ตอนที่ 87: การแข่งขันที่น่าตื่นเต้น

ตอนที่ 87: การแข่งขันที่น่าตื่นเต้น

ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยได้ติดตั้งหัวฉีดเชื้อเพลิงคู่ให้กับระบบพลังงาน ยิ่งไปกว่านั้นเขายังได้ขยายขนาดหัวฉีดเพิ่มขึ้นอีก 0.4 มิลลิเมตรด้วย ซึ่งโดยปกติระบบนี้จะถูกปิดเอาไว้ แต่เมื่อเขาปลดตัวควบคุมมันก็จะทำให้หัวฉีดทั้งสองทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและส่งผลให้เครื่องยนต์มีกำลังที่มากขึ้น

อย่างไรก็ตามเพื่อแลกมากับประสิทธิภาพ มันก็ส่งผลให้ระบบภายในรถทั้งหมดทำงานเกินขีดจำกัดที่ตัวรถจะสามารถแบกรับได้

ในตอนนี้เซี่ยเฟยไม่มีชิ้นส่วนอุปกรณ์ที่จะสามารถเปลี่ยนท่อแรงดันที่เสียหายได้ เขาจึงตัดสินใจทำการเชื่อมต่อท่อแรงดันส่วนที่เหลือเข้ากับเครื่องยนต์โดยตรง ซึ่งแน่นอนว่าความเสี่ยงในการขับขี่รถแข่งคันนี้ก็จะเพิ่มขึ้นกว่าเดิม เพราะหากปราศจากความช่วยเหลือจากระบบควบคุมแรงดัน ความดันทั้งหมดที่ถูกปล่อยออกมาจากตัวรถแข่งก็จะไม่สามารถควบคุมได้อีกต่อไป

เซี่ยเฟยไม่มีทางเลือกอื่นแล้วเพราะถ้าหากเขาต้องการที่จะเข้าร่วมการแข่งขันต่อไป เขาก็ต้องยอมรับความเสี่ยงที่มากขึ้นกว่าเดิม 

ส่วนเรื่องการยอมแพ้นั้นมันไม่เคยมีอยู่ในหัวสมองของเขาเลย!

ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วใช้นิ้วสะบัดสวิตซ์ของระบบหัวฉีดพลังงาน จากนั้นเขาก็ปิดฝากระโปรงรถและกระโดดเข้าไปในห้องคนขับ

“โอ้พระเจ้า! ท่านผู้ชมครับตอนนี้เซี่ยเฟยซ่อมรถเสร็จแล้ว ดูจากท่าทางเขาก็กำลังจะเข้าร่วมการแข่งขันอีกครั้ง!!” ผู้บรรยายผมแดงกล่าวด้วยความประหลาดใจ

“ผมรู้สึกชื่นชมจิตวิญญาณแห่งความมุ่งมั่นของชายคนนี้จริง ๆ แต่น่าเสียดายที่เขาเสียเวลาในการซ่อมรถไปถึง 4 นาที 15 วินาทีและมันก็ทำให้เขาตกไปอยู่ในอันดับสุดท้าย ในขณะที่รถหมายเลข 0 ของทีมมังกรสองหัวก็กำลังจะวิ่งน็อครอบเขาแล้ว” ผู้บรรยายที่สวมแว่นกล่าวด้วยความเสียดาย

—

ในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง

เยว่เกอ, เฉินตง, เป๋ยไฮ่และหมานจุนก็กำลังจับจ้องมองไปยังหน้าจอด้วยความตึงเครียดเป็นอย่างมาก

“เซี่ยเฟย นายไหวหรือเปล่า?” เฉินตงถามอย่างประหม่า

ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยถอดหมวกกันน็อกออกมาซ่อมรถ มันจึงทำให้สมาชิกภายในทีมคนอื่น ๆ ไม่สามารถติดต่อกับชายหนุ่มได้ ดังนั้นหลังจากที่เขาสวมหมวกกันน็อกอีกครั้ง เฉินตงจึงยิงคำถามเข้ามาด้วยความรวดเร็ว

“ฉันสบายดี กำลังจะลงแข่งต่อ” เซี่ยเฟยตอบอย่างใจเย็น จากนั้นนิ้วของเขาก็เปิดใช้งานระบบต่าง ๆ ของรถแข่งด้วยความว่องไว

“นายมีความแค้นอะไรกับไป๋เย่หรือเปล่า เมื่อกี้เขาเกือบจะชนนายเลยนะ!” เฉินตงถาม

ในตอนที่รถหมายเลข 201 วิ่งเฉียดร่างของเซี่ยเฟยไป มันก็ทำให้พวกเขาตื่นตระหนกจนแทบที่จะหยุดหายใจ โดยเฉพาะเยว่เกอที่ทุบโต๊ะอย่างรุนแรงราวกับเสือโคร่งที่ดุร้าย

“ไว้ค่อยคุยกันหลังแข่ง ตอนนี้รายงานสถานการณ์ส่วนที่ 1 มาก่อน” เซี่ยเฟยสั่งการ

“ส่วนที่ 1 ปลอดภัยดี รถแข่งทุกคันขับผ่านไปหมดแล้ว” เป๋ยไฮ่ที่ได้รับหน้าที่ประจำส่วนที่ 1 รายงาน

บรื้น!

เซี่ยเฟยกดปุ่มสตาร์ทเครื่องยนต์และเหยียบคันเร่งลงไปทันที ซึ่งมันก็ได้ทำให้รถแข่งสีแดงเพลิงส่งเสียงคำรามออกมาอย่างดุเดือด

หลังจากที่ชายหนุ่มได้ปลดตัวควบคุมระบบหัวฉีดคู่ มันก็ทำให้เสียงของเครื่องยนต์และเปลวไฟที่พ่นออกมาเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด

ในตอนนี้เปลวไฟที่พ่นออกมามีทั้งสีน้ำเงินและสีเขียวปะปนกัน นอกจากนี้มันยังส่งเสียงระเบิดออกมาเป็นระยะ ๆ

ต่อมารถคันสีแดงก็แล่นผ่านผู้ชมบนอัฒจันทร์ไปอย่างรวดเร็ว

บูม!

ทันใดนั้นมันก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องส่งผลให้ผู้ชมบนอัฒจันทร์ต่างก็รีบอุดหูของตัวเอง ขณะเดียวกันพวกเขาก็จ้องมองไปยังแผ่นหลังของเซี่ยเฟยด้วยความหวาดกลัว

“รถของเซี่ยเฟยเหมือนกับกำลังจะระเบิดเลย? นี่เขาประกอบรถยังไง ทำไมมันถึงมีเสียงดังขนาดนี้?!” ผู้บรรยายผมสีแดงพูดอย่างเร่งรีบ

“สาเหตุหลักของอาการนี้คือแรงดันผลักเชื้อเพลิงเข้าไปในเครื่องยนต์มากเกินไปจนทำให้เครื่องยนต์ไม่สามารถเผาไหม้เชื้อเพลิงจำนวนมากได้ทันเวลา ด้วยการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์มันจึงมีส่วนหนึ่งของเชื้อเพลิงระบายออกสู่อากาศและพวกมันก็จะระเบิดทันทีเมื่อสัมผัสเข้ากับอากาศภายนอก” ผู้บรรยายวัยกลางคนเอามือดันแว่นขณะอธิบาย

“แล้วมันถือว่าอันตรายมากไหมครับ?” ผู้บรรยายผมแดงถามอย่างประหม่า

“แน่นอนว่ามันอันตรายมาก เนื่องจากการเพิ่มแรงดันภายในถังเชื้อเพลิงจะทำให้เครื่องยนต์ได้รับเชื้อเพลิงมากขึ้นและส่งผลให้มันมีกำลังมากขึ้น แต่ข้อเสียที่ชัดเจนคือมันก็จะทำให้เครื่องยนต์ได้รับความเสียหายเพราะแรงดันที่มากเกินไป ถ้าผมจำไม่ผิดรถของเขาได้ทำการติดตั้งระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงด้วยใช่ไหม” ผู้บรรยายวัยกลางคนกล่าวอย่างผู้มากประสบการณ์

เมื่อได้ยินคำถามผู้บรรยายผมแดงก็รีบคลิกไปที่ข้อมูลการดัดแปลงของรถหมายเลข 99 บนหน้าจอ

“ใช่แล้วครับ เซี่ยเฟยได้ติดตั้งระบบหัวฉีดเชื้อเพลิงคู่และยังดัดแปลงขนาดหัวฉีดให้กว้างขึ้นอีก 0.4 มิลลิเมตรด้วย” ผู้บรรยายผมแดงกล่าวตอบด้วยความตื่นเต้น

“อะไรนะ? หัวฉีดคู่! นี่เขาบ้าไปแล้วหรือไง!! มีแต่คนบ้าที่อยากตายเท่านั้นที่กล้าพอจะทำเรื่องแบบนี้!!” ผู้บรรยายวัยกลางคนอุทานด้วยความตกใจ

การเปิดระบบหัวฉีดคู่ส่งผลให้ในตอนนี้รถหมายเลข 99 มีความเร็วพุ่งสูงถึง 3,800 เมตรต่อวินาทีและความเร็วยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ!

เซี่ยเฟยไม่ได้สนใจเสียงรอบข้างเลยเพราะเขากำลังจดจ่อสมาธิไปกับเส้นทางข้างหน้าอย่างเต็มที่ ในขณะที่สองเท้าของเขาก็สลับระหว่างคันเร่งกับเบรกอย่างลื่นไหล

หลังจากนั้นไม่นานชายหนุ่มก็สามารถไล่ตามรถที่อยู่รั้งท้ายได้สำเร็จและดูเหมือนว่ารถคันนี้น่าจะยอมแพ้แล้ว เพราะมันถูกทิ้งห่างจากรถคันข้างหน้าไปค่อนข้างไกล

เบื้องหน้าคือถนนเส้นตรงที่มีระยะทาง 35 กิโลเมตร เซี่ยเฟยจึงตัดสินใจเหยียบคันเร่งสุดแรงและพุ่งทะยานไปข้างหน้าด้วยความเร็วเกินกว่า 4,000 เมตรต่อวินาที

ถนนเส้นตรงเป็นการแข่งขันเรื่องของความเร็ว!

1! 2! 3! …

ในถนนเส้นตรงช่วงนี้ชายหนุ่มสามารถแซงรถแข่งไปได้ถึง 6 คันและเมื่อเขาเห็นทางโค้งที่อยู่ตรงหน้า เขาก็ตัดสินใจกัดฟันวางเท้าอยู่เหนือเบรกโดยที่ไม่เหยียบมันลงไป

การเลี้ยวด้วยความเร็วที่เหนือกว่ารถแข่งส่วนใหญ่ส่งผลให้รถเอียงอย่างรุนแรงและทำให้ร่างของชายหนุ่มถูกเหวี่ยงไปด้านข้าง แต่เขาก็ยังคงกัดฟันรับแรงเหวี่ยงอันมหาศาลขณะที่จับพวงมาลัยไว้แน่นและควบคุมรถเล็กน้อยเพื่อให้มันสามารถทรงตัวได้

รถแข่งสีแดงเพลิงเอียงอย่างรุนแรงจนเหมือนกับจะพลิกคว่ำและโครงรถก็สั่นราวกับกำลังประสบกับแผ่นดินไหว

บรื้น!

รถแข่งสามารถเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงอย่างสวยงามและพุ่งทะยานออกไปราวกับลูกกระสุนปืนใหญ่

“บ้าไปแล้ว! เขาบ้าไปแล้วจริง ๆ!! นี่เขาเข้าโค้งด้วยความเร็วเกือบ 4,000 เมตรต่อวินาทีเนี่ยนะ การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงถือได้ว่าเป็นสิ่งที่ยากที่สุดในการแข่งขันประเภทนี้ เพราะคนขับจะต้องคอยควบคุมพวงมาลัยตลอดเวลา หากว่ามันมีความผิดพลาดแม้แต่เพียงเล็กน้อย มันก็อาจจะกลายเป็นหายนะได้เลย”

“แต่เมื่อกี้เขากลับเข้าโค้งได้อย่างสมบูรณ์แบบยิ่งกว่าทีมมังกรสองหัว เผลอ ๆ เซี่ยเฟยอาจจะใช้ความเร็วยิ่งกว่าพวกเขาด้วย” ผู้บรรยายผมแดงตะโกนด้วยน้ำเสียงอันแหบแห้งและใบหน้าที่แดงก่ำ

“แม่เจ้า!  4,487 เมตรต่อวินาที! นี่มันสถิติความเร็วใหม่แล้ว!! รถเอ็กซ์ตรีมธรรมดาของเซี่ยเฟยมีความเร็วยิ่งกว่ารถมืออาชีพของทีมมังกรสองหัวเสียอีก นี่เขาทำได้ยังไง!!!”

“อันดับที่ 297! ก่อนหน้านี้เขาตามหลังอยู่เกือบ 200 กิโลเมตร!! พวกเรามาลุ้นกันว่าเขาจะสามารถอยู่ใน 100 อันดับแรกก่อนจบการแข่งขันได้หรือไม่!!!”

จากนั้นเซี่ยเฟยก็สามารถสร้างสถิติใหม่อีกครั้ง โดยเขาใช้เวลาในการวิ่งครบรอบเพียงแค่ 5 นาที 59 วินาทีด้วยความเร็วเฉลี่ย 3,700 เมตรต่อวินาทีเท่านั้น ซึ่งแม้แต่แชมป์ 5 สมัยอย่างทีมมังกรสองหัวก็ไม่สามารถทำได้

ในตอนนี้ผู้บรรยายหนุ่มตกอยู่ในสภาพอารมณ์ที่บ้าคลั่งและถึงแม้ว่าเขาจะอยู่ในรายการถ่ายทอดสด แต่เขาก็ไม่สนใจ แล้วลุกขึ้นยืนตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น

หลังจากจบรอบที่ 5 อันดับของเซี่ยเฟยก็ได้เลื่อนขึ้นมาอยู่ที่ 256!

ชายหนุ่มสามารถแซงคู่แข่งได้ถึง 41 คนในรอบเดียว ซึ่งถือได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่น่าทึ่งมาก

รอบที่ 6 จบลงที่อันดับ 219!

รอบที่ 7 จบลงที่อันดับ 165!

นี่ถือได้ว่าเป็นการแข่งขันที่น่าเหลือเชื่อ ซึ่งไม่เพียงแต่เซี่ยเฟยจะสามารถซ่อมรถได้อย่างรวดเร็วและเข้าร่วมการแข่งขันต่อไปได้เท่านั้น แต่ชายหนุ่มยังคงสร้างสถิติใหม่ในการแข่งขันอย่างต่อเนื่องและอันดับของเขาก็เลื่อนขึ้นอย่างก้าวกระโดด

สนามแข่งแสงจันทร์กำลังดุเดือดเลือดพล่าน!!

ขณะนี้เหล่าผู้ชมที่อยู่บนอัฒจันทร์กำลังพร้อมใจตะโกนชื่อของเซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง โดยพวกเขาคาดหวังที่จะได้เห็นปาฏิหาริย์!!!

—

“เร็วเข้า! เซี่ยเฟยสู้ ๆ เซี่ยเฟยสู้ตาย เซี่ยเฟยไว้ลาย สู้ตาย สู้ ๆ!” แอวริลส่งเสียงตะโกนเชียร์เซี่ยเฟยอย่างบ้าคลั่งจนลืมเรื่องการฉีกตุ๊กตาไปชั่วขณะ พร้อมกันนั้นเธอก็กระโดดโลดเต้นบนเตียงสีชมพูน้อย ๆ เพื่อเป็นการส่งกำลังใจให้กับชายหนุ่ม

—

ขณะเดียวกันทางฝั่งของเยว่เกอก็กำลังทุกข์ทรมานอยู่ในห้องสังเกตการณ์ของทีม เพราะถึงแม้ว่าเธอจะต้องการตะโกนอย่างบ้าคลั่งแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถทำมันได้

ในตอนนี้เฉินตง, เป๋ยไฮ่และหมานจุนกำลังจ้องมองหน้าจออย่างเคร่งเครียดและรายงานสถานการณ์ของสนามให้เซี่ยเฟยอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถ้าหากว่าเยว่เกอส่งเสียงตะโกนในเวลานี้มันก็จะส่งผลกระทบต่อการทำงานของพวกเขา

เยว่เกอพยายามระงับความตื่นเต้นภายในใจด้วยการนั่งลงกับพื้นแล้วกุมศีรษะด้วยมือทั้งสองข้าง จากนั้นเธอก็ปิดปากของตัวเองแน่นและบังคับไม่ให้ตัวเองส่งเสียงออกมาแม้แต่นิด จนทำให้ใบหน้าที่สวยงามของเธอเริ่มมีสีม่วงเล็กน้อย

การห้ามส่งเสียงสำหรับหญิงสาวอารมณ์ร้อนอย่างเธอถือได้ว่าเป็นการทรมานอีกรูปแบบหนึ่ง

แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างมันจึงทำให้หญิงสาวสามารถอดทนมาได้จนถึงช่วงเวลานี้

—

ในปัจจุบันทุกครั้งที่รถสีแดงเพลิงสามารถแซงรถคันข้างหน้าได้ เหล่าสมาชิกภายในทีมจะรายงานตำแหน่งของนักแข่งข้างหน้าที่อยู่ใกล้เขาทันที 

เมื่อเซี่ยเฟยพิจารณาข้อมูลเหล่านี้แล้วตัดสินใจว่าเขาสามารถแซงได้ ชายหนุ่มก็จะเหยียบคันเร่งด้วยความว่องไว

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดของการแซงคือความแม่นยำและสภาพแวดล้อมของคู่แข่ง หากเซี่ยเฟยวางแผนที่จะแซงใครสักคนเขาก็จำเป็นที่จะต้องเลือกเส้นทางที่ค่อนข้างเสี่ยง แต่ถ้าในระหว่างนั้นเขาได้พบว่ามีรถคันอื่นอยู่ตรงหน้าในระยะประชิดมันก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับเขาได้

ในระหว่างที่การแข่งขันยังคงดำเนินต่อไป เซี่ยเฟยก็สามารถควบคุมรถแข่งได้ดีมากขึ้นเรื่อย ๆ และความเร็วของเขาก็เพิ่มขึ้นในทุก ๆ รอบเช่นกัน

เขาลืมไปแล้วว่าเขาผ่านนักแข่งมาทั้งหมดกี่คน!

ตอนนี้เขาอยู่อันดับที่เท่าไหร่!

เขารู้แต่เพียงว่าตราบใดที่ยังมีรถแข่งอยู่ข้างหน้า เขาต้องแซงมันไปให้ได้!!

มันเป็นเรื่องปกติที่เราจะเข้าสู่ภวังค์เมื่อจดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างจริงจัง ซึ่งในตอนนี้เซี่ยเฟยก็รู้สึกว่าตัวเขาเองกำลังค่อย ๆ กลายเป็นหนึ่งเดียวกับรถแข่งสีแดงเพลิง

ทุกการกระทำของเขาลื่นไหลเป็นธรรมชาติอย่างไม่น่าเชื่อและสัญชาตญาณของเขาก็กำลังสั่งการให้เขาเคลื่อนไหวอย่างเหมาะสมที่สุด

“นี่เป็นการแข่งขันที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ! ตอนนี้การแข่งขันได้เข้าสู่รอบที่ 21 แล้วและเซี่ยเฟยก็เลื่อนขึ้นมาอยู่อันดับที่ 11!!” 

“ตอนนี้เขากำลังพุ่งทะยานแย่งชิงชัยชนะและผมคิดว่าเขาจะต้องทำได้แน่ ๆ” ผู้บรรยายผมแดงประกาศอย่างตื่นเต้น

ขณะเดียวกันผู้บรรยายที่สวมแว่นตาก็ส่ายหัวอย่างเงียบ ๆ เพราะเนื่องจากคู่บรรยายของเขาตื่นเต้นมากจนเกินไปจึงทำให้เขาพูดไม่ออกมาสักพักแล้ว

“มันยังเร็วเกินไปที่จะตัดสินแบบนั้น ในตอนนี้ความเร็วของเซี่ยเฟยค่อย ๆ ลดลงและเขาก็ทิ้งห่างจากอันดับที่ 10 เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ มันเป็นไปได้ไหมว่ารถของเขากำลังทำงานผิดปกติอีกครั้ง” ผู้บรรยายที่สวมแว่นตากล่าวขณะที่ลูบคางของเขา

เนื่องจากมุมมองของผู้ชมค่อนข้างมีอย่างจำกัด พวกเขาจึงทำได้เพียงอาศัยหน้าจอเพื่อติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นภายในสนามแข่งเท่านั้น ซึ่งเมื่อทุกคนได้ยินคำพูดของผู้บรรยายที่สวมแว่นตาแล้วพวกเขาก็ค่อย ๆ ตระหนักถึงความผิดปกติที่เกิดขึ้น

“ไม่นะ! รถแข่งของเซี่ยเฟยจะพังอีกไม่ได้!!”

“เซี่ยเฟย นายจะต้องอดทนสู้ต่อไป!”

“เซี่ยเฟยอย่ายอมแพ้!!”

ผู้ชมบนอัฒจันทร์และเหล่าผู้ชมที่อยู่หน้าจอต่างก็ได้รับอิทธิพลความบ้าคลั่งและทัศนคติที่ไม่ยอมแพ้ของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว

ผู้ชมทั้งหมดจมอยู่กับความตื่นเต้นและลุกขึ้นยืนเพื่อส่งกำลังใจให้เซี่ยเฟยราวกับว่าพวกเขาเป็นคนขับรถหมายเลข 99 เอง

—

ทางฝั่งของเซี่ยเฟยยังมีใบหน้าที่เรียบเฉยและไม่มีร่องรอยของความหงุดหงิดปรากฏขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย

เนื่องจากในก่อนหน้านี้ชายหนุ่มขับรถด้วยความเร็วสูง มันจึงทำให้เครื่องยนต์เกือบจะถึงขีดจำกัดและส่งผลให้มีควันสีขาวจาง ๆ ลอยออกมาจากกระโปรงรถ

เขารู้ดีว่านี่เป็นสัญญาณของเครื่องยนต์ที่กำลังร้อนจัด ซึ่งถ้าหากเขายังคงฝืนขับด้วยความเร็วสูงต่อไป มันก็จะทำให้ความพยายามทั้งหมดที่ผ่านมาของเขาสูญเปล่าและอาจจะทำให้ระบบภายในรถล้มเหลวจนไม่สามารถกู้คืนมาได้

เซี่ยเฟยตัดสินใจชะลอความเร็วของรถลงอย่างช้า ๆ และปล่อยให้เครื่องยนต์ที่กำลังร้อนจัดค่อย ๆ กลับเข้าสู่สภาวะปกติอีกครั้ง

“เซี่ยเฟยเป็นยังไงบ้าง? รถยังแข่งต่อไหวไหม?” เฉินตงติดต่อเข้ามาด้วยความกระวนกระวาย

“ไม่ต้องห่วง การแข่งขันยังไม่จบ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเผยรอยยิ้มเล็กน้อย

เมื่อได้รับคำตอบจากเซี่ยเฟยเหล่าสมาชิกภายในทีมก็ไม่สามารถพูดอะไรตอบโต้กลับมาได้ เพราะพวกเขาต่างก็รู้ว่าชายหนุ่มได้พยายามอย่างเต็มที่แล้ว

แม้ว่าเซี่ยเฟยจะไม่สามารถชนะการแข่งขันในครั้งนี้ได้ แต่เขาก็จะเดินออกมาจากสนามอย่างสง่าผ่าเผย!

“สิ่งที่ทำได้ในตอนนี้คือรออย่างอดทน ถ้าหากการคำนวณของฉันถูกต้อง พวกเราจะพุ่งทะยานอีกครั้งในรอบที่ 26” เซี่ยเฟยหลับตาขณะพูดด้วยเสียงต่ำ

“นายไม่ต้องฝืนตัวเองขนาดนั้นก็ได้ ไม่มีใครโทษนายหรอกถ้าพวกเราไม่ชนะ” เฉินตงกล่าวด้วยน้ำเสียงที่กังวล

“นี่นายกลายเป็นคนอ่อนไหวไปแล้วหรอ?” เซี่ยเฟยพูดติดตลก

“เอาล่ะหยุดพูดเรื่องไร้สาระแล้วทำตามที่ฉันบอกก็พอ” เซี่ยเฟยพูดอย่างผ่อนคลายในขณะที่ตั้งสมาธิในการขับรถ

น้ำเสียงของเซี่ยเฟยหนักแน่นเป็นอย่างมาก ซึ่งมันไม่มีช่องว่างให้ใครพูดจาโน้มน้าวเขาได้เลย

ความเร็วของรถแข่งสีแดงเพลิงค่อย ๆ ลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่ชายหนุ่มก็ตั้งใจฟังทุก ๆ เสียงที่ออกมาจากเครื่องยนต์

ทันใดนั้นเขาก็ได้พบว่าเครื่องยนต์ที่ร้อนจัดไม่ใช่ปัญหาเดียวในตอนนี้ เพราะเขายังได้ยินเสียงเหมือนฟองอากาศที่ผุดออกมาจากน้ำด้วย

เสียงนี้เป็นสัญญาณที่บอกว่ากำลังมีปัญหาในส่วนของระบบแปลงพลังงานและมีโอกาสสูงที่วาล์วซีลกำลังคลายตัว

เพียงแค่ปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่ร้อนจัดก็ทำให้เซี่ยเฟยรู้สึกปวดหัวมากแล้ว ในตอนนี้แม้แต่ระบบพลังงานก็มีปัญหาเพิ่มขึ้นมาอีก มันจึงทำให้ชายหนุ่มต้องคิดพิจารณาแผนใหม่อีกครั้ง

บรื้น!

ทันใดนั้นรถแข่งที่อยู่ในอันดับที่ 12 ก็เร่งความเร็วแซงชายหนุ่มบริเวณทางตรง ซึ่งมันก็ทำให้อันดับของเซี่ยเฟยได้หล่นลงมาอยู่ที่ 12 แทน

เมื่อเห็นสถานการณ์ตรงหน้าเซี่ยเฟยก็ทำได้เพียงขมวดคิ้ว แต่ไม่สามารถตอบโต้อะไรได้และทำได้เพียงอดทนรออย่างเงียบ ๆ เท่านั้น

ในไม่ช้าเมื่อการแข่งขันได้มาถึงรอบที่ 26 และอันดับของเซี่ยเฟยก็ร่วงหล่นลงมาอยู่ที่ 23 แล้ว

“เซี่ยเฟยตอนนี้เป็นรอบที่ 26 แล้ว” เฉินตงแจ้งเตือน ซึ่งน้ำเสียงของเขาก็ไม่ได้มีร่องรอยของการตำหนิอยู่เลย

“ฉันรู้แล้ว แต่มันมีปัญหาอื่นเพิ่มขึ้นมา เพื่อความปลอดภัยเราต้องเลื่อนแผนออกไปรอบหน้า” เซี่ยเฟยตอบอย่างจริงจัง

“เข้าใจแล้ว ดูแลตัวเองด้วย” เฉินตงกล่าวตอบพร้อมกับวางเครื่องสื่อสารลง แล้วเอนหลังเพื่อผ่อนคลาย

“เฮ้อ! ไอ้นี่มันไม่รู้วิธียอมรับความพ่ายแพ้เลยจริง ๆ” เฉินตงพูดกับตัวเองขณะที่ถอนหายใจยาว ๆ

“ฉันได้ยินว่ามีปัญหาอื่นด้วยหรอ? ทำไมนายไม่เกลี้ยกล่อมให้เขาถอนตัวออกจากการแข่งขัน นี่มันเรื่องอันตรายนะ!” เยว่เกอพูดด้วยความเป็นห่วง

“ใครอยากทำก็ทำ แต่ฉันไม่ทำ” เฉินตงกล่าวปฏิเสธพร้อมกับส่ายหัว

เมื่อได้รับคำตอบจากเฉินตงหญิงสาวก็ถึงกับพูดไม่ออก แต่เธอก็พอที่จะรู้จักนิสัยใจคอของเซี่ยเฟยอยู่บ้าง ว่าเมื่อใดก็ตามที่เขาตั้งใจจะทำอะไรซักอย่าง มันก็ไม่มีใครสามารถเกลี้ยกล่อมเขาได้

—

ขณะเดียวกันเหล่าผู้ชมก็กำลังรู้สึกผิดหวัง เพราะในก่อนหน้านี้ทุกคนต่างก็คิดว่าเซี่ยเฟยกำลังจะสร้างปาฏิหาริย์คว้าชัยชนะมาได้ แต่จู่ ๆ ชายหนุ่มกลับหยุดเร่งความเร็วและอันดับก็ค่อย ๆ ร่วงลงไปอย่างต่อเนื่อง

เหล่าผู้ชมรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมากซึ่งอารมณ์ของพวกเขาก็ได้ฝังแน่นบนใบหน้าของตัวเองได้อย่างชัดเจน

“ทำไมรถแข่งของเซี่ยเฟยถึงช้าลงเรื่อย ๆ ล่ะ! ทำไม? มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

“อันดับที่ 25 ในรอบที่ 26! โอ้ยการแข่งขันกำลังจะจบลงแล้วนะ! นี่ปาฏิหาริย์ของเซี่ยเฟยหมดลงแล้วจริง ๆ หรอ!!” ผู้บรรยายผมแดงจับหัวของตัวเองด้วยความหงุดหงิด ซึ่งถือได้ว่าเป็นการกระทำที่ไม่สมควรอย่างยิ่งในการถ่ายทอดสด

ขณะเดียวกันผู้บรรยายที่สวมแว่นตาด้านข้างก็ทำได้เพียงแต่ส่ายหัวไปมาและถอนหายใจด้วยความเหนื่อยล้า

ทันใดนั้นดวงตาของผู้บรรยายทั้งสองก็เปล่งประกายขึ้นมาอีกครั้ง เพราะทันทีที่รถแข่งสีแดงเพลิงของเซี่ยเฟยข้ามเส้นสีเหลืองเพื่อเข้าสู่รอบที่ 27 อย่างเต็มตัว มันก็เริ่มเร่งความเร็วอย่างกระทันหัน!

รถแข่งหมายเลข 99 ฟื้นคืนชีวิตอีกครั้ง โดยมันได้ส่งเสียงคำรามอย่างรุนแรงและพุ่งไปข้างหน้าด้วยความบ้าคลั่ง!!

“ดูนั่นสิ! เซี่ยเฟยกำลังเร่งความเร็วแล้ว เขาไม่ได้คิดจะยอมแพ้อย่างที่ผมคิดเอาไว้! สู้เขาเซี่ยเฟย!! การแข่งขันครั้งนี้มันน่าตื่นเต้นจริง ๆ ผมไม่เคยเห็นการแข่งขันไหนที่ดุเดือดขนาดนี้มาก่อนเลย!!!” ผู้บรรยายหนุ่มผมแดงกระโดดขึ้นอย่างตื่นเต้นและตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง

ในขณะที่ผู้บรรยายที่สวมแว่นก็อึ้งไปครู่หนึ่งแล้วถอนหายใจออกมายาว ๆ จากนั้นเขาก็เอามือกุมไปที่หน้าอกของตัวเองและพึมพำออกมาว่า

“การแข่งขันครั้งนี้มันจะตื่นเต้นเกินไปแล้ว ดูเหมือนว่าฉันต้องเลิกรับงานพวกนี้แล้วสินะ”

***************