ตอนที่ 699 บ๊วยไฟดำ

-A A +A

ตอนที่ 699 บ๊วยไฟดำ

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 699 บ๊วยไฟดำ

ปัจจุบันเซี่ยเฟยกำลังนั่งเอนกายอยู่บนเก้าอี้ภายในกระโจมอย่างสบายใจ โดยมีเซธยืนเฝ้าอยู่ด้านนอก

ระหว่างนั้นชายหนุ่มก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ออกมาป้อนให้กับขนอุยที่อยู่บนไหล่ โดยในตอนนี้เขามีคริสตัลต้นกำเนิดเหลือกินเหลือใช้ เขาจึงมอบคริสตัลพวกนี้ให้ขนอุยกินได้ตามต้องการ

อย่างไรก็ตามในตอนนี้มันก็ดูเหมือนกับว่าขนอุยจะเริ่มคุ้นเคยกับคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 แล้ว มันจึงไม่ได้รู้สึกดีใจที่ได้รับคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 เหมือนดังเช่นในอดีต

“เฮ้! นี่นายเป็นอะไรไป? อย่าบอกนะว่านายเบื่อคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ไปแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“คราวที่แล้วที่มันงอน นายก็ให้มันกินคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 เข้าไปเป็นจำนวนมาก มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลกนะที่มันจะเบื่อ แต่ฉันกล้ารับประกันได้เลยว่าถ้าหากนายให้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 กับมันไป มันจะต้องกลับมากระดี๋กระด๋าเหมือนเดิมแน่ ๆ” โอโร่กล่าว

“ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็คงจะมีความสุขจริง ๆ แต่ผมคงจะเป็นทุกข์แทน ยิ่งไปกว่านั้นคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ก็ไม่ได้มีให้แลกเปลี่ยนกันง่าย ๆ เผลอ ๆ ถ้าไม่ใช่ตัวตนระดับตระกูลใหญ่ก็คงจะไม่สามารถหาซื้อคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 มาได้ด้วยซ้ำ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับแบะริมฝีปาก

ท้ายที่สุดปรมาจารย์ผู้เชี่ยวชาญการกลั่นพลังงานระดับสูงก็หาได้ยากมาก คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 จึงถือได้ว่าเป็นแหล่งพลังงานระดับสูงของคนธรรมดาอยู่แล้ว 

ดังนั้นถึงแม้ว่าเซี่ยเฟยจะต้องการใช้คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ไปแลกเปลี่ยนกับคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 ด้วยอัตรา 300 ต่อ 1 ก็ตาม แต่เขาก็เกรงว่ามันคงจะไม่มีใครยอมแลกคริสตัลต้นกำเนิดระดับสูงอันมีค่าพวกนั้นกับคริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ของเขา

“คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 5 เป็นสิ่งที่หาได้ยากมากจริง ๆ แต่มันก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับราชวงศ์ไลอ้อนฮาร์ท ถ้านายอยากได้คริสตัลพวกนั้นนายก็แค่ต้องติดต่อไปหาฮีธฟิลด์” โอโร่กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผมไม่ชอบเป็นหนี้บุญคุณคนอื่นมากเกินไป ตอนนี้แค่คริสตัลต้นกำเนิดระดับ 4 ก็เพียงพอแล้ว พวกเราไม่จำเป็นจะต้องเอาใจขนอุยมากขนาดนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยไม่สนใจ โอโร่ก็เปลี่ยนหัวข้อไปคุยเรื่องอื่น

“คราวนี้การที่นายเอาชนะลาคูสน่าจะช่วยเพิ่มชื่อเสียงของนายได้มาก ฉันอยากจะรู้จริง ๆ ว่าชื่อเสียงของนายในตอนนี้มันมากพอที่จะลากควินซี่ออกมาจากรูได้แล้วหรือยัง?”

“ถ้าหากว่าผมเป็นควินซี่ที่มีพลังหยุดชะงักมานานแล้ว ผมจะไม่ปล่อยโอกาสดี ๆ แบบนี้ไปแน่นอน ผมเชื่อว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาได้รู้ถึงข่าวลือของผม เขาจะต้องรีบมาหาผมแน่ ๆ” เซี่ยเฟยกล่าว

“ฉันก็หวังว่ามันจะเป็นอย่างที่นายพูด” โอโร่กล่าวด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยจิตสังหาร และถึงแม้ว่าเหตุการณ์ในอดีตมันจะเกิดขึ้นมาเนิ่นนานแล้ว แต่ชายคนนี้ก็ยังคงจดจำความแค้นเอาไว้ได้เป็นอย่างดี

“ว่าแต่นายไปเรียนเรื่องการปรุงยามาจากใคร? ไม่น่าเชื่อเลยว่านายจะมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องการปรุงยามากกว่าลาคูสซะอีก” โอโร่ถามอย่างสงสัย

ยิ่งโอโร่รู้จักเซี่ยเฟยมากเท่าไหร่ เขาก็ได้ค้นพบว่าชายหนุ่มคนนี้ยังมีมุมที่เขายังไม่รู้จักให้ค้นพบมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งในชั่วครู่หนึ่งโอโร่ก็เคยสงสัยว่าเซี่ยเฟยไม่ใช่มนุษย์จากสังคมชั้นล่าง แต่เป็นสมาชิกในตระกูลขนาดใหญ่ของดินแดนกฎ เพราะเขาไม่สามารถหาคำอธิบายใด ๆ มาอธิบายการกระทำที่น่าตกใจของชายหนุ่มคนนี้ได้

“ผมศึกษาวิชาปรุงยาด้วยตัวเองมานานหลายปีแล้ว และสาเหตุที่ผมเอาชนะลาคูสได้แบบนี้ นั่นก็เพราะว่าวิธีการปรุงยาของพวกเราใช้วิธีที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง โดยวิธีการของผมค่อนข้างที่จะเป็นวิธีที่สุดโต่งไปสักหน่อย ลาคูสจึงคิดว่าน้ำยาที่ผมผลิตเป็นยาพิษมากกว่ายารักษา” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์

“ประมาณว่าลาคูสเรียนวิชาการปรุงยาตามวิธีปกติ แต่นายเรียนวิชาการปรุงยาแบบพิสดารมาใช่ไหม? เขาเลยไม่สามารถใช้ความรู้ความเข้าใจแบบปกติในการทำความเข้าใจวิธีการปรุงยาแบบพิสดารของนายได้” โอโร่พยายามกล่าวสรุป เพราะว่าเขาไม่ค่อยเข้าใจเรื่องเกี่ยวกับการปรุงยามากนัก

“จะพูดแบบนั้นก็ได้” เซี่ยเฟยตอบกลับอย่างสบาย ๆ

ยิ่งมันได้มีเหตุการณ์ในวันนี้โอโร่ก็ยิ่งอยากจะชักจูงเซี่ยเฟยเข้าร่วมกับตระกูลของเขามากเข้าไปใหญ่ แต่เขารู้ดีว่าเซี่ยเฟยเป็นพวกหัวแข็งมากแค่ไหน ดังนั้นเขาจึงต้องค่อย ๆ พยายามชักจูงชายหนุ่มไปอย่างช้า ๆ

“เวลาที่นายว่าง ๆ ฉันจะอธิบายถึงวิธีการต่อสู้ของควินซี่กับวิธีการจู่โจมของศิลาหางฟินิกซ์ ให้นายฟังในระหว่างที่พวกเรากำลังรอเหยื่อเข้ามาติดกับก็แล้วกัน” โอโร่กล่าวอย่างจริงจัง

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับ เพราะการได้รู้ข้อมูลเกี่ยวกับศัตรูก่อนลงสนามรบเป็นเรื่องที่ควรทำตามปกติอยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าโอโร่จะเล่าเรื่องควินซี่ให้กับเขาฟังมากกว่าหนึ่งครั้ง แต่เขาก็ยังคงฟังคำแนะนำพวกนั้นอย่างตั้งใจ

เหตุการณ์ต่าง ๆ ดำเนินไปเร็วกว่าที่เซี่ยเฟยได้คาดการณ์เอาไว้มาก เพราะในระหว่างที่เขากับโอโร่กำลังพูดคุยถึงวิธีการจัดการกับควินซี่ จีเวนต์กับโจอี้ก็ได้มาปรากฏตัวหน้ากระโจมของเขาแล้ว

ผู้นำของชาวบัลรอคให้เซธมาบอกกับชายหนุ่มว่าพวกเขามีเรื่องสำคัญที่จะต้องปรึกษากับเซี่ยเฟยเป็นการด่วน ชายหนุ่มจึงมีความมั่นใจมากกว่า 70% ว่าเรื่องนี้มันจะต้องเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับควินซี่แน่ ๆ

“ตอนนี้ลาคูสกับลูกศิษย์ทุกคนของเขาหนีกลับไปจนหมดแล้ว ฉันเลยเป็นหมอคนเดียวที่ยังอยู่ที่นี่ หากดูจากจำนวนคนไข้ฉันก็คิดว่าอย่างน้อยมันน่าจะต้องใช้เวลาประมาณ 2 วัน ฉันจึงจะสามารถวินิจฉัยและรักษาพวกเขาได้ทั้งหมด” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความลำบากใจ

“ท่านหมออาเฟยไม่จำเป็นจะต้องกังวล คุณแค่ต้องไปรักษาผู้อาวุโสคนหนึ่งเท่านั้น ส่วนคนไข้รายอื่นมันไม่มีใครกล้าที่จะโวยวายอย่างแน่นอน” โจอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“พวกเราก็มีจรรยาบรรณเป็นของตัวเอง ในสายตาของพวกเราคนไข้ทุกคนจึงมีสิทธิ์ที่ได้รับการรักษาเท่าเทียมกัน ทำไมคุณถึงไม่พาผู้อาวุโสคนนั้นมาที่นี่ล่ะ แล้วเดี๋ยวฉันจะหาเวลาไปตรวจดูอาการของเขาให้” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับส่ายหัว

หากเซี่ยเฟยตอบตกลงจีเวนต์กับโจอี้จะต้องพาเขาออกไปจากที่นี่ และไปยังสถานที่ซ่อนของควินซี่อย่างแน่นอน 

อย่างไรก็ตามเขาได้ทำการตรวจสอบภูมิประเทศของดาวดวงนี้โดยละเอียดแล้ว แต่เขายังไม่เคยตรวจสอบภูมิประเทศในพื้นที่ที่ควินซี่หลบซ่อนตัวอยู่เลย การเดินทางไปยังสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยย่อมเป็นเรื่องที่อันตรายกว่าการอยู่ในพื้นที่ที่คุ้นเคยมาก ดังนั้นเขาจึงใช้ความพยายามที่จะดึงควินซี่เข้ามาในดาวเคราะห์ดวงนี้แทน

“พวกเราซาบซึ้งใจมากที่คุณหมอเป็นคนดีแบบนี้ แต่ผู้อาวุโสของเราไม่สะดวกที่จะเดินทางมาที่นี่จริง ๆ รบกวนคุณหมออาเฟยช่วยเดินทางไปตรวจอาการให้กับเขาด้วย” จีเวนต์กล่าวด้วยความลำบากใจ

หลังจากพูดจบจีเวนต์ก็แอบส่งสัญญาณให้กับโจอี้ ผู้ช่วยของเขาที่เข้าใจสัญญาณนี้เป็นอย่างดีจึงรีบหยิบกล่องที่ถูกสร้างขึ้นมาอย่างปราณีตออกมามอบให้กับเซี่ยเฟย

“นี่มันอะไร?” เซี่ยเฟยเปิดกล่องออกอย่างเบามือ ก่อนที่เขาจะได้เห็นผลบ๊วยสีเข้ม 12 ผลวางอยู่ด้านใน ซึ่งผลบ๊วยแต่ละผลมีขนาดใหญ่มากกว่าลูกปิงปอง และพวกมันก็ส่งกลิ่นหอมตลบอบอวลไปทั่วทั้งกระโจม

“นี่มันบ๊วยไฟดำ!” เซี่ยเฟยอุทานออกมาด้วยความตกใจ

“สมแล้วที่เป็นคุณหมออาเฟย ใช่แล้วผลไม้พวกนี้คือบ๊วยไฟดำ ซึ่งเป็นบ๊วยไฟที่ดีที่สุดที่จะออกผลมาให้เก็บเกี่ยวทุก ๆ 100 ปีเท่านั้น ผลบ๊วยไฟดำทั้ง 12 ผลนี้คือบ๊วยไฟดำทั้งหมดที่มีในเผ่าของพวกเราแล้ว” 

“ตราบใดก็ตามที่คุณหมออาเฟยตกลงที่จะไปรักษาให้กับผู้อาวุโสของพวกเรา พวกเราก็ยินดีที่จะมอบผลไม้พวกนี้เป็นค่ารักษาให้กับคุณ” จีเวนต์กล่าวด้วยรอยยิ้ม

“ผลไม้พวกนี้เป็นสิ่งล้ำค่ามากจริง ๆ ฉันรู้สึกลำบากใจที่จะต้องรับพวกมันไปมากเลย” เซี่ยเฟยกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม และถึงแม้ว่าปากของเขาจะพูดว่าลำบากใจ แต่มือของเขากลับเก็บผลไม้พวกนั้นเข้าไปในแหวนมิติเรียบร้อยแล้ว

จีเวนต์กับโจอี้เผยรอยยิ้มให้แก่กัน เมื่อเห็นว่าเซี่ยเฟยยอมรับของกำนัลของพวกเขาไปโดยไม่อิดออดใด ๆ

“พวกเรารู้ดีว่าจุดประสงค์หลักที่คุณหมอเดินทางมาที่เผ่าของพวกเราในครั้งนี้ นั่นก็เพราะว่าคุณต้องการบ๊วยไฟเป็นสิ่งตอบแทน ตลอดเวลาที่ผ่านมาพวกเราจึงพยายามรวมกำลังทุกคนภายในเผ่าจัดหาบ๊วยไฟระดับสูงมาให้กับคุณอย่างเต็มที่”

“ถ้าหากว่าภารกิจในครั้งนี้สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี นอกจากบ๊วยไฟดำเหล่านี้แล้วเราก็ยังจะมีบ๊วยไฟคุณภาพสูงอีก 30,000 ผลมอบเป็นของขวัญให้กับคุณหมอด้วย” โจอี้กล่าวรอยยิ้มขณะที่จีเวนต์แอบเจ็บปวดอยู่ลึก ๆ เพราะการลงทุนในครั้งนี้ถือว่าเป็นการลงทุนครั้งใหญ่มากภายในเผ่าพันธุ์ของพวกเขา

บ๊วยไฟดำแต่ละผลมีมูลค่ามากกว่า 10,000 คริสตัลเหลือง ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกมันปรากฏขึ้นมาในตลาดได้ยากมาก การที่ชนเผ่าที่ยากจนกล้าลงทุนให้ของขวัญเซี่ยเฟยด้วยมูลค่ามหาศาลแบบนี้ มันจึงทำให้ชายหนุ่มมีความมั่นใจ 100% แล้วว่าผู้อาวุโสที่พวกจีเวนต์พูดถึงจะต้องเป็นควินซี่แน่ ๆ

“ควินซี่เป็นคนที่ระมัดระวังตัวมาก เท่าที่ฉันรู้เขาก็วางแผนมานานหลายปีก่อนที่จะเลือกลงมือในตอนที่ฉันไม่อยู่ โชคดีที่ตอนนั้นฉันบังเอิญกลับมาพอดีแผนการของเขาจึงล้มเหลว การที่พวกเขาเชิญนายไปหาแบบนี้มันสอดคล้องกับนิสัยของควินซี่เลย ฉันว่านายควรตอบรับคำขอของพวกเขาไปนะ” โอโร่กล่าวอย่างตื่นเต้น

“ถ้าไม่เข้าถ้ำเสือก็คงจะไม่ได้ลูกเสือสินะ ในเมื่อเขาเป็นคนระวังตัวขนาดนั้น พวกเราก็คงจะต้องไปหาเขาในถ้ำแล้วล่ะ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม

จีเวนต์เริ่มใช้งานเข็มทิศมิติเพื่อเปิดประตูมิติไปยังสถานที่ที่เซี่ยเฟยไม่รู้จัก ขณะที่โจอี้เปิดใช้งานเข็มทิศมิติอีกอัน เนื่องมาจากเข็มทิศมิติของพวกเขาเป็นเข็มทิศมิติระดับล่างที่สามารถรองรับการเดินทางได้เพียงแค่ 2 คน

“เชิญคุณหมอเข้าไปได้เลยครับ” จีเวนต์ผายมือเชื้อเชิญให้เซี่ยเฟยเดินเข้าไปภายในประตูมิติ

ชายหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะเดินเข้าไปในประตูมิติและปรากฏตัวขึ้นมายังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง

ร้อนมาก!

สถานที่แห่งนี้นี้มีสภาพอากาศร้อนมากกว่าพื้นที่ที่พวกบัลรอคอาศัยอยู่เสียอีก แต่สภาพแวดล้อมแบบนี้มันก็ช่วยลดความเสี่ยงของอาการเจ็บปวดที่ควินซี่เผชิญอยู่ได้

แสงสว่างอันเจิดจ้าของสถานที่แห่งใหม่ ทำให้เซี่ยเฟยจำเป็นจะต้องใช้เวลาในการปรับสายตาเข้ากับแสงสว่างนานพอสมควร และเมื่อชายหนุ่มได้สังเกตสภาพแวดล้อมบริเวณนี้อย่างถี่ถ้วน เขาก็ได้พบว่าดินแดนแห่งนี้คือดินแดนอันโดดเดี่ยวที่ล่องลอยอยู่บนท้องฟ้า

พื้นที่ที่เขายืนอยู่ในปัจจุบันนั้นเป็นเกาะขนาดประมาณ 1 ตารางกิโลเมตร ที่มีปราสาทตั้งอยู่ตรงกลางราวกับปราสาทในตำนานที่ตั้งอยู่บนเกาะลอยฟ้า

“ไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมฉันถึงหาควินซี่ไม่เจอ ที่แท้สถานที่ที่เขาอาศัยอยู่มันสามารถเคลื่อนย้ายได้ตลอดเวลานี่เอง” เซี่ยเฟยพึมพำขึ้นมาเบา ๆ

สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้เซธรู้สึกหวาดกลัวมาก และเขาก็พยายามติดตามเซี่ยเฟยอย่างใกล้ชิดด้วยความกังวลใจ

ในทางกลับกันจีเวนต์กับโจอี้ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นจนแทบจะน้ำตาไหล เพราะโอกาสได้พบควินซี่มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ สำหรับพวกเขาเลย

หลังจากเดินขึ้นบันไดปราสาทโปร่งใสเซี่ยเฟยก็มองเห็นร่างสูงสีดำขนาดใหญ่ในปราสาท แต่เนื่องมาจากว่าในปัจจุบันภาพที่เห็นยังค่อนข้างคลุมเครือ ชายหนุ่มจึงยังไม่แน่ใจว่าผู้ที่ปรากฏตรงหน้าใช่ควินซี่หรือไม่

ในขณะที่จีเวนต์กำลังจะเคาะประตู จู่ ๆ ประตูคริสตัลขนาดใหญ่ที่มีความสูงมากกว่า 10 เมตรก็ถูกเปิดออกโดยอัตโนมัติ

แอ๊ดดดด!

ภาพที่ปรากฏทันทีที่เซี่ยเฟยก้าวเดินข้ามผ่านประตูคือหินสีดำที่ถูกปกคลุมไปด้วยเปลวไฟลอยอยู่ในอากาศ และกำลังจับจ้องมองไปยังพวกเขาอย่างใกล้ชิด

“นั่นมันศิลาหางฟินิกซ์! ในที่สุดพวกเราก็หาตัวมันเจอแล้ว!!” โอโร่อุทานขึ้นมาเสียงดัง

***************

เจอแล้วก็จริง แต่จะจัดการยังไงนี่สิน่าปวดหัว

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ คัดลอก หรือนำไปดัดแปลงโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืนแล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ที่ keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงานจะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Rights Reserved.