บทที่ 158 พิกก์
บทที่ 158 พิกก์
ระบบ: กรุณาเลือกระดับความยากของดันเจียน
ลู่หยางเลือกความยากระดับอีปิคโดยไม่ลังเล ก่อนที่ร่างของเขาจะมาปรากฏตัวในวิหารใต้ดินขนาดมหึมา โดยบริเวณทางเข้ามีรูปปั้นมอนสเตอร์สูง 10 เมตรที่กำลังแผ่กลิ่นอายออกมาอย่างน่ากลัว
ตามเนื้อเรื่องของเกมมนุษย์หมูป่าในวิหารออสมานเคยเป็นผู้ปกครองทวีปนี้มาก่อน แต่เนื่องจากสงครามเทพในยุคโบราณมันจึงทำให้จักรวรรดิออสมานได้รับความเสียหายอย่างหนัก นอกจากนี้เทพที่พวกเขานับถือยังถูกโจมตีจนต้องเข้าสู่การหลับใหลอย่างยาวนาน
หลายพันปีต่อมาเมื่อเทพอสูรเพลิงพ่ายแพ้ พลังงานส่วนหนึ่งของเขาก็ได้กลายเป็นภูติไฟที่ถูกพวกมนุษย์หมูป่าค้นพบโดยบังเอิญ พวกมนุษย์หมูป่าจึงคิดว่านี่เป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าเทพของตัวเองกำลังจะตื่นขึ้นมาและมันคือของขวัญที่เทพเจ้าได้มอบให้
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อเทพเจ้า พิกก์ค้อนทองผู้ซึ่งเป็นผู้นำของมนุษย์หมูป่าจึงได้นำภูติไฟมาบูชาในวิหารออสมาน
ตามปกติแล้วลู่หยางเพียงคนเดียวย่อมไม่มีทางเคลียร์ดันเจียนแห่งนี้ได้ แต่ดันเจียนนี้กลับมีบัคสำคัญอย่างหนึ่งอยู่
ในชาติก่อนหลังผู้เล่นสังหารพิกก์ได้สำเร็จ พวกเขาก็ได้พบว่าวิหารตั้งอยู่ชั้นบนสุดของถ้ำใต้ดิน ซึ่งถ้าหากว่าใครต้องการจะไปยังชั้นล่างสุดของวิหาร พวกเขาก็จำเป็นจะต้องวิ่งลงไปเรื่อย ๆ
เมื่อพวกเขาวิ่งไปตามสะพานหินแคบ ๆ เพื่อลงไปทางด้านล่าง พวกเขาก็ได้พบว่าตำแหน่งของพิกก์อยู่ใต้ทางเข้าของดันเจียนพอดี
มีผู้เล่นเคยศึกษาว่าพวกเขาสามารถกระโดดลงไปจัดการพิกก์ตัวเดียวได้เลยหรือไม่ ซึ่งจากการทดลองหลายครั้งพวกเขาได้พบวิธีกระโดดลงไปยังชั้นล่างได้สำเร็จ และอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับวิธีการนี้นั้นก็คือผู้เล่นจะต้องมีมีดเอสเคพเดจเจอร์เสียก่อน
ในชาติก่อนลู่หยางเคยใช้วิธีนี้จัดการพิกก์ไปเป็นจำนวนนับครั้งไม่ถ้วน เพราะนอกเหนือจากพิกก์จะดรอปภูติไฟลงมาแล้ว มันยังดรอปชุดเซ็ตทับทิมซึ่งเป็นชุดสำหรับนักเวทเลเวล 30 ลงมาอีกด้วย
นักเวทหนุ่มเดินไปบนสะพานหินที่คดเคี้ยวลงไปทางด้านล่าง โดยในทุก ๆ 20 เมตรสะพานจะไปเชื่อมกับพื้นดินแห่งใหม่
พื้นดินทุกแห่งคือพื้นดินที่ถูกขุดออกมาจากหน้าผาและบนพื้นดินแต่ละแห่งจะมีมนุษย์หมูป่าแดงประมาณ 20 ตัวเดินลาดตระเวนไปมา แม้แต่บนสะพานหินแต่ละแห่งก็มีมนุษย์หมูป่าคอยเฝ้ายามอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน
มนุษย์หมูป่าแดง
เลเวล 30
พลังชีวิต 51,000/51,000
มนุษย์หมูป่าทุกตัวในดันเจียนมีอาชีพเป็นนักรบ พวกมันจึงได้เรียนรู้สกิลชาร์จ หากผู้เล่นเข้าไปในระยะของสกิลชาร์จ มนุษย์หมูป่าจะทำการพุ่งเข้ามาชาร์จอย่างแน่นอน
ลู่หยางมองดูมนุษย์หมูป่าที่คอยเดินลาดตระเวนบนสะพานหินพร้อมกับนับเลขภายในใจ หลังจากที่เขานับเลขได้ถึง 10 มนุษย์หมาป่าบนสะพานหินก็เดินเข้ามาในระยะ 20 เมตรพอดี
นักเวทหนุ่มขว้างมีดเอสเคพเดจเจอร์ออกไปอย่างแรงตกลงไปบนหินที่ยื่นออกมาจากใต้สะพานอย่างแม่นยำ
ร่างของลู่หยางกลายเป็นแสงสว่างสีฟ้าก่อนที่เขาจะเหยียบลงบนหินที่ยื่นออกมาพอดิบพอดี ขณะเดียวกันมนุษย์หมูป่าบนสะพานก็เดินออกไปพ้นจากเขาในระยะ 20 เมตร
ลู่หยางยืนอยู่ตรงนี้ได้ไม่ถึง 2 วินาที ก่อนที่เขาจะกระโดดลอยตัวลงไปในหุบเหวลึก
หุบเหวมีความลึกมากจนมองไม่เห็นพื้นดินทางด้านล่าง แต่ลู่หยางก็ทำการนับเลขภายในใจ และก่อนที่ร่างของเขากำลังจะโหม่งพื้นตายนักเวทหนุ่มก็ได้กลายเป็นแสงสีขาวปรากฏตัวเฉียงออกไปจากตำแหน่งเดิม 30 เมตร
การเทเลพอร์ตจะช่วยชะลอความเร็วในระหว่างการตกได้เล็กน้อย ซึ่งในระหว่างนั้นร่างของเขาก็เริ่มร่วงหล่นตามแรงโน้มถ่วง ชายหนุ่มจึงสะบัดมีดภายในมือออกไปอย่างแรง ก่อนที่มีดเอสเคพเดจเจอร์จะปักเข้ากับหน้าผาฝั่งตรงข้ามอย่างแม่นยำ
ร่างของลู่หยางกลายเป็นแสงสีฟ้าก่อนจะไปยืนบนแง่งหินที่มีขนาดมากพอให้ขึ้นไปยืนอยู่ได้แค่คนเดียว ระหว่างนั้นฝูงมนุษย์หมูป่าที่เดินลาดตระเวนผ่านบนสะพานหินไปก็ไม่มีใครสังเกตเห็นลู่หยางด้วยเช่นกัน
หากมีใครมาเห็นการกระทำของลู่หยางในตอนนี้ พวกเขาคงจะตกตะลึงเป็นอย่างมาก และแม้แต่ผู้เล่นชั้นยอดในชาติก่อน มันก็ยังยากที่จะดำเนินการทุกอย่างได้อย่างแม่นยำเหมือนกับนักเวทหนุ่ม
ท้ายที่สุดกระบวนการเหล่านี้ก็ยากมาก เพราะถ้าหากว่ามันมีข้อผิดพลาดเกิดขึ้นแม้แต่เพียงครั้งเดียว ร่างของพวกเขาก็จะตกลงสู่หุบเหวอย่างไม่มีทางหวนกลับ ซึ่งในกรณีของลู่หยางหัวใจแห่งเทพอสูรก็จะดรอปลงไปบนพื้นและไม่มีทางที่เขาจะกลับมาเก็บมันไปได้อีก
อย่างไรก็ตามชาติก่อนลู่หยางก็ได้ใช้ชีวิตเป็นทหารรับจ้างมานานถึงห้าปี การกระโดดเพียงเท่านี้จึงเป็นเพียงเรื่องง่าย ๆ สำหรับเขาไปเลย ในความเป็นจริงเนื่องมาจากร่างกายในโลกแห่งความเป็นจริงของเขายังไม่ได้ฟื้นฟูให้มีความแข็งแรงกลับไปเหมือนกับในชาติก่อน เขาจึงรู้สึกว่าในตอนนี้การเคลื่อนไหวภายในเกมมันให้ความรู้สึกคล่องแคล่วมากยิ่งกว่าการเคลื่อนไหวในโลกแห่งความเป็นจริงเสียอีก
ตอนนี้เขากระโดดลงมาแล้ว 90 เมตรผ่านสะพานหินลงมา 4 สะพาน โดยทุก ๆ สะพาน 4 ชั้นจะมีพื้นดินที่มีบอสคอยยืนเฝ้าอยู่
บอสตัวแรกของดันเจียนคือบัณฑิตหมูป่าที่ทุก ๆ 10 วินาทีมันจะอัญเชิญมนุษย์หมูป่า 5 ตัวออกมาเข้าร่วมการต่อสู้ แน่นอนว่าในปัจจุบันลู่หยางยังสู้บอสตัวนี้ไม่ได้
พื้นที่ทางด้านล่างยังเหลืออีก 180 เมตรก่อนจะถึงเป้าหมาย ลู่หยางจึงใช้วิธีการเดิมโดยการทิ้งตัวลงไปและใช้มีดเอสเคพเดจเจอร์กับสกิลแฟลชเพื่อไปยืนยังแง่งผาอย่างแม่นยำ
ไม่ถึง 2 นาทีนักเวทหนุ่มก็ลงจนถึงก้นหุบเหวได้สำเร็จ ซึ่งมันก็มีมนุษย์หมูป่าตัวสูงกว่า 5 เมตรกำลังยืนอยู่ด้านหน้ารูปปั้นปีศาจขนาดใหญ่ห่างจากเขาไป 60 เมตร
พิกก์ค้อนทอง (บอส)
เลเวล 40
พลังชีวิต 1,500,000/1,500,000
พิกก์มีผิวสีทองทั้งตัวพร้อมกับมีขนเป็นแนวตั้งแต่กลางศีรษะไปจนถึงทางด้านหลัง ในปากของมันมีเขี้ยวสีทองประดับบนใบหน้าอันดุร้าย มือทางด้านขวาถือค้อนทองด้ามสั้น ขณะที่มือซ้ายถือโล่กลมสีทอง
ในชาติก่อนพิกก์เป็นบอสที่เอาชนะได้ยากมาก เพราะในฐานะผู้ศรัทธาต่อเทพโบราณ แม้พิกก์จะมีขนาดร่างกายอันใหญ่โตและเคลื่อนไหวได้ช้า แต่เขาก็มีความสามารถในการกระโดดข้ามมิติและเวทมนตร์สะกดทั้งจอ
เมื่อไหร่ก็ตามที่มันใช้เวทมนตร์สะกดทั้งหน้าจอ ภายใน 3 วินาทีถัดไปมันจะฟาดค้อนลงมา 3 ครั้งติดต่อกัน โดยการโจมตีแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหายเป็นสามเท่าของการโจมตีปกติ
ด้วยการโจมตีอันรุนแรงประกอบกับเวทมนตร์ที่ทำให้ผู้เล่นหยุดชะงัก มันจึงทำให้แม้แต่นักรบสายป้องกันก็ยังเสียชีวิตภายใต้ค้อนสีทองด้ามนี้
ขณะเดียวกันแม้นักรบจะสามารถรับมือกับการโจมตีทั้งสามครั้งได้สำเร็จ แต่ค้อนทองก็จะปล่อยสกิลไมตี้อิมแพคออกมาสร้างความเสียหายทางกายภาพ 300% แก่ผู้เล่นทั้งหมดที่อยู่ในรัศมีทรงกรวย
ตัวแทงค์ที่เพิ่งถูกโจมตีไปย่อมไม่สามารถรับมือกับการโจมตีครั้งใหม่ได้อย่างแน่นอน ส่วนทางด้านโจรและนักรบสายโจมตีที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงก็ไม่สามารถที่จะรับมือกับการโจมตีรุนแรงนี้ได้
หลังจากใช้สกิลโจมตีใส่ผู้เล่นแนวหน้าจนเสร็จ พิกก์จะกระโดดข้ามมิติเข้าไปหาผู้เล่นที่สร้างความเกลียดชังสูงสุดในทันที จากนั้นมันก็จะใช้สกิลไมตี้อิมแพคออกมาอีกครั้งและผลลัพธ์ก็มักจะกลายเป็นสมาชิกภายในทีมถูกกวาดล้างทั้งหมด
ย้อนกลับไปในตอนนั้นกิลด์ชั้นนำทั่วทั้งโลกต่างก็ไม่สามารถหาวิธีจัดการกับพิกก์ได้เป็นเวลากว่าหนึ่งเดือนครึ่ง จนกระทั่งครั้งหนึ่งผู้เล่นถูกไล่ล่าจึงไม่มีทางหลบหนี เขาจึงใช้การกระโดด 2 จังหวะไปยังมือของเทพเจ้าโบราณที่พิกก์เคยบูชาอยู่
แม้ความตั้งใจของเขาคือการพยายามหลบหนี แต่ผลลัพธ์กลับกลายเป็นพิกก์หยุดโจมตีและมองดูผู้เล่นคนนั้นใช้สกิลไฟร์บอลโจมตีเข้าใส่มันโดยไม่ตอบโต้
เมื่อพลังชีวิตของพิกก์ลดลง 10% มันจะปล่อยสกิลที่มีชื่อว่าสกายเดรสทรอยิงไฟร์ออกมา นักเวทที่ยืนอยู่บนมือของรูปปั้นจึงพลาดท่าเสียชีวิตภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
อย่างไรก็ตามวิดีโอที่เขากระโดดขึ้นไปโจมตีพิกก์บนมือของรูปปั้นฟรี ๆ ก็สร้างความตกตะลึงไปทั่วทั้งโลก ทางกิลด์และสตูดิโอชั้นนำที่เคยติดปัญหากับพิกก์มาเป็นเวลานานจึงเรียกร้องให้ทางเกมออกมาอธิบาย
วิดีโอนี้ถูกปล่อยออกมาในช่วงงานแถลงข่าวปลายปีพอดี ตัวแทนของบริษัทเกมจึงอธิบายภายในงานแถลงข่าวว่า
พิกก์คือผู้บูชาเทพเจ้าโบราณ ดังนั้นมันจึงไม่มีวันใช้ค้อนทองทุบเข้าใส่รูปปั้นอย่างเด็ดขาด!
เอ่อ ใช่! เข้าใจยากตรงไหน? 55555
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 73
- 👍 ถูกใจ
แสดงความคิดเห็น