บทที่ 591: นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

-A A +A

บทที่ 591: นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

หลงโม่ที่อยู่ข้างหลังหูเจียวเจียวยืนนิ่ง ตั้งแต่มาถึงที่นี่ เขาไม่ได้พูดอะไรสักคำเดียว

 

เพราะตอนนี้เขากำลังเพ่งสมาธิไปที่การควบคุมอารมณ์ของตัวเอง

 

ชายหนุ่มกลัวว่าเขาจะทนไม่ไหวจนเผลอก้าวไปฉีกศัตรูออกเป็นชิ้น ๆ แล้วการกระทำนั้นก็จะขัดขวางแผนการของเจียวเจียว

 

อย่างไรก็ตาม ในสายตาของหยินซาง เขาคิดว่ามังกรหนุ่มกำลังกลัวจนหัวหด

 

เขาหัวเราะเยาะเย้ยอีกฝ่ายก่อนจะพูดว่า

 

“ข้าคิดว่าภูตมังกรนั้นทรงพลังมาก ที่แท้ก็มีแต่พวกขี้ขลาด…”

 

หลังจากหัวหน้าเผ่าไป๋ผีกล่าวจบ เขาก็หันกลับไปมองหยินชาง

 

“เจ้าดูสิว่าตัวเองมีค่าแค่ไหนในสายตาของคนพวกนี้ พอเกิดเรื่องขึ้นมาจริง ๆ พวกเขาก็ทิ้งเจ้าเหมือนเป็นขยะชิ้นหนึ่ง แต่ข้าไม่เหมือนพวกเขาหรอกนะ ขอแค่เจ้าเชื่อฟังข้า ข้าก็จะดูแลเจ้าเหมือนเจ้าเป็นลูกของข้าเอง”

 

ในเวลาเดียวกัน หลงหลิงเอ๋อรีบหันหน้าไปมองเด็กหนุ่มอย่างกังวลใจ

 

นางรีบอธิบายว่า “หยินชาง มันไม่ใช่แบบนั้นนะ ท่านพ่อท่านแม่ก็ห่วงใยเจ้าเหมือนกัน เราทุกคนคิดว่าเจ้าเป็นคนในครอบครัวของเรามาตลอด เจ้าอย่าไปฟังสิ่งที่ผู้ชายคนนั้นพูด...” 

 

เด็กหญิงกลัวว่าหยินชางอาจเข้าใจพวกนางผิด 

 

เมื่อสักครู่นางก็รู้สึกตกใจมากที่ผู้เป็นแม่ตัดสินใจแบบนั้น

 

วันนี้เกิดอะไรขึ้นกับท่านแม่? 

 

ถ้าเป็นในยามปกติ นางจะไม่มีวันทำอะไรแบบนี้... 

 

“ถุย!” หยินชางถ่มน้ำลายใส่หน้าหัวหน้าเผ่าไป๋ผีแบบไม่เกรงกลัว 

 

ทันใดนั้นใบหน้าของหยินซางที่เคยสว่างสดใสก็พลันมืดมน 

 

“นี่เจ้า!” 

 

“พวกเจ้าจะยังแลกเปลี่ยนตัวข้าอยู่หรือเปล่า รีบ ๆ หน่อย!” หูเจียวเจียวเร่งเร้าด้วยเสียงเย็นชา

 

ทางด้านหยินซางคิดว่าพอถึงเวลานั้น เขาก็จะมีลูกเป็นหมอผีของตัวเองเช่นกัน แล้วในอนาคตก็ไม่มีอะไรที่เขาจะต้องกังวลอีก

 

เมื่อชายหนุ่มนึกถึงสิ่งนี้ เสียงของเขาก็ฟังดูตื่นเต้นขึ้นมา

 

“เปลี่ยนอยู่แล้ว เจ้าเดินมาตรงนี้ก่อนสิ!”

 

หูเจียวเจียวไม่เสียเวลา เธอก้าวไปข้างหน้าอย่างเด็ดเดี่ยวโดยที่เธอค่อย ๆ เดินห่างไปจากหลงโม่ช้า ๆ

 

หยินซางที่เฝ้ารออยู่แล้วก็หันไปขยิบตาให้กับคนที่ควบคุมตัวหลงหลิงเอ๋อ

 

ในไม่ช้าลูกน้องคนนั้นก็ปล่อยเด็กหญิงและผลักนางไปข้างหน้า

 

ยามนี้หลงหลิงเอ๋อรู้สึกลังเล นางคอยหันกลับไปมองหยินชางข้างหลังสลับกับแม่จิ้งจอกที่อยู่ด้านหน้า

 

ไม่นานเม็ดเหงื่อโต ๆ ก็ผุดขึ้นมาบนหน้าผากขาวเนียนเพราะความวิตกกังวล

 

ถ้าจะเปรียบเทียบกัน ในตอนนี้หยินชางดูสงบกว่านางมาก ใบหน้าของเขานิ่งเฉยไม่แสดงออกถึงอารมณ์ใด ๆ ในขณะที่เขาพูดเร่งเร้าคนตัวเล็กเสียงต่ำ “หลิงเอ๋อ รีบเดินไปเร็วเข้า”

 

เขามั่นใจว่าน้าเจียวเจียวจะต้องจงใจทำแบบนี้

 

ท่ามกลางสถานการณ์คับขัน เขาไว้ใจนางโดยไม่มีข้อกังขาใด ๆ

 

ทางด้านหลงหลิงเอ๋อยังคงไม่หายกังวล แต่พอคิดถึงท่าทางที่ท่านแม่แสดงออกเมื่อสักครู่ซึ่งมันดูมีความหมายอื่นแอบแฝงอยู่ นางจึงกัดฟันเดินไปหาอีกฝ่าย

 

เมื่อหยินชางเห็นเด็กหญิงเดินจากไปทีละก้าวและค่อย ๆ ขยับออกห่างจากภูตเผ่าไป๋ผีที่น่าขยะแขยงพวกนี้ ในที่สุดเขาก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม ขอแค่หลิงเอ๋อปลอดภัยก็พอแล้ว...

 

 

อีกด้านหนึ่งในเวลาเดียวกัน

 

เงาดำเล็ก ๆ ทั้ง 4 ได้แอบเข้าไปในถิ่นที่อยู่อาศัยของภูตเผ่าไป๋ผีอย่างเงียบเชียบ

 

ปัจจุบันภูตเผ่าไป๋ผีส่วนใหญ่ติดโรคระบาด พวกเขาจึงซ่อนตัวกันอยู่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหน

 

บริเวณโดยรอบนั้นเป็นทุ่งหญ้ารกครึ้ม ประกอบกับบรรยากาศยามค่ำคืนเลยทำให้ไม่มีใครเห็นเด็กชายทั้ง 4 คน

 

ตอนนี้ทางจึงสะดวกมาก

 

ที่มุมอับแห่งหนึ่งมีมังกรดำน้อย 3 ตัวและจิ้งจอกน้อยโผล่หัวออกมา

 

“พี่ใหญ่ พวกพี่สี่ถูกขังอยู่ที่ไหน? แล้วแบบนี้เราจะหาพวกเขาเจอได้ยังไง?” หลงเหยามองไปรอบ ๆ ท่ามกลางความมืดมิดพลางถามขึ้นมา

 

ก่อนที่หลงอวี้จะทันได้ตอบ หลงจงก็พูดขึ้นมาก่อนว่า

 

“ที่นี่ไม่ได้ใหญ่โตมากนัก พวกเราแยกย้ายไปค้นหากันเถอะ ถ้ามีใครพบพวกเขา เราค่อยมาหาทางช่วยพวกเขาด้วยกันอีกที”

 

หลงอวี้เองก็รู้สึกว่าการแยกกันค้นหามันเป็นหนทางที่รวดเร็วที่สุด

 

จากนั้นเด็กชายจึงพยักหน้าและพูดว่า

 

“เอาล่ะ เสี่ยวเหยาไปกับข้า ส่วนเจ้าสองกับเจ้าสาม พวกเจ้าแยกย้ายกันไปคนละทาง”

 

เด็กน้อยทั้ง 4 มองหน้ากันก่อนจะหันไปยังทิศทางที่ตัวเองจะมุ่งหน้าไป

 

ขณะที่หลงเหยากำลังส่ายหางดุ๊กดิ๊กเตรียมจะออกตัว 

 

ทันใดนั้น หูของหลงเซียวก็ขยับ ด้วยสายตาที่เฉียบคมและมือที่ฉับไว เขาคว้าหางของน้องชายแล้วดึงกลับมาทันที

 

ในเวลาเดียวกัน เสียงของภูตหลายคนก็ดังมาจากระยะไกล

 

“เอามา!”

 

“เจ้ามีสิทธิ์อะไรถึงมาเอาใจท่านหัวหน้าต่อหน้าเรา อย่าคิดว่าเราไม่รู้ว่าเจ้ามีแผนการซ่อนอยู่!” 

 

“เจ้าจะอาศัยน้ำแข็งก้อนเล็ก ๆ พวกนี้ไปรับความดีความชอบข้ามหน้าข้ามตาพวกเราที่รับใช้ท่านหัวหน้ามานานหลายปีงั้นรึ เจ้านี่มันฉลาดจริง ๆ!”

 

ขณะนั้นพวกหลงอวี้มองหน้ากันแล้วทำตัวให้เงียบที่สุด

 

แม้แต่หลงเหยาก็ยังปิดปากตัวเองเอาไว้และไม่กล้าส่งเสียงใด ๆ

 

ในตอนนั้นไม่มีใครสังเกตเห็นดวงตา 4 คู่ที่กำลังแอบมองอยู่ตรงมุมหนึ่ง

 

ยามนี้ภูตที่อยู่บนพื้นขดตัวรองรับมือเท้าของกลุ่มคนอันธพาลโดยไม่ส่งเสียงร้องออกมาสักแอะ

 

พอพวกอันธพาลได้เห็นท่าทางของอีกฝ่าย พวกเขาก็ยิ่งโกรธมากขึ้นและลงมือกับเขาหนักขึ้นเรื่อย ๆ

 

“เฮอะ! ช่างมันเถอะ ถ้าเรายังกระทืบมันต่อไป มันคงได้ตายคาตีนเราก่อนแน่” 

 

“ใช่ แล้วถ้าท่านหัวหน้าถาม เราคงไม่มีคำอธิบายให้ท่าน...”

 

ต่อมา ภูตที่อยู่ข้าง ๆ ก็คว้าตัวคนที่ลงมือหนักที่สุดเอาไว้เพื่อห้ามปรามสหาย

 

จากนั้นภูตเผ่าไป๋ผีก็หยุดมือทำร้ายคนที่นอนอยู่บนพื้น แต่พวกเขาก็ยังไม่วายสบถด่าระบายอารมณ์ก่อนจะเดินออกไป

 

ทางด้านพวกหลงอวี้หันมามองหน้ากัน ก่อนที่คนเป็นพี่ใหญ่จะส่งสัญญาณให้ทุกคนเตรียมตัวลงมือ

 

ไม่นานหลงเหยากับหลงเซียวก็กลายเป็นร่างมนุษย์เงียบ ๆ แล้วหยิบหนังสติ๊กออกจากแขนเสื้อตัวเอง

 

คราวนี้พวกเขาไม่ได้ใช้ก้อนหินธรรมดา แต่มันเป็นหินที่ถูกลับจนคม

 

ฟิ้ว ๆๆๆ!

 

ก้อนหินหลายก้อนถูกปล่อยออกจากหนังสติ๊กพร้อมกัน มันไปกระแทกเข้าที่หัวเข่าของเป้าหมายที่กำลังหันหลังด้วยความแม่นยำ

 

เป็นผลให้ภูตเผ่าไป๋ผีที่ตั้งตัวไม่ทันคุกเข่าล้มลงกับพื้นทันที

 

ในวินาทีต่อมา มังกรดำกับสุนัขจิ้งจอกตัวน้อยก็พุ่งออกไปด้วยความเร็วดุจสายฟ้าฟาด

 

ความมืดยามค่ำคืนช่วยอำพรางร่างของพวกเขาได้อย่างสมบูรณ์แบบ แล้วพี่น้อง 3 คนก็ร่วมมือกันจัดการเชือดคอศัตรูโดยไม่ให้ใครได้ส่งเสียงร้องขอความช่วยเหลือ

 

หยินซื่อที่นอนอยู่บนพื้นข้าง ๆ ได้แต่ตกตะลึงกับภาพที่ปรากฏ 

 

นี่… นี่มันเกิดอะไรขึ้น?

 

ในขณะเดียวกัน พอหลงเหยาเห็นว่าพวกพี่ ๆ ของตนจัดการกับภูตเผ่าไป๋ผีไปหมดแล้ว เขาก็ใช้ขาป้อมสั้นวิ่งเข้าไปหาพวกเขา

 

จากนั้นเจ้าตัวเล็กก็ไปนั่งทับหยินซื่อพลางใช้มือทั้ง 2 ข้างดึงหูของเขาแล้วทำท่าเหมือนกำลังขี่ม้า

 

แถมไม่พอเขายังพูดข่มขู่อีกฝ่ายไม่ขาดปาก

 

“อย่าขยับ! เจ้าถูกพวกเราล้อมเอาไว้แล้ว!”

 

“...” 

 

ถึงเจ้าไม่พูดข้าก็ไม่กล้าขยับหรอก

 

“ข้า-ข้าไม่ขยับ ไว้ชีวิตข้าเถอะ...” ชายหนุ่มปล่อยให้เด็กน้อยคว้าหูขณะที่เขานอนราบไปกับพื้นและยกมือขึ้นอย่างเงียบ ๆ

 

หลังจากเด็กชายทั้ง 3 คนยืนยันว่าภูตเผ่าไป๋ผีคนอื่นไม่เหลือลมหายใจแล้ว ทุกคนก็ไปยืนล้อมคนที่ถูกรังแก

 

“เจ้าเป็นคนที่จับพี่สี่และพี่หยินชางไปหรือเปล่า รีบบอกข้ามาว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ที่ไหน!” 

 

หลงเหยาเหวี่ยงหมัดใส่คนข้างใต้ไป 1 ทีพร้อมกับถามเสียงขรม

 

“ถ้าเจ้าไม่บอกข้า ข้าจะเอาเจ้าให้ตายเลย!”

 

ในเวลาเดียวกัน พวกหลงอวี้ยกมือก่ายหน้าผากตัวเอง

 

“...” 

 

สมกับเป็นเจ้าจริง ๆ ที่ทำอะไรแบบนี้ออกมา

 

เมื่อหยินซื่อได้ยินว่าเด็ก ๆ กำลังตามหาหลงหลิงเอ๋อ ดวงตาของเขาก็กลอกไปมา จากนั้นก็เขารีบตอบไปว่า

 

“ข้าบอกแล้ว ๆ อย่าทำร้ายข้านะ” ชายหนุ่มทำท่าทางหวาดกลัวเต็มที่

 

แต่เด็กชายทั้ง 3 คนกลับทำหน้าสงสัย

 

ทั้งที่เมื่อกี้เขาถูกทุบตีจากพวกผู้ใหญ่เขายังไม่ร้องขอความเมตตาอะไรเลย แต่พอเขามาตกอยู่ในน้ำมือของเสี่ยวเหยา ทำไมเขาถึงทำตัวเชื่อฟังมากขนาดนี้?

 

พวกเขาเริ่มสงสัยแล้วว่าเมื่อสักครู่ตนตาฝาดไปหรือไง?

 

หลงเหยาเองก็ผงะไปเช่นกัน

 

เขากะพริบตาปริบ ๆ ด้วยท่าทางที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

 

การสอบปากคำมันง่ายขนาดนั้นเลยหรือ?

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าก็รีบบอกข้ามาเร็ว ๆ เข้า!” คนตัวเล็กยังคงเร่งเร้าต่อไป

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.