บทที่ 11...3/3
เพียงครู่เดียวประตูห้องก็เปิดออก รอยยิ้มของภามราวกับภูมิใจว่าหากล่องปฐมพยาบาลเจอแล้ว ทำให้เมษาอุ่นอยู่ในอก เขาอ่อยเธอด้วยวิธีนี้งั้นหรือ ถ้าอย่างนั้นเธอจะไปไหนรอดได้
ภามนั่งที่พื้นเหมือนเดิมพลางเปิดกล่องแล้วหยิบยานวดบรรเทาปวดมาเปิดหลอด เขาบีบยานวดมาที่ปลายนิ้ว เมษาจับข้อมือเขาไว้ ภามเงยหน้ามองใช้สายตาแทนการถามว่าทำไม
“ฉันนวดเองก็ได้นะคุณภาม” เมษาเอ่ยเสียงเบาเพราะสายตาที่มองมาของเขานั่นแหละ ความใกล้แม้ไม่ได้ตั้งใจ แต่ก็มีผลต่อความรู้สึก การชอบใครสักคนเป็นเรื่องยากสำหรับเธอ แต่การชอบภามช่างง่ายดายเพียงแค่สบตาที่เว้าวอนคู่นั้น “คือว่าฉันแค่เกรงใจ ไม่ได้คิดรังเกียจหรืออะไรเลย คุณอย่าเข้าใจผิดนะ”
เมษาอาจจะไม่รู้ว่าเขาเป็นคนที่น้อยใจกับคนที่ชอบหรือรักเสมอ เพียงคำพูดไม่กี่คำของเธอก็ทำให้เขาสบายใจได้แล้ว แต่เขาจะนั่งมองเธอนวดข้อเท้าของตัวเองได้อย่างไร หากเขาอยากช่วยเธอแม้ไม่ต้องออกปาก
“ผมเต็มใจ อยากทำให้คุณ ว่าแต่ทำไมคุณถึงวูบไปแบบนั้น เอาไว้พรุ่งนี้ผมพาคุณไปหาหมออีกรอบดีไหม อ้อ ผลตรวจร่างกายของคุณอยู่ที่ผมแล้วนะ โดยรวมแล้วคุณปกติดี แต่ทำไมวันนี้ถึงวูบอีกแล้ว”
ตั้งแต่เขาได้พบเมษา เธอเลือดกำเดาไหลและใบหน้าซีดไปกี่ครั้งแล้วนะ เขาเริ่มคิดว่ามันอาจจะเกี่ยวการที่เธอเป็นสื่อกลางให้ระหว่างเขากับพี่ชายหรือเปล่า แม้ว่าผลการตรวจร่างกายที่เขาพาเมษาไปหาหมอคราวก่อนจะไม่มีอะไรผิดปกติเลยก็ตาม
“ฉันลื่นก็เลยหัวไปกระแทกกับชั้นวางแล้ววูบเท่านั้นเองค่ะ แต่เสียงพวกขวดยาสระผมตกมันคงดังมาก คุณถึงได้ยิน”
ภามเม้มปากเมื่อนึกสภาพตัวเองตอนที่พยายามชะโงกมองมาที่ห้องของเมษา หากเธอเห็นเขาในตอนนั้นอาจหัวเราะจนท้องแข็งกระมัง
“ใช่ เสียงดังมาก ผมถึงได้ยินไง พอโทรหาแล้วคุณไม่รับ ผมก็เลยหาวิธีมาหาคุณให้ได้”
นิ้วเรียวของชายหนุ่มกดนวดเบาๆ ที่ข้อเท้าของหญิงสาว ข้อเท้าของเธอไม่บวม แต่เป็นรอยแดงๆ ภามเงยหน้าแล้วยิ้มให้เมษาที่กำลังเม้มปาก
“ผมจะพยายามเบามือนะ ผมไม่ได้ทำแบบนี้นานแล้ว”
ความอ่อนโยนทั้งน้ำเสียงและการกระทำของภาม ทำให้เมษาเริ่มมีความกล้าอีกครั้ง หากจะรักผู้ชายคนนี้ เธอจะเสียใจอีกไหมนะ แต่เมื่อคิดว่าในวันพรุ่งนี้หรืออีกหลายวันต่อจากนี้ เธอจะไม่ได้พบเขาอีก ความรู้สึกจากหัวใจและสมองบอกเมษาว่าอย่ากลัวจนเสียโอกาสที่จะได้พบผู้ชายดีๆ สักคน
“เรื่องวันนี้คุณไม่พอใจบ้างหรือเปล่าคะ เพราะว่าฉันกันคุณออกไปแบบนั้น”
ภามยิ้มใส่ตาคนช่างใส่ใจ “ตอนแรกผมก็รู้สึกนิดหน่อย ปกติแล้วผมชอบจัดการนั่นนี่ให้เรียบร้อย ชอบให้คนที่อยู่ใกล้ๆ รู้สึกสบาย ไม่ต้องรู้สึกว่ามีปัญหาจนเครียด แต่พอมาคิดๆ ดู ผมควรจะดีใจที่คุณเข้มแข็ง การเป็นแฟนกับผมคงต้องพบเจออะไรอีกหลายอย่าง บางอย่างก็อาจจะทำให้รู้สึกว่าคนบนโลกนี้ช่างโหดร้าย”
มือบางยื่นไปจับไหล่หนาพลันเกิดคำถามว่าเขาไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมเราถึงเพิ่งมาพบกัน การให้เกียรติ คำพูดปลอบใจ การอยากปกป้อง แบบนี้ไม่ใช่หรือที่เธอปรารถนาจากใครสักคนมาตลอด แต่ก็ปิดกั้นตัวเองเพราะอดีตที่เคยเจ็บช้ำ
“ที่ผ่านมาฉันเคยมีความรัก และมันจบด้วยความเสียใจ แต่ฉันก็เฝ้ารอใครสักคนที่จะอยู่ข้างๆ แล้วเชื่อมั่นในตัวฉัน ช่วยเหลือฉันในเวลาที่ร้องขอ ทำให้วันที่อ่อนล้ากลายเป็นวันดีๆ ฉันคิดว่าที่พูดมาทั้งหมด คุณคือคนนั้นสำหรับฉันค่ะ”
ราวกับภามได้ยินคำบอกรักที่ทำให้หัวใจเย็นชื่น เต้นเร่า เมษาเปิดใจให้เขาแล้ว ภามดันตัวขึ้นมาเพื่อที่จะกอดร่างหอมละมุนไว้ในอ้อมแขน แล้วพอเมษากอดตอบเขาด้วยสองแขนของเธอ ความสุขของเขายิ่งเอ่อท้นใจ ที่ผ่านมาเมษาไม่เคยกอดเขากลับ เป็นเขาที่แสดงให้เธอเห็นและรับรู้ความรู้สึก ยามที่เธอเอ่ยว่าเขาคือคนนั้นสำหรับเธอ มันราวกับรางวัลของการรอคอย
“ต่อไปนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ถึงแม้คุณจะบอกว่าเข้มแข็งขนาดไหน แต่ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมเข้าใจและจะคอยอยู่ข้างหลังคุณ เป็นลมใต้ปีกให้คุณ ไม่ต้องกลัวอะไร”
การแนบแก้มกับซอกไหล่หนาของผู้ชายที่หัวใจกำลังซึมซับความรู้สึกของการถูกชอบมันทำให้ปัญหาที่แบกไว้ราวกับเบาลงได้แบบนี้เอง เมษาไม่ได้ต้องการให้ภามปัดเป่าทุกปัญหาในชีวิตให้เธอ เธอแค่อยากมีใครสักคนให้กอด ได้เล่าเรื่องราวในแต่ละวัน ได้กอดในวันที่มีความสุข มีคนซับน้ำตาในวันที่เธอมีความทุกข์ เธอพยายามเข้มแข็งมานาน จนบางครั้งก็อยากอ่อนแอต่อหน้าใครสักคนโดยที่ไม่ต้องเขินอาย ภามทำให้เธอรู้สึกแบบนั้น
“เสื้อของคุณเปียกหมดแล้ว”
เมษาหัวเราะเบาๆ พลางคลายกอด ภามเลื่อนแขนออกมาจากร่างที่โหยหาอย่างอ้อยอิ่ง ไม่สนใจเสื้อที่เปียกเพราะผมของเมษา ทว่าพอมองนาฬิกาแล้วก็ต้องหักใจ ตอนนี้เกือบ 4 ทุ่มแล้ว เมษาควรได้นอนพักเพราะเหนื่อยมาทั้งวัน
“ผมคงต้องกลับห้องแล้ว คุณจะได้เข้านอน แต่ต่อไปถ้าผมมาเคาะประตูห้องแบบนี้” ภามเคาะที่พื้นเป็นจังหวะที่ต่อไปมันจะเป็นโค้ดลับระหว่างเราสองคน “ช่วยเปิดประตูได้ไหม”
เมษาเม้มปากแกล้งหรี่ตาใส่ “คุณจะมาทำไมอีกคะ”
ภามหมั่นเขี้ยวจนอดใจไม่ไหวยื่นมือไปจับแก้มนุ่มเย็นสดชื้นของเมษา
“ผมก็จะมาจีบคุณเรื่อยๆ น่ะสิ กลางวันผมทำงาน พอหลังจากนั้น เวลาของผมจะเป็นของคุณ”
ชายหนุ่มหยิบกุญแจออกมาจากกระเป๋าเสื้อ ถ้าไม่ได้ยินเสียงโครมจากห้องเมษา ตอนนี้เขาคงได้มอบให้เธอตอนที่เรายืนอยู่ที่ระเบียงหน้าห้องไปแล้ว แต่เขาดีใจที่ได้มอบให้เธอในตอนนี้มากกว่า มือหนาเลื่อนไปจับมือบางมาแบออกแล้ววางกุญแจไว้
“ผมให้คุณไว้ เผื่อคุณต้องการความช่วยเหลือ อยากหาที่นั่งเล่น ผมยินดีต้อนรับคุณ”
เมษากำมือรับกุญแจแล้วเอื้อมไปวางที่หัวเตียงให้เขาดีใจว่าสิ่งนี้ที่เขาให้ เธอเห็นความสำคัญ ภามยิ้มกว้างเข้าใจความหมายสื่อความนัยนั้น ชายหนุ่มไม่อยากบอกลาจึงเดินไปที่ประตูห้องแล้วโบกมือให้เธอพร้อมกับบอกว่าจะล็อคลูกบิดตรงประตูดาดฟ้าให้ แล้วประตูก็ปิดลง
เมษาเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าภามมาหาเธอทางไหน หญิงสาวลุกขึ้นเดินเพื่อไปหยิบกุญแจเข้าตึกของเธอ หมายใจแล้วว่าจะไปปั๊มเพิ่มอีกดอกเพื่อให้ภามไว้ หากเขามีปัญหามีเรื่องไม่สบายใจ เธอก็ยินดีต้อนรับเขาเหมือนกัน
ขอเล่าประสบการณ์เพิ่งรู้ตอนไปเที่ยวแล้วพักโฮสเทล มันเป็นตึกแถวซอยเป็นห้องๆ แล้วตอนเย็นโบว์ขึ้นดาดฟ้าไปนั่งเล่น ถึงได้เห็นว่าถ้าข้ามกำแพงเตี้ยๆ ที่กั้นระหว่างตึกแถวไป มันจะไปถึงประตูบนดาดฟ้าของตึกแถวคูหาข้างๆ ได้ คนอยู่บ้านเดี่ยวที่ไม่ติดกับใครเลยได้เปิดโลก(ที่คนอื่นอาจจะรู้แล้ว) แต่โบว์เพิ่งรู้ว่ามันทำได้ 555
ใจดวงนี้สื่อถึงรักลงขายเป็น E-Book ใน MEB แล้วค่ะ หมวดนิยายรัก
โดยโบว์ทำโปรโมชั่นลดเหลือ 149 บาทจาก 329 บาท เหลือเวลา 12 วัน และจะลงให้อ่านถึงบทที่ 14 นะคะ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 189
แสดงความคิดเห็น