๑ คงอยู่ - ๑
คงอยู่ - ๑
เด็กชายเหม่อมองตามหลังหญิงสาวที่เดินจากไปด้วยความเร่งรีบหลังจากสนทนากับพ่อของตนเสร็จ จากการสนทนาเมื่อครู่ เด็กชายพอจะจับเรื่องราวได้ว่าคืนนี้เขาและพ่อจะต้องพักที่บ้านไม้เก่าหลังนี้ไปก่อน
“อาแววจะให้เราพักที่นี่จริงๆ เหรอครับพ่อสิงห์?”
“อืม!”
“สวยนะ แต่เก่าไปหน่อย”
“นอนๆ ไปเถอะ คืนเดียวเอง พรุ่งนี้ดูกันอีกที”
แสบ เด็กชายวัยสิบสองเงยหน้าขึ้นมองบ้านไม้สองชั้นหลังเล็กที่เขาและพ่อจะต้องเข้าไปซุกหัวนอนในคืนนี้
บ้านไม้สองชั้นหลังเดี่ยวหลังนี้ตั้งอยู่ในชุมชมหลังวัด มันไม่ได้ตั้งห่างจากบ้านหลังอื่นๆ เลย แต่ความหนาแน่นของแมกไม้ที่เติบโตอย่างไร้ระเบียบโดยรอบทำให้มันดูเหมือนกับแยกตัวออกมาจากชุมชนอยู่ในที สีสันของตัวบ้านดูเก่าจนไม่สามารถคาดอายุของบ้านได้ แต่มันก็ยังดูแข็งแรงมั่นคงมากทีเดียว
แต่...ต้องไม่นับเสียงออดแอดของพื้นไม้ยามถูกย่ำลงไป เสียงของประตูหน้าต่างที่ลั่นยาวยามถูกเปิด หรือเสียงของกิ่งไม้ที่ลากไล้ตัวบ้านดังแกรกกรากยามลมพัดแรงเหล่านั้น
แสบเดินเข้าห้องนู้นออกห้องนี้จนสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า ชั้นสองของบ้านมีอยู่สามห้อง เป็นห้องนอนที่มีเตียงและตู้เสื้อผ้าอย่างละหลังอยู่สองห้อง อีกห้องคือห้องนั่งเล่นที่มีเก้าอี้ยาวและโต๊ะตัวเล็กวางอยู่ใกล้ระเบียง ติดกันคือโถงแคบมืดทึมที่ต่อกับบันได
ชั้นล่างมีเพียงห้องโล่งๆ ที่่น่าจะเคยถูกใช้เป็นห้องรับแขกมาก่อน ติดกันคือห้องครัว ส่วนห้องน้ำถูกสร้างเป็นห้องเดี่ยวแยกออกจากตัวบ้าน
หน้าต่างของบ้านหลังนี้มีมากจนเด็กชายแทบจะไม่อยากนับและไม่อยากไล่เปิดให้ครบ เพราะอีกไม่นานก็ต้องไล่ปิดเมื่อยามค่ำมาเยือน ภายในบ้านจึงมีเพียงแสงของหลอดไฟสีขาวเพียงสามถึงสี่ที่ทำหน้าที่ให้ความสว่าง
“พ่อรู้ว่าแกไม่กลัว แต่ตอนกลางคืนแกต้องล็อคหน้าต่างให้หมด อย่าเปิดทิ้งไว้ แกเข้าใจใช่มั้ย?”
“ครับ”
แสบตอบรับคำของพ่อในขณะที่เหม่อมองออกไปจากหน้าต่าง ใต้หน้าต่างคือห้องน้ำที่หลังคาแทบจะเปิดโล่งเพราะแผ่นกระเบื้องมุงหลังคามากกว่าครึ่งหายไปและทิ้งบางส่วนที่เแตกเสียไว้ให้เห็น เด็กชายเดาว่าน่าจะเกิดจากฝีมือของกิ่งไม้ขนาดใหญ่หล่นใส่เมื่อไม่นานมานี้
“รีบลงไปอาบน้ำด้วยนะ อาบแล้วก็นอนซะอย่ามัวแต่เล่นโทรศัพท์ อย่าลืมชาร์จไว้ด้วย พรุ่งนี้แกอาจจะไม่ได้ชาร์จเพราะเราต้องดูแลแขกเหรื่อทั้งวัน”
แสบหันกลับมามองตามแผ่นหลังกว้างของสิงห์ที่เดินไปมาอยู่ในห้องเล็ก เขาสำรวจเตียงไม้ที่ลูกชายจะใช้นอนพักและตู้เสื้อผ้าจนแน่ใจว่ามันปลอดภัยดีแล้ว เขาจึงเอ่ยทิ้งท้าย
“เอาเสื้อผ้าออกมาผึ่งกางไว้ด้วย มันจะได้ไม่ยับ เข้าใจนะ”
“ครับ” แสบรับคำและยิ้ม “พรุ่งนี้อาแววจะมารับใช่มั้ยครับ?”
“ใช่ อาแววคงจะมาแต่เช้าเลย พอไปถึงบ้านแล้วก็ทำตัวให้มีประโยชน์นะ เขาจะได้ไม่ว่า”
“ครับ หลังจากงานแล้ว พ่อจะอยู่กับผมมั้ย?”
สิงห์ย่นคิ้วลงราวกับกำลังนึกอะไรบางอย่าง เขาจ้องใบหน้าเล็กของลูกชายครู่หนึ่งก่อนจะลดสายตาลงต่ำ หากไม่ใช่เพราะลูกพี่ลูกน้องขอแกมบังคับให้พาหลานลงมาเรียนที่กรุงเทพฯ เขาก็แทบจะไม่อยากกลับมาที่บ้านเดิมอีกเลย
“เอาไว้คุยหลังงานขึ้นบ้านใหม่ก็แล้วกัน จู่ๆ จะมาขอเขาอาศัยมันก็ไม่ใช่เรื่อง แต่ถ้าพ่อหางานที่กรุงเทพฯ ได้ อาแววก็คงไม่บ่นแล้วล่ะ ไปอาบน้ำเถอะ พ่อจะได้ไปจัดที่นอนของพ่อซะที”
แสบใช้เวลาอาบน้ำไม่นาน เพราะห้องน้ำมันเก่าจนชวนให้นึกถึงสัตว์ร้ายที่อาจซุกซ่อนอยู่ เขาตักน้ำรดตัวอีกสองสามครั้งก่อนที่จะคว้าผ้าขนหนูขึ้นเช็ดร่างกาย เขาเช็ดเพียงลวกๆ ก่อนจะหยิบกางเกงขาสั้นขึ้นสวม เขาสะบัดผ้าขนหนูแรงๆ อีกหลายครั้งเพราะไม่อยากให้มันชื้น ผ้าผืนนี้จะต้องส่งต่อให้พ่อใช้อีกคน
แต่พอเปิดประตูห้องน้ำ เขาก็พบกว่าพ่อของตนยืนสะบัดผ้าขาวม้าผืนใหญ่อยู่
“เห? พ่อมีผ้าขาวม้าด้วยเหรอครับ?” แสบเอ่ยถามพลางมองสิงห์พันผ้าขาวม้าสีเข้มรอบเอว เพียงครู่เดียวกางเกงขายาวของสิงห์ก็ถูกปลดเปลื้องออก
“อืม เจออยู่ในตู้ มันยังสะอาดอยู่ก็เลยขอยืมใช้ก่อน”
“ยืม? พ่อยืมใคร?”
“ก็...เจ้าของผ้าไง ใครก็ตามที่วางไว้น่ะ”
“อาา! งั้นผมเอาผ้าขนหนูผืนนี้ไปเลยนะ” แสบบอกพ่อของตนและเดินกลับเข้าไปในบ้านอย่างเร่งรีบ หลังจากนั้นก็มุ่งตรงขึ้นห้องและมาหยุดยืนเกาะริมหน้าต่างที่อยู่เหนือห้องน้ำ
สายตาของเด็กชายมองต่ำลงสู่ห้องน้ำที่แทบจะเรียกได้ว่ามืดสนิท ดวงไฟสีส้มดวงเล็กแทบจะไม่สามารถขับไล่ความมืดในห้องเล็กนั่นได้เลย แต่มันก็เพียงพอที่จะทำให้เด็กชายตื่นเต้นขนลุกชันที่ได้จ้องมองหุ่นกำยำสีเข้มของชายหนุ่มที่กำลังอาบน้ำอยู่เบื้องล่าง
โทรศัพท์เครื่องบางถูกเด็กชายหยิบขึ้นมาและไล่นิ้วกดลงไป หลังจากนั้นภาพของสิงห์ก็ปรากฏขึ้นกลางจอสีดำในท่วงท่าที่กำลังขัดถูกร่างกายอย่างรวดเร็วจนสร้อยทองที่คอสะบัดแกว่ง รวมถึงอวัยวะยาวที่ยื่นพ้นความมืดดำที่หว่างขาก็แกว่งไกวรุนแรงไม่แพ้กัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 389
แสดงความคิดเห็น