ตอนที่ 190: โดรนปะทะโดรน!
ตอนที่ 190: โดรนปะทะโดรน!
“ตอนนี้คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงอยากให้มนุษย์ทุกคนเปิดใช้งานพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ได้อย่างเต็มที่” แฮร์ริสกล่าวถาม
คำถามนี้ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกตกใจเล็กน้อย เพราะเขาไม่เคยคิดเลยว่าแฮร์ริสจะมีจุดประสงค์แอบซ่อนไว้เบื้องหลัง
“ภายนอกพันธมิตรอาจจะดูเหมือนมีพลังมหาศาล แต่จริง ๆ แล้วความแข็งแกร่งของพันธมิตรค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ จากผลการสำรวจภายในที่ฉันเคยเห็นมาจำนวนของมนุษย์ที่มีความสามารถระดับสูงกำลังลดลงเรื่อย ๆ ในทุกปี บางทีอีกไม่กี่ปีข้างหน้ามนุษย์อาจจะไม่เหลือผู้มีพลังพิเศษเหมือนกับเผ่าพันธุ์ที่มีสติปัญญาเผ่าพันธุ์อื่น ๆ ซึ่งในเวลานั้นมนุษย์ก็ไม่มีพลังมากพอที่จะต่อต้านพวกเซิร์กหรือพวกนาวีอีกต่อไป”
“ท้ายที่สุดความแข็งแกร่งทางกายภาพของพวกเซิร์กกับพวกนาวีก็สูงกว่ามนุษย์มาก เมื่อไหร่ก็ตามที่มนุษย์สูญเสียความได้เปรียบในเรื่องพลังพิเศษไป ผลลัพธ์ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดา”
“ทำไมนายถึงคิดแบบนั้น ถึงมนุษย์จะไม่มีพลังพิเศษแล้วแต่มนุษย์ก็ยังมีเทคโนโลยีอยู่ ไม่ว่ายังไงมนุษย์ก็คงจะไม่พ่ายแพ้ง่าย ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวแย้ง
“ถ้าหากมนุษย์โบราณไม่ได้ถูกทำลายโดยพวกหุ่นยนต์ เทคโนโลยีของพวกเขาก็อาจจะช่วยให้เผ่าพันธุ์มนุษย์ครอบครองจักรวาลแห่งนี้ได้อย่างง่ายดาย แต่ถึงแม้ว่าฉันจะเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ฉันก็ไม่คิดว่าวิทยาการจะสามารถแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้” แฮร์ริสกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์
เซี่ยเฟยเคยได้ยินคำพูดลักษณะนี้ในระหว่างพิธีปฐมนิเทศของค่ายฝึกจัสทิสลีกเช่นเดียวกัน ในเวลานั้นเย่จิ่งชานพยายามกล่าวเน้นถึงความสำคัญของการฝึกฝน เพราะถ้าหากนักสู้มีพลังที่มากพอพวกเขาก็จะสามารถจัดการปัญหาทุกอย่างได้ด้วยตัวคนเดียว
มันเคยมีตำนานเล่าขานว่ายอดนักสู้ที่ทรงพลังสามารถทำลายดาวทั้งดวงได้ด้วยพลังของตัวเอง แต่เซี่ยเฟยไม่เคยเห็นคนที่มีพลังในระดับนั้นมาก่อน เขาจึงเห็นด้วยกับแนวทางของฉินหมางที่มุ่งเน้นการฝึกฝนไปพร้อม ๆ กับการพัฒนาความรู้ทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
แต่ในตอนนี้กลับกลายเป็นว่าแม้แต่นักวิทยาศาสตร์อย่างแฮร์ริส ผู้ซึ่งเป็นศูนย์กลางผู้คิดค้นเทคโนโลยีกลับกำลังดูถูกเทคโนโลยีของพันธมิตรเสียเอง ซึ่งมันดูจะเป็นวิธีการคิดที่ย้อนแย้งจริง ๆ
“ถึงแม้เทคโนโลยีจะทำไม่ได้ทุกอย่างแต่มันก็ขึ้นอยู่กับระดับของเทคโนโลยีด้วย ฉันถามจริง ๆ ว่านักสู้ระดับแนวหน้าจะสู้กับยานลำมหึมาที่เราได้พบในก่อนหน้านี้ได้หรือเปล่า” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้มเล็กน้อย
“ได้! ในพันธมิตรมียอดนักรบที่สามารถทำลายดวงดาวซ่อนตัวอยู่อย่างมากมาย คนพวกนั้นสามารถทำลายยานรบได้ด้วยตัวเองอย่างแน่นอน” แฮร์ริสพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอันเด็ดขาด
เมื่อเห็นท่าทางจริงจังของชายชราเซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะโต้เถียงอะไรกลับไป เขาจึงเดินกลับไปที่ห้องบัญชาการอย่างเงียบ ๆ ก่อนที่จะหยิบบุหรี่ขึ้นมาสูบ
“นายมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้าง? ฉันคิดอยู่เสมอว่าพลังพิเศษกับเทคโนโลยีสามารถนำมาส่งเสริมซึ่งกันและกัน มนุษย์จึงไม่สามารถขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งในสองสิ่งนี้ได้” เซี่ยเฟยกล่าวกับอันธ
“ตอนที่ฉันอยู่ในสำนักฉันก็เคยเชื่อเกี่ยวกับการพึ่งพาพลังของตัวเอง แต่หลังจากที่ฉันได้อยู่กับนายฉันก็เริ่มรู้สึกว่ามันไม่ผิดอะไรถ้าจะพึ่งพาพลังของเทคโนโลยี ท้ายที่สุดมันก็ขึ้นอยู่กับว่าเทคโนโลยีจะพัฒนาไปได้ไกลมากแค่ไหน แต่มนุษย์ที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีพวกนี้ก็คงจะยึดมั่นในพลังของตัวเองมากกว่า” อันธกล่าว
“นายเคยเห็นยอดนักสู้ตัวจริงหรือเปล่า?” เซี่ยเฟยถาม
“เคยสิ อาจารย์ของฉันไง!” อันธกล่าวพร้อมกับหัวเราะเบา ๆ
“อาจารย์ของนายเก่งแค่ไหน?”
“เก่งมาก”
เซี่ยเฟยมองไปที่อันธด้วยแววตาที่ว่างเปล่าราวกับว่าเขาเบื่อคำอวยของวิญญาณตนนี้
“ตอนนี้ระดับพลังพิเศษของนายอยู่ที่สตาร์ฟิลด์แล้ว แต่นายอย่าลืมว่าเหนือระดับสตาร์ฟิลด์คือสตาร์ริเวอร์ เหนือระดับสตาร์ริเวอร์คือระดับลีเจนด์ เหนือระดับลีเจนด์คืออีเทอนิตี้ การที่มนุษย์ตั้งชื่อระดับพวกนี้ขึ้นมามันก็หมายความว่ามันมีมนุษย์ได้เข้าถึงระดับพลังพวกนี้แล้ว” อันธกล่าวเสียงเข้ม
“ถ้ามีโอกาสฉันอยากจะไปสำนักของนายจริง ๆ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมานายเคยเล่าเรื่องสำนักนายเยอะมาก แต่นายไม่เคยบอกฉันเลยว่าสำนักของนายอยู่ที่ไหน” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเบา ๆ
“ที่นั่นเป็นสถานที่ที่ห้ามคนนอกเข้าไป” อันธกล่าวอย่างจริงจัง ซึ่งในเวลาเดียวกันโทมาฮอว์กก็กำลังวาร์ปครั้งสุดท้ายก่อนที่จะไปปรากฏตัวในพื้นที่ตำแหน่งที่ 3
ตูม!
จู่ ๆ เซี่ยเฟยก็ได้ยินเสียงระเบิดดังกึกก้องก่อนที่โทมาฮอว์กจะออกมาจากรูหนอนจนสุด
“เปิดใช้เกราะพลังงานเต็มกำลัง เตรียมระบบอาวุธทุกอย่างให้พร้อม!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจุดหมายปลายทางในครั้งนี้มันจะเป็นสนามรบ!
วื้ด!
โทมาฮอว์กเริ่มเร่งเครื่องเพื่อเคลื่อนที่ออกจากรูหนอน
ในท้องฟ้าสีดำเต็มไปด้วยซากยานรบเป็นจำนวนนับไม่ถ้วน แต่เซี่ยเฟยคุ้นเคยกับยานรบในพันธมิตรเป็นอย่างดี เขาจึงสังเกตได้อย่างรวดเร็วว่าซากยานรบพวกนี้ไม่ใช่ยานรบที่ผลิตขึ้นมาในพันธมิตร
รูปร่างของยานรบพวกนี้คล้ายกับไข่ขนาดยักษ์สีดำที่พื้นผิวถูกปกคลุมไปด้วยหนามแหลมยาว ถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่รู้ว่ายานอวกาศพวกนี้เป็นของเผ่าพันธุ์ใด แต่เขาก็สามารถยืนยันได้อย่างแน่ชัดว่าพวกมันคือศัตรู!!
ท่ามกลางซากยานรบพวกนี้มียานของพันธมิตรกำลังยืนหยัดสู้กับศัตรูอยู่ และยานลำนั้นนั่นก็คือยานทริสตันซึ่งเป็นยานรุ่นเดียวกันกับที่พอตเตอร์ใช้เดินทางออกมา
“เปิดระบบควบคุมโดรนเต็มกำลัง ปล่อยโดรนวีนัสออกไปเดี๋ยวนี้!” เซี่ยเฟยสั่งการอย่างรวดเร็ว
ไม่ว่าจะยังไงสิ่งแรกที่เขาจำเป็นจะต้องทำนั่นก็คือการพยายามช่วยเหลือยานพันธมิตรลำนั้นก่อน
วี่!
โดรนวีนัส 20 ลำบินออกมาจากช่องปล่อยโดรนอย่างรวดเร็ว ก่อนที่โดรนเหล่านี้จะบินล้อมรอบโทมาฮอว์กเอาไว้
“เล็งการจู่โจมไปที่ยานลำเล็กของศัตรูทั้งหมด เปิดใช้งานเครื่องแทรคชั่นคอนโทรลเลอร์ จับพวกมันเอาไว้!!”
วี่! วี่! วี่!
เมื่อได้รับคำสั่งที่ชัดเจนโดรนต่อสู้ก็เริ่มพุ่งเข้าหาศัตรูอย่างดุดัน
โดรนพวกนี้เป็นเพียงแค่เครื่องจักรที่ถูกควบคุมโดยระบบคอมพิวเตอร์ พวกมันจึงไม่รู้จักคำว่าเกรงกลัว ดังนั้นถึงแม้ว่าศัตรูจะโหดร้ายแต่พวกมันก็จะกระโจนเข้าใส่ศัตรูอย่างเต็มกำลัง
ในเวลาเดียวกันยานลำเล็กของศัตรูประมาณ 100 ลำก็เริ่มพุ่งเข้ามาหาโทมาฮอว์ก และเนื่องมาจากขนาดของพวกมันที่ค่อนข้างเล็กยานพวกนี้จึงสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็ว
บูม! บูม! บูม!
ปืนใหญ่บนโดรนต่อสู้ระดมยิงเข้าใส่ยานของศัตรูอย่างดุเดือด และถึงแม้ว่ายานของศัตรูพวกนี้จะค่อนข้างว่องไว แต่โดรนต่อสู้ที่เซี่ยเฟยปล่อยออกไปก็ไม่ได้เชื่องช้าเช่นเดียวกัน
การต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายคล้ายกับฝูงผึ้งที่กำลังสู้กันอยู่กลางอากาศ
“เร่งกำลังเครื่องยนต์เต็มที่ เข้าใกล้ยานทริสตันให้ได้โดยเร็วที่สุด!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการ
หลังได้รับคำสั่งโทมาฮอว์กก็เริ่มเร่งเครื่องเคลื่อนที่เข้าหายานของพอตเตอร์ ท้ายที่สุดแรงโน้มถ่วงในบริเวณนี้ก็ยังคงมีความรุนแรง มันจึงทำให้ยานของพอตเตอร์ที่ได้รับความเสียหายไม่สามารถบินเข้ามาหาโทมาฮอว์กได้ เซี่ยเฟยจึงจำเป็นจะต้องบินเข้าไปหาพอตเตอร์เท่านั้น
“ไอ้แรงโน้มถ่วงบัดซบ!!” เซี่ยเฟยร้องคำรามออกมาด้วยความโกรธเกรี้ยวเนื่องมาจากแรงโน้มถ่วงทำให้ยานของเขาเคลื่อนที่ออกไปได้ช้ามาก
กว่าที่ยานโทมาฮอว์กจะได้เข้ามาใกล้ ยานทริสตันก็ถูกไฟไหม้ไปทั่วทั้งลำแล้ว
ชั้นเกราะของยานรบประกอบไปด้วยโลหะผสมต้านทานความร้อน ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกมันจะถูกโจมตีแต่มันก็ไม่มีทางเกิดไฟไหม้ขึ้นมาได้อย่างเด็ดขาด ซึ่งการที่มันได้มีเปลวไฟลุกไหม้ขึ้นมาแบบนี้ มันก็หมายความว่ายานของพอตเตอร์ได้รับความเสียหายไปจนถึงชั้นโครงสร้างของยานแล้ว
โครงสร้างของยานรบคือแนวป้องกันชั้นสุดท้ายและถ้าหากว่ามันถูกทำลายลูกเรือทุกคนก็จะเสียชีวิต
“เปิดใช้ระบบโอเวอร์โหลดเดี๋ยวนี้!!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการอย่างเริ่มเสียสติไปแล้ว
เมื่อไม่กี่นาทีก่อนเขายังพูดคุยกับแฮร์ริสอย่างคนมีเหตุผล แต่หลังจากที่เขาได้เห็นยานของพอตเตอร์ถูกไฟไหม้เขาก็กลายเป็นนักรบที่บ้าคลั่ง
อย่าลืมว่าพื้นที่บริเวณนี้คือพื้นที่เขตแรงโน้มถ่วงสูง ดังนั้นเครื่องยนต์ของยานรบจึงทำงานมากกว่าปกติอยู่หลายเท่า แต่ถึงกระนั้นเซี่ยเฟยก็ยังเปิดใช้งานระบบโอเวอร์โหลดในสภาพแวดล้อมที่อันตรายแบบนี้
คำสั่งของเขาไม่ต่างไปจากคำสั่งที่พยายามจะพังเครื่องยนต์!!
เปลวไฟที่พุ่งออกมาจากเครื่องยนต์เปล่งประกายขึ้นมาอย่างเต็มที่ พร้อมกับโทมาฮอว์กที่เริ่มสั่นคลอนอย่างรุนแรงเนื่องจากมันต้องเคลื่อนที่ด้วยความเร็วสูงท่ามกลางแรงโน้มถ่วงมหาศาล
“คำเตือนเครื่องยนต์หมายเลข 2 และเครื่องยนต์หมายเลข 3 มีความร้อนสูงมากเกินไป พวกมันอาจจะหยุดทำงานได้ทุกเมื่อ” เสียงคอมพิวเตอร์ AI ดังแจ้งเตือนขึ้นมา
แต่เดิมเครื่องยนต์หมายเลข 2 กับเครื่องยนต์หมายเลข 3 ค่อนข้างเก่ามากแล้ว พวกมันจึงร้อนเกินขีดจำกัดอย่างรวดเร็วหลังจากที่เซี่ยเฟยเปิดใช้งานระบบโอเวอร์โหลด
ในขณะที่โทมาฮอว์กกำลังเร่งความเร็วพวกเขาก็ยังคงอยู่ห่างจากยานรบของพอตเตอร์พอสมควร
“หุบปากไปซะ! เร่งเครื่องเต็มกำลังเดี๋ยวนี้!!” เซี่ยเฟยตะโกนด่าคอมพิวเตอร์ AI อย่างดุดัน
บูม!
“เครื่องยนต์หมายเลข 3 หยุดทำงานแล้ว คุณยังต้องการเปิดระบบโอเวอร์โหลดต่อไปหรือไม่?”
“เปิดต่อ!!” เซี่ยเฟยตะโกนสั่งการอย่างไม่ลังเล
ห่างออกไปไม่ไกลโดรนวีนัสของเซี่ยเฟยก็กำลังปะทะกับศัตรูอย่างดุเดือด แต่เนื่องมาจากจำนวนของศัตรูที่มีมากเกินไปมันจึงทำให้โดรนกว่า 10 ลำถูกทำลายลงไปแล้ว
“ปล่อยโดรนวอร์แฮมเมอร์”
วี่!
โดรนวอร์แฮมเมอร์ 11 ลำเข้าร่วมการต่อสู้ในทันทีและทุกครั้งที่โดรนถูกทำลายลงไป โทมาฮอว์กจะส่งโดรนลำใหม่ออกไปเติมเต็มกำลังรบอยู่เสมอ
โทมาฮอว์กเป็นยานรบที่เน้นจู่โจมด้วยโดรนต่อสู้ มันจึงมีโดรนถูกเก็บเอาไว้ภายในยานจำนวนหลายร้อยลำและเมื่อโดรนลำใดลำหนึ่งถูกทำลาย โดรนลำใหม่จะถูกปล่อยออกมาแทนที่ในทันที
บูม!
เสียงระเบิดดังขึ้นมาอีกครั้งโดยในคราวนี้เป็นเสียงของเครื่องยนต์หมายเลข 2 ที่ไม่สามารถทนรับแรงกดดันมหาศาลได้
ในเวลาเดียวกันความเร็วของโทมาฮอว์กก็เริ่มลดลงอย่างรวดเร็วทั้ง ๆ ที่พวกเขายังไม่สามารถเข้าใกล้ยานของพอตเตอร์ได้เลย
แม้ว่ายานทริสตันของพอตเตอร์จะไม่ได้อ่อนแอ แต่จำนวนของข้าศึกก็มีมากจนเกินไปจนทำให้เปลวไฟเริ่มลุกไหม้ขึ้นเรื่อย ๆ
เวลาของพอตเตอร์เหลืออยู่ไม่มากแล้ว!!
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 309
ความคิดเห็น
เล่นทำเครื่องพังแบบนี้ มันก็ต้องเคลื่อนที่ช้าลงอยู่แล้วไหมนั่น
แทนที่จะเร็วขึ้น เลยกลายเป็นช้าลง พระเอกยังต้องปรับปรุงเรื่องความคิดอีกเยอะเลย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะปรับไหมๆ ดูๆ แล้วอาจจะเป็นแบบนี้ไปจนจบ 55+
ใจมันทะลุไปแทนแล้ววววว
แสดงความคิดเห็น