บทที่ 2 แสดงฝีมือ 2
อาณาจักรแพนเจียที่กว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตาชายหนุ่มที่แต่งตัวเหมือนกับนักวิทยาศาสตร์ทั่วๆไป ใบหน้าของเขาสวมใส่แว่นตาหนาเตอะ ชายหนุ่มกำลังพินิจพิจารณารูปวาดที่เขาได้รับมาจากเพื่อนพ้องของตนเอง เสียงประตูที่เปิดขึ้นทำให้ชายหนุ่มหันขวับไปมอง ชายหน้าตาธรรมดาธรรมดาผู้เป็นผู้ช่วยของเขาย่างสามขุมเข้ามาหา ใบหน้าของเขาดูท่าทางเหมือนกับกำลังมีเรื่องไม่ชอบใจนัก
“ฮัลโหล ฮัลโหล กำลังทำอะไรอยู่หรือศาสตราจารย์” คำกล่าวที่ทักทายเป็นภาษาต่างประเทศที่แปลว่าสวัสดี ถึงแม้ว่าจะเป็นภาษาโบราณที่มนุษย์ในสมัยก่อนใช้กันแต่สมัยนี้ก็ไม่มีคนใช้แล้ว
“มีอะไรหรอ”
“ตอนนี้เรามีเรื่องด่วนที่ได้รับมาจากอาณาจักรวิทาเรีย ทำอนาจักรของอดีตผู้ก่อการร้ายได้ทำการปกปิดข้อมูลบางอย่าง เมื่อหลาย 10 ปีที่พวกเราไม่รับรู้ข้อมูลนั้นแต่ว่าทางอาณาจักรได้ส่งข้อมูลนี้มาให้กับพวกเรา “
“แล้วไง”
“ก็ทางอาณาจักรต้องการให้พวกเราวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของเวทมนตร์ของเด็กคนนี้”
ชายหนุ่มผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์ขมวดคิ้วมุ่น “จะให้วิเคราะห์พลังเวทย์ก็ได้อยู่หรอก แต่ว่าอย่าลืมสิว่าเราต้องมีเนื้อเยื่อ DNA องค์ประกอบของธาตุทั้งหมดที่อยู่ในร่างกาย แล้วก็ตัวอย่างโลหิต”
“ทางอาณาจักรเสนอให้พวกเราเอาโลหิตของชายผู้นั้นมาตรวจสอบว่ามีความคล้ายคลึงหรือว่าตรงกันหรือไม่ แต่ว่าพวกเราก็รู้ดีว่าไม่มีตัวอย่างเปรียบเทียบ ทางเราก็คงไม่รู้ว่ามันตรงกันจริงหรือเปล่า”
“จะให้เอาโลหิตของจักรพรรดิเวทมนต์มาตรวจสอบว่าพลังธาตุของหลานชายของเขาจะตรงหรือเปล่ามันยากเกินไป ถึงจะมีดีเอ็นเอของชายแก่นั่นมันก็ไม่ช่วยอะไรมากมายหรอก อย่าลืมนะว่าข้อมูลที่เราได้มามันจะตรงหรือเปล่า ก็ขึ้นอยู่กับการตรวจสอบของเราอีกทีนึง ไม่สิถ้าจะพูดให้ถูกข้อมูลที่เราได้มาของชายคนนั้นมันตรงหรือเปล่า ไม่สิข้อมูลที่ได้มานะมัรนเป็นของจริงเปล่า
“ที่นายพูดก็ถูกต้อง นี่รู้ใหม่ว่าดอกเตอร์เอดเวอร์ตอนนี้อยู่กับชายคนนั้นแล้ว ไม่คิดเลยว่าอาจารย์ของพวกเราจะไปร่วมมือกับใครคนนั้น แถมสายลับของพวกเราก็ยังรายงานว่าตอนนี้ถ้าแพทย์เทวะก็ได้ไป 3 ตัวอยู่กับชายผู้นั้นแล้วเหมือนกัน ถ้าจะพูดให้ถูกตอนนี้อาณาจักรบาบิโลเนียก็คงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างเต็มที่ ทางนั้นก็คงอยากจะกำจัดเสี้ยนหนามแต่ก็ไม่สามารถกำจัดได้เพราะว่ามีชายทั้ง 2 ที่มีความแข็งแกร่งอยู่ แถมยังอนาคตของไอยราที่จะก้าวขึ้นเป็นจักรพรรดิเวทมนตร์ก็คงจะสามารถเป็นกำลังรบให้กับอาณาจักรบาบิโลเนียได้”
ชายหนุ่มผู้ที่เป็นนักวิทยาศาสตร์พยักหน้ารับ “เรื่องนี้พวกเราเองก็คิดเหมือนกัน ตั้งแต่ยุคของชายคนนั้นได้ผ่านพ้นไปพวกเราก็สูญเสียหลายสิ่งหลายอย่าง ถึงแม้ผู้ชายคนนั้นจะสามารถก่อตั้งเมืองแห่งการศึกษาได้ แต่มันก็ไม่ได้ช่วยอะไรกับทางเราเลย กลับกันซะอีกทางเราได้ให้ทรัพยากรมากมายไปกับชายผู้นั้น เดิมทีอาณาจักรบาบิโลเนียเป็นอาณาจักรเล็กๆที่ไม่มีวิทยาการอันล้ำหน้าอะไร แต่เพราะว่าทางเราได้ให้ความช่วยเหลือทำให้ทางอาณาจักรเติบโตได้อย่างรวดเร็ว แต่ไม่คิดเลยว่าพวกนั้นจะรอบแทงข้างหลัง ถ้าเป็นแบบนี้พวกเราสองอาณาจักรก็คงไม่สามารถอยู่เฉยได้แน่นอน”
“แต่สิ่งที่พวกเราทั้งสองอาณาจักรกลัวเกรงคือจักรพรรดิเวทมนตร์”ผู้หญิงที่เขาหลงรักจะได้เข้าเรียนในโรงเรียนเวทมนต์
พระราชวังที่ตั้งอยู่ใจกลางป่าลึกในอาณาจักรบาบิโลเนีย ราชาหนุ่มขมวดคิ้วก่อนที่จะมองไปจดหมายที่อยู่ในมือ วันนี้เป็นวันแรกที่น้องชายของผู้หญิงที่มีความแข็งแกร่งที่สุดจะได้เข้าเรียนโรงเรียนของอาณาจักรบาบิโลเนีย เขาอยากจะให้ครอบครัวนี้อยู่อย่างสงบสุขตามพันธสัญญาที่เคยให้ไว้แต่เก่าก่อน ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะไม่ได้ให้พันธะนี้ แต่ในฐานะที่เป็นกษัตริย์ตัดอะไรแล้วไม่คืนคำ ชายหนุ่มต้องกระทำเรื่องดังกล่าวอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ทั้งสองอาณาจักรคงจะเคลื่อนไหวเร็วๆนี้เป็นแน่”
“แผนการต่อไปต้องกำจัดให้สิ้นซาก หรือไม่ก็ต้องให้ชายผู้นั้นมาเป็นมิตร หลังจากนั้น ข้าต้องรวม3 อาณาจักรให้เป็นหนึ่งความปรารถนาของบิดาข้าให้เป็นจริง ดังนั้นสายเลือดของเจ้าจึงจำเป็นสำหรับข้า ต่อให้ข้าจะใช้วิธีทางใดข้าก็ต้องนำพวกเจ้ามาเป็นอาวุธแห่งข้าให้จงได้ เจ้าคิดผิดแล้วที่เป็นศัตรูกับข้าเมฆา”
ราชาหนุ่มกว่าตาอ่านจดหมายที่เขียนรายงานข่าวการเคลื่อนไหวของเด็กหนุ่มที่เขากำลังหมายมั่นปั้นมือจะนำตัวมาเป็นทหารองครักษ์ เขายิ้มพึ่งใจเมื่อพบว่าตอนนี้เด็กหนุ่มผู้นั้นกำลังสร้างชื่อในโรงเรียนบาบิโลเนีย
“สมแล้วที่เป็นลูกชายของเจ้า สมแล้วที่เป็นหลานชายของเจ้า สมแล้วที่ข้าเฝ้ามองมานาน ข้าจะต้องไปเจอกับเจ้าให้ได้ ทั้งอาสึนะ เนกิ นากิ และรูรุ แล้วอีกคน ไบรท์ พวกเจ้าทั้งสามต้องมาอยู่ภายใต้การปกครองของข้า ผู้เช่าต้องช่วยนำอำนาจของข้าคืนกลับมา”
สิ้นเสียงของไบรท์ ทุกสายตาพลันจับจ้องมองตามนิ้วที่เด็กหนุ่มได้ชี้ เมื่อทุกคนได้เห็นว่าไบรท์กำลังท้าทายใคร พวกเขาพลันต้องตนกตกใจเนื่องจากคนที่ไบรท์กำลังท้าสู้ด้วยคือหนึ่งในสามสิบยอดยุทธผู้ที่มีฝีมือเป็นอันดับต้น ๆ ของโรงเรียนเวทมนตร์แห่งนี้
“ไอ้หมอนั่นเป็นใคร” ชายหนุ่มผู้หนึ่งหันไปถามเพื่อนของตน สำหรับเขาวันนี้เป็นวันแรกที่เคยเห็นเด็กน้อยที่มีความหารกล้าเฉกเช่นนี้
หากดูดีดีแล้ว เด็กผู้นี้มีอายุประมาณ 13 14 ปีเท่านั้น ไม่คิดว่าพลังฝีมือของเด็กผู้นี้จะมิใช่ชั่ว ประกอบกับความหารกล้าที่ไม่กลัวเกรงกับสามสิบยอดยุทธเหมือนนักเรียนทัวไป ทำให้ชายหนุ่มรู้สึกสนใจเด็กผู้นี้อย่างประหลาด
“นั่นมัน น้องชายของอาจารย์ไอใช่ไหม”
เสียงของชายผู้หนึ่งทำให้ทุกสายตาต้องจับจ้องมองทางไอที่ยืนไม่รู้ร้อนรู้หนาว หญิงสาวมองผู้คนที่จับจ้องมองมา สายตาของผู้คนที่อยู่ ณ ที่แห่งนี้นั้นเต็มไปด้วยคำถาม
ไอยักไหล่ก่อนที่จะพยักหน้ารับ “ใช่ เด็กคนนั้นเป็นน้องชายของครูเอง มีอะไรไหม”
สิ้นคำกล่าว เสียงกระซิบกระซาบพลันดังไม่หยุด บ้างก็รู้สึกตื่นเต้นกับการท้าทายครั้งนิ บ้างก็รู้สึกหมั่นไส้ไบรท์ บ้างก็คิดว่าไบรท์จะชนะ บ้างก็คิดว่าเด็กน้อยตรงหน้าต้องแพ้อย่างแน่นอน
ชายหนุ่มมองสภาพร่างกายของไบรท์แล้วเบะปาก “ที่จะมาสู้กับฉันนี่ใช่ความกล้า หรือความบ้า ลองมองดูร่างกายตัวเองดิว่าเป็นไง เลือดเต็มตัวขนาดนั้นต่อให้ฉันชนะฉันก็ต้องถูกนินทาว่ารังแกเด็ก แถมยังเป็นเด็กน้อยที่บาดเจ็บสภาพร่างกายยังไม่พร้อมอีกตั้งหาก”
“ระดับฝีมืออย่างนายนะไม่คณามือคนอย่างฉันหรอก ต่อให้ร่างกายของฉันจะบาดเจ็บมากกว่านี้สักกี่เท่า ฉันก็ไม่มีทางแพ้คนอย่างนาย”
“คงจะมั่นใจในฝีมือของตัวเองมากสินะ คำกล่าวที่ว่ากบอยู่ในกะลานี่เหมาะสมกับคนอย่างนายมากจริงๆ คงจะเป็นเพราะว่าได้ฝึกฝีมือมากับผู้เยี่ยมยุทธประกอบกับเป็นน้องชายของอาจารย์ไอยราทำให้นายดูถูกฝีมือของพวกเราไม่สินักเรียนโรงเรียนนี้มากพอสมควร ถ้าอย่างนั้นฉันจะทำให้หน่อยเห็นว่าฝีมือของนายมันห่างกับพวกฉันมากแค่ไหน เข้ามาไอ้เด็กเกรด 7”
ซึ่งเสียงปรามาสของชายหนุ่ม ทุกคนก็มองอย่างไม่อยากเชื่อสายตาว่า 30 ยอดยุทธที่มีความแข็งแกร่งที่สุดในโรงเรียนเวทมนต์ เป็นรองแค่อาจารย์และ 10 ยอดฝีมือเท่านั้นจะท้าทายต่อสู้กับเด็กที่เพิ่งเข้าเรียนในโรงเรียนนี้ได้ไม่นาน ถึงแม้ว่าบุรุษหนุ่มตรงหน้าจะมีฝีมือไม่มากไม่มายเท่ากับ 10 ยอดฝีมือ แต่ระดับฝีมือก็สูงล้ำกว่าเด็กนักเรียนทั่วไปอยู่คนละระดับมากโข ฝีมือของ 30 ยอดยุทธนั้นสูงส่งกว่านักเรียนทั่วไปกล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือสูงกว่าเด็กเกรด 12 เสียอีก
ไบรท์ยิ้มออกมา เขามองชายตรงหน้าด้วยท่าทางครุ่นคิด เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าทำไมหลายคนถึงชอบประเมินฝีมือของเขาต่ำจากความเป็นจริงอยู่เสมอ แต่ว่ามันก็ไม่ใช่เรื่องที่เขาต้องพูดให้เสียเวลาสมอง
“เด็กหนุ่มยักคิ้ว “เด็กเกรด 7 อย่างนั้นหรอ นี่นายประเมินฝีมือของฉันต่ำเกินไปหรือเปล่า ระดับฝีมืออย่างฉันไม่ได้อยู่แค่เกรด 7 แต่ว่าฉันอยู่ใน เกรด 11 แค่นี้คงจะสามารถต่อสู้กับนายได้แล้วสินะ”
“ก็คงจะใช่ ถ้าอย่างนั้นไม่ต้องโต้เถียงเหมือนอิสตรีเข้ามาเลยดีกว่า”
สิ้นคำกล่าว ไบรท์พลันผนึกพลังเวทไว้ทั่วร่างกาย เด็กน้อยทะยานร่างเข้าหาชายเบื้องหน้า ในขณะเดียวกันชายตรงหน้าก็ทะยานร่างเข้าหาเช่นเดียวกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 138
แสดงความคิดเห็น