March Time Traveler ตอนที่ 18 คางคกแมน
ตอนที่ 18 คางคกแมน
“ยายหน่อยฉันได้ยินเสียงคนร้องโอ๊ยจริงๆนะ”ลุงเสือพูดขึ้น
“นี่ตาเสือ พวกเราก็เดินไปจนสุดทางที่จะไปได้แล้วนะ ไม่เห็นมีใครสักคน แกน่าจะหูแว่วไปเองจริงไหมตาวัฒน์”ป้าหน่อยพูดแล้วหันไปขอความเห็นลุงวัฒน์
“อืม”ลุงวัฒน์ตอบสั้นๆ
“อ่าๆหูแว่วก็หูแว่ว พักนี้อาการคนแก่กำเริบรึไงนะเรา”ลุงเสือพึมพำ แต่ป้าหน่อยส่ายหัวออกมาเล็กน้อย
“อ่าวทำไมย้อนกลับมากันไวจังเลยล่ะ”เสียงลุงหมูตะโกนถามขึ้นหลังจากเห็นกลุ่มของลุงเสือเดินย้อนกลับ
“เจอทางตัน แล้วก็ไม่มีเผ่าอสูรเลยสักตัว”ลุงเสือตอบ
“อ่องั้นก็ดีแล้วล่ะ จะได้เดินทางเป็นกลุ่มใหญ่ รู้สึกสบายใจกว่าแบ่งกลุ่มเยอะเลย”ลุงแว่นพูด แล้วลุงเสือกับลุงวัฒน์ก็นั่งลงพัก หาน้ำหาท่ามาดื่ม
“นี่ตาหมู พักนี้ตาเสือแปลกๆนะ ยังไงก็ช่วยๆดูหน่อยสิ”ป้าหน่อยสะกิดแล้วลากลุงหมูแยกไปคุยกันอีกที่พูดขึ้น
“แปลกยังไง”ลุงหมูถามกลับอย่างสงสัย แล้วป้าหน่อยก็เล่าเรื่องที่ลุงเสือหูแว่วให้ลุงหมูฟัง ลุงหมูก็ตั้งใจฟังก่อนจะหัวเราะชอบใจออกมา
“หัวเราะทำไมเนี่ยตาหมู”ป้าหน่อยถาม
“ถ้าให้ฉันเดานะ นอกจากที่เล่ามาเนี่ย มีชื่อของพ่อหนุ่มมาร์ชด้วยใช่ไหม”ลุงหมูพูดขึ้น ทำเอาป้าหน่อยเบิ่งตาโต
“ทำไมแกถึงรู้ได้ล่ะตาหมู ฉันก็ลืมเล่าเรื่องนี้ไปเลย”ป้าหน่อยตกใจมากที่ลุงหมูรู้เรื่องที่ตัวเองเล่าตกหล่นไป
“ตาเสือมันไม่มีคู่ ไม่มีลูกไม่มีหลาน มันก็เลยเอ็นดูพ่อหนุ่มนั่นเป็นพิเศษ อย่าไปว่าอะไรมันเลย”ลุงหมูพูดอธิบาย ป้าหน่อยได้ฟังก็พยักหน้าตาม แล้วทั้งคู่ก็กลับไปนั่งรวมกลุ่มกับคนอื่น
“มีอะไรกันหรือเปล่าสองคนนี้”ลุงเสือถามขึ้น ลุงแว่นถึงกับชำเลืองตามองทั้งคู่ที่เพิ่งเดินกลับมา
“ไม่มีอะไรหรอก ยายหน้อยเขามาปรึกษาฉันเรื่องคุ้มกันตาแว่นน่ะ เหมือนที่แกคุ้มกันยายหน่อยเวลาหลับรวบรวมแรงไฟนั่นแหละ”ลุงหมูเลือกที่จะตอบบ่ายเบี่ยงไป ทุกคนได้ฟังก็พยักหน้าเบาๆอย่างเข้าใจ
“เอาล่ะเราไปลุยกันต่อเลยไหม เราเสียเวลาไปทางตันกันนานแล้ว จะได้รีบกลับไปนอนพักกัน”ลุงเสือพูดขึ้นหลังจากนั่งพักกันนานพอสมควรแล้ว ทุกคนก็พยักหน้าเห็นด้วยแล้วก็พากันลุกขึ้นแล้วเดินไป
“เหอะๆ รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นโรคจิตยังไงก็ไม่รู้บอกไม่ถูก ต้องมาแอบตามคนอื่นแบบนี้ ให้พวกลุงไปกันไกลๆก่อนดีกว่าเดี๋ยวค่อยตามไป”มาร์ชพูดกับตัวเองจบก็เอนตัวพิงผนังถ้ำจนเผลอหลับไป
หน้าทางเข้ารอยแยกมิติอสูร
“รอยแยกมิติอสูรนี้มีคนของกลุ่มเราเข้าไปแล้ว พวกคุณไปที่อื่นเถอะ”เสียงลุงหนวดพูดขึ้น เมื่อเห็นคนสวมชุดคลุมหัวสีดำ 3 คนปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า
“อุ้ยตายแล้ว มีคนเข้าไปข้างในนั่นแล้วหรอเนี่ย แต่ที่เรามาก็เพราะมีคนเข้าไปข้างในนั่นแหละนะ”เสียงผู้หญิงในชุดคลุมหัวสีดำตอบกลับ
“พวกแกเป็นใคร”ลุงขาวถามขึ้นหลังจากได้ยินที่ผู้หญิงคนนั้นพูด
“ช่วงนี้พวกฉันค่อนข้างจะดังในหมู่เกริสอิสระน่ะ”เสียงผู้ชายแต่เล็กแหลมที่สวมชุดคลุมหัวสีดำพูดขึ้นมั่ง
“ระ หรือว่าพวกแกคือพวกกาวิตี้”ลุงหนวดพูดตะกุกตะกัก
“อุ้ยตายจริง นี่พวกเราดังกันขนาดนี้เลยหรอ บอกใบ้นิดเดียวก็รู้เลยว่าเป็นใคร”เสียงผู้หญิงคนเดิมพูดขึ้น
“ตาขาวแกเข้าไปบอกพวกนั้นข้างในเดี๋ยวฉันจะถ่วงเวลาพวกมันเอาไว้ให้”ลุงหนวดหันไปบอกลุงขาว
“แกจะบ้ารึไงตาหนวดพวกมันมีกันตั้ง 3 คนแกจะถ่วงเวลพวกมันยังไง”ลุงขาวหันไปตอบกลับไม่ได้ทำตามที่ลุงหนวดบอกแต่อย่างใด
“เราเสียเวลาตรงนี้มากพอแล้วนะ รีบๆจัดการสักทีสิ”เสียงผู้ชายที่ดูจะอายุน้อยที่สุดพูดขึ้น ทำให้ลุงหนวดกับลุงขาวที่กำลังเถียงกันอยู่หยุดลงแล้วหันไปมอง
“นายเนี่ยไม่รู้จักสร้างสัมพันธไมตรีเลยนะ”เสียงผู้หญิงหันไปพูดกับชายที่อายุน้อย
“ใครเขาจะเหมือนเธอล่ะ สร้างสัมพันธไมตรีกับเขาเสร็จก็ฆ่าเขา”เสียงชายเล็กแหลมพูดขึ้น
‘ฟึบ แกร็งส์’เสียงของอาวุธปะทะกันเสียงดัง ลุงหนวดยกดาบขึ้นขวางชายหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดที่พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว
“อย่าเสียเวลาดิ้นรนให้เหนื่อยเลยครับลุง เพราะสุดท้ายแล้วลุงก็ต้องตายอยู่ดี ตายสบายๆมันดีกว่าไม่ใช่หรอครับ จะดิ้นรนให้เหนื่อยไปทำไมผมไม่เข้าใจ”ชายหนุ่มที่ปะทะกับลุงหนวดพูดขึ้น
“ใครจะไปยอมตายง่ายๆกันล่ะ ถ้าอยากตายก็เชิญตายไปคนเดียวสิ”ลุงหนวดพูดแล้วก็ออกแรงผลักชายหนุ่มให้กระเด็นออกไป แต่ดูเหมือนจะยากเอาการ
‘ดูเหมือนว่าพวกนี้น่าจะเป็นเกริสที่มีพลังเทียบเท่ากับเกริสระดับเหรียญทองหรือสูงกว่านั้นสินะ’ลุงหนวดคิดในใจ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรต่อก็รู้สึกเหมือนโดนดึงจากข้างจนจะหงายหลัง
“สู้ไปหนีไป อย่างน้อยถ้าตามพวกตาเสือทันเราก็มีโอกาสรอด ดีกว่าเน่าตายอยู่ที่นี่”ลุงขาวที่ตัดสินใจเข้ามาในรอยแยกมิติอสูร แล้วดึงตัวลุงหนวดเข้ามาพูดขึ้น ลุงหนวดเห็นว่าความคิดนี้ดีก็เลยพยักหน้าแล้วรีบเดินเข้าไปในรอยแยกมิติอสูร
“ดูเหมือนว่าพวกนั้นจะตัดสินใจถอยไปหาพรรคพวกตัวเองที่อยู่ในรอยแยกมิติสินะ”เสียงผู้หญิงพูดขึ้น
“เราจะตามมันเข้าไปเลยไหม”เสียงผู้ชายที่เล็กแหลมพูดขึ้นแล้วเลียที่ริมฝีปากของตัวเอง
“เพราะพวกแกมัวแต่คุยกับพวกมันนั่นแหละ พวกมันเลยมีเวลาหนีไปได้ ดังนั้นพวกแกก็ไปตามจัดการพวกมันเอาเองฉันจะยืนเฝ้าที่นี่ เผื่อพวกองค์กรเกริสมันมาตรวจดูความเรียบร้อย ถ้าไม่มีใครเฝ้าทางเข้ารอยแยกมิติมันจะดูน่าสงสัย เดี๋ยวก็แห่กันมาตรวจสอบอีกฉันไม่อยากให้เรื่องมันวุ่นวาย”ชายที่อายุน้อยที่สุดพูดขึ้น
“จ้าๆ ฉันละเกลียดท่าทางนั่นของเธอจริงๆเลย ถ้าไม่ใช่เพราะท่านผู้นั้นฉันไม่มาจับกลุ่มกับเธอหรอกนะ”ผู้หญิงพูดจบ เธอกับผู้ชายเสียงแหลมก็เดินเข้าไปในรอยแยกมิติทันที
“ซวยละไงตาขาวฉันนึกว่าในดินแดนอสูรนี่จะเป็นเวลาเดียวกันกับที่โลกซะอีก แบบนี้ฉันก็ใช้ความพลังจินของฉันไม่ได้สิ”ลุงหนวดพูดขึ้นหลังจากเดินเข้ามาเห็นถ้ำคริสตัลส่องแสง
“ก็ยังดีนะที่มันเป็นถ้ำแบบนี้เราจะได้ไม่ต้องเสียเวลาตามพวกที่เข้ามาในนี้ก่อนไง”ลุงขาวที่ยังมองเห็นข้อดีของดินแดนอสูรที่เป็นลักษณะถ้ำพูดขึ้น ลุงหนวดพยักหน้าเห็นด้วยแล้วทั้งคู่ก็รีบวิ่งตามถ้ำทันที
“ตาลุงสองคนนั่นเป็นคนแก่จริงป่ะเนี่ย หายตัวไปไหนซะแล้วไวจริงๆเลย”เสียงผู้หญิงจากกลุ่มกราวิตี้พูดขึ้นเมื่อเข้ามาในถ้ำคริสตัลส่องแสงแล้วไม่เห็นลุงหนวดกับลุงขาว
“ถึงจะเป็นคนแก่แต่ก็เป็นเกริสนะ พละกำลังไม่ได้ต่างจากหนุ่มๆสาวๆหรอก”เสียงผู้ชายเล็กแหลมตอบกลับ
“รีบจัดการให้มันจบๆเถอะ ฉันได้กลับไปนอนแช่น้ำให้สบายตัวที่ห้องของฉัน”ผู้หญิงพูดขึ้นแล้วก็เคลื่อนที่ตามไปด้วยความเร็ว พร้อมๆกับผู้ชายที่มีเสียงเล็กแหลม
“ตาหนวดพวกนั้นตามเรามาไวมาก”ลุงขาวพูดขึ้นหลังจากก้มดูเส้นผมสีขาวที่อยู่ในมือตัวเอง
“เอายังไงล่ะทีนี้ จะซ่อนตัวหรือจะสู้”ลุงหนวดถามขึ้นในขณะที่ยังวิ่งอยู่
“ซ่อนไม่ทันแล้วล่ะ”ลุงขาวพูดขึ้นเพราะเหลียวหลังไปเห็นพวกกราวิตี้สองคนที่กำลังพุ่งมาแล้ว
“จ๊ะเอ๋ เจอตัวแล้ว”ชายเสียงเล็กแหลมพูดขึ้นในขณะที่เขานั่งบนแผ่นไม้เล็กๆแล้วเอื้อมมือมาสัมผัสกับพื้นถ้ำ
“นั่นมันอะไรน่ะ”ลุงหนวดที่เหลียวไปมองตามเสียงของชายเสียงเล็กแหลมพูดขึ้นด้วยความสงสัยกับภาพที่เห็น
“คงเป็นพลังของพวกมันนั่นแหละ”ลุงขาวตอบ แล้วพวกกราวิตี้ก็พุ่งมาถึงที่ลุงหนวดกับลุงขาวกำลังวิ่งอยู่ พวกกราวิตี้พุ่งผ่านไปพร้อมกับถือมีดสั้นเอาไว้ในมือด้วย
‘พลั๊ก’ “หลบไปตาขาว” ‘ฉัวะ’ “อ้าก” เสียงลุงหนวดผลักลุงขาวกระเด็นออกห่างไป ก่อนที่มีดเล่มหนึ่งจะเฉือนเข้าที่แขนลุงหนวดจนร้องออกมา
“น่าเสียดายดันโดนแค่ปลายมีดนิดเดียวเอง”เสียงผู้หญิงที่ถือมีดอยู่พูดขึ้นหลังจากเคลื่อนตัวผ่านลุงทั้งสองไปแล้วกำลังจะย้อนกลับมา
“เธอตั้งใจให้เป็นแบบนั้นไม่ใช่รึไง แบล็ค-56 ฮิฮิ”ผู้ชายเสียงเล็กแหลมพูดแล้วหัวเราะออกมา
“ว้ายตายแล้ว ไปบอกเหยื่อแบบนั้นก็หมดสนุกสิแบล็ค-57”เสียงผู้หญิงที่ถูกเรียกว่า แบล็ค-56 พูด
‘แกร๊งส์’เสียงมีดสั้นปะทะโดนดาบ เมื่อพวกกราวิตี้ย้อนกลับมาถึงจุดที่ลุงหนวดยืนอยู่
“ตายจริงยังยกแขนนั่นไหวอีกหรอเนี่ยลุง พลังจินของลุงคืออะไรช่วยบอกฉันหน่อยสิ พวกฉันยังโชว์ให้ลุงดูได้เลย”แบล็ค-56 พูดขึ้นหลังจากหยุดเคลื่อนไหวแล้ว
“เท่าที่เห็นพลังจินของผู้หญิงคนนั้นน่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงร่างกายให้เป็นบูสเตอร์ เพราะฉันเห็นเธอเปลี่ยนศอกตัวเองเป็นบูสเตอร์เพื่อเคลื่อนที่พุ่งมาหาเราด้วยความไว แล้วแขนแกเป็นยังไงมั่ง”ลุงขาวพูดวิเคราะห์พลังจินของแบล็ค-56แล้วถามอาการบาดเจ็บของลุงหนวด
“ก็เจ็บนั่นแหละ แต่ยังพอทนไหว ส่วนพลังจินของไอ้หมอนั่นน่าจะเป็นการเปลี่ยนสิ่งที่สัมผัสให้เรียบล่ะมั้ง เพราะดูจากพื้นถ้ำที่มันสัมผัสมันเรียบจนกลายเป็นเส้นทางให้ผู้หญิงคนนั้นใช้พุ่งเพื่อเคลื่อนที่ได้ง่ายดีขึ้น”ลุงหนวดวิเคราะห์พลังจินของแบล็ค-57บ้าง
‘แปะ แปะ แปะ’เสียงปรบมือของแบล็ค-57ดังขึ้น
“อะไรกัน ไหนบอกว่าเป็นเกริสอิสระที่เน้นจัดการแต่พวกเผ่าอสูรไม่ใช่กันรึไง ทำไมถึงวิเคราะห์พลังจิน ของเกริสได้ขนาดนี้ ทำอย่างกับว่าเคยต่อสู้กับเกริสด้วยกันเองมาก่อนอย่างงั้นแหละ”แบล็ค-57พูดขึ้น
“ของแบบนี้มันก็ต้องรู้เอาไว้บ้าง เพราะไม่รู้ว่าวันไหนจะต้องเจอพวกชั่วแบบแกไง”ลุงขาวตอบกลับ
“อะไรที่บอกว่าฉันคือพวกชั่วหรอลุง”แบล็ค-57ถามขึ้น
“ก็สิ่งที่พวกแกทำไง ทำไมถึงต้องการจินของคนอื่นถึงขนาดที่ต้องฆ่าด้วย”ลุงหนวดตอบ
“ถ้าอย่างนั้นการที่ปลาใหญ่กินปลาเล็กก็ถือว่าปลาใหญ่พวกนั้นชั่วหรอลุง ฉันก็แค่แข็งแกร่งกว่าแล้วการที่ฉันจะกลืนกินผู้ที่อ่อนแอกว่ามันชั่วยังไง”แบล็ค-56ตอบแล้วถามคืน
“นั่นคือเหตุผลบวกพวกแกสินะ ถ้าอย่างงั้นเราก็คงไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วล่ะ กำแพงเส้นผม”ลุงขาวพูดแล้วเรียกใช้จินของตัวเอง แล้วเส้นผมสีขาวที่ลุงขาวโปรยไว้ที่พื้นถ้ำก็ขยายตัวจนกลายเป็นกำแพงกั้นระหว่างตัวเองกับกราวิตี้ ลุงหนวดไม่ต้องรอให้เพื่อนพูดอะไร ทั้งคู่รีบหันหลังแล้ววิ่งทันที
“เอาอีกแล้วหนีอีกแล้ว ยังชอบเล่นไล่จับอยู่หรออายุเยอะขนาดนี้แล้วแท้ๆ ฮิฮิ”แบล็ค-57พูดแล้วก็หัวเราะออกมา
ทางด้านมาร์ช
“ฮ้าวววว นี่ฉันเผลอหลับไปนานแค่ไหนแล้วเนี่ย”มาร์ชหาวออกมาหลังจากสะดุ้งตื่น
“พวกลุงเสือคงไปกันไกลแล้วล่ะฉันควรทำอะไรดี ตามไปก็ไม่ได้ฆ่าพวกเผ่าอสูรแล้วออกไปก็ต้องโดนลุงหนวดกับลุงขาวสงสัย จะอยู่รอเฉยๆก็ต้องโดนส่งกลับปากทางเข้าอยู่ดี ขนาดคิดจนเผลอหลับไปแล้วยังคิดไม่ออกเลย เห้อ”มาร์ชถอนหายใจกับปัญหาที่แก้ไม่ตกนี่ มาร์ชเหม่อมองไปรอบตัวเอง
“เอาวะกำขี้ดีกว่ากำตด แต่ฉันว่ากำตดดีกว่ากำขี้เลอะเทอะ ฮ่าๆ เปิดกระเป๋ามิติ”มาร์ชพูดติดตลกแล้วก็หยิบเอาอีเต้อออกมาจากกระเป๋า แล้วก็เริ่มลงมือขุดคริสตัลส่องแสงทีละก้อน
“ด้วยทักษะการขุดกับความแข็งแกร่งทำให้ขุดได้ง่ายๆเลยแหะ ถ้างั้นคริสตัลส่องแสงจ๋าฉันขอเหมาหมดเลยละกันนะ”มาร์ชว่าแล้วก็ขุดคริสตัลส่องแสงอย่างบ้าคลั่ง ไม่เหลือแม่แต่ก้อนเดียวขนาดคริสตัลที่งอกบนเพดานถ้ำมาร์ชก็ใช้คริสตัลส่องแสงปาให้แตกแล้วหล่นลงที่พื้น ก่อนจะเก็บเข้ากระเป๋ามิติไม่ให้เหลือรอดสักก้อนเดียว ชนิดที่ว่าถ้ำที่เคยส่องสว่างกลายเป็นมืดสนิททันที
ทางด้านลุงหนวดกับลุงขาว
“พวกลุงนี่ดื้อด้านกันจริงๆเลยนะ”แบล็ค-56พูดขึ้นแล้วก็พุ่งตัวผ่านลุงหนวดพร้อมกับใช้มีดเฉือนที่ขาของลุงหนวด
“อ๊ากก”ลุงหนวดร้องออกมา
“ตาหนวดแกดูนั่น”ลุงขาวที่มีรอยมีดบาดตามตัวไม่ต่างจากลุงหนวดชี้ไปด้านหน้า ลุงหนวดมองตามมือลุงขาวก็ยิ้มออกมา
“สงสัยพวกที่เข้ามาในรอยแยกของเรา มันจะโลภมากเหมือนกันนะเนี่ย เล่นขุดซะจนถ้ำมืดสนิทเลย”ลุงหนวดพูดขึ้นแล้วรีบวิ่งให้ไวขึ้นกว่าเดิม
“ว่าแต่ว่าเดี๋ยวนี้พวกนั้นจัดการรอยแยกมิติไวขึ้นมากเลยนะ นี่เราวิ่งมาตั้งนานแล้วยังตามพวกนั้นไม่ทันสักที”ลุงขาวที่กำลังพยุงตัวเองกับตัวลุงหนวดพูดขึ้น
“ความจริงมันก็ดีนั่นแหละ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ฉันอยากให้พวกนั้นจัดการช้าๆแบบเมื่อก่อนมาก กว่าว่ะ”ลุงหนวดตอบ
“เลิกเล่นกันดีกว่านะพวกลุง ฉันเบื่อที่จะเล่นกับพวกลุงแล้ว มีอะไรฝากไปบอกเพื่อนๆที่อยู่ด้านในไหม”แบล็ค-56พูดขึ้น
“เธอจะไปถามให้เสียเวลาทำไม สุดท้ายเธอก็ไม่เคยบอกคำพูดอะไรอยู่ดี”แบล็ค-57พูดแล้วเหลียวหลังไปมองแบล็ค-56
“ชิ งั้นก็ไม่ถามละ”แบล็ค-56ทำท่าไม่สบอารมณ์เล็กน้อย ก่อนจะพุ่งตามหลังลุงหนวดแล้วใช้มีดฟันเข้าที่กลางหลังของลุงหนวดอย่างจัง
“อ๊ากกก”ลุงหนวดร้องออกมาเสียงดังลั่นก่อนที่ร่างจะพุ่งไปด้านหน้าแล้วล้มลงไปนอนนิ่งกับพื้น
“ไม่นะตาหนวด เส้นผมรัด”ลุงขาวร้องออกมาแล้วเรียกใช้พลังจิน เส้นผมสีขาวที่อยู่ในมือก็ยาวขึ้นแล้วก็พุ่งเข้าไปรัดร่างของแบล็ค-56 แต่แบล็ค-56แค่เปลี่ยนร่างกายส่วนที่โดนผมรัดเป็นบูสเตอร์ เส้นผมสีขาวนั่นก็ไหม้แล้วขาดออกอย่างง่ายได้
“นี่ลุง จะทำแบบนี้อีกกี่ครั้งผลมันก็ออกมาเหมือนเดิมนั่นแหละ”แบล็ค-56พูดขึ้น แล้วก็พุ่งเข้าหาลุงขาวอย่างรวดเร็ว
“เอ๊ะเมื่อกี้ฉันได้ยินเสียงร้องของคนแก่หรอ”มาร์ชที่กำลังเก็บคริสตัลส่องแสงเข้าใส่กระเป๋ามิติอยู่พูดขึ้น
“หรือว่าฉันจะหูแว่ว เพราะพวกลุงเสืออยู่ด้านหน้าเรา แต่เสียงที่ได้ยินมันดังมาจากด้านหลัง ยังไม่ทันจะแก่เลยเราหูแว่วแล้วหรอเนี่ย”มาร์ชมองกลับไปด้านหลังเล็กน้อย ก่อนจะส่ายหัวแล้วเริ่มยกอีเต้อขึ้นเพื่อจะขุดคริสตัลส่องแสงต่อ
“ช่วยด้วยตาเสือ เสือ… เสือ…”เสียงตะโกนของลุงขาวดังขึ้นจนกลายเป็นเสียงก้องสะท้อนในถ้ำ คราวนี้มาร์ชได้ยินชัดเจนมาก เลยรีบเก็บอีเต้อที่ถืออยู่เข้าไปไว้แล้ว ดึงมีดสั้นออกมาถือไว้ในมือทั้งสองข้างแทน มาร์ชเคลื่อนที่ในความมืดย้อนกลับมาอย่างรวดเร็ว
“เสียงนั่นถ้าจำไม่ผิดเสียงลุงขาวนิ เกิดอะไรขึ้นทำไมลุงขาวที่ทำหน้าที่เฝ้าปางทางเข้ารอยแยกมิติถึงเข้ามาข้างในนี้”มาร์ชพูดกับตัวเองแล้วเร่งฝีเท้าขึ้น
“นั่นไงลุงหนวดกับลุงขาวจริงด้วยกำลังบาดเจ็บอยู่ด้วย แล้วอีกสองคนนั่นใครกัน”มาร์ชที่วิ่งมาเห็นทั้งสี่คนแล้ว แต่ยังอยู่ในส่วนมืดของถ้ำพูดขึ้น
“ฉันต้องรีบไปช่วยลุงหนวดกับลุงขาว แต่ถ้าออกไปทั้งอย่างงี้ฉันต้องมานั่งอธิบายภายหลัง ซึ่งเป็นเรื่องจะกลายเป็นเรื่องยุ่งยากอีกแน่ๆเลย เอาไงดีฉันรีบคิดสิ”มาร์ชจ้องดูผู้หญิงที่กำลังถือมีดแล้วพุ่งเข้าใส่ลุงขาว ส่วนลุงขาวก็พยายามเอาเส้นผมเส้นใหญ่เข้าขวางมีดนั่นอยู่ ปากก็ยังตะโกนขอความช่วยเหลือไม่หยุด
“ฮ่าๆลุงตะโกนให้เจ็บคอทำไมกัน ถ้าพวกนั้นได้ยินจริงๆป่านนี้คงแห่กันมาหมดแล้ว แต่นี่ไม่เห็นมีใครมากันเลย”แบล็ค-56พูดแล้วตวัดมีดในมือเพื่อตัดเส้นผมสีขาวตรงหน้า จนมันขาดหมดแล้วไปยืนตรงหน้าลุงขาว
“อย่าให้เพื่อนที่นอนข้างๆลุงเขารอนานสิ รีบๆตายตามกันไปได้แล้วล่ะ”แบล็ค-56พูดแล้วก็ง้างมีดที่อยู่ในมือขึ้นเพื่อที่จะฟันใส่ร่างของลุงขาว ลุงขาวเองก็ยืนหลับตายอมรับชะตากรรมของตัวเอง
‘วืด’เสียงคมมีดแหวกอากาศพุ่งเข้าหาลุงขาวอย่างรวดเร็ว
‘เกร้งส์ ฉึบ’เสียงมีดในมือของแบล็ค-56โดนบางอย่างกระแทกจนหลุดมือกระเด็นลงไปปักที่พื้นถ้ำ
“นั่นใคร รีบโผล่หัวออกมาซะดีดี อย่าให้ฉันต้องไปลากคอแกออกมาเองเพราะถ้าเป็นแบบนั้นจริงฉันจะทรมานแกก่อนจะฆ่าแกทิ้ง จนแกต้องเอาไปละเมอในนรกแน่นอน”แบล็ค-56หันหน้าไปทางถ้ำที่มืดแล้วตะโกนเสียงดัง ลุงขาวลืมตาขึ้นมองอย่างสับสนที่ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอาไงดีวะเนี่ย เอางี้ไปก่อนก็แล้วกัน บ้าเอ๊ยคิดอะไรไม่ออกแล้วโว้ย”มาร์ชยังโวยวายไม่เลิก ก่อนที่จะทำอะไรบางอย่างกับตัวเอง
“ฮิฮิ ดูเหมือนมันจะไม่กลัวที่เธอขู่เลยนะ ดูสิมันยังอยู่เฉยในนั้นอยู่เลย”แบล็ค-57เดินไปเอามือข้างซ้ายที่สวมถุงมือหยิบมีดที่กระเด็นไปปักพื้นมายื่นให้แบล็ค-56พูดขึ้น แล้วก็นั่งลงบนแผ่นไม้ด้านหน้าแบล็ค-56 แล้วจากนั้นแบล็ค-56ก็จับไหล่ทั้งสองข้างของแบล็ค-57พุ่งตัวไปที่ส่วนมืดของถ้ำอย่างรวดเร็ว
“เอาล่ะแบบนี้คงจะได้แล้วล่ะมั้ง เห้ยนั่นมันอะไรกัน”มาร์ชที่ดูเหมือนจะทำอะไรกับตัวเองเสร็จแล้วก็เงยหน้าขึ้นเห็นแบล็ค-56,57กำลังพุ่งมาหาตัวเองก็เลยตกใจ
‘แกร๊งส์ แกร๊งส์ แกร็งส์’เสียงมีดสั้นปะทะกันเสียงดัง ลุงขาวที่มองตามหลังแบล็ค-56ที่พุ่งเข้าไปในส่วนที่มืดของถ้ำ ก่อนจะเห็นประกายไฟแลบพร้อมกับเสียงปะทะกันของมีดสั้น
“ใครกันที่มาช่วยเรา ในกลุ่มเกริสอิสระไม่มีใครใช้อาวุธเป็นมีดสั้นสักคนเลย ตาหนวดเป็นยังไงมั่ง”ลุงขาวพูดขึ้นแล้วรีบพุ่งไปประคองลุงหนวดที่นอนคว่ำหน้านิ่งอยู่ที่พื้น
“บาดแผลลึกมาก ตาหนวดคงหมดสติเพราะเสียเลือดเยอะ ฉันควรจะทำอะไรสักอย่างก่อนที่ตาหนวดจะเสียเลือดจนตาย”ลุงขาวพูดแล้วก็ใช้เข็มที่พกติดตัวมาเจาะหนังที่ปากแผลแล้วใช้เส้นผมเย็บปิดปากแผลให้ลุงหนวด
“แกเป็นใคร ฉันจะให้โอกาสแกตอบฉันเป็นครั้งสุดท้าย”แบล็ค-56พูด แต่ก็ยังถือมีดพุ่งโจมตีใส่มาร์ชไม่หยุด มาร์ชยังคงเงียบไม่ตอบอะไรกลับ เพราะเพ่งสมาธิไปที่การรับการโจมตีของแบล็ค-56อยู่
“งั้นเราลากมันออกไปเล่นที่สว่างๆดีกว่า ฉันชักอยากจะเห็นหน้ามันซะแล้วสิ”แบล็ค-57พูด จากนั้นรูปแบบการโจมตีของแบล็ค-56ก็เปลี่ยนไป เริ่มเน้นโจมตีไปที่ช่วงล่างของมาร์ช จนมีอยู่จังหวะหนึ่งที่มาร์ชต้องกระโดดหลบคมมีดมีดที่มันอยู่ต่ำมาก แต่ตอนที่กระโดดขึ้นมาร์ชก็รู้สึกว่ามีมือมาจับที่รองเท้าผ้าใบของเขา
‘เกิดอะไรขึ้นทำไมพื้นมันถึงลื่นขนาดนี้’มาร์ชคิดในใจทันทีที่เท้าสัมผัสพื้น แต่กลับรู้สึกลื่นเหมือนยืนอยู่บนพื้นน้ำแข็งลื่นๆ มาร์ชเลยถอดลองเท้าผ้าใบออกอย่างรวดเร็วแล้วกระโดดถอยหลังออกมายืนที่ส่วนของถ้ำที่มีแสงสว่าง
“นั่นตัวอะไรว่ะนั่น”ลุงขาวพูดขึ้นทันทีที่เห็นมาร์ชชัดเจน
“แกเป็นตัวอะไรกันแน่”แบล็ค-56ที่เดินตามออกมาจากส่วนมืดของถ้ำถามขึ้นบ้าง
“พวกแกจะอยากรู้จักข้าไปทำไม ในเมื่อพวกแกกำลังจะตายกันอยู่แล้ว”มาร์ชดัดเสียงพูด
“แกเป็นเผ่าอสูรชั้นสูงงั้นหรอ”แบล็ค-57พูดแล้วเบิ่งตาโต
“เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย หนีพวกกราวิตี้แต่ดันมาเจอเผ่าอสูรชั้นสูง”ลุงขาวสั่นกลัวอย่างเห็นได้ชัด
‘อะ อ่าวนี่ฉันกลายเป็นเผ่าอสูรชั้นสูงไปแล้วหรอ แต่ก็ช่างมันไหลไปตามน้ำก่อนก็แล้วกัน’มาร์ชคิดในใจ
“แล้วทำไมเผ่าอสูรชั้นสูงถึงมาโผล่ในรอยแยกมิติอสูรระดับ 1 แบบนี้ล่ะ”แบล็ค-56ตั้งข้อสงสัย
“ฮ่าๆมนุษย์นี่ช่างโง่เขลายิ่งนัก ข้าผู้นี้นามว่าคางคกแมน สามารถไปที่ไหนก็ได้ถ้าอยากจะไป”มาร์ชดัดเสียงแล้วเท้าเอวหัวหัวเราะออกมา ที่ทุกคนเข้าใจผิดว่ามาร์ชเป็นเผ่าอสูรชั้นสูงก็ไม่แปลก เพราะตอนนี้มาร์ชเอาหนังคางคกที่ดร็อปได้มาคลุมที่หัวตัวเองเอาไว้ ถอดเสื้อแล้วใส่แต่กางเกงเพียงตัวเดียว แถมเมื่อกี้ยังเพิ่งจะถอดรองเท้าออกอีก
“คางคกแมนหรอ?คนจ้องมาที่มาร์ชแล้วพูดพร้อมกัน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 582
แสดงความคิดเห็น