บทที่ 97 ปฏิเสธคำเชิญ

-A A +A

บทที่ 97 ปฏิเสธคำเชิญ

บทที่ 97 ปฏิเสธคำเชิญ

ชิงเฟิงลากบอสไปตามคำสั่งของลู่หยาง โดยในระหว่างนั้นเขาก็พูดกับฉือมู่ที่อยู่ข้าง ๆ

“หัวหน้า คุณสังเกตไหมว่าคราวนี้การสู้บอสผ่านพ้นไปได้ง่ายมากเลย”

“อือ การมีลู่หยางคอยนำทีมทำให้การสู้กับบอสกลายเป็นเรื่องง่ายกว่าเดิมจริง ๆ” ฉือมู่พยักหน้า

“พี่ชายไม่ว่ายังไงเราก็ต้องชวนลู่หยางเข้ากิลด์ให้ได้นะ ก่อนหน้านี้พวกเราคิดแต่เพียงว่าเขาได้ดีเพราะเป็นผู้เล่นเบต้า แต่ตอนนี้เขาได้พิสูจน์แล้วว่าความสามารถในการนำทีมและทักษะในการสังเกตของเขาเหนือกว่าผู้เชี่ยวชาญในทีมเรามาก” ฮิดเดนเบลดผู้ซึ่งเป็นชายชราอีกคนกล่าว

“ฉันเสนอค่าตอบแทนให้เขาปีละ 100,000 แล้ว แต่เขาก็ยังไม่มา” ฉือมู่กล่าวอย่างจนใจ

“นั่นมันก็เป็นเพราะคุณยังจ่ายน้อยเกินไป หากฉงป้าหรือกลุ่มทุนอื่น ๆ รู้ว่าเขามีความสามารถในการนำทีมขนาดนี้ คุณคิดว่าพวกเขาจะเสนอค่าตอบแทนให้คนแบบนี้เท่าไหร่?” ฮิดเดนเบลดถาม

“นั่นสินะ ฉันลืมไปว่าเกมนี้ไม่ใช่เกมธรรมดา ๆ แม้แต่คนแก่อย่างเรายังติดเกมนี้งอมแงม ในโลกแห่งความเป็นจริงร่างกายของเราเคลื่อนไหวช้าลงตามอายุ แต่ในเกมพวกเรากลับรู้สึกเหมือนได้เป็นหนุ่มอีกครั้ง” ฉือมู่เข้าใจสิ่งที่สหายพูดในทันที

“ผมก็มองว่าเกมนี้ยังมีอนาคตอีกไกลและมันก็คุ้มค่าที่พวกเราจะลงทุนอย่างจริงจัง” ฮิดเดนเบลดกล่าวพร้อมกับพยักหน้า

ฉือมู่หันไปมองลู่หยางที่กำลังนำทีมพร้อมกับพูดขึ้นมาว่า

“หลังจากจัดการบอสตัวนี้เสร็จ ฉันจะเสนอราคาที่เขาไม่กล้าปฏิเสธแน่นอน”

ตอนนี้พลังชีวิตของบอสลดลงมาเหลือ 40% แล้ว บาเลทจึงเริ่มปล่อยเวทมนตร์ออกมาเร็วขึ้น ซึ่งโดยเฉลี่ยบอสจะใช้สกิลทุก ๆ 20 วินาทีทำให้การโจมตีเป็นไปอย่างยากลำบากมาก อย่างไรก็ตามภายใต้คำสั่งของลู่หยางมันก็ทำให้ในทีมยังมีผู้รอดชีวิตมากถึง 15 คน

“ทุกคนอดทนเอาไว้ ชัยชนะอยู่ตรงหน้าแล้ว จำเอาไว้ว่าอย่าทิ้งทีมและฟังคำสั่งจากผมให้ดี” ลู่หยางตะโกน

ถึงแม้สมาชิกภายในทีมจะเหน็ดเหนื่อยจากการวิ่งหลบจากระยะสกิล แต่พวกเขาก็ไม่เคยมั่นใจขนาดนี้มาก่อนว่าทีมจะสามารถเอาชนะบอสตัวนี้ลงไปได้ ทุกคนจึงฟังคำสั่งของลู่หยางอย่างเชื่อฟัง เมื่อไหร่ก็ตามที่นักเวทหนุ่มสั่งให้วิ่งพวกเขาก็จะวิ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่นักเวทหนุ่มสั่งให้หยุดพวกเขาก็จะหยุด

ไม่นานพลังชีวิตของบอสก็ลดลงมาเหลือเพียงแค่ 20%

“จงเอายาพิษขวดนี้ไปกินซะ!” บาเลทหยิบขวดน้ำยาสีทองออกมา ก่อนที่เขาจะโยนมันไปยังกลุ่มนักเวทที่อยู่ในระยะไกล

“นักเวทวิ่งไปทางขวา 20 เมตร ส่วนฉันจะอยู่ตรงนี้” ลู่หยางกล่าวด้วยแววตาอันเป็นประกาย

ลั่วซืออวี่และนักเวทคนอื่น ๆ มองไปทางลู่หยางด้วยความประหลาดใจ แต่ทุกคนก็ยังคงทำตามคำสั่งโดยการวิ่งไปทางขวา

เมื่อขวดแก้วที่บรรจุน้ำยาสีทองแตกลงพื้น พลังงานสีทองก็ปกคลุมทุกพื้นที่ในรัศมี 20 เมตรในทันที และแน่นอนว่าร่างของลู่หยางก็ถูกปกคลุมไปด้วยพลังงานสีทองเหล่านี้ด้วย

ระบบ: พลังโจมตีเวทของคุณเพิ่มขึ้น 100% คุณได้รับความเสียหายจากเวทมนตร์ 100 หน่วยต่อวินาที

นี่คือสกิลกับดักที่บอสจะใช้งานเมื่อเหลือพลังชีวิต 20% สุดท้าย ด้วยผลของการเพิ่มพลังเวทขึ้นถึง 100% มันยังทำให้นักเวทหลาย ๆ คนอยากจะลองเข้ามาอยู่ในรัศมีของสกิลเพื่อเพิ่มความเสียหายของตัวเอง อย่างไรก็ตามในช่วงเวลานี้มันก็มีนักเวทน้อยมากที่สามารถทนความเสียหายของยาพิษสีทองได้

แต่ลู่หยางถือได้ว่าเป็นกรณียกเว้น เพราะเขาคือผู้ครอบครองหัวใจแห่งเทพอสูรและยังได้ครอบครองอุปกรณ์ที่ดีกว่าผู้เล่นคนอื่น ๆ อย่างมากมาย มันจึงทำให้พลังชีวิตของเขามีอยู่มากกว่า 500 หน่วย แล้วมันก็ทำให้เขาสามารถทนอยู่ในพลังงานสีทองนี้ได้ 2-3 วินาทีโดยไม่เป็นปัญหา

ชายหนุ่มทนได้สกิล 3 วินาทีพร้อมกับยิงไฟร์บอลออกไป จากนั้นเขาก็ใช้สกิลแฟลชเพื่อกระโดดออกมาจากเขตยาพิษ

-1,842 (คริติคอล)

“แรงมาก!” นักเวทบางคนเริ่มทนไม่ไหวและลองเดินเข้าไปในเขตยาพิษสีทอง อย่างไรก็ตามก่อนที่พวกเขาจะทันได้ร่ายเวทใด ๆ ออกมา ความเสียหายจากสารสีทองก็ได้สังหารพวกเขาลงไปเสียก่อน

“อย่าเข้าไป! พวกคุณทนไม่ไหวหรอก” ลู่หยางตะโกนพร้อมกับใช้สกิลฮีลตัวเอง

ระหว่างพูดอยู่นั้นเขาก็เดินกลับเข้าไปในวงพลังงาน และหลังจากที่ยิงไฟร์บอลออกไปเขาก็เดินออกมาอีกครั้งหนึ่ง

-1,836 (คริติคอล)

นักเวทคนอื่น ๆ มองลู่หยางอย่างอิจฉา เพราะพวกเขาก็อยากจะสร้างความเสียหายหลักพันได้แบบนี้บ้าง

ขณะเดียวกันบอสก็เหลือพลังชีวิตอยู่เพียงแค่ประมาณ 50,000 หน่วย เมื่อเขาถูกพลังโจมตีอันหนักหน่วงประกอบกับพลังโจมตีของนักเวทคนอื่น ๆ บาเลทก็สามารถอดทนได้เพียงแค่ประมาณ 10 วินาที ก่อนที่ร่างของจอมเวทคนนี้จะล้มลงกับพื้น

ระบบ: ยินดีด้วย ทีมของฉือมู่ได้เคลียร์ดันเจียนปราสาทรัตติกาลนิรันดร์เป็นทีมแรกของโลก

ข้อความนี้ปรากฏขึ้นในทุก ๆ ประเทศที่ตัวเกมได้เปิดให้บริการและมันก็ทำให้ผู้เล่นทั่วทั้งโลกตกอยู่ในอาการตกตะลึง

“ปราสาทรัตติกาลนิรันดร์ถูกเคลียร์แล้วงั้นเหรอ?” ทีมของผู้เล่นยุโรปที่เพิ่งจะมาถึงหน้าปราสามดยุกยูริสในดันเจียนระดับอีปิคพร้อมใจกันมองประกาศจากระบบด้วยความตกใจ

“ทำไมพวกเขาถึงมีความคืบหน้าเร็วกว่าพวกเราขนาดนี้”

“ประเทศอะไร? เกาหลีหรือญี่ปุ่น?”

“ไม่ใช่ คนพวกนั้นมาจากประเทศจีนต่างหาก”

“เป็นไปได้ยังไง?! พวกเขาเคลียร์ดันเจียนกันเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?”

ทุกคนต่างก็พยายามตั้งคำถามแต่ไร้ซึ่งคำตอบ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์มากเกินไป

ทีมผู้เล่นชั้นยอดนับร้อยทีมจาก 10 กว่าประเทศต่างก็พึ่งมาถึงปราสาทของดยุกยูริสพร้อม ๆ กัน แต่ตอนนี้พวกเขาก็หมดกำลังใจจะต่อสู้กับบอสแล้ว เพราะถึงแม้พวกเขาจะเคลียร์ดันเจียนได้ในตอนนี้ แต่มันก็ไม่มีประโยชน์เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

การถกเถียงลุกลามไปทั่วทั้งอินเตอร์เน็ต ขณะเดียวกันทุกคนต่างก็จดจำชื่อของฉือมู่เอาไว้ภายในใจ

ในเซิร์ฟเวอร์จีน

โทรศัพท์ของฉือมู่ดังขึ้นติดต่อกันไม่หยุด แต่ชายชราก็ไม่เลือกที่จะรับสายใครเพราะในตอนนี้เขากำลังเดินไปหาลู่หยาง

“น้องชายตามฉันมานี่หน่อย” ฉือมู่กล่าวพร้อมกับเดินพาลู่หยางไปยังหน้าประตูห้องทดลอง

“มีอะไรเหรอครับ?” ลู่หยางถาม

“น้องชาย ฉันอยากจะชวนนายเข้าร่วมกิลด์ของฉัน” ฉือมู่พูดอย่างจริงใจ

ลู่หยางกำลังจะตอบปฏิเสธ แต่ฉือมู่ก็ได้กล่าวแทรกขึ้นมาก่อนว่า

“อย่าเพิ่งรีบปฏิเสธ ฟังข้อเสนอของฉันก่อน”

“ข้อเสนออะไรครับ?” ลู่หยางถาม

“ฉันจะแต่งตั้งให้นายเป็นรองหัวหน้ากิลด์คนแรกและให้ค่าตอบแทนปีละ 500,000 เครดิต สัญญาพวกเราจะเซ็นยาวกันไปเลย 5 ปี ข้อเสนอนี้นายมีความคิดเห็นว่ายังไงบ้าง?” ฉือมู่กล่าวอย่างมั่นใจและเขาก็ไม่เชื่อว่าลู่หยางจะกล้าปฏิเสธเงินทองและอำนาจที่เขาหยิบยื่นให้อย่างแน่นอน

ลู่หยางหยุดคิดอยู่สักครู่ ซึ่งในชาติก่อนในตอนที่กลุ่มทุนมากมายเข้ามาลงทุนภายในเกมกิลด์ของฉือมู่ก็เคยมีสมาชิกสูงสุดถึง 500,000 คน การเสนอให้เขาเข้ามาเป็นรองหัวหน้ากิลด์คนแรกมันก็ถือว่าเป็นตำแหน่งที่น่าดึงดูดใจมากจริง ๆ

อย่างไรก็ตามนักเวทหนุ่มก็ยังคงสายหัวและตอบกลับไปว่า

ขอโทษครับแต่ผมคงจะรับความหวังดีของคุณเอาไว้ไม่ได้

ทำไมล่ะค่าตอบแทนน้อยเกินไปงั้นหรอฉือมู่ถามอย่างตกใจ

มันไม่ใช่เรื่องของเงินครับแต่ปัญหามันคือตัวผมเองลู่หยางตอบ

ในอนาคตเขาจำเป็นจะต้องจัดการกับลิ่วเจีย ขณะที่ฉือมู่มีอายุมากกว่า 60 ปีแล้วและชายชราคนนี้ก็เล่นเกมเพื่อความสนุกเป็นหลัก ดังนั้นอีกฝ่ายจึงไม่มีทางต่อสู้อย่างเอาเป็นเอาตายกับกลุ่มทุนของลิ่วเจียเพื่อเขาหรอก

ฉือมู่งุนงงเล็กน้อยแต่เขาก็ไม่ได้ซักไซ้อะไรเพิ่มเติม ก่อนที่ชายชราจะพูดอย่างสบาย ๆ กลับไปว่า

“โอเค งั้นเราผ่านเรื่องนี้ไปก็แล้วกัน”

“ขอบคุณครับ พวกเรากลับไปจัดการอุปกรณ์กันเถอะ” ลู่หยางกล่าว

ฉือมู่พยักหน้าก่อนที่จะเดินตามลู่หยางกลับเข้าไปในดันเจียน ซึ่งในตอนนี้ฮิดเดนเบลดกับชิงเฟิงก็กำลังมองมาทางชายชราอย่างคาดหวัง เพราะพวกเขารู้ดีว่าหัวหน้ากิลด์คนนี้จะต้องเสนอค่าตอบแทนก้อนใหญ่เพื่อดึงดูดลู่หยางอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามสีหน้าของฉือมู่เมื่อเดินกลับมากลับไม่ได้มีความดีใจฉายอยู่บนนั้นเลย

 

 


 

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2025 keangun. All Right Reserved.