2. คำสัญญา
จำต้องรับคำด้วยใจพะวักพะวน จะเป็นไปได้กระนั้นฤา
ในช่วงเวลาย้อนอดีตเยี่ยงนี้
------------------------------------------------
ขณะที่ยาน้อยกำลังเอื้อมมือดันประตูห้องอีกบานเข้ามา พลันประตูก็ถูกมือหนึ่งยื้อคว้าเปิดออกไปทันใด
“ยาน้อย...ยะเยี่ยหยังบ่าเบิ่งหน้าเบิ่งตาอัญเพิ้น... เจ้าจะข่มเหงเอานางบ่าได้!!!” แม่เจ้าตะคอกแล้วก้าวเข้ามาตบหน้าพระโอรสอย่างแรง ศิขินตกใจไม่คิดว่าพระนางจะลงมือขนาดนี้
“ศิขิน... เจ้าเข้าไปตำหนักข้าบัดเดียวนี่...ไป!!!” แม่เจ้าขึ้นเสียงไล่นางออกจากห้องทันที ทั้งยังเข้าไปดึงชายผ้านุ่งที่ผูกมัดไว้ด้านหน้าเตือนสติไม่ให้เขารั้งสาวน้อยเอาไว้
หลังจากศิขินสาวเท้าออกไปอย่างตัวสั่นงันงก พระนางจึงนั่งลงบนตั่งแล้วดึงร่างของชายหนุ่มเข้าไปกอด เขาสะอื้นซบอกพระราชมารดาอย่างรันทด
“ข้าขอกราบแทบพระบาท ตี้แม่เจ้าดึงสติ...หื้อข้าบ่าลุ่มหลงอินางนี่” เขาโมโหตนเองที่อารมณ์พิศวาสพลุ่งพล่านจนขาดการยับยั้งชั่งใจ
ชายหนุ่มก้มลงกราบที่พระบาทของพระราชมารดา แล้วลุกขึ้นเอาหน้าซบอกของพระนางร่ำไห้คร่ำครวญอาลัยอาวรณ์ถึงนางอันเป็นที่รัก
“เจ้าต้องฮู้จักฮู้ความ...หักใจเอาลูก ต้นปักษ์ราชมาศหน้า นางจะเข้าเศรษฐาปุระด้วยพระชนกของสิงเก้าจักนำทางหื้อนางสู่ซะวา” แม่เจ้ารู้ความเป็นไปแห่งแผนการของกมรเตง
“ข้าบ่าอยากเอาบัลลังก์ล่ะ... บ่าเอาแก้วกัญญาขึ้นเทิง... นางคือน้องข้าแต่น้อย ข้าฮักศิขิน...จังใด...ข้าจะฮักอินางนี่จนหมดลม!!!” แม่เจ้าสงสารราชบุตรยิ่ง แต่จะทำอันใดได้ในเมื่อนางได้เต็มใจถวายตัวต่ออัญกมรเตงไปแล้ว นางคือสนมเอกกลางหทัยที่พระองค์ทรงสิเน่หายิ่ง
“หักใจเถอะ...หนา แม่นางคือสนมเอกอัญเพิ้น พระองค์ฮักนางเยี่ยงพระอัครชายาตี้วายชนม์ จักหื้อพระองค์เอาชีวิตแม่ แล เจ้า ดอกรึ” พระนางตบหลังราชบุตรและดึงเขาออกมาเพื่อเช็ดน้ำตาให้
“แม่ญิง...มีอีกนักหื้อเจ้าเลือกกาลเบื้องหน้า บ่าต้องวอแวนาง ...อัญเพิ้นฮู้... จักบรรลัยล่ะหนา” แม่เจ้าปลอบยาน้อยจนเกือบถึงมื้อตรงตะวัน
ศิขินคลานเข้ามาหมอบอยู่หน้าประตู
“ข้าเจ้าขอกราบลาแม่เจ้า แล พระราชบุตร ข้าจำต้องคืนพระตำหนัก อัญเพิ้นหื้อข้าเปิบมื้อตรงตะวันด้วยพระองค์ เจ้าค่ะ” เธอขอตัวเพื่อออกไปทันใด แต่ยังไม่ทันได้คลานออกไป ถูกราชบุตรคว้าเอวไว้ก่อน
“ศิขิน...ข้าขอหื้อเจ้าละโทษาอภัยแก่ข้า...ข้าผิดนัก” เขาดึงร่างบอบบางเข้ามาซบอก แล้วหอมแก้มนวลของเธอก่อนประทับรอยที่ตรงริมฝีปากบางนั้นอีกครั้ง
“อย่า...เจ้าค่ะ” เสียงสาวน้อยเบาหายไปในอากาศ ห้ามเขาไม่ทันกับความต้องการที่จู่โจมเธอ แม่เจ้าจึงรีบเข้ามาดึงร่างของชายหนุ่มออกไปเพื่อเตือนสติ
ศิขินรีบเร่งออกไปจากพระตำหนักแม่เจ้า เดินผ่านสวนสราญด้วยอารามรีบเร่งไม่ทันได้ระวัง จึงปะทะกับร่างอวบหนาของกมรเตง
“จังใดจึ่งหื้อข้อรอ...นานโพ้น... มา มา ข้ากำลังจะไปเบิ่งเจ้าตี้ตำหนักแม่เจ้า” ศิขินใจหายวาบลงตาตุ่ม
“เพคะ... แม่เจ้าหื้อข้าตระเตรียมกับสุมา” เธอจำต้องปดพระองค์
“อะหยัง...ฮึ”
“แม่เจ้า...เพิ้นจะหื้อพระชายาขึ้นเทิงบนสักการะองค์พระศรีต้นปักษ์หน้า...เพคะ”
ศิขินพอรู้ข่าวมาจากสุมาเลยเอามาผูกเรื่องเพื่อทูลพระองค์ไม่ให้สงสัย ด้วยพระองค์รู้แล้วว่ายาน้อยอยู่ดูแลแม่เจ้าที่พระตำหนักนั้น
พระองค์สั่งสาวน้อยให้เร่งเดินตามพระองค์ ด้วยในหทัยกำลังร้อนรุ่ม ทันทีที่ทรงประทับบนตั่งในห้องเสวยพระกระยาหาร จึงโพล่งขึ้น
“ยาน้อยปะข้าตี้สวนสำราญมื้อเช้า มันบ่านึกบ่าคิด จะบ่าเอาแก้วกัญญา ข้าจึ่งตะเพิดหื้อมันออกจากพระนครไปสุมกำลังกลางพนา”
“เพคะ...” สาวน้อยตัวสั่นตอบเสียงแหบพร่า
“ข้าหื้อมันไปตระเตรียมช่อยลูกข้าตี้เทวาลัยพระไภสัชยคุรุ” พระองค์ทรงหัวเสียส่งเสียงดัง
“พระธิดาทั้งสามจะออกจากราชสำนักยามใด เพคะ”
“แก้วกัญญาจะแปลงไปช่อยเจ้า ก่อนเจ้าออกจากเศรษฐาปุระ”
“สองราชมาศหน้า...ข้าจะหื้อผาเมือง แล สุขระ ไปซ่องสุมเอาข้าไตตี้ศรีสัชนา”
พระองค์ทรงยกหม้อน้ำแกงใบน้อยขึ้นซด แล้วยื่นส่งให้ศิขินลองชิมดู เธอมองเห็นเนื้อปลาสะโตหอมกลิ่นตะไคร้ขึ้นสัมผัสเข้าโพรงจมูก ดูน่าอร่อยแต่เธอเห็นถึงความไม่เหมาะสมจึงวางลงก้มหน้าพนมมือกราบลงบนตั่ง
“บ่าต้อง...บ่าต้องพนมมือปะหลกๆ ซดหื้อข้าพึงใจ...” พระองค์ยิ้มละไมจ้องหน้าเธอ
“ศิขิน...ไปซะวา ช่อยยาน้อยตีเอาเมืองคืนมันได้ คราเจ้าคืนพระนครมา ข้าอยากเอาลูก” ประโยคนี้ทำศิขินผวา
“จังใด...หวาดข้านักฤา บ่าอยากมีลูกดอกฤา... ข้าจะเอาเจ้าเข้าตี้ศรีขริน” ศิขินใจสั่นนึกถึงเวลานั้น ไม่รู้วันใดที่เธอจะออกจากมิตินี้กลับสู่ยุคอนาคต
“บ่าได้...เพคะ” เธอเผลอโพล่งออกไปด้วยตกใจ
“ร้องโร่ลั่น...เป็นอะหยัง บ่าเอาตำแหน่งอัครชายา...ดอกรึ!!!”
“บ่าบังควร...เพคะ ข้าเจ้าคือข้า...บ่าใหญ่บ่าโต เพคะ”
“จังใดจึ่งบ่าบังควร ท่านราชบัณฑิต ...ลุงเจ้า เหมาะควรแก่ฐานาเจ้าหนา...” พระองค์เอื้อมมือมาดึงข้อมือของศิขิน แล้วหงายฝ่ามือเพื่อดูเส้นลายมือ
“เจ้าสมฐานา...ดั่งเมียข้า” พระองค์ทรงพินิจเส้นลายมือ
“จังใด ลายมือเจ้าจึงจาง ...แลบ่าแจ้ง” ศิขินตกใจเช่นกัน ไม่เคยมีเวลาได้สังเกตเส้นลายมือ จริงดังที่พระองค์สงสัย เส้นลายมือจางมากอย่างน่าพิศวง แทบไม่มีเส้นปรากฏอย่างเด่นชัด
“คือ...คือ...” ศิขินเกือบเผลอหลุดคำพูดออกไป แล้วทันใดนั้นเองเธอพลันตั้งสติได้ทัน
“จงหื้อคำมั่น... คราคืนพระนคร มีลูกหื้อข้า” พระองค์ทรงจ้องแววตาหวาดหวั่นของสาวน้อยอย่างแคลงใจ
“บ่าต้องพะวงยาน้อย มันต้องเอาลูกข้า!!!” สุรเสียงไม่พอใจบอกถึงความนัย หทัยของพระองค์แกร่งดั่งเพชรไม่มีทางยอมราชบุตรบุญธรรมอย่างแน่นอน
พระองค์วางหมากเอาไว้แล้วจะต้องขยายอาณาจักรโดยไม่ต้องเสียกำลังพล แค่รวบรวมหัวเมืองจากเจ้าชายเครือวานทั้งหลาย ให้ส่งทัพไปช่วยตีเมืองเอาบัลลังก์คืนให้ แล้วส่งมอบพระธิดาไปครองคู่
ศิขินแอบถอนหายใจ เธออยากหายตัวกลับไปสู่โลกอนาคตในเวลานี้เหลือเกิน ทำไมเพื่อนชาวเยอรมันจึงยังไม่สามารถแก้ไขเวลา ซึ่งจะดึงดูดเธอออกจากเวลาที่ย้อนยุคถึงพันกว่าปีนี้ได้สักที
“จังใดจึ่งหนักอกคับใจ บ่าพึงใจข้าดอกรึ ฤาข้าเฒ่าบ่าหนุ่มฉกรรจ์เยี่ยงยาน้อย เจ้าจึ่งบ่าเบิ่งข้า สิอยากเอามันรึ” พระองค์ทรงลุกยืนคงไม่อยากเสวยอีกต่อไป
“บ่าได้...เพคะ พระองค์บ่าแจ้งใจ ... พระองค์กรุณาข้า พะวงข้ายามเจ็บไข้ ฮักข้าดั่งพระอัครชายา ข้าจักทรยศพระองค์ได้ฤา”
ศิขินรีบลงไปหมอบกราบแทบพระบาท ตัวสั่นด้วยเกรงพระอาญา หากทรงพิโรธเธออีกครั้ง อาจถูกลงทัณฑ์ถึงตาย
“เจ้าจะต้องมีลูกหื้อข้า จงจำใส่กบาล ...บ่าหื้อมันข่มเหงเอาเจ้า หัวมันจะหลุดทั้งแม่ทั้งลูก!!!” ศิขินขนหัวลุกตัวสั่นด้วยความกลัว
พระองค์ทรงรับสั่งให้ทหารวังเฝ้าเวรหน้าพระตำหนัก ห้ามใครเข้าเฝ้าเด็ดขาดยามตะวันบ่ายคล้อยเพลานี้ พระองค์พยักหน้าให้เธอตามเข้าไปห้องทรงบรรทม
กมรเตงจะทรงสำราญบรรทมกับเธอ หทัยร้อนรุ่มดังไฟลามเลียทั่ววรกาย ทรงดำเนินเข้าไปห้องสรงน้ำด้านหลังที่ทำเป็นอ่างน้ำทำด้วยไม้ทั้งอ่าง ทรงสั่งให้เธอลงไปช่วยชำระร่างกายกับพระองค์ ทั่ววรกายกำยำทุกอณูนั้นเต็มไปด้วยความร้อนรุมเร้า
ขณะพระองค์ทรงเอามือของสาวน้อยช่วยลูบไล้ โลหิตทั่ววรกายกำลังถูกกระตุ้นด้วยความใคร่
บนตั่งในห้องทรงบรรทม พระองค์ทรงพร่ำวอนซ้ำวนไปมาอย่างดูดดื่มเนิ่นนานจนเกือบใกล้ยามสนธยา
“หื้อคำมั่น... ฮักข้าจนชีพวาย ข้าฮักเจ้าเยี่ยงศรีขรินหนา”
“เพคะ...” ศิขินรับคำจำยอมด้วยใจพะวักพะวน ขณะพระองค์ทรงผ่อนคลายจากการร่วมสู่สม
เธอไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร ลิขิตของเธออยู่กับผู้ใดกันแน่ เขาผู้ยิ่งใหญ่แห่งซะวาเชียงทอง หรือเหนือหัวจอมพาราแห่งอาณาจักรขอมโบราณแห่งนี้
พระองค์ทรงวางหมากดักทาง กันเธอออกจากเจ้าชายแห่งซะวาเชียงทอง ไม่ให้เขาทอดทิ้งละจากพระธิดาแก้วกัญญา... ผูกเธอให้อยู่กับพระองค์ตลอดไปด้วยการให้กำเนิดรัชทายาทนั่นเอง
“ยามสอง…เจ้าจักหื้อคำมั่นต่อหมู่ดาวบนฟ้า... มีลูกหื้อข้า!!!”
จะเป็นไปได้อย่างไรกับสาวน้อยต่างมิติ แม้กระทั่งเส้นลายมือบนกลางฝ่ามือทั้งสองข้าง ยังไม่ปรากฏให้เห็นถึงโชคชะตา...ในมิติย้อนเวลานี้เลย
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 105
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น