ตอนที่ 7 : การแลกด้วยชีวิต
บรรยากาศความเงียบงันก่อตัวขึ้นภายในหมู่ผู้ชม ท่านเคานต์สตีลวอลล์ อันธพาลน้อยอย่างเกร็ค และเหล่ากองทหารอัศวิน ต่างปิดปากเงียบไม่พูดอะไร ไม่ พวกเขายังไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่า
ส่วนในทางผู้ชมอย่างนายหญิงฟลอเรล คนอื่นๆที่ไม่ค่อยรู้เรื่องศิลปะการต่อสู้เท่าไหร่ก็แค่มีอาการแปลกใจไปกับบรรยากาศ พวกเขาแค่ทึ่งกับความสามารถของซีคในการต่อสู้แต่ไม่รู้ว่าซีคทำสิ่งน่าเหลือเชื่อลงไป
เวอร์เด้น เทรล พ่อบ้านประจำตระกูลสตีลวอลล์ กล่าวถามออกมา " ตรงข้ามกับที่เราคาดกันไว้นะขอรับ นายน้อยทำออกมาได้ดี จากท่าทางเหล่าทหารอัศวินแล้วสิ่งที่นายน้อยทำต้องน่าเหลือเชื่อแน่ๆ จะเป็นอะไรไหมที่ข้าขอรบกวนท่านเป็นผู้อธิบาย "
เทรล เป็นชายชราที่มีเครายาวที่ถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย เขาทำงานในฐานะผู้ดูแลรับใช้ตั้งแต่เคานต์สตีลวอลล์ยังเด็ก เขาเป็นข้ารับใช้คนสำคัญที่ดูแลเรื่องต่างๆแทนเมื่อท่านเคานต์ไม่อยู่ นอกจากนี้เขายังเป็นหนึ่งไม่กี่คนที่ไม่เลือกปฏิบัติต่อซีค
เทรล ถามคำถามของเขากับชายวัยกลางคนที่ยืนอยู่ด้านหลังเคานต์สตีลวอลล์มีชื่อว่า แดนนี่ คริส นันท์ รองผู้บัญชาการกองทหารอัศวิน แม้ตำแหน่งของเขาจะยังเป็นรองไทเนอร์ที่เป็นหัวหน้าผู้บัญชาการ แต่คริส นันท์ ถือว่าเป็นหนึ่งในสามผู้มีอิทธิพลมากที่สุดในสตีลวอลล์
“ โอ้งั้นหรอ ดูเหมือนซีคเขาจะทำได้ดี แต่คนที่เหนือกว่าก็ยังเป็นอัศวินไบเนอร์นิที่ข้าเห็น ”
นายหญิงฟรอเรลเหมือนจะขุ่นเคืองกับการที่ซีคได้คำชม จึงรีบยกไบเนอร์ให้ดูสูงกว่า
เทรลยิ้มอย่างเป็นสุขพร้อมตอบคำถาม ที่นายหญิงไม่อยากจะได้ยินเท่าไหร่
“ ตั้งแต่นายน้อยยังเด็ก นายน้อยก็ไม่เคยเรียนทักษะดาบอย่างเป็นทางการมาก่อน ต้องเป็นอัศวินไบเนอร์อยู่แล้วที่ได้เปรียบ ถ้าไม่งั้นต้องอับอายไปถึงกองทหารอัศวินแล้ว ”
คริส นันท์ ถอนหายใจ ในฐานะร้องหัวหน้ากลุ่มอัศวิน เขาจึงรู้สึกกดดันเป็นพิเศษ
เทรล ยังคงกล่าวถามต่อไปเหมือนกับไม่เห็นการถอนหายใจของผู้เป็นรองผู้บัญชาการ
“ ช่างน่าเหลือเชื่อจริงๆที่นายน้อยทำได้ดีเกินความคาดหมายของทุกคนไปมาก จากการแสดงออกของเหล่าอัศวิน ดูเหมือนเขาได้ทำอะไรที่น่าเหลือเชื่อสักอย่าง บ่าวคนนี้รู้สึกเสียใจจริงๆที่เห็นนายน้อยของตระกูลสตีลวอลล์ไม่ได้รับการฝึกฝนที่เหมาะสมกับความสมารถของนายน้อย ”
ท่าทีของนายหญิงฟรอเรลอึมครึมลงทันที่ ขณะที่เกร็คก็มีลมหายใจที่รุนแรงขึ้น แต่พวกเขาก็ยังเก็บอาการไว้บ้างเพราะถึงยังไงแม้แต่นายหญิงฟรอเรลก็ยังต้องไว้หน้าเทรลอยู่บ้าง
“ ท่านมองเห็นถึงสิ่งใดบ้าง ท่านคริส นันท์ ”
“ พวกท่านน่าจะเคยได้ยิน ถึง ทักษะการขยายสัมผัสมานา ”
“ ข้าเคยได้ยินๆ การขยายสัมผัสพิเศษ เป็นทักษะที่ทำให้เรา เชื่อมโยงร่างกาย ดาบ และ มานาไว้ด้วยกัน ให้ความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียว เหมือนการที่เราใช้มือใช้เท้า พร้อมเสริมพลังด้วยมานา ข้าเข้าใจถูกหรือไม่ ”
“ ท่านเข้าใจได้ถูกแล้ว สำหรับอัศวินนี้ถือเป็นแนวทางสำคัญที่จะเรียนรู้ทักษะนี้ ซึ่งไม่ง่ายเลยท้าทายอยู่เหมือนกัน ผู้ใช้ต้องควมคุมมานาให้ได้อย่างเฉียบคม ไม่ใช่สิ่งที่คนทั่วไปในช่วงวัยอย่างไบเนอร์จะทำได้ ”
“ ตอนนี้ท่านไบเนอร์อายุยี่สิบปีหรือเปล่า”
“ ปีนี้เขาอายุยี่สิบสาม”
" โฮ้โฮ้โฮ้. นับเป็นพรสำหรับสตีลวอลล์ที่มีรุ่นเยาว์มากพรรสวรรค์เช่นนี้ แต่ท่านคริส นันน์”
" ครับ? "
“ แต่นายน้อยซีคดูเหมือนจะสามารถใช้ทักษะที่น่าทึ่งนี้ได้แล้วนิ ข้าพูดถูกต้องไหม "
ถึงยังไงเขาเป็นพ่อบ้านประจำตระกูลสตีลวอลล์ และ เทรลก็ไม่มองข้ามการที่ซีคใช้ทักษะการขยายสัมผัสพิเศษนี้ได้เหมือนที่ไบเนอร์ใช้ คริส นันท์ เหลือบมองไปทางนายหญิงฟรอเรลอย่างรวดเร็ว แต่ในที่สุดเขาก็พยักหน้า
" …ใช่ ถูกแล้ว "
“ แล้วปีนี้นายน้อยซีคอายุสิบเก้าเองไม่ใช่หรอ นายน้อยอายุน้อยกว่าท่านอัศวินไบเนอร์ถึงสี่ปี ท่านคริส นันท์ในวัยนี้มีกี่คนกันที่เชี่ยวชาญทักษะนี้ ”
“…เท่าที่ข้ารู้ ภายใต้กองอัศวินสตีลวอลล์ยังไม่เคยมี ”
“ ท่านรวมถึงท่านอัศวินไทเนอร์ด้วย?”
“ เท่าที่ข้ารู้ หัวหน้าเรียนรู้ทักษะนี้ได้ตอนช่วงอายุเดียวกันกับไบเนอร์”
“ โหะๆ เป็นเรื่องน่าประทับใจจริงๆ” เทรลกล่าวด้วยความชื่นชม จากนนั้นเขาก็มองไปทางเกร็ค ที่นั่งถัดไปจากเคานต์สตีลวอลล์ บนใบหน้าเขาปะปนด้วยความรู้สึก อับอาย อิจฉา ความไม่พอใจ รวมกันอยู่ ในคราวเดียวกันแววตาก็ทอประกายอาฆาตจ้องมองไปที่สนามประลอง
“ ตามที่ท่านบอกมา ท่านคงไม่ได้หมายความว่า นายน้อยเกร็คก็ยังไม่เชี่ยวชาญทักษะนี้ด้วยรึ ”
ใบหน้าของเกร็คแข็งทื่อขึ้น คริส นันท์ตอบด้วยการพยักหน้าขึ้นอีกครั้งในขณะที่ก็สัมผัสถึงการแสดงออกที่เปลี่ยนไปของเกร็ค
" …อ-อืม "
ตัวคริส นันท์ นั้นไม่ได้สนับสนุนซีค เขาคิดว่าเกร็คคือคนที่จะสืบทอดตำแหน่งต่อจากท่านเคานต์เหมือนคนอื่นๆในสตีลวอลล์ ที่เขาตอบก็แค่ในฐานะนักสู้คนหนึ่ง
“ เข้าใจแล้ว ”
“ ม-แม้ว่าเกร็ค เขาจะยังไม่เชี่ยวชาญทักษะนี้ แต่ทักษะดีๆอันอื่นเขาก็ใช้ได้หลายทักษะ "
“ นายหญิงฟรอเรลพูดถูกแล้ว แม้ทักษะอย่างการขยายสัมผัสมานาจะสำคัญ แต่ไม่ใช่ทักษะเดียวที่ต้องเรียนรู้ ทักษะอย่างอื่นก็สำคัญเหมือนกัน ”
คริส นันท์พูดสนับสนุนนายหญิงฟรอเรล
“ แน่นอนๆ ข้าน้อยรู้อยู่แล้วถึงความเก่งกาจของนายน้อยเกร็ค เขาถือเป็นความภาคภูมิใจของสตีลวอลล์ ”
เทรลยิ้มแล้วกล่าวตามน้ำไป
“ เจ้าจำได้เช่นนั้น ข้าก็ดีใจ ”
ในที่สุดสีหน้าของนายหญิงฟรอเรลก็ผ่อนคลายขึ้น แต่เหมืือนเทรลตั้งใจทำ ยั่วยุนายหญิงฟรอเรลอีกครั้ง
“ ในฐานะพ่อบ้านของตระกูล ข้านั้นรู้สึกภูมิใจจริงๆที่ตระกูลสตีลวอลล์มีนายน้อยให้ยกย่องถึงสองคน ”
“ ก็-ก็ใช่”
นายหญิงฟรอเรลจ้องไปทางคริส นันท์ด้วยหน้าที่น้ำตาเกือบจะไหล เธอแสดงออกชัดว่าอยากให้เขาพูดอะไรสักอย่างที่จะยกให้เกร็ก เหนือกว่า ซีค แต่ต้องเสียใจด้วย คริส นันน์ ที่เป็นดั่งสัตว์ร้ายในยามสู้รบ แต่ในเรื่องการเมืองเขาเหมือนแมวป่วย คริส นันท์ยังคงมีท่าทีอึดอัดจ้องมองไปแต่ทางสนามประลองจนกระทั่งดวงตาเขาเบิกกว้าง
“ดูทางนั่น!”
ไบเนอร์ถอยไปทางด้านหลัง พร้อมตวัดดาบแทงตรงไปในอากาศด้านหน้าอย่างรวดเร็ว
แบมมม!
เกิดการระเบิดขึ้น อากาศด้านไบเนอร์บิดเบี้ยว พร้อมลูกศรทำลายล้างที่ทะลวงออกไป
คริส นันท์กล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “ นั่นเป็นทักษะที่เรียกว่า ' ทะลวงสุญญากาศ ' ที่ต้องรวบรวมมานาไว้ที่ปลายดาบให้มากพอ เพื่อยิงไปยังอากาศด้านหน้าเหมือนลูกศรมานาทะลุทลวงไปหาศัตรู นี้ก็เป็นทักษะที่เรียนรู้ได้ยากเหมือนกัน ซึ่งนายน้อยเกร็กใช้ทักษะนี้ได้ ”
“ โอ้ น่าทึ่งมากขอรับ แต่ท่านคริส นันน์...”
เทรล ชี้นิ้วของเขาปทางสนามประลอง
“ นั่นดูเหมือนว่านายน้อยซีค จะกำลังใช้มันอยู่หรือป่าว?”
“ เอ่อ-ใช่ ดูเหมือนว่านายน้อยซีค จะใช้ทักษะนี้ได้ด้วย”
คริส นันท์ ปิดปากของตัวเองทันทีหลังคำพูดเหล่านั้นออกมา เขากลัวเสียเชิงอีกถ้าเขาพูดอะไรไปโดยประมาท เพราะที่หลังของเขาตอนนี้ถูกทิ่มแทงด้วยสายตาขุ่นเคืองจากนายหญิงฟรอเรลอยู่
* * *
ตอนนี้ไบเนอร์กำลังสับสน
" อะไรของมันวะเนี่ย !"
เขาไม่เคยคิดว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น คู่ต่อสู้ของเขาเป็นมือใหม่เพิ่งจะปลุกพลังมานาได้ แถมไม่น่าจะเคยเรียนทักษะด้านดาบมาก่อน
แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น อีกฝ่ายแสดงทักษะระดับสูงออกมาทีละอย่างแถมต่อสู้ได้ดีอีก จนตอนนี้ความสนใจผู้ชมไปรวมอยู่ที่ซีคหมด
แผนการของไบเนอร์ที่จะเอาชนะซีคอย่างสง่างามเหนือกว่า เพื่อกู้คืนชื่อเสียงของเขาที่มัวหมองไป ตอนนี้มันพังทลายลงไปแล้ว ตัวเอกของการต่อสู้ครั้งนี้กลับเป็นซีคที่ได้มันไป
' ฉันต้องชนะ! ฉันต้องชนะ! ฉันต้องชนะ! '
ในหัวของไบเนอร์ มีแต่คำว่าต้องชนะอยู่ในหัว สิ่งเดียวที่เหลืออยู่สำหรับเขาตอนนี้คือเขาต้องชนะ
‘ ยังดีที่เราเหนือกว่าเขาในด้านทักษะ ไม่งั้นข้าไม่กล้าสู้หน้าใครแน่ ’
ทุกครั้งที่ซีคใช้ทักษะต่างๆออกมา มักจะมีการติดขัดไม่ไหลลื่นออกมาให้เห็นราวกับร่างกายเขาไม่คุ้นเคยกับมัน มันเป็นช่องโหวที่เล็กมาก แต่ด้วยสัญชาตญานดิบของไบเนอร์ก็พอสัมผัสถึงมันได้
‘ ไม่ว่ายังไง ข้าก็ต้องชนะ ’
ในจิตใจของไบเนอร์ตอนนี้เหมือนกำลังถูกเผาไหม้ เขาจะเอาชนะอย่างมีเกียรติ หรือ จะทำลายฝั่งตรงข้ามด้วยช่องโหวนั้น อย่างไหนดีกว่า
สำหรับซีคตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยเข้าข้างเท่าไหร่
‘ ร่างกายของเราเริ่มมาถึงขีดจำกัดแล้ว ’
แม้ซีค จะใช้ประสบการณ์ทักษะของเขา ในฐานะที่เคยเป็นถึง ‘จอมมาร’ แต่ร่างกายของเขาตอนนี้มันไม่ได้ผ่านการฝึกฝนหล่อหลอมมาแบบเดียวกันสักหน่อย
‘ ทักษะที่ใช้ออกมาได้ก็ยังไม่เข้าที่ ’
ที่เห็นซีคใช้ทักษะขั้นสูงออกมาได้นั้น เพราะการควมคุมมานาของเขาล้วนๆ ถึงจะดูเหมือนใช้มันออกมาได้แต่ความจริงมันไม่สมบูรณ์
ที่ทุกคนเห็นตอนนี้ เขาใช้การควมคุมมานาคอยทดแทนในด้านอื่นที่ขาดไป ร่างกายของเขาตามไม่ทัน ทุกครั้งที่ฝืนใช้ทักษะออกไปร่างกายเขาจะได้รับบาดเจ็บทุกครั้ง
‘ มันเหมือนกับเขาต้องใช้มานาเป็นตัวฝืนบังคับกล้ามเนื้อ เส้นเอ้น ของร่างกายทุกสัดส่วนให้ขยับตาม โดยคิดล่วงหน้า ’
มันยังเผยให้เห็นว่าซีคเป็นสัตว์ประหลาดโดยแท้ ที่ทำสิ่งเกินกว่าสามัญสำนึกคนปกติจะทำได้
ตึงง!
ด้วยแรงปะทะ ผลักให้ระยะห่างของทั้งสองกว้างขึ้นอีกครั้ง
“ มันดูเหมือนท่านจะแอบฝึกฝนอย่างลับมาได้สักพักแล้ว แม้แต่ทักษะอย่างการขยายสัมผัสมานาก็ใช้ได้ ”
“ ไม่เห็นน่าทึ่งตรงไหน สำหรับข้าทักษะนี้ก็แค่ของเด็กเล่น ”
เขาไม่ได้ลองยั่วยุอารมณ์ของไบเนอร์เพิ่ม แต่อย่างซีคที่ครั้งหนึ่งเคยเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบในด้านทักษะควบคุมมานาแล้ว แค่ทักษะอย่างการขยายสัมผัสมานา มันง่ายมากๆ
“ งั้นพวกเรามาลุยกันต่อ! ”
ไบเนอร์พุ่งเข้ามาอีกครั้ง
แคล้งงง!
เสียงเหล็กคมปะทะกันดังก้อง สถานการณ์เหมือนเดิมเกิดขึ้นอีกครั้ง -ไม่ แค่ดูเหมือนเป็นแบบนั้น การจู่โจมของไบเบอร์เหมือนคลื่นแรงที่ถาโถมเข้าใส่ โดยที่ซีคต้องใช้เทคนิคต่างๆลดแรงปะทะ
แต่คนที่มากประสบการณ์ย่อมมองออก
' มันจะจบลงในไม่ช้า '
ไทเนอร์ คาดการณ์ถึงจุดจบของการประลองที่เปิดหูเปิดตาครั้งนี้ ต้องยอมรับความสามารถของซีคน่าเหลือเชื่อมาก แต่สำหรับอัศวินรุ่นเยาว์ที่แข็งแกร่งที่สุดของสตีลวอลล์อย่างไบเนอร์ ต้องมองจุดอ่อนของซีคออก
เมื่อไบเนอร์เริ่มจู่โจมไปที่จุดอ่อนเหล่านี้ของซีค ร่างกายของซีคจะเริ่มสูญเสียการควมคุม
‘ แต่ไม่ยอมรับไม่ได้เลยทักษะความสามารถของนายน้อยซีคทำเอาเราทึ่งไปเลย เขามีพรสวรรค์มากขนาดนีี้เลยหรอ ’
ตั้งแต่ที่เห็นช่องโหวของทักษะที่ซีคใช้ ดูเหมือนพึ่งจะเริ่มเรียนรู้มาได้ไม่นานนี้ แต่การใช้ออกมานั้นดีเกินจนน่าประหลาดใจ
‘ เขาคงเริ่มฝึกทักษะเหล่านี้ไม่นาน หลังจากพึ่งเรียนรู้การควบคุมมานาได้แล้ว เขาต้องทำมันสำเร็จได้อย่างก้าวกระโดด ’
แม้ว่าทักษะที่ซีคใช้ออกมานั้นถือว่าดี แต่ว่ามันก็แพร่หลายมากในหมู่ผู้คน ไทเนอร์คิดว่าทักษะนี้ไม่ได้เป็นความลับอะไรมีหลายคนที่สอนซีคได้
‘ แต่เรื่องที่น่าอัศจรรย์คือ ด้วยอัตราความสำเร็จนี้ไม่นานนายน้อยซีคก็แซงหน้าเหนือนายน้อยเกร็คได้ ’
ไทเนอร์ ได้เหลือบไปทางที่เกร็คกำลังนั่งอยู่พร้อมเม้มริมฝีปากใช้ความคิด แต่ก็กลับมาจ้องมองการต่อสู้ข้างหน้าอย่างจริงจัง
แคล้ชชช!
มีเลือดพุ่งออกมาบนสนามประลองพร้อมเสียงอุทานจากเหล่าผู้ชม ที่ช่วงปลายแขนของซีคเลือดกำลังไหล
‘ แผลค่อนข้างลึก การต่อสู้ใกล้จะจบลงแล้วละ ’
ไทเนอร์ มั่นใจว่าการต่อสู้นี้จะจบลงด้วยการยอมแแพ้ของซีค ตัวเขาพร้อมที่จะลงจากเวทีตัดสิน
พุชชช!
มีเลือดพุ่งเกิดขึ้นอีกครั้งแต่คราวนี้ไม่ใช่ของซีค
' เขาสวนกลับได้? '
ร่่างของไทเนอร์หยุดอยู่กับที่อีกครั้ง สิ่งที่นอกเหนือจากความคิดปรากฏขึ้นบนลานประลอง
" อึกก !"
ไบเนอร์มองลงไปแผลของเขา มันเหมือนโดนเผาไหม้ ลึกและยาว อยู่ตรงปลายแขนด้านซ้ายพร้อมเลือดที่ไหลออกมา
' ห่าอะไรวะเนี่ย !'
ไบเนอร์นึกย้อนกลับไปถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เขาตั้งใจจู่โจมไปที่ที่ช่องโหว่จากทักษะของซีค ซึ่งตอนนั้นมันเห็นได้ชัดขึ้น เขาจึงสามารถหลบการป้องกันเพื่อโจมตีโดนซีคเต็มๆ
แต่ช่วงเวลานั้น เขาก็ได้รับบาดเจ็บกลับมาด้วย
‘ เวรเอ้ยย ’
ไบเนอร์รู้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น
' ไม่ เขาไม่ได้ป้องกัน เขายอมปล่อยผ่านการโจมตีนั้นให้โดนตัวเอง !'
เมื่อรู้ว่าการป้องกันนั้นเขาเสียเปรียบ ซีคตัดสินใจไม่สนการป้องกันแล้ว เขายอมแลก เจ็บให้น้อยที่สุดเพื่อฟันกลับให้แรงกว่า
‘ เย็นไว้ เย็นไว้ก่อน ไบเนอร์ ’
ไบเนอร์ เคยได้ยินเหตุการณ์ที่คล้ายกันมาก่อนหลายครั้งตอนฝึกเรียนรู้เป็นอัศวิน ดูแล้วเขายังคงได้เปรียบ คู่ต่อสู้ของเขากำลังจนมุมจนทิ้งการป้องกันไป ถึงบาดแผลที่เขาได้รับมันเจ็บปวดมาก แต่เขาก็เคยเจ็บแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
แต่ถึงยังไง ภายในใจของเขายังคงคลั่งอยู่ ยังไม่สงบลง
แม้ว่า ตัวไบเนอร์เคยเห็นการต่อสู้ของโจรภูเขาหลายคนที่มาอาการร้อนรนสิ้นหวัง แต่นี่เป็นครั้งแรกที่คู่ต่อสู้เขามีความสามารถที่ใกล้เคียงกัน แถมมีชันเชิงอีก ถึงเขาจะเป็นอัจฉริยะแต่ประสบการณ์แบบนี้เขายังขาดอยู่
“ กำลังหวาดกลัวอยู่งั้นหรอ ” ซีคถาม ต่างจากไบเนอร์ที่พยายามสงบอารมณ์อย่างเต็มที่ แต่ซีคกำลังยิ้มแสยะทำเอาไบเนอร์รู้สึกกลัว
" นี่มันแค่เริ่มต้น เราจะฆ่าฟันกันให้มากกว่านี้ ระวังตัวไว้”
รอบเป็นซีค ที่พุ่งเข้าหาไบเนอร์การเคลื่อนไหวไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แค่พุ่งเข้าไปตรงๆเปิดช่องโหว่มากมาย แต่คราวนี้ไบเนอร์ระวังที่จะฟันแทน เขารู้ว่าถ้าเขาโจมตีเข้าไปที่ช่องโหว่ซีค เขาจะถูกสวนกลับมาด้วยการโจมตีที่แรงมากขึ้น เหมือนมันมีแรงกดดันหรือสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง
ไบเนอร์กลายถูกบังคับให้ป้องกันอย่างช่วยไม่ได้ เพราะคำพูดของซีคเมื่อกี้มันหลอกหลอนเขาว่า การประลองที่ผ่านมาตอนนี้จะกลายเป็นการฆ่าฟันไปแล้ว
.
.
.
สนับสนุนค่ากาแฟ ค่าไฟได้ที่ 0983824319 พร้อมเพย์
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 663
ความคิดเห็น
เริ่มค้างแล้วครับทีนี้ 55
ไม่มาลงต่อแล้วเหรอคะ
แสดงความคิดเห็น