ตอนที่ 705 ใบหญ้าใบที่ 4
ตอนที่ 705 ใบหญ้าใบที่ 4
ระหว่างที่พลังงานของควินซี่อัดแน่นอยู่ภายในสมองของชายหนุ่ม เซี่ยเฟยก็ได้ถ่ายเทพลังงานเหล่านี้ให้กับหงส์ครามเพื่อใช้ในการเหนี่ยวรั้งร่างของศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้
เมื่อมีพลังงานบริสุทธิ์ไหลเข้ามาภายในร่างเป็นจำนวนมาก ใบหญ้าของหงส์ครามก็ส่องแสงสีน้ำเงินแวววาวออกมาอย่างลึกลับ ซึ่งมันก็ช่วยให้ใบหญ้าทั้งสามมีความแข็งแกร่งและยืดหยุ่นมากกว่าเดิม แล้วพยายามเหนี่ยวรั้งศิลาหางฟินิกซ์ไม่ให้หวนคืนกลับไปสู่จักรวาล
“มันไม่มีใครสามารถทำลายกฎของจักรวาลได้หรอกนะ มันคือกฎที่เป็นนิรันดร์ รีบปล่อยศิลาหางฟินิกซ์หวนคืนกลับสู่จักรวาลไปเดี๋ยวนี้” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
ในสายตาของนักรบกฎทุกคนต่างก็ให้ความเคารพกฎของจักรวาลเป็นอย่างมาก เพราะพวกเขาถือว่าพลังที่พวกเขาถือครองอยู่ในปัจจุบันนั้นคือพลังที่จักรวาลได้แบ่งปันให้กับพวกเขา
อย่างไรก็ตามเซี่ยเฟยก็แตกต่างจากนักรบกฎโดยทั่วไปอย่างสิ้นเชิง และในอดีตเขาก็เคยแหกกฎมาแล้วเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เขาจึงไม่สนใจที่จะปฏิบัติตามกฎของจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้ด้วยเช่นกัน
“กฎมันมีเอาไว้แหก ฉันไม่เชื่อว่ามันไม่มีกฎอะไรที่แหกไม่ได้! มันขึ้นอยู่กับว่ามันมีใครกล้าที่จะลองแหกกฎดูหรือเปล่า” เซี่ยเฟยตะโกนเสียงดังโดยพยายามใช้หงส์ครามรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้สุดแรง
บ้ามาก!
คำตอบง่าย ๆ ของชายหนุ่มทำให้โอโร่รู้สึกตกใจมาก และถึงแม้ว่าเขาจะเคยขึ้นไปยืนบนจุดสูงสุดของนักรบมาก่อน แต่เขาก็ไม่เคยที่จะพยายามท้าทายกฎของจักรวาลเลยสักครั้ง
บางทีการท้าทายในครั้งนี้อาจจะทำให้เซี่ยเฟยประสบพบกับความล้มเหลว แต่ทัศนคติที่เซี่ยเฟยได้แสดงออกมามันก็ยังคงตรึงตราอยู่ภายในใจของโอโร่อยู่ดี
มันเป็นเรื่องที่รู้กันดีในสังคมชนชั้นสูงว่าอาวุธมายาที่สูญเสียเจ้านายของมันไปนั้นจะหวนคืนกลับสู่จักรวาลเพื่อรอคอยเจ้านายคนใหม่ พวกเขาจึงไม่เคยมีความคิดที่จะเหนี่ยวรั้งอาวุธมายาเอาไว้เลยแม้แต่ครั้งเดียว แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังเอ่ยปากห้ามและแนะนำคนอื่นว่าอย่าไปฝ่าฝืนโชคชะตา!!
ความภาคภูมิใจและความกล้าหาญของนักรบของเขามันหายไปไหนหมดแล้ว!?
ตุบ!
เซธทิ้งตัวลงกระแทกเข่าลงกับพื้น เพราะการต่อสู้ที่เกิดขึ้นตรงหน้าเป็นสิ่งที่อยู่เหนือเกินกว่าความสามารถของเขามากเกินไป จนทำให้มันไม่มีที่ว่างให้เขาเข้าไปแทรกแซงเลยแม้แต่นิดเดียว
ปัจจุบันเซี่ยเฟยได้สังหารควินซี่ลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และเขาก็เริ่มท้าทายกฎของจักรวาลที่มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ ทำให้เซธรู้สึกตกตะลึงจนแทบจะลืมหายใจ นอกจากนี้ยิ่งเขาได้เห็นภาพที่เซี่ยเฟยพยายามเหนี่ยวรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้ มันก็ก่อให้เกิดความชื่นชมชายหนุ่มตรงหน้าขึ้นมาจากใจจริง
20 นาทีที่ผ่านมาเป็นภาพที่ทำให้เซธรู้สึกตกตะลึงมากที่สุดในชีวิต แล้วมันก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ขาของเขาอ่อนแรงจนต้องทิ้งตัวลงมาคุกเข่ากับพื้นแบบนี้
อิ้ว!
ขนอุยพยายามส่งเสียงเชียร์เซี่ยเฟยอย่างสุดความสามารถ และถึงแม้ว่าพฤติกรรมเจ้านายของมันจะไม่ต่างไปจากคนบ้า แต่มันก็เป็นผู้ที่ชื่นชมเซี่ยเฟยยิ่งกว่าใคร ๆ จนทำให้ในปัจจุบันมันแทบที่จะมีนิสัยเหมือนกับเจ้านายของมันในทุก ๆ ด้านแล้ว
ตอนแรกที่พลังงานเอ่อล้นอยู่ในสมองของเขานั้น เซี่ยเฟยรู้สึกเจ็บปวดราวกับหัวของเขากำลังจะระเบิดออกมา แต่เมื่อเขาค่อย ๆ ส่งพลังพวกนั้นผ่านแขนไปยังหงส์ครามอย่างช้า ๆ มันก็ทำให้อาการเจ็บปวดภายในหัวของชายหนุ่มค่อย ๆ บรรเทาลงด้วยเช่นเดียวกัน
แม้ว่าพลังงานส่วนใหญ่จะถูกส่งต่อไปให้กับหงส์คราม แต่ชายหนุ่มก็ยังส่งพลังงานบางส่วนไปทั่วทั้งร่างกายของตัวเองด้วยเช่นกัน โดยพยายามจินตนาการว่าร่างกายของเขาเป็นภาชนะขนาดใหญ่ที่เอาไว้สำหรับการกักเก็บพลังงาน
ในเวลาเดียวกันศิลาหางฟินิกซ์ก็พยายามดิ้นรนกลับสู่จักรวาลอย่างสิ้นหวัง คล้ายกับเครื่องมือที่ถูกตั้งโปรแกรมเอาไว้ภายในพันธุกรรมของตัวเอง แต่ไม่ว่ามันจะพยายามดิ้นรนยังไงมันก็ไม่สามารถที่จะหลุดรอดไปจากพันธนาการของหงส์ครามได้
ตูม!
เซี่ยเฟยกระทืบเท้าของตัวเองลงไปบนพื้น และใช้ร่างของเขาเป็นเหมือนกับเสาหินค้ำยันไม่ให้ศิลาหางฟินิกซ์ลากร่างของเขาให้เคลื่อนที่ไปจากจุดเดิม
หากศิลาหางฟินิกซ์เปรียบเสมือนกับม้าป่าที่กำลังพยศ เซี่ยเฟยก็เปรียบเสมือนกับผู้ฝึกสัตว์ที่กำลังเกาะหลังของม้าตัวนั้นอยู่อย่างเหนียวแน่น ไม่ว่าม้าตัวนั้นจะพยายามดิ้นรนหรือพยศออกมามากแค่ไหน แต่เซี่ยเฟยก็ไม่คิดที่จะปล่อยมือแม้ว่ามันจะนำเขาไปสู่ความตายก็ตาม
ในเวลานี้มันไม่เพียงแต่เซี่ยเฟยที่แสดงความดื้อรั้นของตัวเองออกมาเท่านั้น เพราะทางหงส์ครามก็กำลังแสดงความโดดเด่นของพืชที่ดื้อรั้นที่สุดในจักรวาลออกมาด้วย
ใบหญ้าทั้งสามทำหน้าที่เป็นเสมือนกับเส้นเชือกอันเหนียวแน่นที่ยังคงรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้ และถึงแม้ว่าตัวใบหญ้าจะเกิดความเสียหายจากการเหนี่ยวรั้ง แต่มันก็ยังคงพยายามฟื้นฟูร่างกายของมันให้กลับมาอยู่ในสภาวะปกติตลอดเวลา มันจึงไม่มีทางที่ใบหญ้าพวกนี้จะขาดออกจากกันเลย
กาลเวลาได้ผ่านพ้นไปเรื่อย ๆ และไม่ว่าศิลาหางฟินิกซ์จะพยายามแค่ไหน แต่มันก็ยังไม่สามารถดิ้นรนกลับไปสู่จักรวาลได้ มันจึงเริ่มกระสับกระส่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้พละกำลังทั้งหมดเพื่อดิ้นรนเป็นครั้งสุดท้าย
ทั่วทั้งร่างของเซี่ยเฟยชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ และเมื่อศิลาหางฟินิกซ์ทวีความพยศมากขึ้นกว่าเดิม เขาก็จำเป็นจะต้องใช้กำลังเพื่อรั้งมันมากกว่าเดิมด้วยเช่นกัน
‘อย่ายอมแพ้!’ เซี่ยเฟยตะโกนบอกตัวเองภายในใจ
“นายนี่มันเป็นพวกดื้อด้านจริง ๆ ยอมแพ้ซะเถอะ หงส์ครามใกล้ที่จะถึงขีดจำกัดแล้ว นายลองดูใบหญ้าของมันให้ดี ๆ สิ ถ้านายดิ้นรนมากกว่านี้ระวังใบหญ้าของหงส์ครามจะขาดจนยากที่จะฟื้นฟูมันกลับคืนสภาพมาได้นะ” โอโร่กล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
เซี่ยเฟยนิ่งเงียบโดยไม่ตอบคำถาม เพราะในตอนนี้ทั้งเขาและหงส์ครามใกล้ที่จะถึงขีดจำกัดแล้วจริง ๆ แต่ถึงกระนั้นมันก็ยังไม่มีความคิดที่จะยอมแพ้ปรากฏขึ้นมาภายในใจของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว
สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้สัตว์อสูรผู้ภักดีอย่างขนอุยตระหนักว่ามันจะต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อช่วยเหลือเซี่ยเฟยในช่วงเวลาสำคัญนี้ให้ได้
แม้ว่าในช่วงเวลาปกติมันจะขี้เกียจและกินจุไปบ้าง แต่มันก็ไม่มีใครเคยสงสัยในความภักดีที่มันได้มีต่อเซี่ยเฟยเลย ดังนั้นเมื่อมันเห็นหงส์ครามพยายามช่วยเหลือชายหนุ่มอย่างสุดกำลัง ขนอุยจึงแอบคิดว่ามันอาจจะสูญเสียความโปรดปรานในฐานะสัตว์เลี้ยงอันดับ 1 ของมันไป แล้วมันก็ไม่สามารถที่จะทนรับความอัปยศในครั้งนี้ได้ เพราะว่ามันอยู่กับเซี่ยเฟยก่อนหงส์ครามมาตั้งนานแล้ว
อิ้ว!
ขนอุยส่งเสียงร้องคำรามก่อนที่มันจะอ้าปากงับศิลาหางฟินิกซ์ และพยายามที่จะเหนี่ยวรั้งไม่ให้หินก้อนนี้หวนคืนกลับไปสู่จักรวาล
หนึ่งคน, หนึ่งสัตว์อสูรและหนึ่งอาวุธมายาต่างก็ร่วมแรงร่วมใจกันเหนี่ยวรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้อย่างสุดความสามารถ และการเคลื่อนไหวของขนอุยก็ช่วยเพิ่มกำลังใจให้กับเซี่ยเฟยและหงส์ครามได้มากกว่าเดิม ทำให้พวกเขามีแรงฮึดที่จะเหนี่ยวรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้ต่อไป
ผู้ที่ได้รับผลประโยชน์จากเหตุการณ์ในครั้งนี้มากที่สุดย่อมเป็นเซี่ยเฟยอย่างไม่ต้องสงสัย และเมื่อมันได้มีขนอุยเข้ามาร่วมวงการฉุดรั้งในครั้งนี้ด้วย มันก็ทำให้ศิลาหางฟินิกซ์เริ่มที่จะรู้สึกหมดหวังขึ้นมาเล็กน้อย
ท้ายที่สุดขนอุยก็คืออสูรศักดิ์สิทธิ์ที่โด่งดังไปทั่วทั้งจักรวาล หงส์ครามก็เป็นอาวุธมายาที่ได้กลืนกินอาวุธมายาอีกชิ้นเข้าไปภายในร่างแล้วเช่นกัน ส่วนเซี่ยเฟยก็เป็นนักรบที่ดื้อรั้น เมื่อทั้งสามสิ่งนี้ได้รวมพลังกันมันก็ทำให้แม้แต่นักรบชั้นยอดก็ยังต้องรู้สึกปวดหัว
ศิลาหางฟินิกซ์ถูกดึงกลับไปหาชายหนุ่มอย่างช้า ๆ เนื่องมาจากพละกำลังภายในร่างของมันใกล้ที่จะหมดลงแล้ว
แต่ในทันใดนั้นเองขณะที่ศิลาหางฟินิกซ์กำลังถูกดึงให้ถอยกลับมา จู่ ๆ มันกลับพุ่งตัวไปข้างหน้าด้วยเรี่ยวแรงที่มีมากขึ้นกว่าเดิม
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมจู่ ๆ มันถึงมีกำลังกลับมาอีกครั้ง?” เซี่ยเฟยอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
ปัจจุบันทั่วทั้งศิลาหางฟินิกซ์ถูกลุกท่วมไปด้วยเปลวไฟสีเหลืองส้ม แล้วมันก็ทำให้แม้แต่หงส์ครามที่ถูกเสริมกำลังจากเซี่ยเฟยก็ยังเริ่มมีพื้นที่ที่ไม่เกรียม
ในช่วงขณะที่เซี่ยเฟยกำลังคิดว่าเขาจะจัดการกับอาวุธมายาชิ้นนี้ได้แล้ว จู่ ๆ สถานการณ์มันกลับพลิกผันจนแย่ลงมากขึ้นกว่าเดิม
“ฉันว่านี่มันจะต้องเป็นพลังจากต้นกำเนิดของจักรวาลแน่ ๆ สิ่งที่นายกำลังท้าทายอยู่ในตอนนี้ไม่ใช่ศิลาหางฟินิกซ์อีกต่อไปแล้ว แต่นายกำลังท้าทายกฎของจักรวาลโดยตรง” โอโร่กล่าวเตือนอย่างเหนื่อยล้า เพราะไม่ว่าเขาจะพูดยังไงชายหนุ่มคนนี้ก็ไม่มีท่าทีที่จะยอมปล่อยศิลาหางฟินิกซ์ไปเลยแม้แต่นิดเดียว
เซี่ยเฟยพยายามคิดถึงวิธีการแก้ปัญหานี้อย่างสุดกำลัง แล้วจู่ ๆ มันก็ได้มีคำตอบ ๆ หนึ่งปรากฏขึ้นภายในความคิดของเขา
แควก!
ในระหว่างที่ชายหนุ่มกำลังคิดอยู่นั้น มันก็มีเสียง ๆ หนึ่งดังขึ้นกลางอากาศ ก่อนที่เขาจะได้พบว่าหนึ่งในใบหญ้าทั้งสามมุมของหงส์ครามถูกฉีกกระชากจนขาดออกจากกันแล้ว
“แย่แล้ว!!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกตะลึง เพราะแม้แต่คนโง่ก็สามารถบอกได้เลยว่าถ้าหากใบหญ้าของหงส์ครามขาดลง พวกเขาก็ไม่มีทางที่จะหยุดยั้งศิลาหางฟินิกซ์ได้อีกต่อไป
แต่ในระหว่างที่สถานการณ์กำลังเลวร้ายอยู่นั่นเอง จู่ ๆ ขนอุยก็ส่งเสียงร้องคำรามออกมาดังลั่นพร้อมกับร่างของมันที่พองออก ทำใหม่มันมีขนาดใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม กระแสพลังงานรอบ ๆ ร่างของมันก็ทวีความเข้มข้นขึ้นมาจากเดิมเช่นเดียวกัน และด้วยกระแสพลังงานจากขนอุยที่เพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันอยู่นี่เอง มันจึงทำให้ศิลาหางฟินิกซ์ยังคงถูกรั้งเอาไว้ในตำแหน่งเดิม
สิ่งที่เกิดขึ้นมาหลังจากนั้นเป็นเรื่องที่น่าทึ่งมากยิ่งกว่า เพราะจู่ ๆ หงส์ครามก็สั่นไหวอย่างรุนแรง และมันก็ได้ฟื้นฟูใบหญ้าที่ขาดไปให้กลับมาเหนี่ยวรั้งศิลาหางฟินิกซ์เอาไว้อย่างรวดเร็ว ซึ่งในเวลาเดียวกันมันก็ได้มีใบหญ้าใบใหม่งอกออกมาจากแขนขวาของเซี่ยเฟย
“ใบหญ้าใบที่ 4 หงส์ครามเติบโตในช่วงวิกฤติแบบนี้เนี่ยนะ?!” โอโร่อุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 373
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น