บทที่ 10 โกลเดนเดรค
บทที่ 10 โกลเดนเดรค
หลังจากจบบทสนทนากับหลานอวี่ ลู่หยางก็กลับมาเก็บเลเวลต่ออย่างบ้าคลั่ง โดยเขาตั้งเป้าว่าจะขึ้นอันดับ 1 ในตารางจัดอันดับก่อนออกจากเกมในเช้าวันรุ่งขึ้น
การแย่งชิงอันดับ 1 ในตารางจัดอันดับไม่ใช่สิ่งที่ใครจะทำกันได้ง่าย ๆ เพราะนี่คือเกมที่มีผู้เล่นหลายล้านคนเข้าออนไลน์พร้อมกัน ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นประวัติศาสตร์นับตั้งแต่มีเกมออนไลน์มา
ในชาติก่อนลู่หยางไม่ได้มีชื่อเสียงในช่วงแรกของเกมมากนัก และถึงแม้เขาจะทำการสร้างกิลด์ขึ้นมาในภายหลัง แต่ผู้เล่นเก่ง ๆ ส่วนใหญ่ก็ถูกกิลด์ขนาดใหญ่ดึงตัวไปตั้งแต่ช่วงแรกของเกมแล้ว
ในชาตินี้เมื่อเขาได้มีโอกาสเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง ลู่หยางจึงตัดสินใจว่าจะสร้างชื่อเสียงตั้งแต่ช่วงแรก ๆ แล้วถึงแม้ว่าการพยายามสร้างกิลด์ช่วงแรกจะเป็นเรื่องยาก แต่การรวมทีมผู้เล่นชั้นยอด 20 คนเป็นสิ่งที่เป็นไปได้อย่างแน่นอน ซึ่งมันก็จะช่วยให้พวกเขาลงดันเจี้ยนหรือเก็บเลเวลในแผนที่ต่าง ๆ ได้อย่างสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
ขณะเดียวกันเขาก็ไม่ได้กังวลเกี่ยวกับเรื่องการตกเป็นเป้าหมายของผู้เล่นคนอื่นเลย เพราะตัวละครในเกมนี้คล้ายกับโลกแห่งความเป็นจริงมาก ผู้เล่นแต่ละคนจึงไม่มีแถบพลังชีวิตและชื่อปรากฏเหนือศีรษะ หากพวกเขาไม่รู้จักกันมาก่อนก็ไม่มีทางที่ใครจะรู้ว่าเขาคือใคร และถึงแม้มันจะมีคนไม่พอใจที่เขาขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตาราง แต่มันก็ไม่มีทางที่ผู้เล่นเหล่านั้นจะหาตัวเขาเจอได้ท่ามกลางผู้เล่นนับล้านคน
การคิดว่าตัวเองจะเอาชนะหัวหน้ากิลด์ใหญ่เพื่อขึ้นเป็นอันดับ 1 ในตารางจัดอันดับทำให้ลู่หยางมีความสุขมาก เมื่อเขาได้นั่งพักฟื้นจนมานากลับมาเต็มเปี่ยมแล้วเขาจึงเริ่มเก็บเลเวลอีกครั้ง
ลู่หยางสังหารวัวป่าในหุบเขาจนหมดและเมื่อเขาได้เห็นว่าพื้นที่บริเวณนี้ไม่มีมอนสเตอร์ตัวอื่น ๆ มันก็ทำให้เขาเริ่มรู้สึกเบื่อ
แม้ว่าชายหนุ่มจะทำการสังหารวัวป่าไปหลายร้อยตัว แต่มันก็ไม่มีไอเท็มดี ๆ หล่นลงมาให้กับเขาบ้างเลย ลู่หยางจึงทำได้เพียงแต่ยอมรับว่าอัตราการดรอปไอเท็มในเกมเซคคัลเวิลด์ยังคงมีอัตราที่โหดร้ายอยู่เช่นเดิม
โชคดีที่ในเกมมีความคล้ายคลึงกับโลกแห่งความเป็นจริงมาก ผู้เล่นจึงสามารถถลกหนังวัวป่าไปขายให้กับ NPC ในหมู่บ้านได้ ไม่อย่างนั้นผู้เล่นโดยทั่วไปก็คงจะไม่สามารถหาเงินจากเกม ๆ นี้ได้เลย
หลังจากกินปลาไหลทอดกรอบและเติมมานาจนเต็ม ลู่หยางก็ปีนเชือกลงไปในหุบเขาเพื่อทำการลอกหนังวัวป่า
หนังวัว 1 ผืนขายได้ 3 เหรียญทองแดง แล้วถึงแม้ว่ามันจะไม่มีค่ามากนัก แต่ชายหนุ่มก็ไม่เคยมองข้ามเงินเล็ก ๆ น้อย ๆ อยู่แล้ว
ระหว่างที่ลู่หยางกำลังถลกหนังวัวและสังเกตว่ามอนสเตอร์จะเกิดใหม่ขึ้นมาเมื่อไหร่ เขาก็สังเกตเห็นเงาตะคุ่ม ๆ สีทองเคลื่อนที่ผ่านทางเข้าของหุบเขาเข้ามา แล้วมันก็ทำให้แววตาของชายหนุ่มเปล่งประกายอย่างตื่นเต้น
โกลเดนเดรค!
หากพูดถึงบอสในเกมเซคคัลเวิลด์ว่าบอสตัวไหนเก่งมากที่สุดหรือจัดการได้ยากมากที่สุด ผู้เล่น 10,000 คนก็จะมีคำตอบออกมา 10,000 แบบ แต่ถ้าหากถามว่าบอสตัวไหนสังหารผู้เล่นไปมากที่สุด ทุกคนคงจะตอบว่าโกลเดนเดรคอย่างไม่มีข้อโต้แย้ง
ในฐานะบอสเลเวล 5 ที่อยู่ในป่ารอบหมู่บ้านผู้เล่นใหม่ โกลเดนเดรคจึงได้กลายเป็นหมาป่าที่อยู่ในคราบของหนังแกะ
ยิ่งไปกว่านั้นบอสตัวนี้ยังมีลำตัวขนาดเล็กคล้ายกับสุนัขตัวหนึ่ง, ลำตัวของมันเป็นสีทอง, ปีกของมันยังไม่พัฒนา, หัวของมันยังคงดูน่ารักไม่ได้ดุร้ายจึงทำให้ผู้เล่นทั้งรักและเกลียดโกลเดนเดรคในเวลาเดียวกัน
สาเหตุที่ผู้เล่นรักมอนสเตอร์ตัวนี้นั้นก็เพราะว่ามันดรอปไอเท็มที่ดีมาก ยกตัวอย่างเช่น อุปกรณ์ที่ดีที่สุดในบรรดาอุปกรณ์เลเวล 5
ส่วนสาเหตุที่ผู้เล่นเกลียดมัน นั่นก็เพราะโกลเดนเดรคมีทั้งพลังโจมตี, ความว่องไว, พลังป้องกันและพลังชีวิตที่สูงมาก ผู้เล่นหลาย ๆ คนที่เคยคิดว่าการเจอกับบอสตัวนี้คือเรื่องที่โชคดี แต่แท้ที่จริงพวกเขาก็ได้พบว่ามันคือจุดเริ่มต้นของโชคร้าย
ผู้เล่นที่เพิ่งเดินทางออกจากหมู่บ้านเริ่มต้นมีเพียงอุปกรณ์มือใหม่ที่เกมมอบให้เท่านั้น แต่อัตราการดรอปอุปกรณ์ในเกมเซคคัลเวิลด์อยู่ในระดับที่ต่ำมาก แม้แต่อุปกรณ์เลเวล 5 ก็ไม่มีข้อยกเว้น
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับโกลเดนเดรค มันก็ทำให้แม้แต่พาลาดินที่มีพลังชีวิตสูงก็ยังถูกฆ่าตายภายใต้การโจมตีเพียงแค่ 3 ครั้ง ส่วนผู้เล่นอาชีพอื่น ๆ ถูกฆ่าตายในการโจมตี 2 ครั้ง ขณะที่ผู้เล่นอาชีพที่บอบบางอย่างนักเวทจะถูกสังหารภายใต้การโจมตีเพียงแค่ครั้งเดียว
แม้ผู้เล่นจะพยายามใช้จำนวนเพื่อให้ได้ความได้เปรียบ แต่มันก็ไม่ได้มีประโยชน์อะไรมากนัก เพราะในประวัติศาสตร์เคยมีเหตุการณ์ที่โกลเดนเดรคสังหารผู้เล่นมากกว่า 100 คนในคราวเดียว ดังนั้นหากไม่ได้มีการประสานงานที่ดีหรืออุปกรณ์ที่ดีพอ การเผชิญหน้ากับโกลเดนเดรคก็ไม่ต่างไปจากการพยายามฆ่าตัวตาย
อย่างไรก็ตามบอสตัวนี้ก็มีจุดอ่อน เพราะมันสามารถโจมตีได้เฉพาะระยะใกล้ หากอยู่ในที่ราบลู่หยางก็คงจะต้องวิ่งให้ไกลที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ แต่หากเขาลากโกลเดนเดรคไปยังจุดบัคได้สำเร็จ ในเวลานั้นเขาก็จะสามารถโจมตีมันได้ฟรี ๆ ลู่หยางจึงคิดว่าเขากำลังได้พบกับโชคลาภครั้งใหญ่
ชายหนุ่มทิ้งหนังวัวที่เพิ่งถลกไปได้เพียงแค่ครึ่งทางและรีบเปลี่ยนเชือกไปยังยอดเขา ซึ่งในระหว่างที่เขากลับไปยังจุดที่ต้องการ โกลเดนเดรคก็กำลังเดินผ่านพื้นที่โจมตีของเขาพอดี
ไฟร์บอล
บึ้ม!
-35
“กรรร~” โกลเดนเดรคส่งเสียงร้องคำรามและหันศีรษะไปทางลู่หยาง เมื่อมันมาถึงเชิงเขาบอสตัวน้อยก็พยายามกางปีกเพื่อกระโดดขึ้นไปยังด้านบน แต่น่าเสียดายที่มันยังคงห่างจากลู่หยางประมาณ 2 เมตร ก่อนที่มันจะร่วงลงไปยังด้านล่างอีกครั้ง
โกลเดนเดรคพยายามใช้ขาเกาะหินที่หน้าผา แต่เนื่องมาจากหน้าผาที่ชันจนเกินไปทำให้มันไม่สามารถเกาะเกี่ยวก้อนหินตรงบริเวณนั้นได้เลย
หากโกลเดนเดรคสามารถจู่โจมลู่หยางได้สำเร็จแม้แต่เพียงครั้งเดียว มันก็จะสามารถสังหารชายหนุ่มได้ในทันที แต่เพราะระยะห่าง 2 เมตรนี้จึงทำให้บอสตัวน้อยไม่สามารถเข้าถึงตัวลู่หยางได้
เมื่อได้เห็นโกลเดนเดรคร่วงหล่นลงไปอีกครั้ง ลู่หยางก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก ซึ่งการพุ่งจู่โจมของบอสเมื่อสักครู่มันก็ทำให้เขาแอบตกใจอยู่ไม่น้อย
ชายหนุ่มพยายามหลอกล่อโกลเดนเดรคให้เข้ามาในหุบเขา เพราะบริเวณด้านนอกมีมอนสเตอร์อยู่เยอะจนเกินไป ลู่หยางจึงกังวลว่าถึงแม้เขาจะสังหารบอสได้สำเร็จ แต่เขาก็อาจจะไม่สามารถลงมาเก็บไอเท็มที่ดรอปลงมาจากบอสได้
ในชาติก่อนลู่หยางไม่เคยสังหารโกลเดนเดรคเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะบอสตัวนี้ถูกจับจองโดยกิลด์ขนาดใหญ่ และถึงแม้ว่ามันจะเป็นช่วงระยะหลังของเกม แต่มันก็ยังคงถูกแย่งสังหารจากกิลด์ขนาดใหญ่ทุกครั้ง
ด้วยเหตุนี้ลู่หยางจึงไม่คิดเลยว่าในชาตินี้เขาจะมีโอกาสได้สังหารโกลเดนเดรคก่อนใคร และหลังจากที่เขาได้ล่อมันเข้ามาในหุบเขาลึกได้สำเร็จ ชายหนุ่มก็ได้ใช้ไฟร์บอลในการจู่โจมอย่างต่อเนื่อง
ทุกครั้งที่ผู้เล่นอัปเลเวลในเซคคัลเวิลด์ ระบบจะให้ค่าสถานะอิสระพวกเขามาทั้งหมด 5 หน่วย ซึ่งก่อนหน้านี้ลู่หยางได้ทำการเพิ่มแต้มทั้งหมดไปยังค่าสติปัญญา และเมื่อมันได้รวมกับแต้มที่เพิ่มขึ้นในแต่ละเลเวล มันก็ทำให้ในปัจจุบันเขามีค่าสติปัญญาเพิ่มขึ้นมาเป็น 31 หน่วยแล้ว
ด้วยค่าสติปัญญา 31 หน่วยจึงทำให้ลู่หยางมีพลังโจมตีเวท 31 หน่วยและมานา 310 หน่วย ขณะเดียวกันโกลเดนเดรคก็มีพลังชีวิตที่สูงถึง 10,000 หน่วย ดังนั้นถ้าหากเขาไม่ได้มีมานาและพลังโจมตีเวทที่มากขนาดนี้ ลู่หยางก็คงไม่อยากจะเข้าไปยุ่งกับมัน
หลังจากการโจมตีต่อเนื่องนานกว่า 2 นาที พลังชีวิตของโกลเดนเดรคก็ได้ลดลงมาเหลือประมาณ 7,000 หน่วย ซึ่งในระหว่างนั้นมานาของลู่หยางก็ได้หมดลงในที่สุด
ในเกมนี้ NPC ไม่ได้ขายน้ำยาที่สามารถฟื้นฟูมานาได้ในทันที ผู้เล่นจึงจำเป็นจะต้องผสมน้ำยาขึ้นมาด้วยตัวเอง แต่เนื่องจากในช่วงนี้เป็นช่วงแรกหลังจากเกมเปิดให้บริการ มันจึงยังไม่มีใครสามารถผลิตน้ำยาฟื้นฟูมานาอย่างฉับพลันได้
ผู้เล่นส่วนใหญ่จะหงุดหงิดเมื่อเจอปัญหาที่มานาของตัวเองหมดลง และลู่หยางก็ได้แก้ปัญหาด้วยการกินปลาไหลทอดกรอบพร้อม ๆ กับจู่โจมบอสตัวน้อยไปเรื่อย ๆ แล้วเขาก็ต้องใช้เวลานานถึง 2 ชั่วโมงเต็ม ๆ เขาจึงจะสามารถสังหารบอสตัวนี้ได้สำเร็จ
โกลเดนเดรคส่งเสียงร้องคำรามเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่มันจะดรอปไอเท็มลงมาทั้งหมด 16 ชิ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือคาถาสีทองที่กำลังส่องประกายอย่างโดดเด่น
อาซันนิสท์สตาฟ!
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 66
แสดงความคิดเห็น