มนุษย์หมาป่าคลั่งรัก - ตอนที่ 21 (ฟรี)

-A A +A

มนุษย์หมาป่าคลั่งรัก - ตอนที่ 21 (ฟรี)

หมวดหนังสือ: 

Under the moon มนุษย์หมาป่าคลั่งรัก ตอนที่ 21

 

    ทุกเสี้ยววินาทีที่ผ่านไป จอยขาสั่นมากขึ้น ภาพปากมังกรที่กำลังอ้ากว้าง เหมือนดูเชื่องช้า แต่เพิ่มความกลัวได้อย่างรวดเร็ว

 

    จอยถูกบิ๊กดึงคอเสื้อตรงเนินอกขึ้นมาจนแทบติดคาง แต่มันคงจะลืมไป ถ้าดึงสูงเกินจะเห็นสะดือแทน ทำให้มังกรรูม่านตาขยายราวกับกล้องส่องทางไกลปรับเลนส์

 

    แต่ศักดิ์สนใจมองตรงจุดนั้นแวบเดียว มันมองกลับมาที่มนุษย์หมาป่า แล้วอ้าปากกว้างพร้อมกลางปีกฉับพลัน ภาพนั้นทำจอยกรีดร้องด้วยความตกใจสุดขีด

 

    จอยตายังคงมองค้าง เช่นเดียวกับปากที่อ้าอยู่ แต่เสียงกรีดร้องของเธอค่อยๆ แผ่วหายไป ฉากภายในหัวที่คิดว่าจะเห็นเพลิงพุ่งออกมาย่างสด กลับไม่มีให้เห็น มีแค่เสียงหัวเราะออกมาจากปากของมังกร ราวกับมันได้ยินเรื่องที่ตลกที่สุดในชีวิต

 

    บิ๊กยังคงแยกเขี้ยวคำราม สื่อออกมาชัดเจนว่ามันยังโกรธอยู่

 

    แต่ท่าทางของศักดิ์ไม่มีหวั่นเกรงแม้แต่น้อย มันยังคงหัวเราะ เหมือนกับว่ามันพบเจอพฤติกรรมนี้ของบิ๊กมานานแล้ว มันยื่นมือมาตบบ่าของเพื่อนหน้าขนอย่างหยอกเย้า

 

    “หึงเธอถึงขนาดนี้เลยหรือเพื่อนรัก”

 

    ใบหน้าของบิ๊กดูถมึงทึง ราวกับว่ามันไม่รู้สึกตลกไปกับข้อความนั้น มันปัดมือของมังกรออกไปอย่างไร้เยื่อใย

 

    “ก็ได้ ก็ได้ ฉันขอโทษ”

 

    มังกรหันมาทางจอย ก้มหัวพลางยกมือไหว้

 

    “คุณจอยครับ ผมต้องขอโทษจริงๆ ที่แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมกับคุณ”

 

    “อะ... อะไรนะคะ ?” จอยงงงวยจับต้นสายปลายเหตุไม่ถูก แค่ท่าทางของมันที่เปลี่ยนกะทันหันเธอก็งงเป็นไก่ตาแตกแล้ว ยังมายกมือไหว้เหมือนคนไทยให้อีก ทำเธอแทบยกมือไหว้กลับคืนไม่ทัน

 

    “ก็ตอนที่คุณจอยย่อตัว ผมเห็นสิ่งที่อยู่ใน”

 

    แม้ข้อความมีให้อ่านแค่นั้น จอยก็เข้าใจความหมายได้ทันที เนื่องจากเธอนึกไปถึงภาพก่อนหน้านี้ เหตุใดบิ๊กดึงคอเสื้อหน้าอกของเธอขึ้นอย่างนั้น

 

    “ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ ผมขอโทษครับ คุณจอยพอจะให้อภัยผมได้ไหม”

 

    “เอ่อ... ช่างมันเถิดค่ะ คุณแค่ไม่ได้ตั้งใจเท่านั้นค่ะ ก็คอของคุณยาวเสียขนาดนั้น” จอยยิ้มแห้งๆ มือข้างหนึ่งจับชายเสื้อด้านหลัง ดึงมันลงมา เพื่อให้คอเสื้อตรงหน้าอกสูงขึ้นแทน

 

    แม้เธอบอกว่าไม่เอาความ แต่บิ๊กยังคงแสดงแววตาโกรธอยู่ ที่สังเกตได้ชัดคือเสียงคำรามต่ำบางเบา และมือที่กำแน่น

 

    ศักดิ์เห็นดวงตาไม่เป็นมิตรอย่างนั้น จึงล้วงหาอะไรในกระเป๋าครู่หนึ่ง แต่หาไม่เจอ จนกระทั่งนึกได้ว่า สิ่งของส่วนใหญ่กระจายออกมาจากกระเป๋าในตอนโดนตบกบาล มันจึงสะบัดมือไปทางหมอกสีทองที่ลอยอ้อยอิ่ง จากนั้นหมอกเคลื่อนไปปกคลุมสิ่งของต่างๆ ที่พื้น หลังจากนั้นของทุกชิ้นลอยกลับเข้ากระเป๋า ยกเว้นวัตถุกลมชิ้นหนึ่ง ที่ลอยมาอยู่บนมือ

 

    “หากคุณจอยไม่รังเกียจ ผมขอใช้สิ่งนี้เป็นแทนคำขอโทษจากใจผม ได้หรือไม่ครับ”

 

    จอยมองวัตถุสิ่งนั้นอย่างข้องใจ ไม่รู้ว่ามันคืออะไร รู้แค่ว่าลักษณะมันเหมือนลูกแก้วโปร่งใส แล้วมีแสงสีทองเปล่งประกายออกมาเป็นรัศมีรอบๆ ราวกับสมบัติวิเศษในภาพยนตร์เกี่ยวกับตำนานมหัศจรรย์

 

    จอยไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง เธอชำเลืองไปทางบิ๊ก ราวกับอยากให้มันตัดสินใจให้แทน

 

    คำตอบของบิ๊กง่ายๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน มันจับมือของเธอยกขึ้นมาแบรอรับ

 

    ทันทีที่ฝ่ามือของมังกรปล่อยลูกแก้ว แสงสีทองที่มันเปล่งประกายออกมา ค่อยๆ ลดลง ไม่นานมันก็กลายเป็นเพียงแค่ลูกแก้วโปร่งใสสีออกทองธรรมดา ไม่ได้มีอะไรระยิบระยับให้ดูอลังการเหมือนก่อนหน้านี้อีก

 

    ถ้าจอยสังเกตแววตาของมังกรไม่ผิด เหมือนกับว่ามันรู้สึกเจ็บปวดใจ ราวกับสิ่งนี้มีค่ามหาศาลสำหรับมันมาก แต่ความรู้สึกที่มันเผลอตัวแสดงออกมาให้เห็นมีเพียงแวบเดียว

 

    “น้องจอยชอบไหมจ๊ะ ลูกแก้วมังกรนี้”

 

    บิ๊กโอบเอวของเธอ พลางชี้สิ่งที่อยู่ในมือ

 

    ในชั่วขณะนั้น จอยสังเกตเห็นบิ๊กชำเลืองไปทางมังกรเล็กน้อย ราวกับหมายหัวเอาไว้แล้ว เธอจึงรีบพยักหน้ารัวๆ เพื่อให้มันกลับมาสนใจเธอต่อ ไม่เช่นนั้นคงมีการเปิดศึกระหว่างเพื่อนต่างเผ่าพันธุ์ จากลักษณะนิสัยของไอ้หน้าหมา เท่าที่สังเกต ดูมันจะใจร้อนและแสดงความป่าเถื่อนออกมาใส่อะไรก็ตามที่ไม่ใช่เธอตลอด

 

    “ฉันชอบมันมากค่ะ มันดูสวยมากเลยค่ะ” จอยเสแสร้งทำใบหน้าเริงร่า ราวกับเด็กได้ของเล่นใหม่ แต่ขาของเธอยังคงสั่นเบาบางอยู่ ‘ยัยจอยเอ๊ย แกเกือบกลายเป็นโกสต์ไรเดอร์กับเห็นหมาย่างแล้ว’

 

    ทันทีที่บิ๊กได้ยินว่าเธอชื่นชอบ ความเกรี้ยวกราดที่แสดงออกมาก็จางหายไป

 

    “ว่าแต่มันคืออะไรหรือคะ ?” จอยถามมังกร

 

    “มันคือลูกแก้ววิเศษครับ”

 

    “ลูกแก้ววิเศษ ?” จอยทวนประโยคข้อความเสียงเบา เหลือบตาลงมองวัตถุในมือ ‘มันคงไม่ให้เก็บสะสมจนครบเจ็ดลูก แล้วขอพรวิเศษจากมันได้หนึ่งข้อหรอกนะ’

 

    “ปกติลูกแก้วพวกนี้ ชาวมังกรอย่างผม มักพกติดตัวไว้เพื่ออำนวยความสะดวกในเรื่องต่างๆ”

 

    “ถ้าฉันเป็นเจ้าของมันแล้ว ฉันสามารถใช้ลูกแก้ววิเศษทำอะไรได้บ้างคะ ?” จอยสงสัย เพราะในคำอธิบายของศักดิ์ ไม่ได้เจาะจงคุณสมบัติอะไรเป็นพิเศษว่ามันสามารถใช้ทำอะไรได้บ้าง

 

    ศักดิ์เกาคอจนมีเสียงดังแกรกๆ ทำท่าเหมือนคิดหาคำตอบอยู่ครู่หนึ่ง

 

    “ถ้าจะให้เปรียบเทียบ คงจะเหมือนกับโทรศัพท์ในสมัยนี้มั้งครับ ที่นอกเหนือจากใช้เพื่อโทรหาใครก็ได้ ยังเป็นทั้งคอมพิวเตอร์ขนาดจิ๋ว ไฟฉาย สมุดจดบันทึก กล้องถ่ายรูป วิทยุ เข็มทิศ หรืออะไรจำพวกนี้เป็นต้นครับ”

 

    จอยยังคงทำใบหน้าไม่เข้าใจอยู่ มังกรจึงตัดสินใจใช้วิธีอื่นแทน

 

    “เอาแบบนี้ก็แล้วกันครับ เดี๋ยวผมจะแสดงตัวอย่างความสามารถของมันให้ดูไปเลย คุณจะได้เข้าใจง่ายๆ แต่ก่อนอื่นผมขอลูกแก้วในมือคุณก่อนครับ”

 

    หลังศักดิ์รับของชิ้นนั้นกลับคืนไป มันส่งเสียงหัวเราะแหบพร่าอย่างชั่วร้ายเบาบาง

 

    “รับรองครับ คุณต้องถึงกับตะลึง”

 

    ประโยคข้อความนั้นทำจอยเกิดหวาดหวั่น เธอก้าวถอยออกห่างช้าๆ จนไปยืนอยู่ข้างๆ บิ๊ก ดวงตาจับจ้องทุกการเคลื่อนไหวของมังกร ขาพร้อมจะวิ่งหนีทุกเมื่อ หากมังกรแสดงกายกรรมน่าหวาดเสียวอะไรออกมาอีก

 

    ศักดิ์เดินออกไปตรงพื้นที่โล่งก่อนหันตัวกลับมา ถ้าสังเกตดีๆ ลูกแก้วในมือของมันเริ่มเปล่งแสงออกมาเป็นเหมือนรัศมีอีกครั้ง

 

    “คุณจอยดูให้ดีนะครับ”

 

    ลูกแก้วในมือเปล่งแสงสว่างเจิดจ้ามากขึ้น สายลมรอบตัวของมันเริ่มปั่นป่วน จนใบไม้ใบหญ้าลอยขึ้นมา

 

    จอยจ้องมองตาค้าง ภาพที่เห็นในตอนนี้ มังกรมันสามารถลอยตัวอยู่เหนือพื้นได้อย่างมหัศจรรย์ โดยไม่ได้กลางปีกกระพือ แล้วดูเหมือนมันจะลอยสูงขึ้นต่อเนื่องเรื่อยๆ ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

 

    จอยรู้สึกตื่นตาตื่นใจเพียงไม่นาน เพราะหลังจากมังกรลอยเหนือพื้นราวห้าสิบเซนติเมตร มันค่อยๆ ลดระดับลงมา จนกระทั่งกลับมายืนที่พื้นเหมือนเดิม

 

    “คราวนี้คุณจอยเข้าใจแล้วใช่ไหมครับ ?”

 

    ศักดิ์เดินมายื่นลูกแก้วให้คืน

 

    “เข้าใจแล้วค่ะ” จอยพยักหน้ารัวๆ อย่างตื่นเต้น

 

    “คราวนี้ก็มาถึงขั้นตอนการมอบของแล้วนะครับ”

 

    “มอบของ ?” จอยทวนคำอย่างสงสัย ในเมื่อมันก็ให้เธอมาแล้ว จะมามอบของอะไรอีก

 

    “ใช่ครับ ปกติเผ่าพันธุ์อื่นไม่สามารถใช้มันได้ นอกจากมังกรอย่างผมเท่านั้น ยกเว้นพวกเรามอบให้ด้วยความเต็มใจ เผ่าพันธุ์อื่นถึงสามารถใช้มันได้ครับ”

 

    “เข้าใจแล้วค่ะ” จอยบอก “แล้ววิธีการมอบของต้องทำอะไรยังไงบ้างคะ ?”

 

    “ไม่มีอะไรมากครับ ผมแค่ต้องใช้เลือดของคุณ แต่ไม่ต้องหวาดกลัวอะไรไปนะครับ แค่ใช้เลือดเพียงหยดเดียวเท่านั้น ยื่นมือมาครับ เดี๋ยวผมจะใช้กรงเล็บจิ้มเจาะเอาเลือดนิดหนึ่งที่ปลายนิ้วออกมา รับรองไม่เจ็บอะไรมาก แค่รู้สึกเหมือนมดกัดเท่านั้น”

 

    จอยไม่รีรอจะยื่นมือออกไปชูทั้งห้านิ้ว ให้มังกรเลือกได้ตามใจชอบว่าจะเอานิ้วไหน

 

    การกระทำของเธอที่แสดงออกมานี้ เธอไม่รู้ตัวแม้แต่น้อยว่าทำให้ศักดิ์อดอมยิ้มกับความใสซื่อเหมือนเด็กๆ ไม่ได้ แต่เนื่องจากใบหน้าของมันเป็นเกล็ด จอยจึงไม่ได้สังเกตเห็นอารมณ์บนใบหน้าของมัน นอกจากแววตาแปลกๆ ที่มองเธอเท่านั้น

 

    “เจ็บนิดหนึ่งนะครับ”

 

    มังกรยกมือข้างหนึ่งมารองมือบอบบางของจอย มืออีกข้างจับนิ้วชี้ของเธอ แล้วกดปลายกรงเล็บเข้าไป

 

    การกระทำของมัน พยายามทำเบาๆ คงเพื่อไม่อยากให้เธอรู้สึกเจ็บมาก แล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ จอยรู้สึกเหมือนแค่ถูกปลายเข็มทิ่มนิ้ว

 

    หลังจากนั้นมันเอาเลือดของเธอป้ายลูกแก้ว ตามมาด้วยเลือดจากมุมปากของมัน ป้ายลงไปอีกตรงจุดหนึ่ง

 

    ลูกแก้วเริ่มเปล่งแสงอีกครั้ง ถ้าจอยดูไม่ผิด ดูเหมือนว่ามันกำลังลดขนาดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งขนาดของมันมาเท่ากับลูกอม แสงที่มันเปล่งออกมาพลันหายไป กลายเป็นเหมือนทองแท่งที่มีลักษณะกลมเหมือนไข่มุกแค่นั้น

 

    “เรียบร้อยแล้วครับ”

 

    “เสร็จแค่นี้หรือคะ ?” จอยคิดว่ามันจะต้องมีพิธีกรรมอะไรมากมายเหมือนงานเลื่อนรับตำแหน่ง

 

    “ใช่ครับ เสร็จแค่นี้ เพียงแค่ตัวผมยอมรับที่จะให้คุณ แล้วตัวคุณเปิดใจที่จะรับ เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วครับ ส่วนเรื่องที่ใช้เลือดสัมผัส มันเป็นแค่การยืนยันให้หนักแน่นอีกครั้งว่าคุณคือเจ้าของตัวจริง ไม่ใช่ตัวผมที่เคยเป็นเจ้าของ”

 

    ระหว่างจอยอ่านคำอธิบาย บิ๊กเอาขวดยามหัศจรรย์มาทาแผลที่ปลายนิ้วให้ แต่เธอไม่สนใจว่ามันจะทำอะไร นอกจากตัวหนังสือสีทองระยิบระยับตรงหน้าเท่านั้น

 

    “ฉันต้องทำยังไงคะ ถึงจะสามารถลอยได้เหมือนคุณ ?” น้ำเสียงของจอย เต็มไปด้วยความตื่นเต้นชัดเจน ราวกับเธออยากให้รู้ว่านี่เป็นสิ่งที่ต้องการมากที่สุด

 

    “ตามผมออกมาตรงที่โล่งเลยครับ”

 

    ศักดิ์เดินไปตรงบริเวณที่กลางแจ้ง ขณะเดียวกันจอยรีบตามต้อยๆ ไม่ห่าง ตามด้วยบิ๊กอยู่หลังท้าย

 

    “วิธีการไม่มีอะไรยากครับ เพียงแค่คุณคิดในสิ่งที่ต้องการจะทำ มันจะทำแทนให้คุณเอง แต่ก่อนอื่นคุณจะต้องมีลูกแก้วอยู่ใกล้ตัวนะครับ ห้ามอยู่ห่างเกินสิบเซนติเมตร ไม่เช่นนั้นคุณจะไม่สามารถใช้พลังอำนาจวิเศษของมันได้ เนื่องจากตัวคุณไม่ใช่เผ่าพันธุ์มังกรอย่างผม จึงมีข้อจำกัด”

 

    ศักดิ์เห็นจอยรีบพยักหน้ารัวๆ ทำให้เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา ถ้าเธอเป็นมนุษย์หมาป่า คงได้เห็นหางแสนสวยส่ายไปมาไม่หยุด

 

    “คราวนี้เรามาเริ่มสอบภาคปฏิบัติกันเลยดีกว่าครับ”

 

    หลังจากจอยฟังคำอธิบายเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยจบ เธอพยายามรวบรวมสมาธิตามคำแนะนำ แต่เนื่องจากเธอไม่เคยสัมผัสสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์มาก่อน ทำให้ภายในหัวของเธอมีทั้งความตื่นเต้นและความคิดต่างๆ ที่อยากจะใช้ลูกแก้วนี้ ปะปนกันมั่วไปหมด ทำให้ลูกแก้วเกิดความสับสน ไม่สามารถรับคำสั่งได้ เหมือนกับคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง แต่มีเมาส์ที่มีคนควบคุมสิบคน ต่างคนก็ต่างคลิกเข้าไอคอนบนหน้าเดสก์ท็อปคนละอย่างมั่วไปหมด ทำให้คอมพิวเตอร์แยกแยะไม่ออก

    จอยยืนนิ่งอยู่อย่างนั้นจนผ่านไปครู่ใหญ่ ทำให้มังกรรับรู้ได้ทันทีว่าในตอนนี้เธอกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ มันจึงชี้แนะ บอกให้ตั้งสมาธิไปที่จุดมุ่งหมายของเธอให้ชัดเจน อย่างในตอนนี้ เธอต้องคิดให้ตัวลอยขึ้นเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ใช่คิดเรื่องอื่นสอดแทรกมาด้วย

 

    หลังจากทำตามคำแนะนำ เวลาผ่านไปประมาณห้านาที เท้าของจอยเริ่มลอยขึ้นจากพื้นมาเล็กน้อย ซึ่งเธอรู้สึกได้ ทำให้ความตื่นเต้นถาโถมเข้าหา แต่เธอยังคงไม่ลืมคำชี้แนะของมังกร เธอเน้นคำว่า ลอย ในหัวซ้ำๆ มากกว่าเดิม แล้วยิ่งเธอเน้นคำนั้นในหัว เหงื่อของเธอก็เริ่มไหล พร้อมกับอาการเหนื่อยราวกับวิ่งเหยาะๆ อยู่อย่างไรอย่างนั้น แต่เธอไม่สังเกตถึงความผิดปกตินี้ของร่างกาย

 

    จอยเบิกตากว้างด้วยความตื่นเต้น เพราะในตอนนี้ตัวเธอลอยอยู่เหนือพื้นไปกว่าหนึ่งเมตร แล้วดูเหมือนจะลอยสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่หยุด โดยมีหมอกสีเทาจางๆ มาเป็นเหมือนแสงสีให้ดูอลังการ อยู่รอบตัวเธอ แต่ค่อนข้างจะน้อยกว่าของมังกรและมนุษย์หมาป่า

 

    การที่เพิ่งหัดใช้เวทมนตร์ครั้งแรก จึงยังไม่มีทักษะอะไรกับการควบคุมสมดุลร่างกาย ไม่แตกต่างจากนักท่องเที่ยวที่หัดดำน้ำครั้งแรกในชีวิต ซึ่งร่างกายจะพลิก หรือไม่ก็กลับหัวกลับห่าง บางครั้งก็เอาหัวทิ่มลงไปใต้น้ำ เหมือนเช่นเดียวกับจอยในตอนนี้ เนื่องจากเธอยังควบคุมการทรงตัวไม่เป็น ตัวเธอจึงหมุนตัวอยู่กับที่ช้าๆ

 

    ไม่นานจอยก็หมุนกลับมาเผชิญหน้าสัตว์ในตำนานทั้งสองตัวอีกครั้ง แต่ทว่าคราวนี้ใบหน้าของเธอแสดงถึงความเหนื่อยชัดเจน มีเหงื่อมากมายไหลเต็มหน้า ราวกับว่าวิ่งไกลหลายร้อยเมตร

 

    “ขะ... คุณศักดิ์คะ... ฉันจะลง... ยังไง...” เธอพูดอย่างยากลำบาก เนื่องจากต้องเว้นช่องเพื่อหายใจทางปาก

 

    ขณะตัวอักษรสีทองกำลังจะเป็นรูปร่างให้อ่านตรงหน้า เพื่ออธิบายวิธีการลงมา จอยรู้สึกเหมือนแขนขาอ่อนแรง ในหัวมึนงงฉับพลัน ราวกับตัวเองกำลังหน้ามืด

 

    แต่อาการนั้นเกิดขึ้นแวบเดียว หญิงสาวดวงตาเบิกกว้าง หวีดร้องเสียงดัง เพราะในตอนนี้เธอกำลังหน้าจะทิ่มดินจริงๆ เธอตกลงมาอย่างเร็ว แล้วความตกใจสุดขีดยังทำให้เธอเผลอตัวปล่อยลูกแก้วร่วงไปจากมือ ไม่มีอำนาจอะไรสามารถช่วยทำให้เธอตัวลอยได้อีก

 

    แต่ร่างไม่ทันถึงพื้น มีร่างบึกบึนขนนุ่มนิ่มเข้ามาอ้าแขนรองรับเธอได้ทันท่วงที

 

    “ไม่เป็นอะไรนะจ๊ะ”

 

    มีอักษรสีดำมาปรากฏ คู่เคียงกับใบหน้าของไอ้หน้าหมาที่มองเธอด้วยความเป็นห่วง แต่จอยไม่สังเกตแววตาของมัน

 

    “ฉันไม่เป็นอะไร แค่รู้สึกเหนื่อยเหมือนไปวิ่งขึ้นเขาเท่านั้น วางฉันลงได้แล้ว”

 

    แต่ไม่ทันบิ๊กปล่อยให้เท้าแตะถึงพื้น มีหมอกสีทองมากระแทกอักษรสีดำจนแตกกระจายหายไป แล้วตัวอักษรสีทองปรากฏมาแทนที่

 

    “ผมต้องขอโทษอีกครั้ง ผมลืมบอกไป ลูกแก้วนี้ใช้พลังงานจากตัวผู้ใช้ครับ”

 

    “หมายความว่ายังไงคะ ?” จอยเงยหน้าถามมังกร

 

    “ผมจะยกตัวอย่างเอาแบบง่ายๆ ให้ก็แล้วกัน”

 

    ศักดิ์ก้มเก็บลูกแก้วขึ้นมาชี้ประกอบในการอธิบาย

 

    “คุณจำความรู้สึกตอนที่ตัวลอยขึ้นได้หรือไม่ ? ตอนนั้นคุณเริ่มรู้สึกเหนื่อยใช่ไหมครับ ?”

 

    “ค่ะ” จอยพยักหน้าแล้วตอบสั้นๆ

 

    “ความจริงอาการเหนื่อยนั้นเกิดจากลูกแก้วครับ ถ้าจะให้เปรียบเทียบ คงเหมือนกับคุณทำงานหนัก หรือไม่ก็เล่นกีฬา ยิ่งคุณใช้พลังอำนาจของมันนานมากเท่าไร หรือว่าใช้ในด้านเหนือธรรมชาติมากแค่ไหน คุณจะยิ่งเหนื่อยมากขึ้นตาม อย่างเมื่อครู่นี้ที่คุณใช้อำนาจของมันสั่งให้ตัวลอยเป็นต้นครับ แต่ถ้าคุณใช้มันในแบบที่ไม่ได้ฝืนธรรมชาติมากเกินไป คุณจะไม่รู้สึกเหนื่อย อย่างเช่น ถ้าคุณหิวน้ำ แต่ขี้เกียจเดินไปหยิบ จึงใช้พลังอำนาจวิเศษของลูกแก้ว สั่งให้ขวดน้ำลอยมาหาแทน ความเหนื่อยจะเท่ากับคุณแค่เดินไปหยิบเท่านั้นครับ”

 

    ระหว่างที่จอยอ่านข้อความ มนุษย์หมาป่าเอาผ้าเย็นมาเช็ดซับเหงื่อให้อย่างอ่อนโยน แล้วตกท้ายเอาขวดน้ำเย็นยื่นให้เธอ

 

    แต่ไม่ทันจอยจะรับขวดน้ำมาดื่ม ศักดิ์จับมือของมนุษย์หมาป่า ส่งความหมายให้หยุด บิ๊กจึงหันขวับมองหน้าเพื่อนต่างพันธุ์ ด้วยแววตาสงสัยว่าห้ามมันทำไม

 

    “ฉันว่านายอย่าให้เธอดื่มจะดีกว่า”

 

    หลังจากหนึ่งมนุษย์และอีกหนึ่งหน้าขน อ่านข้อความจบ จอยทำหน้าเหมือนไม่เข้าใจ ส่วนบิ๊กแยกเขี้ยว

 

    “บิ๊กนายไม่อยากให้เธอป่วยใช่ไหม ถ้าเธอดื่มน้ำเย็นจัด อย่างที่นายกำลังจะให้เธอดื่ม เธออาจจะปวดท้องหรือท้องเสียได้ โดยเฉพาะเธออาจปวดหัวจี๊ดฉับพลัน อย่าลืมว่าในตอนนี้เธอไม่ต่างจากไปออกกำลังกายหนักๆ มา”

 

    ศักดิ์เอาผ้าวิเศษในกระเป๋าของตนออกมา จากนั้นควานในหมอกสีดำที่ลอยขึ้นมาจากผ้า เอานมรสช็อกโกแลตออกมายื่นให้หญิงสาว

 

    “ดื่มนี่ดีกว่าครับ มันจะดีต่อสุขภาพของคุณมากกว่า”

 

    “ขอ... ขอบคุณค่ะ” จอยเหลือบมองลงในแก้ว เห็นมีน้ำแข็งก้อนเล็กลอยตุ๊บป่องอยู่หนึ่งก้อน

 

    “มันจะช่วยเพิ่มเรี่ยวแรงให้คุณได้ ถึงแม้มันไม่ได้เย็นจัดเหมือนที่บิ๊กให้คุณ แต่ยังไงก็ค่อยๆ จิบนะครับ เพราะยังไงมันก็ยังเย็นอยู่ ตอนนี้ร่างกายของคุณยังมีอุณหภูมิสูง ร่างกายมันจะปรับตัวไม่ทันกับสภาวะที่เปลี่ยนแปลงฉับพลัน”

 

    มนุษย์หมาป่าหายใจดังฟืดฟาด โยนขวดน้ำทิ้งอย่างอารมณ์เสีย แต่จอยไม่ได้สังเกตท่าทางของบิ๊กที่แสดงความไม่พอใจออกมา

 

    (กริ๊ง... กริ๊ง... กริ๊ง...)

 

    ศักดิ์ล้วงกระเป๋าเอาโทรศัพท์มาเปิดดูหน้าจออีกครั้ง พออ่านจบ มันพ่นหมอกสีเทาออกมาราวกับถอนใจ

 

    “ดูเหมือนว่าผมคงต้องไปแล้วจริงๆ ครับ ไม่ว่ากันนะครับ”

 

    “ฉันไม่ว่าอะไรอยู่แล้วค่ะ ขอบคุณนะคะที่มาให้ฉันเห็นสิ่งมีชีวิตมหัศจรรย์อย่างคุณ รวมถึงเรื่องของวิเศษชิ้นนี้ด้วยค่ะ” จอยแบมือให้ดูลูกแก้ว

 

    “ไม่เป็นอะไรครับ ผมยินดีเสมอ”

 

    หลังจากนั้นมังกรแบมือมาทางเพื่อนต่างพันธุ์ เหมือนมันจะขออะไรบางอย่าง มนุษย์หมาป่าจึงล้วงกระเป๋ากางเกง เอาผ้าวิเศษผืนหนึ่งออกมาตีใส่มืออีกฝ่ายอย่างแรง ตั้งใจราวกับจะทำให้ทั้งมือและนิ้วหัก แต่ศักดิ์ไม่มีแสดงความโกรธ มีแต่หัวเราะ ราวกับตลกกับการกระทำของบิ๊กที่แสดงออกมา

 

    “เอาไว้วันหลังฉันจะชดใช้คืนให้”

 

    บิ๊กแค่พยักพเยิด เหมือนไม่ค่อยสนใจกับข้อความของมังกรเท่าไร

 

    “แกรีบๆ ไปเลย”

 

    ข้อความของบิ๊กสื่ออย่างชัดเจนว่าตั้งใจขับไล่ แต่ศักดิ์ยังคงไม่ใส่ใจมากนัก

 

    “ถ้าเช่นนั้นลาก่อนนะครับคุณจอย เอาไว้ในวันหลังเราค่อยเจอกันใหม่ และหวังว่าเราคงจะได้มีโอกาสเจอกันในแบบธรรมดานะครับ สวัสดีครับ”

 

    ศักดิ์ยกมือไหว้จอย ขณะเดียวกันหญิงสาวก็รีบยกมือไหว้กลับเกือบไม่ทัน

 

    จากนั้นมังกรสะบัดผ้าในมือขึ้นสู่ฟากฟ้า แต่มันไม่ตกลงมา มันมีแต่พุ่งขึ้นไป เมื่อสูงระดับหนึ่ง มันแตกสลายกลายเป็นหมอกสีทอง กินพื้นที่กว้างประมาณสิบสองถึงสิบห้าเมตร ดูราวกับพลุในยามค่ำคืน

 

    มังกรกลับมามองที่เพื่อนต่างพันธุ์ของมันอีกครั้ง แต่คราวนี้แววตามีแต่ความจริงจังชัดเจน

 

    “ยังไงนายอย่าเอาผ้าเย็นจัดมาซับให้เธอเหมือนสักครู่นี้อีกนะ นายควรเอาผ้าธรรมดามาซับเหงื่อให้เธอแทน”

 

    ศักดิ์หันมาทางหญิงสาวหลังจากเตือนเพื่อนเสร็จ

 

    “ส่วนคุณจอย เอาไว้วันหลังผมว่างๆ ผมจะมาช่วยสอนวิธีใช้ให้กับคุณเพิ่มเติมนะครับ หลังจากตอนนี้ไป ผมไม่แน่ใจว่าคุณจะปวดกล้ามเนื้อตามส่วนต่างๆ หรือไม่ เพราะลูกแก้วมันใช้พลังงานจากกายเนื้อของคุณ จึงไม่แตกต่างกับการออกกำลังกายหนัก ถ้าคุณรู้สึกปวดกล้ามเนื้อก็ไม่ต้องตกใจไป อีกประมาณสามถึงห้าวัน มันก็ดีขึ้นเอง ในระหว่างนั้นคุณก็ใช้ยาทาแก้ปวดไปก่อนก็ได้ หากเป็นไปได้ คุณควรทดลองใช้ลูกแก้วยกสิ่งของเบาๆ ไปก่อนดีกว่า จนกว่าร่างกายคุณจะปรับตัวได้ หลังจากฝึกใช้ลูกแก้วเหนื่อยๆ คุณจอยอย่าไปอาบน้ำทันทีเลยนะครับ รอให้ร่างกายมันปรับตัว จนความร้อนของร่างกายลดลงตามธรรมชาติก่อน เสร็จแล้วค่อยไปอาบน้ำ และสุดท้าย หากคุณจอยไปใช้ลูกแก้วต่อหน้าคน หรืออะไรก็ตามที่สามารถบันทึกเก็บภาพเคลื่อนไหว คุณจะไม่สามารถใช้มันได้ รวมไปถึงเอาให้ผู้อื่นใช้ด้วยเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะตรงแถวใกล้ผู้คน ผมขอเตือนเน้นตรงนี้ ถึงแม้ไม่มีใครเห็น แต่ถ้ามีคนผ่านมา ในช่วงที่คุณกำลังใช้ลูกแก้วอยู่ ลูกแก้วจะหยุดแสดงพลังอำนาจวิเศษโดยทันที หากตอนนั้นคุณจอยกำลังใช้พลังให้ตัวเองลอยอยู่เหนือพื้น ผมว่าคงจบดูไม่สวยเท่าไร”

 

    ศักดิ์หัวเราะเบาบาง

 

    “ค่ะ ขอบคุณที่เตือนค่ะ” จอยหน้าแดงเล็กน้อยเพราะประโยคที่เป็นห่วงเป็นใย ตรงข้ามกับบิ๊ก มันเอากาแฟกระป๋องออกมาจากหมอก เปิดยกดื่มอึกๆ ราวกับทำเพื่อเบนความสนใจของตัวเอง ไม่ให้เกิดอารมณ์เดือดขึ้นมาอีก

 

    “ถ้าเช่นนั้นลาก่อนนะครับ”

 

    มังกรแหงนหน้าขึ้นฟ้า ย่อตัวส่งพละกำลังไปที่ขาหลังทั้งสองข้าง จากนั้นกระโดดพร้อมกลางปีกกระพือขึ้นไปสู่หมอกสีทองเบื้องบน ทำให้เกิดลมกระโชกแรง กระจายเป็นวงกว้าง จอยจึงต้องรีบยกมือป้องหน้า เนื่องจากทั้งขี้ฝุ่นและเศษใบไม้ใบหญ้าปลิวมา แต่เธอไม่ได้หลับตา เธอทำตาหยี มองลอดระหว่างนิ้วออกไป

 

    ก่อนที่ส่วนหัวของมังกรจะหายเข้าไปในหมอก มันก้มลงมามองจอย ขยิบตาข้างหนึ่ง ราวกับมีความหมายบางอย่างที่อยากให้รู้กันแค่ระหว่างมันและเธอ

 

    บิ๊กแยกเขี้ยว กำกระป๋องจนแตกโพะด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วปาใส่มังกร แต่กระป๋องที่แตกจนน้ำรั่ว ทำให้ไม่มีความสมดุล จึงร่วงก่อนไปถึงใบหน้าของสัตว์เลื้อยคลานตัวนั้น

 

    หลังจากมังกรหายเข้าไปท่ามกลางหมอกสีทอง หมอกนั้นหมุนเป็นเกลียว เหมือนมีบางสิ่งดูดหมอกทั้งหมดมารวมอยู่ที่จุดศูนย์กลาง ดูราวกับน้ำวน เพียงไม่นาน เกิดการระเบิดแตกกระจาย เป็นเหมือนดวงดาวระยิบระยับ

 

    ภาพนั้นทำให้จอยได้รู้ว่า ผ้าวิเศษที่ใช้สำหรับเปิดประตูไปกลับ ระหว่างโลกเวทมนตร์และโลกมนุษย์ ไม่ใช่แค่บิ๊กเพียงผู้เดียวที่สามารถใช้ได้ สัตว์ในตำนานตัวอื่นก็สามารถใช้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน ถ้าเธอจำไม่ผิด หมอกที่ใช้สำหรับเปิดประตูของบิ๊กจะเป็นสีดำ แต่มังกรนั่นเป็นสีทอง

 

    ภาพของประกายระยิบระยับบนฟากฟ้าที่จางหายไปเกือบหมด ทำให้จอยนึกไปถึงประโยคข้อความของศักดิ์ มีอยู่ช่วงหนึ่ง ตรงคำที่อ่านว่า เจอกันในแบบธรรมดา เหมือนมีความหมายอะไรบางอย่างแฝงเอาไว้

 

    แต่จอยเอาประโยคนั้นมาคิดแค่แวบเดียว เพราะจะคิดให้หนักหัวไปก็ไม่มีประโยชน์ ถ้ามันไม่ยอมอธิบาย เธอก็ไม่มีวันรู้

 

    เมื่อลดมือที่บังหน้าลง มีหมอกสีดำมาปรากฏเป็นตัวอักษร

 

    “น้องจอยจ๋า ได้เวลาสนุกแล้วนะจ๊ะ”

 

    อ่านจบ จอยหันขวับไปทิศทางความรู้สึกที่มีแขนกำยำโอบเอว เห็นเป็นบิ๊กยิ้มร่า มือชูเสื้อวันพีชสีดำพร้อมอุปกรณ์เสริม

 

    “เดี๋ยวพี่จะนวดคลายกล้ามเนื้อให้น้องเองจ้ะ รับรอง ระบบภายในหายเมื่อยเป็นปลิดทิ้งเลยจ้ะ”

 

    จอยหางคิ้วกระตุก ‘มันไปเอาชุดกระต่ายน้อยพริตตี้บ้านั่นมาตอนไหน’

 

つづく

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.