บทที่ 8 อัคคีวาโย2/2

มนตราสะท้านโลกา
คุณกำลังอ่าน: มนตราสะท้านโลกา

-A A +A

บทที่ 8 อัคคีวาโย2/2

เสียงร้องโหยหวนดังขึ้นแต่มันไม่ใช่เสียงของเด็กหนุ่ม เลือดสีแดงฉานกระเด็นพุ่งย้อมพื้นจนเป็นสีโลหิต สัตว์อสูรตัวร้ายผงะถอยหลังกรูด มันอ้าปากค้างน้ำลายกับเลือดปนเปกัน  หางอันยาวเหยียดของมันถูกตัดออกอย่างง่ายดายก่อนที่จะมีเสียงของดารุณีน้อยดังขึ้นไม่ห่าง 

“ถ้าฉันมาช้ามีหวังนายตายไปแล้วนะเนี่ย เป็นยังไงบ้างท่าทางดูไม่ค่อยดีเลยแล้วทำไมพาสัตว์ประหลาดมาด้วยล่ะ”

ในมือของเธอมีดาบโปร่งแสงขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กมากนัก หญิงสาวตีลังกากลับหลังก่อนที่จะใช้ดาบเวทย์มนต์เสียบเข้าไปยังดวงตาของสัตว์อสูรตัวร้าย 

“อาสึนะเธอก็มาอยู่ที่นี่ด้วยอย่างนั้นหรอ”

อาสึนะพยักหน้ารับ เส้นผมสีน้ำตาลปลิวไสวตามแรงลม เด็กสาวเสกเวทมนตร์ที่เป็นบอลลมเข้ามาสู่มืออันขาวเนียนก่อนที่จะตัดสินใจใช้บอลลมขนาดใหญ่อัดเข้าไปที่ปากของสัตว์อสูรอีกครั้ง 

“บอลวาโย จงรับไปซะเจ้าสัตว์ตัวประหลาดน่าเกลียดน่ากลัว”

สัตว์อสูรตัวยาวใหญ่ผงะถอยหลังไปถึง 3 4 เมตร เด็กสาวไม่หยุดเธอผนึกแม่เสริมกำลังขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะใช้เวทลมคณิตไว้ที่ฝาเท้า แล้วเคลื่อนไหวเหมือนนินจาเข้าไปตรงหน้าของสัตว์อสูร ผมสีน้ำตาลปลิวไสวพร้อมกับเด็กสาวหมุนคว้างตีลังกา 3 ตลบ แล้วนำเวทเสริมพลังต่อยเข้าไปยังดั้งจมูกของสัตว์อสูร 

เมื่อเด็กหนุ่มเห็นดังนั้นเขารู้สึกเจ็บใจอย่างประหลาด ไบรท์ร่ายเวทไฟขึ้นบนฝ่ามือ ก่อนที่จะเรียกเวทลมขึ้นมาอีกข้างข้าง 

“จงรับไปซะวาโยอัคคี”

เปลวไฟขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็กพุ่งทะยานไปใส่ตัสของสัตว์อสูร อาสึนะกระโจนตัวหลบเวทมนตร์ที่พุ่งมา ก่อนที่เธอจะเรียกเวทลมแล้วแปลเปลี่ยนให้มันเป็นหมีดขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก เด็กสาวสะบัดมีดตามติด

เมื่อมีดโดนเปลวไฟเลี้ยวไฟก็ถูกดูดเข้าไปแล้วกลายเป็นมีดไฟ มีดไฟพุ่งไปเชือดคอหอยของสัตว์อสูรทำให้เลือดของมันกระเด็นออกมาจากตัวอีกครั้ง

เด็กทั้งสองมองท่าที่ผสานอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา เพราะเดิมทีพวกเขาทั้งสองก็แค่อยากโจมตีสัตว์อสูรตรงหน้าไม่คิดเลยว่าการใช้เวทมนตร์แบบนี้จะสามารถดึงดูดกันได้

“ถ้าภาษาเหนือเหรอไม่คิดเลยว่าจะได้ท่าใหม่มา” อาสึนะกล่าวพลางถอยหลัง 

“ถ้าประสารก็คือการใช้เวทมนตร์ 2 3 สายพร้อมกัน ถึงแม้ว่ามันจะเกิดขึ้นได้ยากแต่ว่ามันก็ไม่ได้เจอเกิดขึ้นไม่ได้เลย ถ้าคนส่วนใหญ่ใช้เวทมนตร์ได้แค่ธาตุเดียวก็จะไม่ค่อยมีถ้าประสานเวทย์”

อาสึนะพยักหน้ารับกับคำกล่าวก่อนที่จะเคลื่อนล่างมาอยู่ข้างๆเด็กหนุ่ม เด็กสาวหันหน้ามามองก่อนที่จะพยักพเยิด ชี้นิ้วปุ้ยใบ้ให้ดูสัตว์อสูรที่กำลังถูกเปลวไฟกลืนกิน 

“เพราะนายโจมตีป่ารอบๆทำให้เวลาฉันใช้เวทมนต์ธาตุลมมันก็จะช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของเปลวไฟที่ไหนร่ายเวทมนตร์ไว้ ดังนั้นเวทมนตร์ทั้งสองสายจึงมีอานุภาพมันคือการสรรสร้างเวทมนต์ 2 ธาตุพร้อมกัน ถึงแม้ว่าเปลวไฟจะมีขนาดเล็กแต่เมื่อผนึกรวมกับธาตุลมทำให้มันมีขนาดใหญ่”

“ดังนั้นการโจมตีจึงมีอานุภาพมากขึ้น แต่ว่าการโจมตีแบบนั้นมันเป็นการโจมตีในรูปแบบกระจาย ถ้าเราไม่ผลิตการโจมตีไปที่จุดเดียว สัตว์อสูรตัวนี้ก็จะไม่ตาย การโจมตีที่ผ่านมามันไม่ได้สูญเปล่าแต่มันก็ไม่มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลมากเท่าไหร่นัก มอนสเตอร์ตัวนี้ไม่ได้มีธาตุ 2 ธาตุดังนั้นการป้องกันการโจมตีเกี่ยวกับธาตุจึงมีน้อยกว่าสัตว์อสูรที่อยู่ในดันเจี้ยน ดูๆแล้วมันเป็นสัตว์อสูรที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติทั่วไปไม่ได้ถูกใครสร้างขึ้นมา พวกนี้มันเกิดจากสัตว์ที่กัดกินกันไปกันมา”

“สัตว์ที่กัดกินกันอย่างนั้นหรอหมายความว่ายังไง” ไบรท์เรียกบอลไฟขึ้นมาบนมืออีกครั้ง

ในขณะเดียวกันอาสึนะก็เรียกบอลลมขึ้นมา “มันก็หมายความว่าสัตว์อสูรพวกนี้มันเกิดขึ้นจากการรวมกันของพลังธาตุในร่างกายของสัตว์ต่างๆ เป็นสัตว์ผสมเทียมแล้วมั้งถ้าจำไม่ผิดไม่ได้เกิดขึ้นโดยที่มีคนสร้างแต่เกิดขึ้นจากธรรมชาติ ถึงแม้ว่าทฤษฎีในการเกิดพวก มอนสเตอร์จะมีมากมายก็จริง แต่ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่มีใครรู้หรอกว่าพวกนี้มันเกิดขึ้นมาได้ยังไง แต่ส่วนใหญ่พวกนี้จะอยู่ในดันเจี้ยนมากกว่า”

“อยู่ในดันเจี้ยนอย่างนั้นเหรอ แต่ว่าฉันเจอมันโผล่ขึ้นมาจากพื้นดินนะเจ้าสัตว์ประหลาดตัวนี้”

“ถ้าอย่างนั้นฉันขอถามได้กลับไปหน่อยก็แล้วกันได้คิดว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหนกัน มิติอื่นอย่างนั้นหรอหรือว่าในดันเจี้ยน ไม่รู้ใช่ไหมล่ะฉันก็ไม่รู้หรอกว่าตอนนี้พวกเราอยู่ที่ไหน แต่ที่คาดคะเนได้ไม่ยากพวกเราไม่ได้อยู่ในอาณาจักรบาบิโลเนีย “

“ฉันสันนิษฐานว่าตอนนี้พวกเราอยู่ในดันเจี้ยน มีแต่ในดันเจี้ยนเท่านั้นที่จะมีพลังเวทย์หนาแน่นและ มอนสเตอร์เยอะแยะขนาดนี้ ตั้งแต่ที่ฉันตื่นมาแล้วพบว่าฉันอยู่ที่นี่ตลอดการเดินทางฉันเจอสัตว์อสูรขนาดใหญ่และขนาดเล็กไม่น้อยกว่า 3-4 ตัว”

“แล้วทำไมพวกเราถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ แล้วพวกพี่ไอยราอยู่ที่ไหน”

อาสึนะสั่นศีรษะ “พวกอาจารย์ไอยราอยู่ที่ไหนเรื่องนั้นฉันไม่รู้ แต่ที่รู้ก็คือพวกเราน่าจะถูกการโจมตีบางอย่างทำให้กระเด็นมาอยู่ที่นี่ รอบๆบริเวณนี้เป็นป่าขนาดใหญ่ถ้าไม่ใช่เพราะความบังเอิญฉันก็คงไม่เจอกับนาย ฉันได้ยินเสียงการโจมตีและการต่อสู้ทำให้ฉันรีบมุ่งหน้ามาที่นี่ การเคลื่อนที่ของฉันนั้นรวดเร็วเพราะว่าฉันมีพลังเวทย์เสริมกำลังและเวทย์ลมที่ช่วยสนับสนุนกันและกัน แต่ว่าถ้าฉันคิดไม่ผิดต่อให้พวกพี่ไอยราจะรู้ว่าเราอยู่ที่นี่ แต่พวกเขาก็คงไม่สามารถมาที่นี่ได้ทันทีหรอก”

“ทำไมล่ะ” 

“นั่นก็เพราะว่านายเล่นเผาป่าแบบนี้การเดินทางเข้ามาช่วยนายก็คงเป็นไปได้อย่างยากลำบาก แล้วอีกอย่างนึงถ้าพวกพี่เขาอยู่ใกล้ ๆ แถวนี้ ฉันก็คงสามารถสัมผัสพลังเวทย์ได้ แต่นี่แม้แต่ไอพลังเวทย์ฉันก็ยังไม่เจอเลย”

“เอาล่ะเราอย่าเพิ่งสนใจเรื่องนั้นเลย สิ่งที่เราควรที่จะสนใจก็คือการกำจัดสัตว์อสูรบ้านี่ไม่อย่างนั้นพวกเราทั้งสองคนคงไม่รอดแน่ ๆ”

ไบรท์พยักหน้ารับ “ตอนแรกฉันคิดว่าถ้าเจอกับเธอพวกเราทั้งสองคนก็จะสามารถเอาชนะมันได้ง่าย ๆ ซะอีก”

“ไม่มีทางหรอกถึงแม้ว่าฉันสู้กับมันเพียงคนเดียวก็จะสามารถเอาชนะได้ แต่ว่าก็เสี่ยงอยู่ คงจะต้องใช้พลังไว้จนหมดเลยล่ะถึงจะสามารถเอาชนะมันได้ แต่ว่าเรื่องที่เราควรที่จะคิดหลังจากนั้นก็คือ”

เด็กสาวผมสีน้ำตาลหยุดก่อนที่จะกล่าวต่อ “ถ้าพวกเราใช้พลังเวทย์หมด พวกเรานั่นแหละจะมีปัญหา”

ไบรท์พยักหน้ารับ “ฉันเข้าใจฉันเข้าใจ  ถ้าเธอหรือฉันใช้พลังเวทจนหมดล่ะก็ สัตว์ป่าหรือพวกมอนสเตอร์ที่อยู่รอบ ๆ คงต้องโจมตีกัดกินพวกเราอย่างแน่นอน ถ้าอย่างนี้ก็คงโดนสัตว์ป่าทั่วไปโจมตี แต่ถ้าเกิดโชคร้ายกว่านั้นก็คงจะต้องตายด้วยน้ำมือของสัตว์อสูร”

“ใช่แล้วล่ะ ถ้าที่นี่เป็นดันเจี้ยนแล้วก็ยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ เวลาในดันเจี้ยนจะเร็วหรือช้าก็แล้วแต่ดันเจี้ยนโดนๆถ้าตอนนี้เวลาของพวกเราเร็วกว่าด้านนอกพวกเรายิ่งอยู่นานก็จะยิ่งมีอายุมากขึ้น แต่ในขณะเดียวกันถ้าเวลายิ่งช้าแล้วก็ข้างนอกนั่นแหละพวกเรากลับไปพวกเราก็จะยังเด็ก ส่วนผู้คนที่อยู่ข้างนอกก็จะมีอายุเพิ่มมากขึ้น ถ้าเป็นแบบนั้นล่ะก็สถานการณ์ยิ่งเลวร้ายเข้าไปใหญ่เลยล่ะ”

อาสึนะมีท่าทางที่เคร่งเครียด ก่อนที่เธอจะจ้องมองไปยังสัตว์อสูรข้างหน้า แล้วหรี่ตามองยังชายหนุ่มที่อยู่ด้านข้าง 

“นายใช้เป็นหรือเปล่าเวทมนตร์ผสาร”

“ฉันใช้ไม่เป็น”

“ถ้าอย่างนั้นฟังฉันฉันจะบอกแค่ครั้งเดียวเท่านั้น”

ไบรท์พยักหน้ารับ “ได้เลย”

“ก่อนอื่นเอาบอลลมกับบอลไฟของพวกเราทั้งสองคนเข้ามาให้ใกล้กันที่สุด หลังจากนั้นภาษาลมหายใจเป็นหนึ่งเดียว ก่อนที่จะปาบอลลมกับบอลไฟของพวกเราทั้งสองคนให้ไปพร้อมๆกัน หลังจากนั้นเวทมนตร์ทั้ง 2 มันก็จะดึงดูดกันเอง พอมันดึงดูดกันเองมันจะเกิดเป็นพายุสลาตันขนาดใหญ่ โดยที่ข้างในจะมีเปลวไฟของนาย แต่ที่สำคัญก็คือพวกเราต้องเล็งไปที่จุดสำคัญของสะสมตัวนั้น”

“เข้าใจแล้วถ้าอย่างงั้นเริ่มเลย”

สายลมที่พัดขอความหนาวยะเยือกของทิวา โรงแก้วที่ตั้งสงบนิ่งอยู่ในห้องใต้ดิน ตอนนี้มีบุรุษหนุ่มภายใต้หน้ากากสีดำที่มีลวดลายคล้ายคลึงกับยมทูต กำลังจับจ้องยังร่างกายที่อีกไม่นานคงจะปราศจากวิญญาณ แม้ว่าเขาจะยืมหรือไม่ก็ไม่มีใครที่จะสามารถตรัสรู้ แต่เรื่องที่ผู้คนส่วนใหญ่ล้วนรู้ดีก็คือชายคนนี้มิได้หวังดี 

เขามองยังน้ำแข็งพันปีที่ตั้งตระหง่านอยู่ข้างในโลงศพ ก่อนที่จะกล่าวรำพึงรำพันกับตนเอง 

“ไม่คิดเลยว่าจะเอาผู้หญิงคนนี้มาซ่อนไว้ที่นี่ ก็ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยแพทย์เทวะ คู่รักของแกคงไม่สามารถจะมีชีวิตต่อไปได้ อย่าโกรธฉันเลยนะนี่มันคือภารกิจ”

สิ้นคำกล่าวใบดาบสีดำก็โผล่ขึ้นข้างร่างกาย ความคมของมันแค่เพียงสะบัดก็คงสามารถหันร่างที่ขาวเนียนและบอบบาง ชายหนุ่มยกดาบจรดขึ้นก่อนที่จะค่อย ๆ ตวัดมันลง 

แต่ก่อนที่ดาบนั้นจะได้สัมผัสร่างกาย มันก็ส่งเสียงราวกับเหล็กกล้าสัมผัสกัน ชายหนุ่มผมสีดำในตาดุจรัตติกาล จ้องมองมายังชายตรงหน้าที่กำลังจะสังหารผ่านชีวิตผู้หญิงอันบริสุทธิ์ ด้วยท่าทีและสายตาที่แสดงความไม่พอใจ 

“ใครส่งแกมากันแน่ แกเป็นใคร”

บุรุษหนุ่มสวมหน้ากากยิ้มเย็นๆ ก่อนที่จะกล่าว 

“ฉันมาจากโลกันต์ เป็นผู้สืบทอดของชายผู้นั้นผู้ที่ควบคุมกฎเกณฑ์ของโลก ฉันจะไม่ยอมให้แกทำร้ายกฎเกณฑ์ที่ดำรงอยู่ ฉันต้องรักษากฎเกณฑ์ของโลกนี้ไว้ องค์กรของพวกแกต้องถูกทำลายเมื่อพวกแกกล้าขัดคำสั่งของพระเจ้า การที่จะชุบชีวิตมนุษย์ก็เช่นเดียวกัน”

 

สวัสดีนักอ่านที่กำลังติดตามผลงานทุกท่านนะครับ ผมจะทยอยอัพนิยาย 1 วันต่อตอน ถ้าใครสนใจก็ติดตามอ่านเรื่องนี้ไม่เทแน่นอนครับ ส่วนคนที่สงสัยว่าทำไมถึงไม่แต่งนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลกต่อ มันก็เป็นเพราะว่าตอนนี้กำลังทำการแก้ไขและปรับปรุงเนิยายเรื่องเกิดใหม่เพื่อไปเปลี่ยนโลก 

2 เนื่องจากการเขียนนิยายเรื่องนี้ เป็นเรื่องที่ 2 ทำให้สำนวนคงที่และไม่มีการเปลี่ยนแปลงสำนวนครับ แต่ว่าเนื่องจากดร๊าฟนี้เป็นดร๊าฟแรก หากมีคำผิดหรือคำตกหล่นประการใดผมก็ขอประทานอภัยมาณที่นี้ด้วยนะครับ ขอบคุณมากครับ 

3 เนื่องจากผมต้องการหารายได้จากการเขียนนิยาย  แต่ว่าก็ยังลังเลใจอยู่ว่าจะติดเรียนเลยดีไหม  ดังนั้นผมเลยทำอย่างนี้ครับผมจะติดเหรียญจะลงตอน  ให้อ่านก่อน 3 วัน  หลังจากนั้นก็จะติดเหรียญ  

จุดประสงค์ของผมก็คืออยากให้ทุกคนอ่านนิยายเรื่องนี้อย่างมีความสุข  และไม่ต้องเสียตังค์ ดังนั้นถ้าใครอยากอ่านโดยที่ไม่ต้องกดซื้อก็อ่านก่อนเลยนะครับ  แล้วช่วงนี้ผมต้องสอบเตรียมตัวสอบ จบ และสอบ toeic กับ jlpt และ shkk ดังนั้นผมจะเขียนน้อยแต่จะอัพสม่ำเสมอนะครับ จะเขียนประมาณ 3 หน้า A4 ตัวอักษร 14 อยู่ใน Google doc 

ขอบคุณนักอ่านทุกคนที่ติดตามนะครับ 

4 เนื่องจากผมเป็นผู้ที่บกพร่องทางการเห็นดังนั้นถ้าการจัดหน้าไม่ถูกไม่ควรอย่างไร  หรือเพื่อนๆมีความรู้สึกว่าอ่านยากกรุณา comment บอกได้เลยนะครับเดี๋ยวผมจะไปเปลี่ยนการจัดหน้าให้ เพราะว่าโปรแกรมอ่านหน้าจอของผมมันไม่แจ้งเตือนว่าการจัดหน้าเป็นอย่างไร แต่จากการที่ผมสันนิษฐานคิดว่าเว็บที่เอาไปลงน่าจะมีระบบจัดหน้าให้อัตโนมัติ ขอบคุณนักอ่านทุกคนอีกครั้งครับ 

 

 

ปล เกิดใหม่ภาคสองจะมีลงในเขียนกัน

www.keangun.com

นะ เพราะว่าผมเขียนภาคสองอยู่ส่วนภาคหนึ่ง rewrite ยาว ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.