนั้นพุ่งเข้าหาไหมตะวันอย่างมาดร้าย โดยหารู้ไม่ว่าหญิงสาวเห็นการเคลื่อนไหวและเตรียมแก้เกมเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพียงแค่พริบตา ด้วยวิชาศิลปะการป้องกันตัวด้วยมือเปล่า ทำให้ไฮโซหนุ่มหล่นลงก้นกระแทกพื้นดังโครม หนำซ้ำมืออีกข้างเกือบหักเพราะการจับบิดของไหมตะวัน ทุกคนอ้าปากค้าง นึกไม่ถึงและไม่อยากเชื่อว่าหญิงสาวร่างเพรียวบางจะเต็มไปด้วยพิษสงถึงเพียงนี้
ไหมตะวันปล่อยมือไฮโซหนุ่ม ดวงตาของหล่อนลุกวาวขณะหลุดปากท้าทาย “ใครอยากลองดีกับฉันอีกก็เข้ามา”
ไม่มีใครกล้าขยับตัว และปล่อยให้ร่างเพรียวบางก้าวฉับๆลับตาไปในที่สุด อัคราเพิ่งได้สติก้าวยาวๆตามหลัง แต่ไม่ทัน ไหมตะวันเรียกแท็กซี่ออกไปจากหน้าคอนโดแล้ว
นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ค่อนข้างจะผิดหวังในตัวของอัครา เขาดูอ่อนแอเกินกว่าจะสามารถปกป้องหล่อนได้ ไหมตะวันถอนใจ ความดื้อรั้นเอาแต่ใจของตัวเองบัดนี้ได้บรรเทาลงแล้ว วันมะรืนนี้ หล่อนควรไปอำเภอสายทองกับบิดามากกว่า ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยชอบก็ตาม
----------------
“คุณแม่คะ...”
เสียงของมุกเรียงดังเข้ามาในห้องโถงของบ้านขณะปราณีสอดจดหมายกลับเข้าซองมีตราของกรมส่งเสริมการเกษตร และประทับตราด่วนพิเศษ ซึ่งมีไม่บ่อยครั้งนักที่จะได้รับจดหมายจากทางการ เนื้อความในจดหมายเป็นข่าวดี เพียงแต่นางไม่สู้จะยินดียินร้ายนัก
นางเงยหน้ามองใบหน้ายิ้มแย้มของมุกเรียง ลูกสาวคนโตคนนี้ถอดแบบของนางไปเกือบทั้งหมด เป็นผู้หญิงเข้มแข็งเสียจนบางครั้งนางนึกหวั่นว่ามุกเรียงอาจจะหลงลืมความหวานในแบบของผู้หญิง แต่ด้วยงานในไร่นั้น ถ้าไม่เข้มแข็งก็จะถูกข่ม ไม่สามารถควบคุมคนงานเป็นร้อยคนร้อยพ่อพันแม่ให้อยู่ในคำสั่งได้
มุกเรียงเข้มแข็ง ในขณะที่ธารใสลูกสาวคนกลางกลับอ่อนหวานจนเกินไป จนนางยังอดกังวลไม่ได้ ธารใสควรมีคุณสมบัติบางอย่างแบบมุกเรียงเติมเต็มเข้าไปบ้าง ส่วนมุกเรียงก็ควรมีคุณสมบัติแบบธารใสเติมเต็ม “...พี่ขุนจะมาทานข้าวที่นี่ด้วยใช่มั้ยคะ”
“นึกว่าเรื่องอะไร” ปราณียิ้ม พออ่านสายตาของมุกเรียงออกว่าคิดอย่างไรกับขุนศึก นายอำเภอหนุ่มผู้มีศักดิ์เป็นหลานชายห่างๆของนาง
ส่วนขุนศึกจะคิดอย่างไรกับมุกเรียงนางเองยังไม่สามารถเดาใจนายอำเภอหนุ่มผู้นี้ได้ เพราะแม้เปลือกนอกของเขาจะดูเป็นคนขี้เล่นสนุกสนาน แต่อีกด้านหนึ่ง เขามุ่งมั่นที่จะทำให้พื้นที่ในความรับผิดชอบของเขากลับคืนสู่เป็นพื้นที่ปลอดจากยาเสพติดให้ได้อีกครั้ง นางก็รู้ว่าอำเภอสายทองสภาพเนื้อในจริงๆแล้วมีปัญหาอย่างไรบ้าง แต่นางคงทำอะไรไม่ได้มากนัก เพียงแค่ดูแลคนงานของไร่อย่างใกล้ชิดที่สุดเท่านั้น
มุกเรียงทรุดร่างนั่งลงบนโซฟาหวายอีกตัว สายตาสะดุดอยู่ที่ซองจดหมาย
“จดหมายอะไรคะคุณแม่”
“ข่าวดีของไร่เรา ก็เรื่องนี้แหละถึงอยากจะเจอคุณขุนเค้าด้วย”
“ขออนุญาตอ่านนะคะคุณแม่” ไม่ต้องรอให้มารดาบอก หญิงสาวเอื้อมหยิบจดหมายมาอ่านเนื้อความ...
----------------
“เกษตรกรดีเด่นประจำอำเภอหรือครับ” ขุนศึกกล่าวอย่างตื่นเต้น ขณะทรุดร่างนั่งลงบนโซฟาหวายอีกตัว โดยมีมุกเรียงนำน้ำเสาวรสฝีมือปั่นของหล่อนเองมาเสิร์ฟ “ยินดีด้วยนะครับคุณน้า”
มุกเรียงนั่งลงอีกครั้งข้างมารดาพลางบอกว่า “แต่คุณแม่บอกว่าจะไม่ไปงานนี้น่ะค่ะพี่ขุน”
“อ้าว ทำไมล่ะครับ คุณน้าไม่ค่อยชอบออกงานสังคมก็จริงอยู่นะครับ แต่งานนี้ผมว่าไม่น่าพลาด ทางอำเภอก็กำลังเตรียมงานกันอยู่ครับ”
“พี่ขุนก็ทราบล่วงหน้าแล้วหรือคะ” มุกเรียงสงสัย
“เปล่าจ้ะ รู้แต่ว่ามีการแจกรางวัลพวกผลิตภัณฑ์โอท็อปต่างๆด้วย แต่ไม่คิดว่าจะคุณน้าจะได้รางวัลในสาขาเกษตรกรดีเด่น”
“งานนี้อาจต้องให้มุกเรียงกับธารใสเป็นตัวแทนไปรับแทน”
“จะดีหรือครับ เห็นว่าอธิบดีกรมส่งเสริมฯมาด้วยตัวเองเลยนะครับ”
“ไปนะคุณแม่ นานๆออกสื่อที” มุกเรียงคะยั้นคะยออีกแรง
“ไม่ละ ยิ่งอธิบดีมายิ่งไม่อยากไป”
“แล้วกัน” มุกเรียงหัวเราะกับความรั้นของมารดา “คุณแม่ทำท่าเหมือนกลัวอธิบดียังงั้นแหละค่ะพี่ขุน”
ไม่ใช่กลัว แต่ถึงขั้นรังเกียจเลยละ... ปราณีคิดในใจ ดูเหมือนว่าความหลังจะฉายขึ้นในความทรงจำอีกครั้งหนึ่ง
นับตั้งแต่ไร่สายสมรได้ที่ปรึกษาในด้านพืชไร่พืชสวนและปศุสัตว์อย่างชลิตหมั่นแวะเวียนเข้ามาให้คำแนะนำต่างๆ กิจการของไร่สายสมรที่ตกอยู่ในสภาพขาดทุนจากการทำพืชไร่เชิงเดี่ยวอย่างขาดหลักวิชาการก็เริ่มฟื้นตัวขึ้นมาบ้าง ไม่เพียงกิจการ แม้แต่หัวใจของหญิงสาวคนเก่งอย่างปราณี ผู้จะต้องรับช่วงไร่สายสมรต่อจากบุพการีก็เริ่มมองเห็นความดีงามของนักวิชาการการเกษตรหนุ่มรูปงามอย่างชลิต
ในที่สุด ชลิตก็ได้ครอบครองหัวใจของสาวชาวไร่ พร้อมๆกับการร่วมแรงร่วมใจก่อร่างสร้างไร่สายสมร แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด แต่ปราณีก็ไม่เคยบ่น สามีหนุ่มบ่นว่าอยากได้ลูกชายอีกสักคน เพราะสองคนแรกเป็นหญิงแล้ว ปราณียังไม่ได้บอกข่าวดีให้เขารับรู้ว่ากำลังมีอีกหนึ่งชีวิตเกิดขึ้นในร่างของนาง ทว่า...ความสุข ความหวัง ความไว้เนื้อเชื่อใจที่เคยมีต่อสามีหนุ่มพลันแตกสลาย เมื่อมีหญิงสาวอีกคนก้าวเข้ามาในชีวิต และเขาเลือกที่จะทรยศต่อความรักของนาง
“คุณแม่คะ...”
เสียงของมุกเรียกดึงปราณีกลับมาสู่ปัจจุบัน “ใจลอยไปถึงไหนล่ะคะคุณแม่”
ปราณีปรับสีหน้า “กำลังคิดว่าจะส่งคุณน้าของเราไปเป็นตัวแทนของไร่เพื่อรับรางวัลแทน”
มุกเรียงชักสีหน้า “คุณน้าสะอิ้งนะเหรอคะ เค้าจะยอมไปหรือคะคุณแม่”
“ยอมสิ สะอิ้งเค้าชอบออกงานสังคมอยู่แล้วละ มุกเองก็ควรจะไปด้วยนะ เปิดหูเปิดตาซะบ้าง ใช่มั้ยคะคุณขุน”
ปราณีหันไปถามความเห็นของนายอำเภอหนุ่ม เขาพยักหน้า “ใช่ครับ น่าจะไป”
----------------
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 675
แสดงความคิดเห็น