Only one love รักนี้ แค่เธอ… คนเดียวเท่านั้นนะ [Yuri] Chapter 8
Chapter 8: การพบกันโดยบังเอิญ กับความจริงของวาฟเฟิล
(มาการงบรรยาย)
1 สัปดาห์ผ่านไป
ช่วงพักเที่ยงวันหนึ่ง ฉันกับเพื่อนสนิททั้งสองพากันมานั่งทำงานกลุ่มที่ห้องสมุดของโรงเรียน พวกเราสามคนได้รับหน้าที่ค้นหาข้อมูลเพื่อเขียนเป็นรายงาน ซึ่งงานนี้มีกำหนดส่งวันมะรืน และพวกเราเองก็เริ่มทำงานกันไปแค่นิดเดียวเท่านั้น
“ให้ตายสิมาการงเนี่ย ทำไมไม่บอกฉันก่อนล่ะว่างานนี้ให้ทำแบบไหน ถ้ารู้ก่อนละก็คงได้เริ่มทำไปนานแล้ว” ซินนามอนบ่นอุบเมื่อเห็นหัวข้องานที่ต้องทำ ซึ่งมันก็ยากใช่เล่น
“ก็มันช่วยไม่ได้นี่นา ฉันถามในกลุ่มแล้ว แต่ละคนก็ยังตกลงกันไม่ได้เลยนี่นาว่าจะเริ่มทำเมื่อไหร่น่ะ” ฉันตอบตามความจริง เพราะคอยกระตุ้นเพื่อนที่เหลือแล้วแต่ก็ไม่มีใครสนใจ เอาแต่คุยกันเรื่องไร้สาระจนลืมไปเลยว่าจุดประสงค์ของการสร้างกลุ่มนี้คือเอาไว้เพื่อคุยงาน มันก็เลยออกมาเป็นแบบนี้แหละค่ะ
“เฮ่อ…” ช็อกโกล่าเดินมานั่งแปะลงข้างๆ ฉันพร้อมกับวางหนังสือที่ไปหยิบมาลงบนโต๊ะตรงหน้าของทุกคน “บ่นไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา อย่าลืมสิว่างานของเราส่งวันมะรืน ถ้าไม่เร่งทำตอนนี้ระวังจะไม่ทันเอานะ”
“ก็คงต้องเป็นแบบนั้นแหละจ้ะ” ซินนามอนตอบ ก่อนที่ทุกคนจะตกลงกันเรื่องหน้าที่ของตน โดยที่ฉันและซินนามอนเป็นคนหาข้อมูล และเรียบเรียงเป็นแต่ละหัวข้อ และช็อกโกล่ารับหน้าที่เขียนอ้างอิง เมื่องานเสร็จสิ้นแล้วจะส่งไปให้คัสตาร์ดกับวาฟเฟิลนำไปทำเป็นรูปเล่มต่อไป หากมีอะไรติดขัดค่อยคิดกันอีกทีว่าควรจะทำอย่างไร
พวกเรานั่งทำงานกันไปเงียบๆ โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่า มีคนมานั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ และแอบมองพวกเราเป็นพักๆ
ฉันเขียนงานไปโดยที่สติไม่ค่อยจะอยู่กับตัวนัก เมื่อรู้ตัวแน่ว่าไม่มีสมาธิ จึงหันมองบรรยากาศรอบข้าง ก็เจอเข้ากับคนที่นั่งโต๊ะข้างๆ กำลังมองมาพอดี ฉันหันไปมองก็เห็นว่าเป็นวาฟเฟิลจึงคิดจะเดินเข้าไปทัก แต่ช็อกโกล่าก็พูดขึ้นมาก่อนว่า
“มาการง ฉันวานเอาหนังสือเล่มนี้ไปเก็บที่ชั้น แล้วไปหยิบอีกเล่มมาให้หน่อยนะ” พูดพลางยื่นหนังสือมาตรงหน้า ฉันรับมาพิจารณาก่อนจะร้องอ๋อ แล้วลุกขึ้นเดินไปที่ชั้นหนังสือที่เพื่อนผมดำเคยยืนอยู่ ซึ่งชั้นหนังสือที่ว่าก็อยู่ข้างๆ กับโต๊ะที่วาฟเฟิลกำลังนั่งอยู่พอดี
ฉันเดินเข้าไปก่อนจะวางหนังสือลงช้าๆ และมองหาหนังสืออีกเล่มที่ช็อกโกล่าต้องการไปด้วย เมื่อมองไปสักพักก็พบกับหนังสือที่ต้องการ แต่มันดันวางอยู่ข้างหลังของวาฟเฟิลซะนี่
ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะเดินเข้าไปหยิบอย่างไรดี ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าวาฟเฟิลก็คือเพื่อนในกลุ่มที่ทำงานด้วยกัน ฉันจึงไม่ลังเลที่จะเดินเข้าไปหาและพูดขึ้นว่า
“วาฟเฟิล ช่วยหยิบหนังสือที่อยู่ข้างหลังให้ฉันหน่อยสิ” พูดพลางหันมองใบหน้าของเพื่อนผมเขียวไปด้วย ก็เห็นว่ายังเฉยอยู่ จึงหันไปพูดขอร้องด้วยเสียงที่เบากว่าเดิมเล็กน้อยเพื่อไม่ให้รบกวนคนอื่น
“วาฟเฟิล ช่วยหยิบหนังสือให้ฉันหน่อยน้า เล่มนี้จ้ะ ฉันต้องรีบใช้ด่วนจริงๆ” ว่าพลางชี้หนังสือเล่มที่ต้องการไปด้วย ยังไม่มีปฏิกิริยาตอบสนองจากเพื่อนผมเขียว ฉันยืนมองอยู่สักพักและคิดว่าจะหันหลังกลับ พอดีกับช็อกโกล่าเดินมายืนอยู่ข้างๆ
“ทำอะไรน่ะมาการง” พูดกับฉันด้วยเสียงที่เบาแทบจะเป็นกระซิบ
“ฉันกำลังจะหยิบหนังสือให้น่ะจ้ะ แต่ว่า…” คำพูดของฉันขาดหายไปเมื่อพบว่าร่างที่นั่งอ่านหนังสืออยู่เมื่อครู่เงยหน้าขึ้นมามอง
ใบหน้าที่เหมือนกัน ทั้งดวงตาสีเขียวมรกต คิ้วโก่งดกดำที่รับกันดีกับใบหน้า และเส้นผมตรงยาวสลวยที่ถูกมัดไว้ด้วยริบบิ้นสีดำถูกต้องตามระเบียบของโรงเรียน แต่มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้ฉันคิดว่าคนที่กำลังมองอยู่นี้ไม่น่าใช่เพื่อนสาวที่ฉันเคยรู้จัก ใบหน้านั้นเรียบเฉย มีประกายเย็นชาอยู่ในดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้น แต่ฉันก็ไม่ละความพยายาม เพราะใจยังคงเชื่อว่าเธอคนนั้นคือวาฟเฟิลแน่ๆ
“วาฟเฟิล… ยู้ฮูววว!” ฉันขยับเข้าไปใกล้ๆ คนที่กำลังนั่งอยู่ให้มากขึ้นอีก พร้อมกับเดินวนไปมาเพื่อให้อีกฝ่ายหันมาสนใจ ร่างที่ก้มหน้าจดจ่ออยู่กับหนังสือเงยหน้าขึ้นมามองหน้าฉันอีกครั้ง คราวนี้เป็นฉันเองที่ต้องตกใจจนต้องหยุดเดินเพราะดวงตาที่มองมานั้นดุขวาง แสดงถึงความไม่พอใจอย่างมากที่ถูกรบกวน
“ทำอะไรของเธอเนี่ย” เสียงของช็อกโกล่าดังมาอีกครั้ง ฉันรีบเดินตรงไปหลบอยู่ข้างหลังเพื่อนผมดำทันทีพร้อมกับเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้ฟัง
“วาฟเฟิลไม่สนใจฉันเลย ฉันคุยด้วยก็ไม่ตอบ พอเดินไปใกล้ๆ ก็มองฉันตาขวางเลย ฉันควรทำยังไงดีละเนี่ย?” พูดพลางหันไปมองคนที่ก้มหน้าอยู่อย่างหวาดๆ ช็อกโกล่าหันไปมองเธอคนนั้นแวบหนึ่งก่อนตอบ
“เธอก็อย่าไปรบกวนเขาสิ บางทีวาฟเฟิลอาจจะกำลังไม่พอใจอะไรอยู่ก็ได้ หรืออาจกำลังตั้งใจอ่านหนังสืออยู่…”
“เธอแน่ใจเหรอว่านั่นใช่วาฟเฟิลน่ะ”?” ฉันถาม ช็อกโกล่ามองใบหน้าที่จับจ้องอยู่กับหนังสืออย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะเอ่ยตอบ
“ฉันก็ว่าใช่วาฟเฟิลนะ แล้วทำไมเธอถึงคิดว่าไม่ใช่ล่ะ?”
“วาฟเฟิลไม่มีทางทำตาขวางใส่ฉันแน่ๆ เธอร่าเริงจะตาย เอ๊ะ หรือว่านี่จะเป็น…” ฉันพูดค้างไว้ก่อนจะหันไปมองหน้าคนที่นั่งอ่านหนังสือไม่สนใจพวกเราที่กำลังยืนคุยกันอยู่เลยแม้แต่น้อย
“หรือว่านี่จะเป็น… ดอพเพลแกงเกอร์!” ฉันพูด พยายามควบคุมเสียงของตัวเองไม่ให้ดังรบกวนคนที่กำลังอ่านหนังสือกันอยู่ ในหัวนึกถึงเรื่องเกี่ยวกับฝาแฝดปีศาจที่มีอยู่ในนิยายสยองขวัญ ว่ากันว่าใครได้เห็นดอพเพลแกงเกอร์ของคนอื่นอาจนำมาซึ่งความเจ็บป่วย หรือโชคร้าย และที่แย่ไปกว่านั้น ถ้าได้เห็นดอพเพลแกงเกอร์ของตัวเองอาจนำมาซึ่งความตายได้
“เธออ่านนิยายสยองขวัญมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย” ช็อกโกล่าพูดขึ้นหลังจากเงียบไปนาน “ฉันว่าเรื่องดอพเพลแกงเกอร์อะไรนี่มันอาจไม่มีจริงก็ได้ ยังไงคนที่นั่งอยู่นี่ต้องเป็นวาฟเฟิลแน่ๆ”
“แต่ฉันก็ยังคิดว่านี่ไม่ใช่วาฟเฟิลอยู่ดี” พวกเราเถียงกันถึงเรื่องดอพเพลแกงเกอร์โดยมีเพื่อนผมเขียวที่นั่งอยู่เป็นคนกลาง เธอยังคงรักษาสีหน้าเรียบเฉยไว้ได้อย่างดีเยี่ยม ฉันจึงไม่มีทางรู้เลยว่าเธอจะรู้สึกรำคาญหรือไม่ที่เห็นพวกเรายืนเถียงกันอยู่ต่อหน้าเช่นนี้
“อ้าวพวกเธอสองคน ทำอะไรกันอยู่น่ะ” เสียงหนึ่งทักขึ้นจากด้านหลัง ฉันหันไปมองก็เห็นคัสตาร์ดกับ…
“เอ๊ะ! นั่นมัน…” ฉันกับช็อกโกล่าหยุดเถียงกันทันทีเมื่อสังเกตเห็นเพื่อนที่ยืนอยู่ข้างคัสตาร์ด
“วาฟเฟิล” ช็อกโกล่าเรียกชื่อเพื่อนผมเขียวอย่างไม่มั่นใจนัก วาฟเฟิลหันมายิ้มก่อนเอ่ยถาม
“มีอะไรเหรอ?” และหันไปมองคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ
“อ้าว! พาเฟ่ต์” กล่าวทักทายอย่างเป็นมิตร ฉันตะลึงตาค้าง พลางมองหน้าคนที่ยืนอยู่กับคัสตาร์ดกับคนที่นั่งอ่านหนังสืออยู่สลับกันไปมา สองคนนี้หน้าตาเหมือนกันอย่างไม่น่าเชื่อ แต่มีสิ่งที่ทำให้พอจะแยกออกว่าใครเป็นใคร นั่นคือ บุคลิก วาฟเฟิลเป็นคนร่าเริง ต่างจากคนที่เธอเรียกว่า พาเฟ่ต์ ที่มีสีหน้าเรียบเฉย และดูเย็นชาพอๆ กับช็อกโกล่า แต่ในความเห็นของฉัน คิดว่าพาเฟ่ต์คนนี้เย็นชามากกว่า และดูเป็นคนไม่ค่อยพูดเมื่อเทียบกับเพื่อนสนิทผมดำที่ยังยิ้มให้คนอื่นบ้าง บวกกับสายตาที่เธอมองฉันเมื่อไม่กี่นาทีก่อนทำให้ฉันอนุมานไว้ก่อนว่าเธอคงเป็นคนเข้าถึงยากแน่ๆ
“ระ… รู้จักกันด้วยเหรอ?” ฉันหันไปถามวาฟเฟิลตัวจริง ฝ่ายนั้นยิ้มตาหยีให้ฉันก่อนตอบ
“ใช่แล้วจ้า ฉันกับพาเฟ่ต์ พวกรเป็นฝาแฝดกัน”
“แสดงว่า ที่เธอเคยเล่าให้ฉันฟังว่ามีฝาแฝดคือเรื่องจริงงั้นเหรอ?” คัสตาร์ดร้องอย่างตื่นเต้น ได้รับการพยักหน้ารับจากคนที่ยืนอยู่ข้างๆ
“ใช่แล้วล่ะ นี่คือพาเฟ่ต์ น้องสาวฝาแฝดของฉันเอง” วาฟเฟิลตอบก่อนจะเดินเข้าไปสะกิดคนที่กำลังนั่งจดจ่ออยู่กับหนังสือ ฝ่ายนั้นหันมามองทุกคนก่อนจะพยักหน้ารับ
“ฉันชื่อพาเฟ่ต์ เป็นน้องสาวฝาแฝดของวาฟเฟิล” น้ำเสียงที่พูดออกมาฟังดูนิ่งและเยือกเย็นอย่างประหลาด ฉันรู้สึกเหมือนถูกสะกดจิตให้มองหน้าเธออยู่อย่างนั้น ดวงตาสีเขียวมรกตคู่คมจับจ้องมาที่ฉันนิ่ง มีแววของความไม่พอใจอยู่ในนั้นอย่างชัดเจน
“ฉะ… ฉันชื่อมาการง อยู่ม.1 ห้อง…” ฉันเอ่ยแนะนำตัวอย่างตะกุกตะกักเต็มที ฝ่ายที่นั่งอยู่ก็เอ่ยแทรกขึ้นมาอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
“ถ้าเธอจะหยิบหนังสือทำไมไม่เดินไปหยิบเอง มาใช้ฉันทำไมไม่ทราบ!”
“คะ… คือว่า ฉัน…” ฉันเอ่ยปากคอสั่น ใบหน้าของฝ่ายตรงข้ามดูน่ากลัวเกินกว่าที่ฉันจะทนมองได้อีก ฉันก้มหน้า พยายามไม่มองดวงตาดุขวางคู่นั้นที่กำลังมองอย่างเอาเรื่อง
“ถ้าไม่รู้ว่าฉันคือใคร ทำไมไม่ถามชื่อก่อน มาทำแบบนี้ฉันไม่ชอบ เข้าใจไหม?” ร่างนั้นพูดเรื่อยๆ วาฟเฟิลตัวจริงหันไปส่งสายตาปรามน้องสาว พาเฟ่ต์มองฉันด้วยสายตาที่อ่อนลงเล็กน้อย แต่ก็ยังมีความไม่พอใจฉายชัดอยู่บนใบหน้า
“เอาละ ฉันต้องขอตัวก่อน เหมือนจะหมดเวลาพักแล้ว” พูดจบก็เดินออกจากตรงนั้นไปทันทีโดยไม่หันมาสนใจพวกเราอีก
พาเฟ่ต์เดินออกไปแล้ว ถึงบรรยากาศที่น่าอึดอัดเอาไว้เบื้องหลัง ช็อกโกล่าหันมามองฉันพลางพูดเบาๆ
“มาการง โดนโกรธซะแล้วสิ”
“นั่นสินะ…” ฉันพูดหงอยๆ รู้สึกสำนึกผิดในการกระทำของตนเองขึ้นมาครันๆ
“แล้วเธอจะทำยังไงล่ะ ท่าทางพาเฟ่ต์ดูโกรธมากเลยนะ” ช็อกโกล่าหันมาส่งสายตากดดันใส่ฉัน ใบหน้าของฉันหมองลงไปอีกเมื่อเจอกับสายตาที่เธอมองมา ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะที่เคยนั่งและเอ่ยเรียกซินนามอนที่กำลังนั่งทำงานอยู่ให้เก็บของเพื่อเตรียมตัวขึ้นห้องเพื่อเรียนต่อ
(ติดตามตอนต่อไป)
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 590
แสดงความคิดเห็น