บทที่ 19 วางแผน 1/2
บทที่ 19 วางแผน 1/2
ไบรท์รู้สุกปวดเศียรเวียนเกล้า พลังเวทที่เด็กหนุ่มพยายามรวบรวมตอนนี้หยุดอยู่กับที่เสียแล้ว แถมยังหยุดอยู่แค่ในระดับ 5 ของนักเวทฝึกหัด แม้ว่าจะสามารถมีพลังเวทเพิ่มขึ้นมาถึงสองธาตุก็ตาม แต่ว่ามันกลับไร้ซึ่งผลหากต้องต่อสู้กับกลุ่มคนจำนวนมาก เด็กหนุ่มเดินไปมองยังหน้าต่างแล้วกวาดสายตาลงต่ำเพื่อจะสังเกตสิ่งรอบ ๆ ข้าง
กองทัพอันมหาสารกลุ่มคนที่ยืนอยู่ล้อมรอบราชวังหรือปราสาทขนาดยักษ์ไบรท์เองก็ไม่สามารถจะรับรู้ได้ เด็กหนุ่มอยากจะเดินสำรวจรอบ ๆ แต่ไบรท์ก็ไม่อยากจะเสี่ยงมากเท่าไร ไบรท์พยายามมองไปยังด้านนอกหลายครั้งแล้ว แต่จำนวนคนขนาดนี้ต่อให้เขาต้องสละชีวิตก็คงไม่สามารถหนีออกไปได้
แต่ว่าสิ่งที่เด็กหนุ่มไม่เข้าใจก็ยังมีอยู่ เป็นสิ่งที่ไบรท์พยายามคำนึงอยู่ทุกเวลา สิ่งนั้นก็คือทำไมพวกคนที่ลักพาตัวไบรท์มาถึงไม่ได้ทำอะไรกับเขาเลย ถึงเวลาพวกมันก็นำอาหารมาให้เขารับประทาน ถึงเวลาพวกนั้นก็แค่เดินมาตรวจตราว่าตอนนี้พลังเวทของเขาฟื้นคืนกับมาหรือยัง ทว่าพวกมันก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่น
พลังเวทของไบรท์ตอนนี้กลับมาดังเดิมแล้ว แถมยังเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมเสียด้วย ทว่ามันก็ไม่สามารถใช้ได้มากเท่าที่ควร ไบรท์มองฟ้าก่อนที่จะถอนหายใจอย่างสังเวชกับชะตากรรมของตนเอง เด็กหนุ่มละสายตาออกจากหน้าต่างก่อนที่จะเดินไปนั่งยังเตียงที่เขาใช้นอนอยู่ โดยที่ไบรท์ไม่รู้เลยว่าทุกการกระทำของเด็กหนุ่มนั้นอยู่ในสายตาของออสติน จักรพรรดิหนุ่มที่มีสายตาคมกล้า ชายที่สามารถมองสถานการณ์ได้ททะลุปรุโปร่ง
ไบรท์ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปจนเด็กหนุ่มเริ่มอดทนไม่ไหว เขาอาจจะใช้เวทมนตร์อัญเชิญ ทว่าหากใช้ตอนนี้ไบรท์ก็ไม่รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์ของเพื่อนตอนเองจะเป็นอย่างไรแล้ว ไบรท์ตัดสินใจวาดวงเวทอัญชิญแต่ไม่ใช้พลังเวทเพื่อไปกระตุ้นเวทมนตร์ให้ทำงาน ไบรท์เงยหน้าขึ้นจากใต้เตียงแล้วเริ่มมองฟ้าที่แสงอาทิตย์เริ่มหายไปจากขอบฟ้า
“บ้าฉิบหาย พวกอาสึนะจะเป็นอย่างไรบ้างวะ”
ไบรท์เริ่มสัมผัสพื้นไม้ แล้วค่อย ๆ สูดดมมันอย่างช้า เด็กหนุ่มอยากรู้จริงว่าโครงสร้างของไม้พวกนี้มันสร้างมาจากอะไร ใช่มีธาตุอื่นผสมอยู่หรือไม่ ความสงสัยนี้ยังอยู่ในใจของไบรท์ ก่อนที่ไบรท์จะคิดที่จะแยกองค์ประกอบของพื้นไม้ที่เขาได้สัมผัส
ไบรท์ทำเช่นนี้เพื่อใช้ฆ่าเวลาเท่านั้น แต่สิ่งที่ไบรท์ได้กับมาก็คือทักศะที่คนในโลกของไบรท์ไม่ค่อยจะมี เด็กหนุ่มพบว่าไม้ที่เขาจับอยู่นั้นมีธาตุประสมอยู่มากมาย มีธาตุดินและธาตุน้ำ ไบรท์ค่อย ๆ ดูดธาตุน้ำออกมา ทันใดนั้นเองไม้ก็ค่อย ๆแตกออก ไบรท์เห็นดังนั้นเด็กหนุ่มก็ยิ้มออกมา เขาทำอยู่สักพักก่อนที่จะสัมผัสถึงบางอย่างที่เกิดขึ้นกับร่างกายของตนเอง
เสียงประตูดังขึ้น ทำให้ไบรท์สะดุ้ง เด็กหนุ่มดีดตัวไปนอนที่เตียงในทันใด ก่อนที่ประตูอันใหญ่ยักษ์จะค่อย ๆ ถูกเปิดอย่างช้า ๆ ชายหนุ่มหน้าตาดีท่าทางดูเป็นผู้นำค่อย ๆ เดินเข้ามา พลังสภาวะของเขาเข้ากดทับรอบ ๆ บริเวณ
ไบรท์รับรู้ได้ทันทีว่าชายคนนั้นคือคนที่เป็นผู้นำในที่แห่งนี้อย่างแน่นอน ไบรท์ไม่คิดจะต่อต้านพลังสภาวะ เขาตัดสินใจเก็บพลังของตนเองเอาไว้ แล้วค่อยเงยหน้าเพื่อสบสายตา
“พวกคุณเป็นใครกันแน่ แล้วพาตัวของผมมาทำไมกัน”
ชายหนุ่มยิ้ม เขารู้ว่าไบรท์มีพลังสภาวะที่จะสามารถต่อต้านกับเขาได้ ชายหนุ่มยังไม่ใช้พลังจักรพรรดิ แต่ใช้พลังแค่หนึ่งส่วนสิบเท่านั้น แววตาของไบรท์ที่วาวโรจน์ขึ้นมาไม่สามารถหลุดรอดสายตาอันเฉียบคมปประดุจเหยี่ยวของออสตินได้
เดิมที่ออสตินจะไม่ขึ้นมาเอง ทว่าชายหนุ่มที่เป็นจักรพรรดิก็สังเกตบางสิ่งได้ นั่นก็คือพลังธาตุในร่างกายของเด็กหนุ่มผู้นี้มีการเปลี่ยนแปลงไป พลังในการเรียนรู้เวทมนตร์และการเรียนรู้ธาตุในห้องของออสตินที่มีธาตุบริสุทธิทำให้จักพรรดิหนุ่มรู้สึกทึ่ง
หากเด็กคนนี้ได้เติบใหญ่ได้รับการสอนสั่งด้วยน้ำมือของเขา คงจะเป็นคนที่หน้าสนใจมิใช่น้อย เดิมทีที่จะนำเด็กผู้นี้มาเป็นทาสเท่านั้น แต่ตอนนี้เมื่อเห็นความสามารถของต้นกล้าต้นนี้ ออสตินก็เริ่มอยากได้ ไฟในตัวเริ่มลุกโชน
“เจ้ามีนามว่าอะไร ข้ามีนามว่าออสตินเป็นจักรพรรดิของที่แห่งนี้”
ไบรท์แทบจะเนื้อเต้นเมื่อหูได้ยินคำกล่าวเช่นนี้ตัวการที่พาเขามายังที่แห่งนี้คงเป็นชายผู้นี้มิผิดเป็นแน่ แต่เหมือนว่าตอนนี้ชายคนนี้จะเริ่มเปลี่ยนเป้าหมายไปบ้างแล้ว เมื่อก่อนเหมือนว่าชายผู้นี้จะมีความต้องการบางอย่าง แต่ว่าตอนนี้ชายคนนี้กับเหมือนว่าจะควบคุมมันไว้ได้
“คุณคือจักรพรรดิของที่แห่งนี้สินะ แสดงว่าคุณมีพลังเวทระดับจักรพรรดิใช่ไหม”
ออสตินส่ายหัวปฏิเสธไบรท์ เขาไม่คิดจะบอกความจริงให้กับเด็กหนุ่มผู้นี้ เขายังไม่ไว้ใจไบรท์
“พลังเวทระดับจักรพรรดิอย่างนั้นหรือ ไม่หรอกข้าไม่ได้มีพลังมากมายเช่นนั้น พลังที่ข้ามีก็แค่ระดับนักรบเวทเท่านั้น ยังไม่ถึงระดับจักรพรรดิหรอก แล้วเจ้าล่ะเจ้ามีนามว่าอะไร”
“ผมมีนามว่าไบรท์ แล้วทำไมถึงจับผมมาอยู่ที่นี่ล่ะ”
ออสตินกล่าวตอบ “ไบรท์ ไบรท์สินะ เหตุที่ข้าต้องพาเจ้ามาอยู่ที่นี่นั่นก็เพราะว่า เรื่องนี้มันเป็นความเข้าใจผิด เจ้ามีหน้าตาคล้ายคึงกับลูกของข้าอย่างมาก เมื่อข้าเห็นเจ้าอยู่ในอันตรายข้าจึงสั่งให้ลูกน้องของข้าไปช่วย แต่เมื่อเจ้ามาถึงเข้ากับพบว่าเจ้ามีหน้าตาบางส่วนไม่เหมือนกับลูกของข้า แถมยังพลังเวทของเจ้าก็แตกต่าง”
ไบรท์ได้ยินเช่นนั้น เขาจึงถอนหายใจ “อย่างนี้นี่เอง มิน่าละผมนึกว่าผมโดนลักพาตัวมาเสียอีก ถ้าเป็นอย่างนั้นช่วยพาตัวของผมกลับไปได้หรือไม่”
ออสตินเห็นท่าทางที่ไว้วางใจของไบรท์ ชายหนุ่มก็ยิ้มในใจ ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ในการเรียนรู้เวทมนตร์ของเด็กผู้นี้จะดีสักแค่ไหน แต่ว่าสมองกับสติปัญญาของเขาก็แค่สิบสองหนาวสิบสามหนาวเท่านั้น ดังนั้นการที่เขาจะใช้สิ่งนั้นมันคงเป็นเรื่องที่ไม่ยาก
“ได้สิ แต่ว่าตอนนี้มันได้เวลาที่ข้าต้องไปกินอาหารเย็นแล้ว เอาไว้พรุ่งนี้เช้าข้าจะพาเจ้า ไม่สิข้าจะให้ทหารของข้าไปตามหาเพื่อนของเจ้า แล้วเจ้าอยู่ที่นี่กับข้าดีหรือไม่”
ไบรท์คิดจะกล่าวประติเสธ แต่ว่าออสตินกลับกล่าวขึ้นเสียก่อน
“เหตุที่ข้าต้องทำเช่นนี้นั่นก็เพระว่า ทหารของข้ามีความชำนานในภูมิประเทศแถบนี้มากกว่าเจ้า ต่อให้เจ้าจะติดตามไปด้วยมันก็ไม่มีประโยชน์ มันจะทำให้เสียเวลาเพิ่มเสียมากกว่า เวลาที่พวกเข้าต้องคอยดูแลเจ้านำมันไปตามหาพวกเพื่อนของเจ้าไม่ดีกว่าหรือ แล้วอีกอย่างหากเข้าไปสั่งการตอนนี้ เพียงไม่เกินสองสามชั่วยาม พวกข้าย่อมสามารถเจอพวกเพื่อนของเจ้าได้อย่างง่ายดายเป็นแน่ หรืออย่างช้าที่สุดก็คงไม่เกินสองวัน แล้วระหว่างนี้เจ้าก็อยู่ฟื้นพลังเวทของเจ้าให้กลับมาดังเดิม แล้วหลังจากนั้นพวกข้าจะพาพวกเจ้าไปส่งยังที่ที่พวกเจ้าจากมาดีหรือไม่”
ไบรท์รู้สึกแปลกกับคำกล่าวของออสติน แต่ไบรท์ก็ไม่สามารถคิดอะไรออกในตอนนี้นอกจากต้องรอดูท่าทีของชายตรงหน้า
เมื่อออสตินเห็นไบรท์ไม่ได้กล่าวปฏิเสธ องค์จักพรรดิจึงกล่าวถามต่อ “ว่าแต่พวกเจ้าเป็นใครแล้วมาจากไหน ทำไมพลังเวทของเจ้าถึงต่ำเช่นนี้”
ไบรท์รู้สึกเจ็บในอก คำว่าพลังเวทของไบรท์ต่ำนั้นมันเป็นการเหยียบใจเขา เขาอยากจะลุกขึ้นแล้วใช้ตีนเหยีบหน้าองค์จักรพรรดิรูปงามผู้นี้ให้จมดิน
“พลังเวทของผมเป็นแบบนี้มาตั้งแต่เกิด แล้วละครับ”
ออสตินพยักหน้ารับ เขาจ้องหน้าเด็กน้อยตรงหน้า ทันใดนั้นเองออสตินก็ตัดสินใจกล่าวสิ่งที่เขาคิด “ถ้าเช่นนั้นหากข้าบอกเจ้าว่าข้ามีวิธีทำให้พลังเวทของเจ้าลุดหน้า แต่เพียงพริบตาพลังของเจ้าจะเพิ่มขึ้นมหาสารเจ้าสนใจหรือไม่”
ไบรท์มองหน้าที่ของชายหนุ่ม เขารู้สึกยินดีตลอดเวลาสิบกว่าปีที่ไบรท์พยายามพัฒนาพลังเวทของตน แต่ทว่าไบรท์กลับไม่สามารถพัฒนามันได้ แต่ถึงตอนนี้ไบรท์กับพบว่าตอนนี้เขาจะได้พบวิธีทำให้พลังของตนเองก้าวกระโดด
“ผมสนใจ วิธีอะไรหรือที่จะทำให้พลังของผมพัฒนาขึ้น”
ออสตินยิ้ม เด็กหนุ่มผู้นี้มีความต้องการเหมือนเขา ตอนที่ชายหนุ่มยังเยาออสตินก็ต้องการพลังที่สามทารถสยบทั่วฟ้าได้เช่นเดียวกัน
“หากเจ้าสนใจ ข้าก็ยิ้นดีที่จะช่วยเหลือเจ้า แต่ว่ามันมีข้อแรกเปลี่ยน นั่นก็คือ”
อาสึนะกับพวกคาเสะและรูรุเจอกันตอนที่ฝนเลิกร่ำไห้ จากการสอบถามพวกรูรุกับคาเสะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า สาเหตุที่พวกเขาสามารถหนีออกมาได้จากเชือกที่พันธนาการได้นั้นก็เพราะว่าได้รับความช่วยเหลือจากชายหนุ่มนิรนาม ชายผู้นั้นใช้พลังน่าอัศจรรย์อาวุธของชายคนนั้นสามารถแปลเปลี่ยนได้ดั่งใจนึก พลังเวทของชายคนนั้นน่าจะอยู่ในระดับนักรบเวท
“แล้วพวกเธอได้เห็นหน้าตาของหมอนั่นหรือเปล่า” อาสึนะซักถาม
“สายคนนั้นมีดวงตาสีฟ้าผมสีดำหน้าตาโคชหล่อเลย” คาเสะกล่าว เธอพยายามนึกถึงหน้าตาของชายนิรนาม
อาสึนะมองหน้าของคาเสะอย่างเอือมระอา เธอไม่คิดเลยว่าเด็กหญิงผมเขียวที่มีท่าทางเป็นทอมบอยเหมือนเธอจะมีความตื่นเต้นเมื่อเห็นหน้าตาของผู้ชาย
“แล้วเธอจะถามทำไมล่ะ”
อาสึนะตอบกับคาเสะ “ถ้าฉันเจอกับหมอนั่นอีก ฉันจะขอบคุณหมอนั่นสักหน่อย ว่าแต่ตอนนี้เรื่องที่สำคัญกว่าก็คืออาวุธของรูรุกับอาวุธของฉันอยู่ที่ไหน”
รูรุพยักหน้าเห็นพ้องกับคำกล่าวของอาสึนะ ตอนนี้ในสภาพที่พวกเขาไร้ซึ่งพลังเวท หากพวกเธอขาดอาวุธแล้วต้องปะทะกับมอนสเตอร์หรือสัตว์อสูรในตอนนี้พวกเธอคงต้องตายเป็นแน่ แถมหากต้องเจอกับสัตว์มหัศจรรย์ที่เป็นสัตว์ในตำนานคงต้องเตรียมตัวเป็นอาหารแน่ ๆ
รูรุมองหน้าของคาเสะ ตอนนี้สภาพร่างกายของเขากับคาเสะนั้นดีที่สุด ส่วนอาสึนะนั้นตัดออกไปได้เลย นั่นก็เพราะว่าบาดแผลและเลือดที่เริ่มออกครั้งสภาเช่นนี้คงไม่สามารถให้อาสึนะต่อสู้ได้เป็นแน่
“ตอนนี้พลังเวทของเธอกลับมากี่ส่วนแล้วหรอคาเสะ”
“ตอนนี้พลังเวทของฉัน”
ก่อนที่หญิงสาวจะกล่าว พวกเธอก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เมื่อพวกของอาสึนะได้ยินเสียงกรีดร้องและเสียงขอความช่วยเหลือ
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 197
แสดงความคิดเห็น