33

-A A +A

33

ตอนที่ 33

 

จักรพรรดิโบราณ จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ จักรพรรดิเฟยหยาง จักรพรรดิวันสิ้นโลก...

 

เมื่อมองดูจักรพรรดิผู้น่านับถือเหล่านี้ การแสดงออกของเต๋าซุนยังคงนิ่งเฉย และเขาก็พูดอย่างใจเย็น "ข้าทำผิดบาปแล้วมันเกี่ยวอะไรกับพวกเจ้า แม้พวกเจ้าจะแบกโชคชะตาแห่งสวรรค์แล้วอย่างไร   "

 

เต๋าซุนก็ตะโกนออกมาอย่างฉับพลัน "พวกเราต่างก็ฝึกบ่มเพาะเพื่อต่อต้านสวรรค์ ไม่ว่าใครก็อยากอยู่เหนือลิขิตสวรรค์ทั้งสิ้น ชะตากรรมของข้า ข้าจะเป็นผู้กำหนดเอง หาใช่เรื่องของสวรรค์ไม่   "

 

แต่หลังจากคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็รู้สึกว่าเขาคิดอะไรบางอย่างออก ดวงตาของเขาเพ่งความสนใจและดาบด้านหลังก็ถูกดึงออกมา รูปร่างผอมบางของเขามองตรงไปที่จักรพรรดิทั้งสิบบนท้องฟ้าแล้วยิ้ม: “แล้วหากว่าข้าลากพวกเจ้าลงมาจากบัลลังก์ล่ะ!”

 

เขาเดินผ่านอากาศ เงาในมือของเขาสะท้อนแสงหลายพันดวง และเขาก็คำรามพุ่งเข้าไปสังหารเหล่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่

 

  …………

 

สะบั้นโลกาในมือของเขาโบกออกไป และหมอกหกอารมณ์เจ็ดปรารถนาก็ค่อยๆหายไป และเต๋าซุนก็ยิ้มที่มุมปาก  

 

หมอกหกอารมณ์เจ็ดปรารถนานี้จะสร้างสิ่งล่อลวงที่เกิดขึ้นจากความปรารถนาที่อยู่เบื้องลึกในใจของผู้คน 

 

 อำนาจ ความมั่งคั่ง ความงาม หรือความแข็งแกร่ง

 

คนหนุ่มสาวหลายคนในสนามต่างก็มีผมยุ่งเหยิงและดูสภาพย่ำแย่เป็นอย่างมาก

 

แม้แต่ศิษย์ที่ดีกว่าเล็กน้อยก็ยังมีใบหน้าซีดแดง เหงื่อไหลปกคลุมไปทั่วร่างของพวกเขา 

 

“เจ้าปลาน้อย เจ้าเห็นอะไรในภาพลวงตารึ ?” เต๋าซุน ถามด้วยความสนใจ

 

“ข้าเห็นหญิงสาวเปลือยกายมากมาย แต่ก็ไม่ได้สนใจอะไร อีกทั้งยังทุบตีพวกนางอีกด้วย  ” เจ้าปลาน้อยกล่าว “จากนั้นข้าก็เห็นว่าตัวเองถูกกำหนดให้เป็นจักรพรรดิ 

 

 แต่ข้ารู้ว่าจักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่นั้นมีเพียงพี่ซุนเท่านั้นที่จะเป็นได้ ดังนั้นข้าจึงฆ่าทุกคนที่บูชาข้าทิ้งซะ  "

 

ทันใดนั้น เต๋าซุน ก็ค้นพบว่าภาพลวงตาประเภทนี้ช่างกระตุ้นความปรารถนาในใจของผู้คนจริงๆ แต่คนอย่างเจ้าปลาน้อยกลับไม่มีความปรารถนาเหล่านั้น   

 

“ปลาน้อย แท้จริงแล้วเจ้าชอบอะไรกัน  ” เต๋าซุน ถามอย่างสงสัย

 

 “ข้าแค่อยากติดตามพี่ซุนไปทุกที่เท่านั้น ” เจ้าปลาน้อยก็พูดด้วยรอยยิ้มไร้เดียงสา

 

 “ขอบอกไว้ก่อนว่าข้ายังชอบหญิงงามเหมือนปกติ  ” เต๋าซุน อธิบายอย่างรวดเร็ว

 

“ข้าไม่ได้หมายความแบบนั้น” เจ้าปลาน้อยกล่าวอย่างรวดเร็ว “ข้าเองก็มีคนที่ชอบอยู่”

 

“ใคร?” เต๋าซุนก็ตกตะลึง โดยปกติแล้วเจ้าปลาน้อยนั้นมักจะเงียบตลอด เขาไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดเรื่องนี้เอง  

 

“ลูกสาวของผู้อาวุโสเจ็ด” เจ้าปลาน้อย ตอบอย่างเงียบ ๆ ด้วยเสียงต่ำ

 

“หือ” เต๋าซุนสูดลมหายใจ “ช่างเป็นความชอบที่น่ากลัวยิ่ง!”

 

เต๋าซุนเคยพบเห็นบุตรสาวของผู้อาวุโสเจ็ดมาอยู่บ้าง แต่เขาก็ไม่คิดเลยว่าเจ้าปลาน้อยจะมีรสนิยมที่สูงล้ำเช่นนี้ 

 

 “เจ้าชอบอะไรในตัวนาง” เต๋าซุนรู้สึกว่าเขาต้องถามให้ชัดเจน

 

 “ข้าชอบบุคลิกของนาง” เจ้าปลาน้อย ยิ้มอย่างโง่เขลาราวกับว่ากำลังนึกถึงบางอย่าง รอยยิ้มนี้ดูสดใสเป็นอย่างยิ่ง

 

 “เอาเถอะ ” เต๋าซุนพยักหน้าเงียบ ๆและไม่ตอบกลับ

 

  …………

 

 ในเวลานี้ ผู้อาวุโสนิกายสายในก็เริ่มอ่านรายชื่อศิษย์ร้อยอันดับแรกหลังจากรวบรวมคะแนนเสร็จ   

 

รุ่นเยาว์ทุกคนที่ถูกอ่านชื่อต่างก็ตื่นเต้นเป็นอย่างมาก พวกเขามองไปรอบๆอย่างภาคภูมิและเชิดหน้าขึ้น  

 

ขณะที่พวกเขาดูรายชื่อนับร้อยที่ค่อยๆถูกอ่าน สีหน้าของรุ่นเยาว์ที่เหลือต่างก็เริ่มมืดมนและความคาดหวังของพวกเขาก็เริ่มสลายสิ้น 

 

“ใครที่ไม่ได้เข้าร่วมนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ก็อย่าได้ยอมแพ้ไป การเดินทางขอผู้ฝึกตนนั้นมักเต็มไปด้วยความผิดหวัง ไม่ใช่ทุกอย่างจะราบรื่นดั่งใจนึก ” ผู้อาวุโสฝ่ายในยืนอยู่ข้างหน้าและพูดปลอบโยน: " ทุกคนสามารถกลับมาอีกครั้งได้ในปีหน้า หรือเลือกที่จะเข้าร่วมนิกายอื่นๆได้ นั่นคือทางเลือกของพวกเจ้า”   

 ในดินแดนตะวันตกอันไกลโพ้นนี้ นอกจากนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์แล้ว ยังมีนิกายอื่นอีกมากมาย  

 

แต่ไม่ว่าจะเทียบในด้านใด นิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ก็ถือว่าทรงอำนาจที่สุด  

 

  …………

 

จากนั้นผู้อาวุโสฝ่ายในก็กล่าวสุนทรพจน์เพื่อสร้างแรงบันดาลใจแก่คนหนุ่มสาวเหลือทั้งร้อยคนที่สามารถเข้าร่วมนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ได้

 

 เนื้อหาทั่วไปคือ "นิกายคือข้า ข้าคือนิกาย  "

 

 หลังจากกล่าวสุนทรพจน์ ผู้อาวุโสฝ่ายในก็หยิบคริสตัลหกเพชรออกมา

 

พื้นผิวของคริสตัลนี้ขัดเงาเรียบราวกับกระจก โดยมีดาวดวงเล็กๆส่องแสงอยู่ 

 

ผู้อาวุโสฝ่ายในไม่ได้บอกทุกคนว่าคริสตัลนี้ใช้ทำอะไร เขาแค่บอกให้ทุกคนยืนเข้าแถวและวางมือลงบนคริสตัลทีละคนเท่านั้น  

 

 “สิ่งนี้มีไว้เพื่ออะไรรึ?” เจ้าปลาน้อยที่อยู่ห่างไกลถามอย่างสงสัย

 

 “คริสตัลผู้สืบทอด” เต๋าซุนตอบด้วยรอยยิ้ม

 

เป็นดั่งที่เขาคิดไว้ นี่คือช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ มันคือช่วงเวลาที่คังไป่หลี่จะได้กระโดดข้ามผ่านประตูมังกรอย่างแท้จริง  

 

 แต่เต๋าซุนก็ไม่หยุดเหตุการณ์นี้แต่อย่างใด เพราะทุกอย่างนี้ล้วนแต่ดูน่าสนใจและงดงามเป็นอย่างยิ่ง

 

 มันสวยงามมากเสียจนเขาไม่เต็มใจที่จะทำลายความหวังของผู้อื่น

 

  …………

 

 เหล่าศิษย์ใหม่วางมือบนคริสตัลทีละคน แต่คริสตัลกลับไม่ตอบสนอง

 

ใบหน้าของผู้อาวุโสฝ่ายในดูหมองคล้ำ แต่เขาก็คาดไว้แล้วว่าสถานการณ์ต้องเป็นนี้ "มันไม่ง่ายเลยที่จะหาผู้สืบทอดของท่านจักรพรรดินีได้"

 

 ตอนนี้ก็เหลือคนที่ยังไม่ได้สัมผัสคริสตัลอีกเล็กน้อย แม้กระทั่งหยานปู้หุ่ย เกาซง และสองพี่น้องฝาแฝดต่างก็ไม่ตอบสนองกับคริสตัล 

 

  จนกระทั่งมาถึงหญิงสาวที่กำลังยืนอยู่ด้วยความกังวล เมื่อวางมือลงบนคริสตัล คังไป่หลี่ก็รู้สึกได้ถึงกระแสความร้อนที่ไหลออกมาจากคริสตัล 

 

หลังจากนั้นทันที คริสตัลทั้งหมดก็เปล่งแสงสีเงินพราวออกมา

 

“นะ นะ นะ นี่ นี่  ” ผู้อาวุโสนิกายฝ่ายในที่ยืนอยู่ตรงหน้าก็มองดูคริสตัลด้วยความเหลือเชื่อ เขาตกใจเป็นอย่างยิ่งจนพูดไม่ออก 

 

 เต๋าซุนนั้นอยู่ไม่ไกล และมุมปากของเขาก็ยกโค้งขึ้น "จิ๊ จิ๊ ช่างเป็นช่วงเวลาประวัติศาสตร์ที่น่าดูชมยิ่ง แต่ช่างน่าเสียดายนัก….."

 

  …………

 

เมื่อคริสตัลเปล่งแสงพราว จู่ๆ ร่างหลายสิบร่างก็ลอยขึ้นบนท้องฟ้า และปรากฏเหนือนิกาย

 

แต่ละร่างมีแรงกดดันที่ทำให้แผ่นดินสั่นสะเทือน เมื่อตัวคนเหล่านี้ปรากฏขึ้นพร้อมกัน แรงกดดันก็เกิดการซ้อนทับขึ้น และแม้แต่อากาศก็ราวกับแข็งตัว มันปกคลุมไปทั่วทุกที่ราวกับคลื่นทะเลใหญ่  

 

  บรรดาตัวตนเหล่านี้คือผู้อาวุโสทั้ง 7 ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ แม้แต่รองหัวหน้านิกายเองก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน  

 

คริสตัลนี้เป็นสมบัติล้ำค่าที่สุดของนิกาย ดังนั้นจึงเป็นธรรมดาที่เหล่าผู้อาวุโสของนิกายจะเคลื่อนไหวเช่นนี้ 

 

 ในความเป็นจริง ทุกครั้งที่พวกเขามองหาผู้สืบทอด ตัวตนยิ่งใหญ่เหล่านี้ต่างก็ซ่อนตัวดูอยู่เสมอ พวกเขาเพียงไม่ปรากฏตัวเท่านั้น 

 

“พี่ซุน เกิดอะไรขึ้นกัน?” เจ้าปลาน้อยก็มองไปยังเหล่าผู้อาวุโสของนิกายและถามด้วยความประหลาดใจ  

 

คริสตัลค่อย ๆ ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า เปล่งแสงเจิดจ้าราวกับว่ามีบางอย่างกำลังจะปรากฏขึ้น

 

เต๋าซุน กล่าวด้วยรอยยิ้ม: "ก่อนที่จักรพรรดิผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสี่ของนิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์ของเขาจะขึ้นครองบัลลังก์ พวกเขาทั้งหมดล้วนแต่ทิ้งมรดกไว้ที่นิกาย   

 

 พวกมันเฝ้ารอคอยวันที่ผู้สืบทอดแท้จริงจะปรากฏเสมอมา และนี่จะเป็นจุดกำเนิดที่ทำให้นิกายเมฆาศักดิ์สิทธิ์เข้าสู่ยุครุ่งเรืองอีกครั้ง

 

 มรดกของจักรพรรดิบาทาสืบทอดโดยหัวหน้านิกายคนปัจจุบันของเรา ในขณะที่มรดกของจักรพรรดิเจิ้นหวู่สืบทอดโดยบิดาของข้า  

 

ตอนนี้เหลือเพียงมรดกของจักรพรรดิสามดาบและจักรพรรดินีหงเทียนเท่านั้นที่ยังไร้ซึ่งผู้สืบทอด 

 

 แต่วันนี้ ผู้สืบทอดของจักรพรรดินีหงเทียนได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว "

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.