บทที่ 2 ทำลายระยะห่างและแสดงความหวังดี
ความสำพันที่เริ่มใกล้ชิด
วันหนึ่งเฟย์ชวนน้ำออกมาเดินเล่นต่อในย่านที่ไม่พลุกพล่าน
มีร้านเล็กๆ และสวนสาธารณะเรียงรายอยู่สองข้างทาง บรรยากาศช่วงเช้าๆ มีลมอ่อนๆ พัดมากระทบผิว
น้ำจับแขนเฟย์ในระหว่างเดิน
ทั้ง 2 เดินไปอย่างเงียบๆ เฟย์คอยระวังสิ่งกีดขวาง ต่างๆให้กับน้ำ
“ตรงนี้เงียบดีนะคะ”
น้ำพูดขึ้นก่อน พร้อมรอยยิ้มบางๆ เธอไม่ชอบความเงียบเกินไป เพราะมันทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคยกับเฟย์
“ใช่ บรรยากาศสบายดี”
เฟย์ตอบเรียบๆ แต่พยายามหาเรื่องพูดต่อ
“คุณน้ำชอบเดินเล่นแบบนี้บ้างไหม”
น้ำพยักหน้าช้าๆ
“ก็ชอบนะคะ ถึงจะมองไม่เห็น แต่ก็ชอบฟังเสียงรอบๆ กลิ่นต้นไม้หรือร้านอาหารเล็กๆ มันทำให้รู้สึกดี”
"อากาศเย็นสบายจัง"
น้ำพูดออกมา
"ใช่ค่ะ เย็นสบาย"
เฟย์พยายามทำให้บรรยากาศเป็นกันเอง เพื่อให้ทั้งสองสามารถพูดคุยกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ น้ำที่ตอนนี้เริ่มรู้สึก สะดวกใจมากขึ้นแล้ว เฟย์ก็ไม่ได้เป็นคนที่กดดันเกินไป เธอจึงค่อยๆ พูดคุยกับเฟย์มากขึ้น
"คุณน้ำ"
เฟย์เรียกด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล น้ำหันไปมอง เฟย์ยิ้มให้
"คะ"
น้ำตอบรับเสียงเบาๆ
"ขอโทษนะคะ ถามอะไรหน่อยได้ไหม"
เฟย์ถามด้วยความสุภาพ น้ำพยักหน้า
"คุณน้ำอายุเท่าไหร่คะ"
เฟย์ถามขึ้นอย่างสนใจ
" ฉันอายุ 25 ค่ะ"
น้ำตอบเบาๆ
เฟย์ยิ้มออกมา
"โอ้... คิดว่าอายุน้อยกว่านี้ซะอีกค่ะ ดูเหมือนคุณน้ำจะอ่อนเยาว์มาก"
"เป็นเพราะฉันตัวเล็กมั้งคะ"
น้ำตอบยิ้มๆ
“คุณน้ำมีความชอบอะไรเป็นพิเศษไหมคะ” เฟย์ถามต่อ
น้ำคิดครู่หนึ่ง
"ชอบหลายอย่างค่ะ แต่ที่ทำบ่อยน่าจะชอบอ่านหนังสือค่ะ โดยเฉพาะนิยาย"
น้ำตอบตามจริง เฟย์หัวเราะเล็กน้อย
"หือ... จริงเหรอคะ ฉันก็ชอบอ่านเหมือนกัน แต่มักจะอ่านพวกหนังสือพัฒนาแนวคิดหรือธุรกิจมากกว่า"
เฟย์พูดด้วยรอยยิ้ม
"คนละอย่างเลยนะคะ"
น้ำตอบยิ้มๆ
น้ำมองเฟย์อย่างสนใจ
"คุณเฟย์ทำงานอะไรคะ"
"ฉันทำงานในธุรกิจของครอบครัวค่ะ ส่วนใหญ่ก็เป็นงานบริหาร ซึ่งค่อนข้างยุ่ง แต่พยายามหากิจกรรมที่จะทำให้ได้พักบ้าง"
เฟย์ตอบเสียงเบา น้ำพยักหน้า
"ธุรกิจของครอบครัวเหรอคะ ฟังดูใหญ่เลยนะคะ"
น้ำพูดด้วยความทึ่ง
"ก็ ใช่ค่ะ ฉันชอบใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย"
เฟย์ตอบเสียงเบา
น้ำรู้สึกถึงความจริงใจที่เฟย์แสดงออกมา
"หน้าสนใจดีนะคะ"
น้ำพูดขึ้น
เฟย์ยิ้ม
"เห็นไหมคะว่าเรามีความสนใจบางอย่างที่คล้ายๆ กันบ้างนะ"
เฟย์หันไปยิ้มให้น้ำ
"คง งั้นมั้งคะ"
น้ำพูดและยิ้มเล็กน้อย
"คุณเฟย์"
น้ำพูดขึ้นเสียงเบา เฟย์หันมามองพร้อมรอยยิ้ม
"ค่ะ"
เฟย์ตอบ
น้ำครุ่นคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะถามคำถามที่ค้างอยู่ในใจ
"แล้ว...คุณเฟย์อายุเท่าไหร่คะ"
เฟย์หัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบ "ฉันอายุ 28 ค่ะ"
น้ำมองเฟย์อย่างใคร่ครวญ
"อายุ 28 เหรอคะ ดูไม่ถึงเลยนะคะ"
น้ำยิ้มเล็กน้อย
"จริงเหรอคะ"
เฟย์ตอบยิ้มๆ
"คุณน้ำเองก็ยังดูสดใสเสมอนะคะ... ทำไมคุณถึงไม่พูดถึงตัวเองมากนักล่ะ"
เฟย์ถามกลับ น้ำรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย แต่ก็เลือกที่จะตอบ
"ก็... ไม่มีอะไรพิเศษค่ะ แค่เป็นคนชอบทำงานเงียบๆ และมีความสุขกับสิ่งเล็กๆ ที่ทำให้รู้สึกดี"
น้ำบอก
เฟย์ยิ้ม
"ดีมากเลยค่ะ เพราะบางครั้งคนที่ใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายแบบคุณก็ทำให้คนอื่นรู้สึกดีขึ้นได้เช่นกัน"
น้ำยิ้มขำๆ
"ขอบคุณค่ะ... อาจจะเป็นเพราะคุณเฟย์ก็ทำให้ฉันรู้สึกดีเหมือนกัน"
ทั้งสองอมยิ้ม อย่างมีความหมาย โดยรู้ว่าความเข้าใจที่มากขึ้นเพิ่มขึ้นอย่างไม่ทันตั้งตัว
"ฉันชอบคุยกับคุณน้ำค่ะ"
เฟย์บอกด้วยเสียงจริงใจ
น้ำหัวเราะเบาๆ ก่อนจะตอบ
"ขอบคุณค่ะ คิดว่ามันคงดีที่เราคุยกันบ่อยๆ แบบนี้"
ทั้งสองเดินเล่นสักพัก ความเชื่อมโยงที่เกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป ความสนิทสนมเริ่มก่อตัวขึ้นผ่านการพูดคุยที่แสนธรรมดา และทั้งคู่ก็เริ่มรู้สึกสบายใจกับการเปิดใจให้กันมากขึ้น
"คุณน้ำ"
เฟย์เรียกน้ำด้วยความเคยชิน
"คะ"
น้ำหันมามองแล้วยิ้มบางๆ
"ฉันขอเรียกชื่อน้ำเฉยๆได้ไหมคะ ถ้าคุณน้ำไม่ติดอะไร... แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไม่เป็นไรค่ะ"
"ได้ค่ะ ถ้าคุณเฟย์สะดวก... เรียกน้ำแบบนั้นก็ได้ค่ะ"
"งั้นน้ำ... เรียกชื่อเฟย์เฉยๆ ก็ได้ค่ะ หรือจะเรียกพี่ก็ได้นะคะ"
เฟย์พูดขึ้น
น้ำขำออกมา
"พี่เหรอคะ"
เธอรู้สึกแปลกใจนิดหน่อย"ได้ค่ะพี่เฟย์"
"ดีใจจัง"
เฟย์พูดอย่างสดใส
" จริงๆ ก็อยากให้เราเรียกชื่อกันอย่างสนิทมากกว่านี้ เพราะบางทีคำว่า 'คุณ' มันทำให้ความสัมพันธ์ดูห่างเหินเกินไป"
"พี่เฟย์คิดไปเองไหมค่ะ"
น้ำพูดขำๆ
เฟย์ส่ายหัว
"ไม่ค่ะ"
น้ำมองเฟย์ด้วยสายตาที่เข้าใจ
"อืม ก็จริงค่ะ... บางครั้งมันก็ทำให้รู้สึกว่าเราไม่สนิทกันเลย"
น้ำพูดขำๆ
เฟย์ยิ้มออกมาอย่างอบอุ่น
"ใช่ค่ะ... ฉันคิดว่าฉันคงจะชอบให้เราเรียกกันแบบนี้มากกว่า"
น้ำพยักหน้าช้าๆ
"งั้น... เรียกเฟย์กับน้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ ก็แล้วกันนะคะ"
น้ำบอกด้วยรอยยิ้ม
เฟย์ยิ้มตอบอย่างอบอุ่น
"ได้เลยค่ะ น้ำ"
ความรู้สึกที่อบอุ่นและสบายใจก็เริ่มเกิดขึ้นเมื่อทั้งสองสามารถเรียกชื่อกันได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยไม่ต้องใช้คำเรียกที่ทางการหรือห่างเหิน มันทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองดูใกล้ชิดและเป็นกันเองมากขึ้น
ทั้งสองเดินไปอีกสักพักจนถึงแผงขายไก่ย่างริมทางที่ส่งกลิ่นหอมชวนให้หิว น้ำยกจมูกสูดอากาศเบาๆ ก่อนจะหัวเราะ
“กลิ่นแบบนี้ ใครจะเดินผ่านได้โดยไม่แวะบ้างล่ะ”
เฟย์หัวเราะตาม
“จริง แล้วน้ำอยากลองไหม”
“ถ้าน้ำบอกว่าอยาก เฟย์จะรำคาญไหมที่ต้องรอกินข้างถนนแบบนี้”
น้ำถามพร้อมรอยยิ้มเล็กๆ
เฟย์ส่ายหน้า “ไม่เลย ฉันเองก็ชอบของง่ายๆ แบบนี้”
พวกเธอหยุดที่แผงขาย เฟย์ช่วยน้ำพาไปนั่งที่โต๊ะพลาสติกเล็กๆ ริมทาง เธอรับอาสาสั่งไก่ย่างกับข้าวเหนียวมาสองชุด พร้อมน้ำอัดลมขวดเล็ก
“น้ำคิดว่าเฟย์จะพาน้ำไปร้านหรูเสียอีก”
น้ำพูดแซวเบาๆ
เฟย์ยิ้ม
“ก็อยากพาไปนะคะแต่กลัวว่าน้ำจะไม่ชอบ ฉันอยากพาน้ำไปที่ที่คิดว่าน้ำจะชอบเท่านั้นเอง”
เมื่ออาหารมาถึง น้ำใช้มือสัมผัสจานเพื่อหาข้าวเหนียว เฟย์รีบหยิบส้อมส่งให้
“นี่จ้ะ ระวังร้อนนะ”
น้ำหัวเราะ
“ขอบคุณค่ะ นี่น้ำดูซุ่มซ่ามขนาดนั้นเลยเหรอ”
เฟย์ส่ายหน้า
“เปล่าเลย แค่น้ำไม่ควรลำบากเมื่อฉันอยู่ตรงนี้”
บทสนทนายังคงเรียบง่าย เฟย์ถามน้ำเรื่องงานอดิเรก
น้ำเล่าเรื่องที่เธอเคยชอบทำงานฝีมือเมื่อยังเป็นเด็ก ตอนนี้เปลี่ยนมาเล่นเปียโน
"ว่าแต่จะเรียกงานอดิเรกได้ไหมนะ เพราะมันคืออาชีพน้ำด้วย"
"อะไรที่เราทำแล้วมีความสุขมันก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก"
เฟย์ตอบน้ำด้วยเสียงอ่อนโยน
"อีกอย่างที่ทำบ่อยคืออ่านนิยาย"
น้ำตอบยิ้มๆ
“เธอชอบอ่านเรื่องแนวไหนล่ะ”
เฟย์ถามระหว่างคีบไก่เข้าปาก
“ส่วนใหญ่เป็นนิยายที่ซึ้งๆ หวานๆ แนวรัก แบบที่จบแล้วคนอ่านยิ้มได้”
เฟย์ยิ้มเล็กๆ
“งั้นคราวหน้า ฉันอาจหาอะไรแนวนี้มาเล่าให้ฟัง”
น้ำหัวเราะเบาๆ “พูดแล้วห้ามลืมล่ะ"
"มือนี้น้ำเลี้ยงนะคะ"
น้ำพูดขึ้นที่ไก่ใกล้หมด
"จะดีหรอ"
เฟย์ถาม
"ดีสิค่ะ น้ำเลี้ยงนะ ถือว่าเป็นค่าแรงที่เฟย์พาน้ำเดินเล่น"
น้ำตอบ
เฟย์ยิ้มอ่อนใจ
"ตามใจน้ำเลยค่ะ"
ถึงแม้บทสนทนาจะยังดูระมัดระวังในบางช่วง แต่รอยยิ้มของน้ำและสายตาที่เฟย์ใช้มองเธอเริ่มอบอุ่นขึ้นเรื่อยๆ การเดินเล่นและมื้ออาหารเล็กๆ นี้อาจไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรมากนัก แต่ก็เพียงพอให้พวกเธอรู้สึกว่าอีกฝ่ายไม่ใช่แค่คนรู้จักธรรมดาอีกต่อไป...
การนัดพบที่คาเฟ่
เช้าวันเสาร์ที่อากาศสดใส เฟย์ขับรถมาจอดหน้าที่พักของน้ำตามเวลานัด น้ำยืนรออยู่หน้าประตู
เธอสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนขึ้น กางเกงยีนส์สีเข้ม และรองเท้าผ้าใบสีขาวที่ดูสะอาดตา ทั้งลุคของเธอให้ความรู้สึกทะมัดทะแมงและมั่นใจ
เฟย์เดินลงจากรถเพื่อพาน้ำไปที่รถ
“เดี๋ยวฉันพาไปที่รถนะ”
เฟย์บอกพลางจับมือของน้ำเบาๆ เพื่อพาเดินไปยังที่นั่งผู้โดยสาร น้ำยิ้มขอบคุณ เธอสัมผัสได้ถึงความใส่ใจที่เฟย์มอบให้เสมอ
“เราจะไปคาเฟ่ที่เฟย์บอกมาใช่ไหม”
น้ำถามระหว่างที่เฟย์คาดเข็มขัดนิรภัยให้
“ใช่ เป็นร้านเล็กๆ น่ารัก ฉันคิดว่าน่าจะถูกใจน้ำนะ”
หลังจากขับรถมาถึงคาเฟ่ เฟย์ช่วยพาน้ำลงจากรถและพาเข้าไปในร้าน เธอเลือกโต๊ะริมหน้าต่างที่มีบรรยากาศอบอุ่นจากแสงไฟและดอกไม้สด
“บรรยากาศดีจัง”
น้ำพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“กลิ่นกาแฟหอมมากด้วย”
เฟย์นั่งลงตรงข้ามพร้อมหยิบเมนูขึ้นมาอ่านให้ฟัง
“มีลาเต้ ช็อกโกแลตร้อน แล้วก็โฮจิฉะลาเต้ เธออยากลองอะไร”
“งั้นลองโฮจิฉะลาเต้สิ ฟังดูน่าสนใจ”
น้ำยิ้มอย่างร่าเริง
หลังจากเครื่องดื่มถูกเสิร์ฟ ทั้งสองเริ่มพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน เฟย์มักแซวน้ำเบาๆ จนอีกฝ่ายหัวเราะออกมา บรรยากาศระหว่างพวกเธอเต็มไปด้วยความผ่อนคลาย
"ที่นี่มีของว่างอะไรบ้าง"
น้ำถาม หลังจิบลาเต้ไปครึ่งแก้ว
เฟย์หยิบเมนูอีกครั้ง
“มีครัวซองต์อบใหม่ ชีสเค้ก แล้วก็บราวนี่หน้ากรอบ น้ำอยากลองอะไร”
“เลือกไม่ถูกเลย... งั้นสั่งครัวซองต์กับชีสเค้กแล้วกัน จะได้แบ่งกันชิม”
เฟย์เรียกพนักงานมาสั่ง หลังจากของว่างถูกเสิร์ฟ เฟย์หยิบช้อนตัดชีสเค้กส่งเข้าปากน้ำ
“ลองนี่ก่อน อร่อยแน่นอน”
น้ำอ้าปากชิมแล้วพยักหน้าอย่างพอใจ
“เนื้อเนียนมากเลย หวานกำลังดี”
บทสนทนาดำเนินไปเรื่อยๆ ทั้งเรื่องงาน เรื่องขนมที่น้ำชอบ
น้ำหัวเราะเบาๆ เมื่อเฟย์เล่าถึงแผนที่อยากชวนน้ำลองทำครัวซองต์ด้วยกันในครั้งหน้า
"กลัวแต่จะไปสร้างความวุ่นวายมากกว่า"
น้ำตอบยิ้มๆ ที่เฟย์ชวนเธอไปทำขนม
"ไม่เป็นไร ถือว่าไปทำกิจกรรมด้วยกัน"
เฟย์ตอบพร้อมยิ้มหวาน
ก่อนจะจบบทสนทนา เฟย์จ้องมองน้ำนิ่งๆ พร้อมถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“น้ำ... เธอเคยคิดไหมว่าถ้าเราใกล้ชิดกันมากกว่านี้ มันจะเป็นยังไง”
น้ำหยุดชะงัก รอยยิ้มจางลงเล็กน้อย เธอวางช้อนลงบนจานแล้วพูดเสียงเบา
“ฉันคิดนะ... และมันก็เป็นเหตุผลที่ฉันพยายามไม่ให้ตัวเองคิดมากเกินไปกับสิ่งที่เรามีตอนนี้”
เฟย์ยิ้มจางๆ
“แต่ฉันอยากให้เธอรู้ว่า ฉันไม่ยอมให้ใครมาตัดสินความสัมพันธ์ของเรา ฉันจะอยู่ข้างเธอเสมอ”
น้ำยิ้มให้เฟย์
“ขอบคุณนะเฟย์... ฉันจะลองเปิดใจดู แต่ขอเวลาฉันหน่อยนะ”
หลังจากช่วงเวลาที่อบอุ่นในคาเฟ่ เฟย์พาน้ำกลับมาส่งที่พัก ระหว่างทางพวกเธอยังคุยกันเรื่องร้านอาหารที่อยากลองและกิจกรรมสนุกๆ ที่อยากทำด้วยกัน
เมื่อมาถึงที่พัก เฟย์ช่วยน้ำลงจากรถก่อนจะบอกลา น้ำยิ้มและพูดเบาๆ
“ขอบคุณที่พาน้ำไปวันนี้นะ น้ำสนุกมาก”
เฟย์ยิ้มตอบ
“ฉันก็เหมือนกัน ไว้เจอกันใหม่นะน้ำ”
ก่อนที่เฟย์จะกลับขึ้นรถ น้ำยืนนิ่งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะพูด
“เฟย์... ฉันดีใจที่ได้รู้จักเธอ"
เฟย์หยุดเดินแล้วหันมายิ้มให้น้ำ
“ฉันก็รู้สึกเหมือนกัน”
รถของเฟย์ค่อยๆ ขับออกไป น้ำยืนอยู่หน้าที่พักพร้อมกับความรู้สึกอบอุ่นในใจที่ยากจะอธิบาย...
หลังจากวันนั้น เฟย์พยายามมาเจอน้ำทุกวันเท่าที่จะทำได้
แต่ทุกครั้งที่เฟย์พยายามแสดงความหวังดี น้ำก็มักจะสร้างกำแพงบางอย่างขึ้นมา
ระหว่างการเจอกันที่สวนสาธารณะและช่วงเวลาที่ใช้ร่วมกันทั้งสองเริ่มสนิทสนมกัน น้ำเธอสัมผัสได้ถึงความอ่อนโยนและความจริงใจของเฟย์ ที่ทำให้เธอรู้สึกว่ามีคนใส่ใจในชีวิตของเธออย่างจริงจัง
เฟย์เริ่มมารับน้ำทุกสุดสัปดาห์ ทั้งสองสนิทสนมกันมากขึ้น เฟย์หลงใหลในความเข้มแข็งและความมุ่งมั่นของน้ำ ในขณะที่น้ำรู้สึกอบอุ่นเมื่ออยู่กับเฟย์
เฟย์เริ่มรู้สึกว่าเธอมีบางสิ่งบางอย่างที่แตกต่างไปจากความสงสารที่เธอเคยมีต่อคนที่ด้อยกว่าตัวเอง เธอเริ่มรู้สึกผูกพันกับน้ำมากขึ้น เธอไม่สามารถหักห้ามความรู้สึกนี้ได้
ในขณะเดียวกัน น้ำก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เฟย์มอบให้ แต่เธอก็พยายามหลีกเลี่ยงความรู้สึกนี้ เพราะเธอรู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับเฟย์คงเป็นไปไม่ได้
เวลาเฟย์อยู่กับเธอเฟย์พยายามเป็นดวงตาให้เธอเสมอ
บรรยายสิ่งรอบตัว และช่วยอธิบายในสิ่งที่เธอไม่เข้าใจให้ฟัง
เฟย์มักนัดเจอน้ำ ทั้งสองเริ่มใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น เฟย์พาน้ำไปทำกิจกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ดูหนังฟังเพลงชมคอนเสิร์ต ไปดูละครเวทีพาไปร้านอาหารที่เฟย์คิดว่าอร่อย และอื่นๆ เท่าที่เฟย์คิดออก
เฟย์รู้สึกชื่นชมในความเข้มแข็งและอ่อนโยนของน้ำ ส่วนน้ำสัมผัสได้ถึงความใส่ใจและความอบอุ่นของเฟย์ เธอไม่เคยรู้สึกเชื่อมโยงกับใครได้ลึกซึ้งเช่นนี้มาก่อน
เฟย์เริ่มสนิทสนมกับน้ำมากขึ้น ทั้งสองแบ่งปันมุมมองชีวิต น้ำช่วยเฟย์เห็นถึงความงามในความเรียบง่าย ในขณะที่เฟย์ช่วยให้น้ำมีความหวังในวันที่หนักหนา
นานวันเข้า น้ำก็รู้สึกถึงความอบอุ่นที่เฟย์มอบให้ ซึ่งเธอไม่เคยได้รับจากใคร แต่ความต่างของทั้งคู่ทำให้น้ำพยายามกดความรู้สึกนี้ไว้
แต่ทุกครั้งที่เฟย์พยายามแสดงความในใจ น้ำก็มักจะสร้างกำแพงบางอย่างขึ้นมา
น้ำตัดสินใจบอกเฟย์ในวัน 1
“เธอเป็นคนดีเกินไปสำหรับฉัน”
“โลกของเราไม่เหมือนกันเลย”
น้ำชอบพูดคำนี้กับเฟย์เสมอ
“คุณไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ค่ะ ฉันดูแลตัวเองได้นะ”
น้ำพูดด้วยน้ำเสียงสุภาพแต่เด็ดขาด
“ฉันรู้ค่ะ แต่แค่อยากช่วย”
เฟย์ตอบพร้อมรอยยิ้ม
น้ำรู้ว่าเฟย์มีเจตนาดี แต่เธอกลับรู้สึกว่าความพยายามเหล่านั้นคือสิ่งที่เธอไม่คู่ควรถ้าหากเป็นเพื่อนเธอคงไม่คิดอะไรมาก แต่ที่เฟย์พยายามแสดงออกมันมากกว่านั้น
น้ำคิดว่าเฟย์สมบูรณ์แบบเกินไปสำหรับคนที่มีข้อจำกัดอย่างเธอ
“เฟย์ คุณเป็นคนที่ดีมากนะคะ แต่เราไม่เหมาะกัน”
น้ำยืนยันคำเดิม
ขณะที่เฟย์อาสามาส่งหลังการไปทานข้าวด้วยกัน
“ทำไมคะ คุณไม่ชอบฉันเหรอ”
เฟย์ถามตรงๆ
น้ำเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนตอบเสียงเบา
“ไม่ใช่แบบนั้น... แต่โลกของเราต่างกันเกินไปค่ะ ฉันไม่อยากเป็นภาระคุณ”
เฟย์จับมือของน้ำเบาๆ
“น้ำ โลกของคุณไม่ได้ต่างจากฉันเลยค่ะ แค่คุณให้ฉันได้อยู่ข้างๆ ฉันก็มีความสุขแล้ว”
น้ำสะอึกไปชั่วขณะ ก่อนดึงมือกลับ
“ขอโทษนะคะ เฟย์ ฉันขอร้อง...อย่าทำให้มันยากกว่านี้เลย” ถ้าเราเป็นเพื่อนกันฉันคงยินดีกว่านี้
แต่เฟย์ไม่คิดจะยอมแพ้ ความรู้สึกของเธอชัดเจนเกินกว่าจะหยุดเพียงเท่านี้
หลังจากนั้น เฟย์เริ่มเรียนรู้ที่จะเข้าใจน้ำให้มากขึ้น
เธอแสดงให้เห็นว่าความรักที่แท้จริงไม่ได้ขึ้นอยู่กับข้อจำกัดทางร่างกาย เฟย์ทำให้น้ำมีความสุข และอยู่เคียงข้างในวันที่น้ำต้องเผชิญความลำบาก
ฉากคุยน่ารักๆ
"เฟย์คุณมาดักเจอฉันทุกวัน คุณไม่มีงานทำหรือยังไงคะ
น้ำบ่นด้วยความหงุดหงิดใจ
"งานนะมี แต่ทำเสร็จแล้ว แต่อยากเจอน้ำมากกว่า"
เฟย์ยิ้มหวานให้น้ำ ถึงน้ำจะมองไม่เห็นมันก็ตาม
"คุณเล่นทำแบบนี้ ฉันจะทำอะไรได้ละคะ เดินหนีก็ไม่ได้"
น้ำค้อน
เฟย์จับมือน้ำเบาๆ พร้อมเดินไปที่รถคันหรูของเธอ
น้ำอยากต่อต้าน สบัดมือหนีก็ไม่ได้ ได้แต่เดิมตามไปเวียบๆ
"มาเฟย์จะไปส่งนะ"
เฟย์ยิ้มขำ ที่เห็นคนตัวเล็กทำหน้าบ่อจอย นั่งในรถข้างเธอ
ในใจน้ำ อยากให้ฉันเห็นขึ้นมานะ ฮึ่ม
ในใจเฟย์ ต่อให้น้ำจะเป็นยังไงก็หนีเฟย์ไม่พ้นหรอก ส่งยิ้มหวานให้
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 23
แสดงความคิดเห็น