ตอนที่ 26 .. “ เมฆาพิโรธ ”
รางวัลแด่คนช่างฝัน - จรัญ มโนเพชร
นิยาย แนว สืบสวนสอบสวน (Suspense) / Action
ตอนที่ 26 .. “ เมฆาพิโรธ ”
“ดิฉันร้อยตำรวจตรีหญิง ภัคภัสร์ปภา ธฤษวรรณ ขอรายงานตัวค่ะท่าน”
หัวหน้าฝ่ายปราบปรามพิเศษ รับทราบการกลับมา ยี่หวาลงจากเครื่องปุ๊บก็เดินทางมารายงานตัวกับหัวหน้าทันที
“ตามสบายหมวด” ยี่หวาก้มหัวคำนับแล้วนั่งลง
“สบายดีนะหมวด คงเหนื่อยแย่”
หัวหน้าศูนย์ส่งยิ้มให้ ยี่หวายังคงเคร่งครัดกับหน้าที่ จึงทำตัวเข้มเอาไว้
“นิดหน่อยค่ะท่าน เรียกตัวดิฉันกลับมาด่วนจี๋แบบนี้ ไม่ทราบว่ามีเรื่องอะไรด่วนหรือเปล่าคะ”
“ก็นิดหน่อย พอดีรู้มาว่า ภารกิจที่ยุโรป เสร็จแล้ว” หัวหน้าศูนย์เริ่มแจ้งข่าวทันที
“กะว่าจะให้พักสักหน่อย แต่มีเรื่องเข้ามาซะก่อน จึงจะให้มาพักที่นี่แทน”
หัวหน้าศูนย์โยนแฟ้มคดีสำคัญของแก็งค์มังกรดำข้ามชาติให้กับยี่หวาลงบนโต๊ะ แล้วชี้ ไปที่แฟ้มนั้น
“ด่วนและลับมาก จึงต้องใช้ตำรวจสากลที่มีฝีมือเก่งๆ อย่างเธอ” ยี่หวารีบจับแฟ้มนั้นและเปิดดู พลิกไปมา
“ท่านจะให้ดิฉันเริ่มงานเมื่อไหร่คะ”
ยี่หวาไฟแรงจริงๆ พึ่งเสร็จคดีนั้นไปหยกๆ จะเริ่มลุยใหม่อีกแล้ว แหม ไฟแรงจริงๆสาวน้อย
“อาทิตย์หน้าก็ได้ถ้าพร้อม ฉันให้เธอหยุดพักผ่อน 5 วัน จากนั้นก็เริ่มงานได้เลย”
“ค่ะท่าน” ยี่หวายืนรับคำสั่งแล้วเตรียมตัวจะออกไป หัวหน้าเรียกไว้
“อ้อ อย่าพึ่งไป” ยี่หวาหันมา แล้วหัวหน้าศูนย์ก็หยิบซองสีน้ำตาลเล็กๆซองหนึ่งขึ้นมา วางไว้ให้บนโต๊ะ
“สิ่งที่เธออยากได้ ฉันให้คนจัดการให้แล้ว” ยี่หวาเดินกลับมาหยิบและเปิดดู พร้อมกับมีรอยยิ้มออกมาเล็กน้อย
“ขอให้โชคดีนะกับ 5 วันนี้” หัวหน้าศูนย์ส่งยิ้มให้เหมือนจะรู้
“หวังว่าคงจะมีกำลังใจทำงานขึ้นอีกโขเลยนะหมวด”
ของขวัญที่หัวหน้าให้นี้ เป็นสิ่งที่ยี่หวาต้องการมากที่สุด มาอย่างยาวนานแล้วเลยทีเดียว เมื่อรู้ว่าคนที่เธอรักอยู่ที่ไหน ยี่หวาจึงรีบไปที่นั่นทันทีในเช้าวันต่อมา
<<<<< ***** >>>>>
(ส.2 พ.ย.) ประมาณ 8 โมงเช้า ยี่หวานั่ง Taxi มาตามแผนที่และที่อยู่ตามเอกสารที่ได้มานั้น หลังจากยกกระเป๋าลงมา เธอก็ดูเลขที่บ้าน เมื่อตรวจสอบว่าตรง มั่นใจว่าใช่ ก็กดออดไปสองครั้งและยืนรอด้วยใจที่เต้นๆตุ๋มๆต่ำๆ ถ้าเจอหน้าดลแล้วจะพูดหรือเอ่ยวาจาอะไรออกไปยังไงดี เนเน่ได้ยินเสียงจากบ้านข้างๆแว่วมา จึงมีความสนใจอยากรู้อย่างมาก จึงรีบออกมาจากห้องตัวเองด้านข้างซึ่งติดกับระเบียงหน้าบ้านอยู่แล้ว และแอบดูว่าใครมากดออด แต่ก็เห็นไม่ค่อยชัดนัก เพราะมีพวกต้นกล้วยบังอยู่เต็มไปหมด ไม่นานเบิ้มก็นุ่งผ้าข้าวม้าเดินออกมาพร้อมเสื้อกล้ามที่ใส่อยู่แบบสบายๆ มองดูว่าใคร เมื่อไม่ใช่เนเน่ก็แล้วไป จึงตะโกนถามออกไป
“มาหาใครครับ” ยี่หวายืนหันหลังอยู่เมื่อได้ยินเสียงจึงหันกลับมา เล่นเอาเบิ้มใจสั่นสะท้านไปเลย
“คนอะไรจะสวยปานนั้น นางฟ้าชัดๆ” เบิ้มบ่นในใจ
“ดลค่ะ” เนเน่พยายามจะรู้ให้ได้ว่าสาวน้อยผู้นั้นเป็นใคร แล้วมาหาใครในบ้านหลังนี้ เนื่องจากอยู่ไกลเสียงก็ได้ยินไม่ชัด จึงตัดสินใจวิ่งกลับเข้าไปในห้อง เพื่อเอากล้องส่องทางไกลมาส่องดู เมื่อกี้ก็รีบจึงไม่ได้หยิบมา
“อยู่ไหมคะ” เบิ้มตอบแบบไม่ต้องคิด
“อยู่ครับ ชะชะเชิญ ครับ”
เบิ้มรีบเปิดประตูเล็กให้ และแถมยกกระเป๋าเสื้อผ้าใบโต ถือเข้าไปให้ด้วยอีกต่างหาก เนเน่วิ่งกลับออกมา แล้วรีบส่องดูที่หน้าประตูหน้าบ้านทันที
“อ้าวหายไปไหนแล้วหละ ไวจริง” แล้วก็หันไปที่หน้าทางเข้าตัวบ้าน เห็นหลังไวๆ
“เสร็จกัน รู้งี้เมื่อกี้ไม่น่าลืมเลย เจ็บใจจริงๆ” เมื่อหมดหวังก็เดินลงไปหาข้าวมือเช้าทานทันที
“พี่แจ๋ว พี่ผิน มีอะไรให้หนูกินบ้าง หนูหิวแล้ว” เนเน่เดินตะโกนลงไปส่งเสียงดังลั่นมาแต่ไกล
นิ่มเดินออกมาจากห้องครัว ยืนเอามือท้าวสะเอว แล้วส่ายหัวกับพี่สาวแสนซนคนนี้เสียจริง
***** ^^^^^ *****
“ใครมาหนะพี่” ดลตะโกนถามเบิ้มขณะที่นั่งทำงานอยู่ โดยยังไม่ได้หันไป ยี่หวาส่งเสียงเบาๆ
“ดล” ดลจำเสียงเยือกเย็นเบบนี้ได้ จึงหยุดงานแล้วค่อยๆหันไป พอเห็นว่าเป็นยี่หวา แก้วน้ำที่ถืออยู่หล่นลงมาจากมือสู่พื้นแตกทันที
“หวา” ยี่หวารีบเข้าไปนั่งก้มลงเก็บเศษแก้วที่แตกนั้นทันที ดลรีบปัดมือของยี่หวาออกทันที และจับมือไว้พยุงขึ้นมา
“ทำอะไรหนะหวา ไม่เอา อันตราย มา มานั่งตรงนี้” แล้วหันไปบอกเบิ้ม
“พี่เบิ้ม ผมรบกวนหน่อย เก็บเศษแก้วแตกให้ผมที”
“เออๆ ตามบาย” เบิ้มเก็บกวาดไป พร้อมกับแอบดูว่าสาวน้อยผู้นั้นมาหาดลทำไม
“หวา เธอกลับมาตั้งแต่เมื่อไหร่ 2 ปีแล้วซินะ ที่เราไม่เจอกัน”
ยี่หวาพยักหน้าพร้อมกับเอื้อมมือไปจับมือดลมาบีบไว้
“หวากลับมาเมื่อวานนี้เอง คิดถึงดลมากที่สุดเลย เมื่อรู้ว่าดลอยู่ที่ไหนหวาก็รีบมาหาดลทันที”
“แล้วหวารู้ว่าดลอยู่ที่นี่ได้ยังไง” ดลแปลใจมาก
“ดลอย่าลืมซิว่าหวาทำงานอะไร” ยี่หวาเตือนสติดล
“หน่วยข่าวกรอง ตำรวจสากลนะ เรื่องนี้จิ๊บๆ” ยี่หวาส่งยิ้มให้ไม่หยุด
“ได้ข่าวว่า เธอทำงานเก่งมากเลยนี่ได้ไปประเทศนั้นประเทศนี้ด้วย” ดลดีใจด้วยความจริงใจ
“อ้อ..ได้ข่าวว่าเธอแต่งงานที่สเปนเหรอ ดีใจด้วยนะ” ยี่หวาส่ายหน้า
“เปล่า” ดลงง ทำหน้าไม่เข้าใจ
“ก็..” ยี่หวาเอามือมาปิดปากดล
“ดลก็รู้ว่าหวารักดลคนเดียว ข่าวไม่จริง” ยี่หวาโกหกดล เลยยังไม่อยากที่จะบอกความจริงในตอนนี้
“แล้วทำไม ข่าวถึงลงแบบนั้นหละ รูปสวมแหวนก็มี” ดลไม่เคยลืมข่าวนั้น
“ไอ้บอยเพื่อนดล มันยังไปงานหวาเลย อย่ามาโกหกกันดีกว่า” ยังไงดลก็ไม่เชื่อ
“ใช่บอยไป แต่หวาอธิบายให้บอยฟังแล้วว่ามันเป็นเพียงการเล่นละคร” ยี่หวายืนยันเช่นนั้น
“พองานจบ จับผู้ร้ายได้ มันก็ไม่มีอะไร” ดลทำหน้าแปลกๆ ไม่รู้ว่าจะเชื่อดีไหม
“อีกอย่าง วันนั้นอันที่จริงพิธียังไม่ได้เริ่มด้วยซ้ำ” ยี่หวาพยายามบอกให้ดลเชื่อเธอ
“เจ้าบ่าวกำมะลอมาเสียชีวิตไปเสียก่อน เพราะถูกจับตาย” ยี่หวายืนยันหนักแน่น
“เขาเป็นพ่อค้าเฮโรฮีนข้ามชาติ หลบหนีการจับกุมจึงต้องถูกจับตาย” เอาภารกิจมาบังหน้า
“หวาต้องขอโทษดลด้วยนะที่ทำให้ดลเข้าใจผิด และที่สำคัญ” ยี่หวากำมือของดลมาหอม
“วันนั้นที่หวาทิ้งดลไป หวาพูดแรงไป หวาขอโทษ” ยี่หวามาเพื่อขอโอกาส
“เรากลับมาคืนดีกันนะ หวารักดล ดลให้โอกาสหวานะคนดี”
ยี่หวายอมสารภาพออมาจนหมดเปลือก ทำให้ดลทำสีหน้าไม่ถูกเลยคราวนี้
“เออ หวา” ยี่หวามากลับขอคืนดีด้วย ดลรีบแกะมือของหวาออกทันที จนยี่หวาเองก็แปลกใจ ดลไม่เคยเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่เมื่อก่อน ดลเป็นฝ่ายตามง้อขอคืนดีเองทุกครั้ง แล้วตอนนี้ ทำไมกลับมาทำเย็นชาเช่นนี้ได้หละ
“ดล ทำไม มีอะไร” เบิ้มแอบดูอยู่ไม่ไกลนัก ขยับตัวถอยหลังไปชนเอากับชั้นข้างห้อง ของล่วงหล่นมาดังโครม ดลกับยี่หวาจึงหันไปดู
“แฮ่ๆ ไม่มีอะไร ไม่ได้แอบฟังนะ ทำความสะอาดๆ แล้วมันพังลงมาเอง”
พูดจบเบิ้มรีบเก็บของตรงนั้นแล้ววิ่งหายวับไปกับตา ดลหันไปมองเห็นกระเป๋าเสื้อผ้าใบโตของยี่หวา จึงเข้าใจทันที
“หวามาเหนื่อยๆ ไปพักผ่อนก่อนนะ มาเดี๋ยวดลจะพาไป” ยี่หวาดีใจมากที่ดลยังพอมีน้ำใจอยู่บ้าง
ถ้าไม่ใช้วิธีนี้ มีเหรอที่ดลจะให้เธออยู่ด้วย แต่ในใจของดลซิ ไม่สบายใจเลย หลังจากที่หาห้องให้ยี่หวาได้ ดลก็หลบออกมาข้างนอกและคุยกับเบิ้ม
“พี่ ผมต้องขอโทษด้วยนะที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น” เบิ้มโบกมือ เพราะรู้ว่ามันคืออดีตพูดง่าย แต่บ้านใกล้ๆหนะ ยุ่งแน่ถ้ารู้ขึ้นมา
“ไม่เป็นไรๆพี่เข้าใจไอ้น้อง คนนี้หนะพี่ไม่ห่วง แต่ที่พี่ห่วงหนะ” เบิ้มชี้ไปที่บ้านของเนเน่
“บ้านโน้นมากกว่า” ดลลืมเรื่องเนเน่ไปเลยชั่วขณะเมื่อกี้ เพราะยี่หหวาโผล่มาแบบกระทันหัน
“เออใช่จริงๆด้วย เอางี้ เดี๋ยววันนี้ผมมีนัดกับเนเน่ด้วย เรื่องข่าวของมังกรดำตอนบ่ายๆที่บ้านนี้เอง” ดลจำต้องให้เบิ้มช่วยอีกแล้ว
“ผมรบกวนพี่ที ช่วยกันยี่หวาให้ด้วยนะ อย่าให้ออกมาเผ่นพล่านนอกบ้าน ชานบ้านติดกันแค่นี้ ผมเสียว หาหนังแผ่น อินเตอร์เน็ต หรืออะไรก็ได้ให้เธอทำอยู่ในบ้านนี้เท่านั้น” ดลนึกขึ้นมาได้
“เออครัว ทำครัวก็ได้ หวาชอบทำกับข้าว นะช่วยที นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว ผมขอไปแต่งตัวก่อน ตอนนี้หวาคงหลับอยู่ ผมไปหละ ถ้าหวาถามว่าผมไปไหน บอกว่าไปทำงานก็แล้วกัน แล้วตอนเย็นๆจะกลับมา” เบิ้มยกนิ้วให้
“Ok” ดลดีใจมาก ที่อย่างน้อย ตอนนี้ก็รอดตัวจากยี่หวา ขอไปหาหัวใจของตัวเองก่อน
>>>>> ----- <<<<<
บ่ายโมงตามเวลานัด ดลทำทีมาจอดรถที่หน้าบ้านเนเน่ แล้วกดออด สาวใช้เดินออกมาเปิดประตูให้ พอเข้าไปในบ้านเจอนิ่มเดินออกมาจากห้องพอดี
“อ้าวพี่ดล มาหาพี่เน่เหรอ” ดลพยักหน้า
“สงสัยอยู่ข้างบน ไปกัน” นิ่มพาดลขึ้นไปที่ห้องดูหนัง+ห้องรับแขกชั้นบน เนเน่นอนดูหนังแก้เบื่อ
“พี่เน่ พี่ดลมาแล้ว” เนเน่ปิดทีวีแล้วลุกขึ้นมา เดินมานั่งที่เก้าอี้รับแขกระเบียงหน้าบ้าน
“นั่งซิ นิ่มพี่รบกวนหน่อย ขอเครื่องดื่มเย็นๆให้ดลด้วย แล้วเธอก็มาด้วยนะ” นิ่มพยักหน้า
“งานนี้มันต้องทำด้วยกันสามคน” เนเน่เป็นตัวตั้งตัวตีในงานครั้งนี้
“ค่ะพี่” แล้วนิ่มก็เดินออกไปอีกห้องนึง เปิดตู้เย็นเอาน้ำอัดลมกระป๋องออกมาสามอัน+คุ๊กกี้นิดหน่อย จากนั้นก็มานั่งปรึกษาหารือเรื่องงานกัน ดลไม่รู้เลยว่าห้องนอนของยี่หวานั้นจะอยู่ติดกับระเบียงบ้านหลังนี้ พอตื่นนอน เธอก็เดินออกมาสูดอากาศหลังห้องนั้นทันที แล้วเจ้ากรรม เธอดันหันไปเห็นดลนั่งหัวจะติดอยู่กับเนเน่อยู่แล้ว ด้วยความไม่รู้และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ จึงตะโกนทักดลไปทันทีด้วยน้ำเสียงที่ดังฟังชัดมาก
“ฮู้ ที่รัก ดลขา ทางนี้ ทางนี้ ที่รัก ทางนี้ ดลขา” เนเน่นั่งหันหลังอยู่ได้ยินคำว่าดลขา ที่รักขา จึงรีบหันไปดูทันทีว่าเสียงนั้นมาจากไหน
“ยัยคนเมื่อเช้านี่” แล้วก็หันไปมองหน้าดล ซวยแล้ว ดลทำหน้าไม่ถูกเลย
“เวร ทำไมกูถึงซวยแบบนี้วะเนี่ย”
ดลพยายามก้มหน้า แต่ยี่หวาก็ไม่ลดละ ในเมื่อดลไม่ตอบกลับจึงเรียกต่อ พร้อมกับโบกไม้โบกมืออยู่นั่นแหละ เป็นการใหญ่
“ดลฮู้ ทางนี้เห็นหวาไหม ที่รักขา หวาอยู่นี่ ดลขาไปทำอะไรอยู่ตรงนั้น ดล” เนเน่นั่งก้มหน้า แทบจะเก็บอารมณ์ไม่อยู่แล้ว
“ทางนี้ ทางนี้ ที่รัก ทางนี้ ดลขา เห็นหวาหรือยัง”
“ดล” เนเน่ถามเบาๆ ดลเอามือเช็ดหน้า เช็ดเหงื่อที่ไหลออกมาแบบไม่รู้ตัว เมื่อเงียบ คราวนี้เนเน่ก้มลงไปบิดหูซ้ายทันที
“มานี่เลย อย่าหลบ พ่อตัวดี อีนมโตนั่นใคร”
เนเน่ชี้ไปที่ยี่หวา ซึ่งใส่ชุดนอนที่ไม่ได้นอนบางเฉียบอยู่ในขณะนั้น เสื้อแขนกุดแค่เอว กางเกงยาวครึ่งน่อง สีชมพูอ่อน
“เออ..ยี่หวา” เนเน่หึงขึ้นมาทันทีแบบไม่รู้ตัว
“ยี่หวาคือใคร ตอบ ตอบ ถ้าคำตอบ ไม่ถูกใจ เจ็บ”
ยังไม่ทันที่ดลจะตอบอะไรออกมา ยี่หวาตะโกนออกมา แรงมากเลยคราวนี้
“ผัวขา ทำไมถึงไม่ตอบเมียหละคะ ฮู้ๆ ผัวขาเมียอยู่ทางนี้” เนเน่บิดหูดลอย่างแรง
“ผัวเหรอ ทุเรศที่สุด” เนเน่กระตุกหูดลจนเกือบจะขาด
“กลับไปเลย ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับนายแล้ว” แต่เนเน่หมั่นใส้ยี่หวามากในตอนนี้
“เมียเหรอ ได้เลย อีนมโต มายืนยั่ว ยืนโชว์เต้าอยู่ได้” จึงร้องเพลงยั่ว เพื่อแกล้งให้ยี่หวาโกรธทันที
< ไม่ย๊อม ไม่ยอม - พาเมล่า เบาว์เด้นท์ > ได้ผล ยี่หวาไม่พอใจที่รู้ว่าดลนั้นมีใจให้กับเนเน่ เพราะดลไม่ยอมกลับไปเสียที เบิ้มวิ่งออกมาดูจากหน้าบ้านเพราะขึ้นไปไม่ได้ เอามือกุมหัวตัวเอง
“จนได้ ไอ้ดล ทำไมถึงไม่ไปนั่งคุยกันที่อื่นหละวะ” เบิ้มตะโกนขึ้นไป
“มาคุยทำไมตรงนี้ ซวยๆ ซวยจริงๆ”
ยี่หวายืนกอดอกฟัง สักพักก็ไม่พอใจ ยืนเต้นเหมือนผีเข้าอยู่ตรงระเบียงนั้น แล้วชี้ไปที่เนเน่
“อึ๊ย” พอร้องจบ เนเน่ก็เดินกลับเข้าห้องทันที แถมตบหน้าดลปิดท้ายอีกต่างหาก ดลทำอะไรไม่ถูกเลย
“เน่” นิ่มดึงตัวดลไว้แล้วส่ายหน้า
“อย่าค่ะพี่ เชื่อหนู พี่กลับไปก่อน ตอนนี้พี่เน่กำลังโกรธพี่อยู่” นิ่มหวังดี
“เอาไว้ให้พี่เน่ใจเย็นลงมากกว่านี้ แล้วหนูจะ Clear ให้” นิ่มรับปากแล้ว
“และจะติดต่อไปนะ ไปกลับไปก่อน” นิ่มรีบไล่ให้ดลกลับบ้านไปโดยรีบด่วน
“นั่น ตรงนั้นจ้าวเข้าแล้วหละมั้งหนะพี่ไปดูนางก่อนเถอะ” นิ่มช่างสังเกตุเสียด้วย
“หนูกลัวแตงโมสองใบของหล่อนนั้นจะล่วงตกลงมาเสียก่อน เสียดายของ” นิ่มชี้ไปยังหน้าอกที่กำลังเด้งไปเด้งมาของยี่หวา
“มันจะแย่เอาน่า” ยี่หวาทำหน้าจริงจังเสียด้วย
“Wow คนอะไร จะใหญ่ปานนั้น” นิ่มก้มดูของตัวเอง เล็กกว่าของยี่หวามาก คนละขนาดเลย ส่วนดลจึงตัดสินใจกลับบ้านไปก่อน
“หวานะหวา ไม่น่าทำกันเลย ดันเรียกออกมาได้อย่างนั้น ซวยเลยฉัน”
***** \\\\\ *****
เนเน่เมื่อกลับเข้าไปถึงห้องก็นั่งหน้ามุ่ยอย่างเดียว หยิบกระดานไวท์บอร์ดขึ้นมา แล้วเขียนหน้าดลเป็นรูปการ์ตูนด้วยสีดำ และชื่อด้วยสีน้ำเงิน แล้วเอาสีแดงขีดกากบาทไปมา นิ่มค่อยๆแง้มประตูห้องเข้าไปสังเกตุการณ์อย่างเงียบๆ ว่าพี่สาวมีอาการเป็นเช่นไรบ้าง
“เลวๆๆ ชั่วๆๆ บังอาจมาหลอกฉัน มีเมียแล้วมาจีบฉันทำไม มีเมียแล้ว มาวุ่นวายกับฉันทำไม” เนเน่พูดใส่หน้าดลในไวท์บอร์ด
“ฉันเกลียดแกๆ นายสับปะดน ย๊าก”
เมฆาพิโรธทันที เนเน่เหวี่ยงกระดานไวท์บอร์ดลงกับพื้นแล้วเอาเท้ากระทืบๆไปที่หน้า และชื่อนั้นอย่างแรงแบบไม่นับ โกรธมาก เหมือนเฆฆาจะพิโรธเช่นกันทางยี่หวา ไม่ใช่แค่เนเน่คนเดียวที่เป็น พอดลเดินกลับเข้าถึงบ้าน ยังไม่ทันที่จะก้าวเท้าเข้าถึงหน้าบันได ก็มีกระป๋องแป้งพลาสติกปลิวลงมาจากระเบียงห้องที่ยี่หวานอนอยู่ ดลเงยหน้าขึ้นไป
“โอ๊ย” โดนเข้าเต็มๆที่หัว จากนั้นก็อะไรต่อมิอะไรลอยตามลงมา ทั้งแปรงหวีผม และกล่องกระดาษ
ดลรีบวิ่งขึ้นไป และเอากุญแจสำรองไขเปิดประตูห้องเข้าไปอย่างไว
“หยุดบ้าได้ไหมหวา” ยี่หวาชี้หน้าดล
“ทำไมดลทำกับหวาแบบนี้หละ”
“ผมทำอะไร ไหนหวาบอกมาซิว่าผมทำอะไรคุณ” ดลโมโหเหมือนกันจึงสวนไป
“ก็คุณผิดสัญญา คุณมีคนใหม่ อีนังนั่น อีเด็กคนนั้น” ยี่หวาโมโหมาก
“มันแย่งคุณไปจากหวา อ๋อ..คงได้มันแล้วหละซิ” ยี่หวาคิดไปไกลมาก
“ถึงนั่งตัวติดกัน แทบจะสิงเป็นร่างเดียวกันอยู่แล้ว” ยี่หวาพูดแรงมาก
“หัวร่อต่อกระซิกกันขนาดนั้น หวาเรียกคุณ คุณก็ไม่ตอบ” ยี่หวาเริ่มพาลพะโล
“คุณแคร์มันมากกว่าหวาซึ่งเป็นเมียคุณใช่ไหม” ยี่หวาเผลอใช้สิทธิ์เดิม
“จะบ้าเหรอหวา ผมไปเป็นผัวคุณตั้งแต่เมื่อไหร่” ยี่หวารีบตอบกลับทันที
“อ๋อ ที่เราได้เสียกันบนเกาะวันนั้น คุณลืมมันไปแล้วเหรอ” ดลพูดอะไรไม่ออกเลย
“คุณลืมมันได้เหรอ” ยี่หวากระแทกเสียงใส่
“เชอะ ผู้ชาย” ยี่หวาเสียความรู้สึกจริงๆ
“อีตอนไม่ได้ก็ออดอ้อนยังงั้นยังงี้ แต่พอได้แล้วซิ” ยี่หวาเดินไปลอยหน้าลอยตาใส่ดล
“ก็ไม่รับผิดชอบ” ยี่หวาเล่นแบบนี้เลย
“ไม่ใช่แค่ครั้งเดียว” ยี่หวาจำได้แม่น
“2-3 ครั้งด้วยซ้ำไป หลังจากกลับมา จนกระทั่งเรียนจบ เราก็ยังเอากันอยู่เลย” ยี่หวาไม่ยอมจริงๆ
“แบบนี้ ถ้าไม่เรียกว่าเมีย แล้วเค้าจะให้เรียกว่าอะไรดล หรือจะให้เรียกว่ากะหรี่ริมทางดีกว่าไหม” ยี่หวาใส่ไม่ยั้งแล้ว แรงมากด้วย
“หรือว่าต้องให้หวาอุ้มท้องมีลูกให้คุณก่อนใช่ไหม ถึงจะเรียกว่าเมียได้หนะ อึ๊ย..”
ยี่หวาโมโหมาก จึงขุดเอาเรื่องเก่าๆมาต่อรอง โดยที่ไม่สนใจในวันเวลาที่เธอไปจากดล
“หวานั่นมันตั้งกี่ปีมาแล้ว ตอนนั้นเรายังเด็กกันอยู่ ใครๆเขาก็ทำกัน” ดลรีบโต้แย้งทันที
“อีกอย่าง เราเลิกกันไปแล้วตั้ง 6 ปี หวาก็มีคนใหม่ ทำไมผมจะไม่รู้” ดลรีบป้องกันตัวเอง
“แล้วถ้าตอนนี้ผมจะมีใครใหม่สักคน ผมผิดด้วยเหรอ” ดลฉุนเหมือนกัน จึงระบายออกมา
“ผิดซิ” ยี่หวามองหน้า แถมจ้องอีกต่างหาก
“ก็ดลรับปากและสัญญากับหวาแล้ว ว่าจะยอมแต่งงานกับหวา ถ้าหวาเสร็จงานและภารกิจที่ยุโรปครั้งนี้ หวาจำได้ ประโยคนี้ ที่ดลฝากบอยไปบอก”
เอาหละซิ ยี่หวากลับมาทวงสัญญาการแต่งงานที่ดลพลั้งปากบอกไป ก่อนที่เขาจะเจอเนเน่ จะทำยังไงดีหละทีนี้ ปัญหานี้ช่างแก้ยากเหลือเกิน ดลนั่งลงบนเตียงของยี่หวาทันที แล้วเอามือกุมหัว ยี่หวาเดินเข้ามาขอโทษที่หงุดหงิดไปหน่อยเมื่อกี้
“เจ็บไหมดล หวาขอโทษ”
ยี่หวายื่นมือมาเพื่อที่จะดูแผลที่หัว ดลปัดมืออกทันที ยี่หวาหน้าเสียเลย จึงรีบเดินไปปิดประตูห้องและล๊อกก่อนในเบื้องต้น จากนั้นก็ย้อนกลับมานั่งข้างๆ แล้วเริ่มเล้าโลมดล เพื่อต้องการให้ความทรงจำเดิมๆบนเกาะนั้นกลับมาอีกครั้ง ยี่หวาค่อยๆดันตัวดลลงไปนอนราบกับที่นอน เริ่มหอมแก้ม และค่อยๆแกะกระดุมเสื้อเชิ้ตของดล ให้แบะออก จากนั้นก็เอามือเธอมาลูบไล้ที่แผ่นอกอย่างช้าๆเบาๆ เอาหน้ามาจูบและหอมที่หน้าอกของดล
ขณะที่ยี่หวากำลังมีความสุข แต่ดลไม่มีอารมณ์ จึงหมุนตัวแล้วจับยี่หวาลงมาอยู่ด้านล่างแทน ดลใช้สายตาจ้องมองไปที่ยี่หวา เธอคิดว่าดลมีอารมณ์ที่จะร่วมรักกับเธอแล้ว จึงดึงชุดนอนบางๆตัวนั้นออกจากตัว จนเห็นเต้าหรือปทุมถันซึ่งใหญ่โตมโหฬารของเธอเต็มๆลอยอยู่ตรงหน้า ยี่หวามีอารมณ์แล้วเต็มที่ แล้วก็ใช้มือทั้งสองโอบคอดลเบาๆ ดึงดลลงมา เพื่อที่จะให้ดลดูด ลูบไล้เต้าของเธอด้วยปากและลิ้น แต่กลับผิดถนัด ดลไม่ทำตามที่เธอคิด กลับใช้มือของเขาแกะมือที่กอดคออยู่ออก แล้วเดินออกจากห้องไปทันที โดยไม่หันกลับมาอีกเลย ยี่หวาอายมากที่ดลทำเช่นนี้กับเธอ จากไปแบบไร้เยื่อใย จึงรีบดึงผ้าห่มมาปิดตัวเอาไว้ เมฆาพิโรธอีกครั้งสำหรับยี่หวา
“โว๊ย..ไอ้บ้า ไอ้โง่ ไอ้งี่เง้า ให้ถึงขนาดนี้แล้วยังไม่เอาอีก ไปบวชซะไป๊ ไอ้ก้อนหิน ไอ้ตอไม้ ไอ้ ไอ้ โว๊ย..”
เบิ้มและจิตเอามือปิดหูไว้ เสียงดังสนั่นลั่นบ้านขนาดนั้น เห็นดลเดินลงมาจึงถามทันที
“เกิดอะไรขึ้นวะดล” เบิ้มกับจิตอยากรู้ถึงสาเหตุของเสียงที่ดังขึ้นเมื่อตะกี้
“ทำไมนังหนูนั่นถึง สติแตกโวยวายออกมาขนาดนั้น เมื่อเช้ายังเห็นติ๋มๆเรียบร้อยๆอยู่เลย แล้วนี่ทำไม เผลอแป๊บเดียว ถึงเป็นแบบนี้ไปได้”
ดลถอดเสื้อตัวเก่าออก แล้วหาเสื้อยืดใส่ แต่งตัวไปด้วย
“อย่าสนใจเลยพี่” เบิ้มสงสัยเลยถาม
“แล้วนี่แกจะออกไปไหนเนี่ย” ดลหันไปบอกเบิ้มแบบกวนๆ
“ไปหาข่าวซิพี่ ถามได้ ถ้าวันนี้ผมไม่กลับ พรุ่งนี้ก็เจอกันที่ทำงานเลยแล้วกัน” จิตชี้ขึ้นไปข้างบน
“แล้วข้างบนนั้นหละ” ดลเงยหน้าขึ้นไปมอง
“ช่างเขา ถ้าเขายังไม่สำนึกผิดหรือเข้าใจอะไรให้มากขึ้น” ดลพูดออกมาแบบหน้าตาย
“เดี๋ยวก็คงจะกลับไปเอง บอกแล้วไง อย่าไปสนใจ แยกย้ายกันไปทำงานเถอะ คืนนี้ต้องนำเสนอข่าวไม่ใช่เหรอ ตอนนี้ไม่ต้องหลบหน้าใครอีก เพราะความลับแตกแล้ว”
“ดีเหมือนกัน แล้วยัยเน่เด็กแกหละเป็นยังไงบ้าง” เบิ้มเป็นห่วงกลัวดลจะแห้ว เพราะลงทุนมาถึงขนาดนี้แล้ว
“งอนหนะซิถามได้ เอาเถอะ ทางนั้นผมยังพอที่จะง้อได้” ดลเชื่อในสีมือตัวเองซะด้วยซิ อิอิ
“แต่ทางนี้ พูดยาก ตอนนี้ผมขอบายก่อน ไปหละ มีงานรออยู่ ฝากด้วย”
ดลออกไปพร้อมกับโบกมือให้จิตและเบิ้ม ทั้งสองก็โบกมือตอบ เนเน่พออารมณ์เย็นลง ก็เปิดม่านดูบ้านโน้น เห็นดลกำลังขับรถออกไปพอดี เนเน่จำได้ว่านัดกับดลไว้จะไปสืบข่าวเรื่องของหงส์ฟ้าและมังกรดำ จึงหยิบกุญแจรถและเสื้อแจ็คเก็ตวิ่งลงไป นิ่มเดินออกมาเห็นพอดี
“อ้าวจะออกไปไหนหรือพี่เน่ รอหนูแป๊บขอไปหยิบเป้ก่อน” เนเน่ยกมือห้าม
“ไม่ต้องวันนี้เธอไม่ต้องไป อยู่เฝ้าบ้าน เผื่อน้าภณจะแจ้งข่าวอะไรมา เฝ้าบ้านแล้วกัน” นิ่มหน้างอเลย
“แต่..” นิ่มอยากไปด้วย เนเน่ชี้หน้า
“อย่าขัดคำสั่ง พี่บอกให้อยู่ก็อยู่” เนเน่เริ่มนิสัยเดิมอีกแล้ว
“ถ้าแม่เพ็ญกลับมาแล้วถาม ก็ไม่ต้องพูดอะไรมาก บอกแค่ว่าฉันออกไปเที่ยวกับดลเท่านั้นพอ เข้าใจไหม แล้วถ้าพี่ปูนโทรมา ก็บอกไปตามนี้ เข้าใจนะ ฉันไม่ได้เอาเครื่องนี้ไปเพราะทุกคนจะตามสัญญานฉันได้ ฉันจะเอาอีกเครื่องไป ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องโทรหาเข้าใจ๋ ไปได้แล้ว ฉันรีบ” นิ่มพยักหน้าแล้วก็รีบหลีกทางให้เนเน่ไป
!!!!! &&&&& !!!!!
แจงบุกป่าฝ่าดงมาหลายวันเหนื่อยก็เหนื่อย อาหารก็เหลือน้อยเต็มที น้ำก็เหลือนิดหน่อย ต้องเสียเงินไปพอประมาณในการจ้างเรือมาถึงที่นี่ หลังจากที่ลงรถไฟสายมรณะที่จุดสุดท้าย แล้วเดินเท้าลุยเข้าไป พักบ้างในบางโอกาส แจงมองดูแผนที่ น่าจะอยู่แถวๆนี้ ถ้ำแถวๆนี้ ก็มีมากมาย เหมือนๆกันหมด แจงเงยหน้าขึ้นไปดู แสงแดดแยงตาลงมา ท่ามกลางต้นไม้ใบหญ้าในป่าอันกว้างใหญ่ไพศาลแห่งนี้ แจงรีบทำเครื่องหมายทันทีกันหลง เวลากลับออกมาจะได้กลับถูก แจงกับชุดเดินป่าที่ทะมัดทะแมงพร้อมเป้ใบโต ลุยเข้าไป
เผด็จหลังจากที่ขับรถบุกป่าฝ่าดงมาอีกทางที่คิดว่าใกล้ตัวแจงที่สุดแล้ว เป็นเพราะสัญญานความถี่ต่ำของเขายังใช้การได้ดี ไม่น่าจะมีอะไรที่ผิดพลาด น่าจะถึงตัวแจงก่อนทุกพวกที่กำลังตามล่าเธอ เผด็จรู้ดีว่าไม่นานทุกคนต้องตามรอยแจงมาถึงนี้ได้ในไม่ช้า เพราะอะไรนั้นก็รู้ๆกันอยู่ น้ำมันรถหมดแล้วจึงจอดเอาไว้และเดินเท้าเข้าไป เผด็จเอากิ่งไม้แห้งปิดซ่อนรถและทำเครื่องหมายเอาไว้
ทางมังกรดำก็สะกดรอยตามหลังแจงมาติดๆ เพราะเส้นสายเยอะมากตามเขตชายแดน รูปของแจงกระจายไปทั่ว ทั้งหน้าจริงและใส่หน้ากาก ใครพบเจอจะมีรางวัลให้ แล้วมีใครบ้างที่จะไม่ต้องการได้ค่าหัว เพราะคนแถวนี้ไม่สนใจว่าจะได้เงินมาด้วยวิธีใดจะทางการหรือแก็งค์ใดๆได้หมด แก็งค์มังกรดำเล่นแบบนี้แจงจึงกระดิกไปไหนแทบไม่ได้เลย กงจักรทองก็ใช่ย่อยให้สองเสี่ยนรก เร่งฝีจักรตามรอยมาจนถึงเมืองกาญจน์เช่นกัน
วิทย์เมื่อรู้ความจริงจากสองลูกน้อง ก็รีบบอกให้สายข่าวของเขาติดตามข่าวเป็นระยะๆ งานนี้วิทย์กับทีมต้องออกโรงลุยเองเพราะคิดว่าสำคัญมาก จึงเอาขิงไปฝากไว้กับพ่อ เนื่องจากไม่อยากเป็นห่วงเมียที่กำลังท้องแก่ขึ้นทุกวันๆตอนนี้ขิงไม่ได้ไปทำงานแล้ว วิทย์ให้ขิงลาคลอด เพราะใกล้จะคลอดรอมล่อ ถ้านับจนถึงตอนนี้ก็ 8 เดือนเข้าไปแล้วมั้ง
“พ่อหนูฝากเมียด้วยนะ งานนี้หนูอาจต้องไปนานหลายวัน ไม่อยากจะให้ขิงอยู่คนเดียว อย่างน้อยก็มีทับทิมเป็นเพื่อน หนูไปหละ”
ป๋องเข้าใจลูกชายดี จึงไม่อยากให้วิทย์มีห่วงติดไปขณะปฏิบัติหน้าที่
“ไปเถอะลูก ระวังตัวด้วย ทางนี้ไม่ต้องห่วง พ่อกับทิมจะดูแลให้ ไอ้พวกนั้นคงจะไม่กล้ามาทำอะไรอีกแล้วหละ พ่อเชื่อแบบนั้น” ทับทิมยิ้มให้
“คุณวิทย์ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งสิ้นนะ” พร้อมกับรับปากอีกต่างหาก
“ไปทำงานให้สบายใจหายห่วงได้เลย ยังไงขิงมันก็เป็นเพื่อนของทิมคนนึง ทิมไม่ทิ้งมันหรอก”
“ขอบคุณครับ” วิทย์หันไปมองเมีย ขิงจับมือวิทย์เอาไว้
“ดูแลตัวเองด้วยนะ ขิงจะเป็นกำลังใจให้ กลับมาเร็วๆนะ ขิงคิดถึง”
วิทย์ได้กำลังใจเพียบ ก่อนไปจึงขอบจูบลาและหอมเมียสักหน่อยแล้วรีบออกไปทันที เพราะพรรคพวกและทีมรออยู่ เมื่อทุกอย่างพร้อม ขบวนของวิทย์ก็เคลื่อนพลทันทีแบบเต็มกำลัง จุดหมายปลายทางคือเมืองกาญจน์นั่นเอง ที่หมายก็คือ ถ้ำที่เก็บซ่อนความลับของขุมทรัพย์
##### ^^^^^ #####
หลังจากวันนั้น วันที่ปูนได้มีเพศสัมพันธ์กับแตงโมแบบถึงพริกถึงขิงสุดๆ เพราะเผด็จได้หายตัวไปนั้น ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งสองแน่นแฟ้นดีขึ้น กลับมามีความสุขอย่างทันตาเห็นตามลำดับ จนทับทิมเองก็มองเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด จึงมีความสบายใจอย่างบอกไม่ถูก ดีใจที่ครอบครัวของพี่ชายกลับมามีความสุขเหมือนเดิม ทับทิมจึงไม่ขอถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับปูนในวันนี้ ให้ปล่อยไปตามธรรมชาติจะดีกว่า ผิดกับเนเน่ที่หน้าตามุ่ย บอกบุญไม่รับ ไม่สดใสเอาเสียเลย ทำไงได้ ต่างคนก็ต่างชีวิตกันไป ตัวใครตัวมัน
<<<<< $$$$$ >>>>>
ดลไม่กลับบ้านเลยตั้งแต่วันนั้น จนทำให้ยี่หวาท้อแท้มาก วันพักร้อนก็หมดลงแล้ว เธอจึงต้องตัดใจ กลับออกไปปฏิบัติงานทันที โดยไม่รอช้า แต่ยังคงพักและค้างที่บ้านของดลไปก่อน เพราะจะได้อำพรางตัวได้ง่าย เนื่องจากยี่หวาเห็นว่า บริเวณแถวนี้เงียบสงบดี
“เอาวะ งานต้องมาก่อน เรื่องส่วนตัวต้องมาทีหลัง”
หลังจากที่ยี่หวาแต่งตัวเสร็จ ก็มองซ้ายมองขวา เมื่อไม่มีคนอยู่ก็รีบเดินออกไปเอารถมอเตอร์ไซด์ที่ให้คนของหน่วยมาซุ้มจอดไว้ให้เพื่อใช้ในการทำงาน ขับออกไปทันที ยี่หวาต้องทำแบบนี้จนกว่างานจะเสร็จ
>>>>> ##### <<<<<
เวลาค่ำคืนในป่าที่เงียบสงบ มันช่างโหดร้ายสุดๆ ไหนจะต้องเจอกับสิ่งเร้นลับต่างๆนาๆ เช่นงูพิษ เสือสมิง สิงสาลาสัตว์ทั้งหลาย แจงต้องนอนบนต้นไม้สูงตลอดในการเดินป่าครั้งนี้ เพราะเธอมาตามลำพังเพียงคนเดียว วันแล้ววันเล่า คืนแล้วคืนเล่า ที่ต้องบุกป่าฝ่าดงเข้าไป การอยู่คนเดียวของหญิงสาวแบบนี้ ก็ทำให้ทรมานเหมือนกัน แต่ทำยังไงได้ เมื่อเลือกที่จะมาเส้นทางนี้แล้ว ก็ต้องผจญกันต่อไป
หนาวก็หนาว วันไหนเจอถ้ำก็ดีไปอุ่นหน่อย วันไหนเจอลำธาร ก็มีน้ำกิน อยากจะก่อไฟนานๆก็ทำไม่ได้ กลัวเกิดอันตราย เผื่อศัตรูมาพบเห็นเข้าจะแย่ มันช่างทรมานดีแท้ชีวิตนี้ของแจง ทำไงได้ ยังไงก็ต้องทน
อย่าว่าแต่แจงเลย เผด็จก็ใช่ว่าจะสบาย แจงลำบากเช่นไร เผด็จก็ลำบากเช่นนั้นเป็นร้อยเท่า เพราะต้องทำงานแข่งกับเวลา ซึ่งต่างจากพวกของมังกรดำและกงจักรทองที่มีพรานป่านำทางมาอย่างดีเป็นขบวน
มีคนคอยเฝ้าตรวจตราแม้กระทั่งเวลานอน ครั้งนี้มังกรดำให้อาหยีมาเป็นผู้ล่า เสี่ยวปิงขอติดตามพ่อมาด้วยเพราะไม่อยากที่จะอยู่เฉยๆกับปู่ไม่มีอะไรทำ จึงขอมาเที่ยวเล่นแก้เบื่อ .. ทางสองเสี่ยนรกกวงและตุ้ม ซึ่งมาในครั้งนี้ยังกะราชา เต๊ะท่าวางมาดเลยทีเดียว ไม่รู้ว่าท่าดีทีเหลวรึเปล่า ซึ่งต่างจากทีมของวิทย์ที่สบายกว่าเขาหน่อยที่สามารถติดต่อและประสานงานกับทหารในพื้นที่ จึงง่ายต่อการตามหา
ระหว่างที่เดินทางและพักผ่อนเป็นระยะๆนั้น แจงได้แต่เฝ้าคิดถึงแต่หน้าของเผด็จคนเดียวเท่านั้น หวังว่าสักวัน คงจะได้เจอกันอีก ไม่รู้ทำไม แต่มันกลับทำให้เธอมีแรง และพลังในการเดินทางครั้งนี้ คืนนี้หลังจากที่ก่อไฟประทังความหนาวเหน็บแล้วได้พักใหญ่ ก็ต้องรีบดับ จากนั้นเธอก็รีบขึ้นไปบนต้นไม้ดังเดิม
“ตาแก่ของฉัน ตอนนี้นายอยู่ไหนนะ รู้ไหมว่าตอนนี้และเวลานี้ ฉันอยากจะให้นายมาอยู่ใกล้ๆฉันตรงนี้” แจงดูมีความสุขเวลาที่นึกถึงเผด็จ
“ไม่รู้ซิว่าทำไม ทุกครั้งเดี๋ยวนี้เมื่อมีภัย ฉันต้องคิดถึงนายเป็นคนแรกอยู่เสมอร่ำไป ไม่เข้าใจจริงๆเหมือนกัน”
แจงมีรอยยิ้มทุกครั้งเมื่อได้นึกถึงหน้าของเผด็จ
“ตาแก่บ้า ตาบ๊องส์ มาดามให้ฉันฆ่านาย แต่ฉันก็ทำไม่ได้ ทำไม่ลง ไม่รู้ทำไมจริงๆ”
ตอนนี้แจงเริ่มไม่สบาย เพราะโดนยุงและแมลงในป่านี้โจมตีเข้าแล้ว สงสัยคงจะเป็นไข้ป่าเข้าให้ แจงหมดสติลงไปโดยไม่รู้ตัว ล่วงลงมาจากต้นไม้ทันที และในทันใดนั้นเอง ก็มีคนผู้หนึ่งมารับตัวเธอไว้ได้ทัน และนำเธอหายเข้าไปในความมืด ไปยังถ้ำแห่งหนึ่งแถวๆนั้น ทำการดูแลรักษาโดยไม่ห่างตัวเลย จนเช้า .. และดูเหมือนว่า ทั้งสองจะเกิดเป็นความรักขึ้นต่อกัน ในเวลาต่อมาแบบเงียบๆโดยไม่รู้ตัว แบบใสบริสุทธิ์
((((( ----- )))))
ทีแรกดลคิดอยากจะแกล้งเนเน่เล่นเพื่อให้หึง เพราะเขาไม่รู้ว่าที่จริงแล้ว เนเน่คิดยังไงกับเขา จึงหาโอกาสมาง้อขอคืนดี แต่เนเน่กลับหึงจริงๆโดยไม่รู้ตัวเช่นกันในขณะนั้น ดลมาหาเนเน่ที่ทำงาน ถือดอกไม้ช่อโตมาให้อีกแล้วตามฟอร์ม ทับทิมเห็นแล้วจึงแอบยิ้มและหัวเราะไม่ได้
“อีกแล้วเหรอ เออๆไม่ต้องอ้าปาก พี่รู้แล้ว” ทับทิมชี้ไปด้านใน
“โน่น มันนั่งอยู่ทางโน้น พึ่งสอนเสร็จ ไป ก่อนที่มันจะออกไปทานมื้อเที่ยง โชคดีนะ”
ดลไม่รู้ว่าทำให้เนเน่เกิดความหึงหวงและไม่พอใจขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวตอนไหน จึงเกิดการงอนและโกรธดลทำให้ดลต้องรีบ Clear เพราะตอนนี้ดลรู้ใจตัวเองแล้วว่าชอบเนเน่อย่างแน่นอน
“เน่” ดลยื่นดอกไม้ให้ตรงหน้า เนเน่หันไปดู ปัดดอกไม้ทิ้งแล้วเดินหนี
ดลตัดสินใจตะโกนตามหลังไปด้วยเสียงที่ดังกึกก้องลั่นที่ทำงานดั่งเมฆาพิโรธทันที
“เนเน่ ผมรักคุณ ผมมีคุณแค่คนเดียวเท่านั้น จริงๆ”
“โกหก” เนเน่สวนกลับไปเสียงอย่างดังเหมือนกัน แล้วหันหน้ากลับไปชี้หน้าดล
“เก็บความโกหกตอแหลของนายไปใช้กับคนอื่นเถอะนายดล” ตอนนี้เนเน่ไม่เชื่ออะไรดลอีกแล้ว
“ฉันไม่หลงคำหวานของนายหรอก เอาไปใช้กับคนที่ชื่อยี่หวาเถอะ”
“จริงๆนะเน่ ผมไม่เคยคิดที่จะหลอกคุณเลยแม่แต่สักครั้งเดียว” ดลพยายามที่จะอธิบายให้เนเน่เข้าใจ
“เรื่องของหวากับผม ผมอธิบายได้” เนเน่ไม่ฟัง เมฆาพิโรธหนักกว่าเก่าอีก
“ไม่หลอกเหรอ” เนเน่ตะโกนออกมา เสียงดังกว่าเดิมอีก จนทุกคนแถวนั้นต้องหันมามองสองคนนี้
“แล้วที่นายแอบมาอยู่ข้างบ้านฉัน ตั้งสองเดือนเต็มๆที่ผ่านมา” เนเน่เริ่มเปิดประเด็นแล้ว
“แล้วไม่บอก หลบปิดปากเงียบ นั่นมันหมายความว่าอะไร” เนเน่ยิงคำถามรัวเป็นชุด
“มันคืออะไรดลมันคืออะไร” ดลเงียบกริบ ตอบเนเน่ไม่ได้
“คนที่มีความจริงใจ คนรักกัน ชอบกัน” เนเน่พูดออกมาจนหมดแม็กซ์
“แฟนกัน มันก็ต้องบอกดิ แต่นี่ไม่บอก” เนเน่หงุดหงิดมากจริงๆ
“แล้วยังมากลิ้งกลอกบอกว่ารักฉันอีกเหรอ ไอ้ทุเรศ” ดลเจอเนเน่ด่าเข้าให้เต็มๆ
“ไป ไปเลยนะ แล้วไม่ต้องมาให้ฉันเห็นหน้าอีก” เนเน่ไล่ดลเข้าแล้ว
“ฉันเกลียดนาย เราสองคนจบกัน” เนเน่ขอตัดขาดความสัมพันธ์ทันที
“ตั้งแต่นี้ไป ชีวิตฉันจะไม่มีนายอีกแล้ว ออกไป” เนเน่ไล่ดลอีกครั้ง
“กลับไปหาอีนมโตเมียนายโน้นไปเลย ไป๊ เสียความรู้สึกหวะ”
เนเน่ผิดหวังจริงๆ กับความรู้สึกดีๆ ที่มอบให้ไป ตอนนี้มันได้หายไปหมดแล้ว
“ต่อแต่นี้ไปฉันจะคิดว่า ที่ผ่านมามันคือภาพลวงตา ออกไปเดี๋ยวนี้”
ปูนเดินลงมาแล้วรีบลากดลออกไปนอกที่ทำงานก่อนเพราะรู้ดีว่าตอนนี้เนเน่กำลังโกรธมาก ถึงอธิบายอะไรไปคงไม่ฟังแล้ว
“กลับไปก่อนนะดล เชื่อพี่ ตอนนี้ไอ้เน่มันโกรธเธอมาก” ปูนหวังดีจริงๆ
“พี่ไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นระหว่างเธอกับมัน เอาเป็นว่ากลับไปก่อนนะ พี่ขอ”
ดลพยักหน้าแล้วก็ลาจากไป เนเน่เดินมากระทืบช่อดอกไม้ที่ตกอยู่กับพื้นนั้นจนเละไม่มีชิ้นดี
$$$$$ ----- $$$$$
การกลับมาในครั้งนี้ของยี่หวา ไม่รู้ว่าดลจะจัดการเช่นไร ในเมื่อเธอคนนั้นกลับมาทวงสัญญาการแต่งงานด้วยอีกต่างหาก จึงทำให้เนเน่งอนไม่พอใจมาก ขนาดลงทุนตามไปงอนง้อถึงที่ทำงาน แต่เนเน่ก็ไม่ยอมพบหน้าและคืนดีด้วย ดลจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อที่จะเข้าใกล้ตัวเนเน่ให้ได้
ดลหลังจากที่ได้รู้จักเนเน่มากขึ้น ก็ไม่สามารถที่จะถอนศรรักอันนี้ออกได้เสียแล้ว และยิ่งแอบไปเช่าบ้านอยู่ใกล้ๆมาได้สักระยะแล้ว โดยที่เนเน่ไม่รู้ พอมารู้อีกที จึงทำให้เนเน่ไม่พอใจ โกรธ หาว่าหลอกลวงและปิดบังเธอมาตลอดสองเดือน หลักฐานมันมัดจนดิ้นไม่หลุดจริงๆ อีกอย่าง ยี่หวาตามจิกไม่ยอมเลิกลา เลยยังหาทางออกไม่ได้ แต่ในเมื่อดลรู้ใจตัวเอง และลั่นวาจาออกไปแล้วว่ารักเนเน่ ทุกคนก็ได้ยิน จึงต้องหาวิธีแก้ให้ได้
{{{{{ ===== }}}}}
2 วันเต็มๆที่แจงหมดสติไป หลังจากเผด็จได้ฉีดยาบำรุง รวมถึงแก้พิษให้เธอและหายาให้เธอทานแล้วจนอาการดีขึ้น เขาก็ออกไปหาน้ำและอาหารมาไว้ให้ จากนั้นก็ออกไปดูลาดราวของคนทั้งสองกลุ่มนั้น เนื่องจากตอนที่เขาเดินทางมานั้น ได้เห็นว่าพวกนั้นอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้สักเท่าใด อีกไม่นานคงจะตามร่องรอยของแจงมาได้ทันแน่ ถึงแม้ว่าเผด็จจะกลบเกลื่อนร่องรอยไปบ้างแล้วก็ตาม
ช่วงบ่ายๆของวันนี้ซึ่งถือว่าเป็นวันที่สองของการหมดสติ แจงเริ่มรู้สึกตัว เธอค่อยๆลืมตาขึ้นมาและมองไปรอบๆเห็นกองไฟเป็นอันดับแรก จากนั้นก็เงยหน้ามองขึ้นไป เธอยังคงมึนๆหัวอยู่เล็กน้อย
“นี่มันที่ไหนเนี่ย เราจำได้ว่าครั้งสุดท้ายเราอยู่บนต้นไม้นี่ โอ๊ย ทำไมถึงปวดหัวแบบนี้ นี่อะไร”
แจงรู้สึกอบอุ่น จึงมองไปที่ตัวเอง มีผ้าห่มหนาๆคลุมอยู่ มีอาหารและน้ำวางอยู่ใกล้ๆ
“นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเรา” ระหว่างที่แจงกำลังคิดอะไรเรื่อยเปื่อยอยู่นั้น ก็เหมือนมีเสียงดังขึ้นไม่ไกลนัก
แจงแกล้งหลับและแอบดูว่าใครเข้ามา แจงเห็นขาของใครผู้หนึ่งอยู่ตรงหน้าเธอ เผด็จหันหลังเพื่อทำอาหารและใส่ฟืนเข้าไปเพื่อเร่งไฟให้แรงขึ้น เพื่อบรรเทาความเหน็บหนาวในถ้ำแห่งนี้ แจงค่อยๆขยับตัวดึงมีดที่ซ่อนอยู่ข้างเท้าขวาของเธอขึ้นมา หมายจะแทงคนผู้นั้นจากข้างหลัง เผด็จหันหน้ามาพอดี แจงตกใจมากไม่คิดว่าจะเป็นเขา คนที่เธอถวิลหาอยู่ทุกคืนวัน ไม่รู้ว่าฝันหรือจริงแล้วในตอนนี้ มีดที่ถืออยู่หล่นลงพื้นทันที แจงโผเข้ากอดเผด็จแบบไม่รู้ตัวและร้องไห้ออกมา เผด็จกอดแจงไว้
“ไม่ต้องร้องนะคนดี” และลูบหลังลูบหัวไปด้วย
“ตอนนี้เธอปลอดภัยแล้ว” แจงกอดเผด็จไว้แน่นมาก
“พี่ ขอบคุณมากที่พี่อยู่ตรงนี้” แจงเหมือนตายแล้วเกิดใหม่
“พี่รู้ไหมว่าหนูคิดถึงพี่แค่ไหน อย่าไปไหนอีกนะ อย่าไปจากหนู หนูกลัว”
“เด็กโง่ ไม่ต้องกลัวอะไรอีกแล้ว” เผด็จปลอบใจแจง เพื่อไม่ให้เธอสติแตก
“พี่อยู่ตรงนี้แล้ว จะกลัวอะไรอีก จุ๊บแจงน่ารักออกอย่างนี้ พี่ทิ้งไม่ลงหรอก” แจงตกใจมากที่เผด็จพูดชื่อนี้ออกมาได้ในวันนี้
“พี่” แจงผละออกมาจากอ้อมกอดและมองหน้าเผด็จ
“วันนี้ทำไมถึงเรียกหนูแบบนี้ ไม่เรียกว่าเนตรเหมือนเมื่อก่อนหละ”
เผด็จยังไม่ตอบอะไร รีบดึงแจงเข้ามากอดและเปิดผมด้านหลังเพื่อดูอะไรบางอย่าง เมื่อไม่มีรอยสักอย่างที่เทียนหอมบอก เขาจึงบอกแจงไปตามความจริงไม่อยากปิดบังอะไร
“ก็พี่รู้แล้วว่าหนูไม่ใช่เนตรอัปสรเมียเก่าพี่แล้วไง” เผด็จบอกความจริง
“เมื่อก่อนนั้นพี่มันบ้าไปเอง หลักฐานที่ตัวหนูมันบอกพี่อย่างนั้น”
แจงงง ทำหน้าไม่เข้าใจ เผด็จดึงแจงเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดทางขวา แจงกลับไม่ว่าอะไร ชอบเสียอีก
“ยังไงคะ หนูไม่เข้าใจ” เผด็จชี้ไปที่หลังคอของแจง
“คือเนตรตัวจริง เค้าจะมีรอยสักชื่อพี่และรูปหัวใจอยู่ที่ต้นคอนี้ แต่หนูไม่มีไง จบไหม” แจงพยักหน้ารับรู้ และเอียงตัวมาซบอกเผด็จโดยไม่รู้ตัว
“หนูสลบไสลไป 2 วันเต็มๆเลยรู้ไหม พี่เป็นห่วงแทบตาย กลัวหนูไม่ตื่น”
“ขอบคุณจริงๆนะคะที่พี่มาอยู่ตรงนี้ ถ้าไม่ได้พี่ หนูคงจะตายเพราะไข้ป่าและมาเลเรียไปแล้วแน่ๆ ขอบใจจริงๆ”
แจงเงยหน้าไปให้รางวัลที่แก้มขวาหนึ่งทีโดยไม่ต้องร้องขอ เผด็จหันไปจูบหน้าผากเบาๆ แล้วเอามือลูบผมเล่นเบาๆ
“อย่าคิดมาก พี่บอกแล้วยังไงพี่ก็ไม่ทิ้งหนู ไม่ว่าหนูจะเป็นเนตรหรือจุ๊บแจง พี่ก็..” แจงมองหน้าไม่พูดอะไร อายม้วนเลยทันที
“บ้า พี่เนี่ย” แล้วก็เอามือทุบอกเบาๆ เผด็จจับมือแจงเอาไว้แล้วจ้องหน้า และค่อยๆเอียงหน้าจะไปหอมแก้มซ้าย แจงทำทีอายหันหลบ
“ชอบรังแกเค้า นิสัยไม่ดี” แต่มีเหรอที่จะหลบพ้น เผด็จบรรจงหอมและจูบลงไปที่แก้มซ้ายประทับรอยรักไว้นานพอสมควร
“พอแล้วพี่ หนูไม่สบายอยู่นะ รังแกกันอยู่ได้” เผด็จเชื่อฟังสาวน้อยที่น่ารักผู้นี้ รีบถอนจมูกออกจากแก้มนางทันที แล้วให้ทานยา .. ทั้งสองค่อยๆก่อและสานความรัก ทักทอขึ้นอย่างเงียบๆทีละนิด ทีละน้อย ทีละหน่อย
แจงเริ่มผูกพันกับเผด็จมากขึ้น มีรอยยิ้มและความสุขมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว หลังจากที่ทานอาหารกันอิ่มแล้ว ก็ให้แจงนอนพัก แจงนอนจับมือเผด็จไว้แน่นไม่ยอมให้ห่างตัวไปไหนเลยทีเดียว ในขณะที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างอบอุ่น แต่ยังไม่ได้มีการเกินเลยจนถึงกับมีเพศสัมพันธ์ แค่นอนกอดกันเฉยๆ แค่นี้แจงก็มีความสุขแล้ว
>>>>>>>>> ********** <<<<<<<<<<
โปรดติดตามตอนต่อไปใน ตอนที่ 27 .. “ เมฆาพิโรธ 2 ”
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 300
แสดงความคิดเห็น