1. จำขึ้นใจ
จะจำไว้ให้ขึ้นใจ
------------------------------------
“Hey, you should be polite if you want to refer to the other!!! นี่...หัดสุภาพด้วยเมื่อพูดถึงคนอื่น”
สาวน้อยเอ่ยขึ้นทันทีที่ก้าวเข้ามายังห้องประชุมด้านในที่เปิดประตูไว้ ผู้เข้าร่วมปรึกษาเรื่องตัวเลขงบดุลของบริษัท Frankie Wang ในฮ่องกง หันไปมองต้นเสียงซึ่งกำลังเดินเข้ามานั่งลงตรงเก้าอี้ที่ว่างอยู่ เพื่อให้เธอนั่งคู่กับประธานการประชุม
“Good morning… สวัสดีค่ะ ดิฉัน ‘มุกวารี’ จาก Frankie Wang Company in Hong Kong… บริษัท แฟรงกี้ หวัง ในฮ่องกง” สาวน้อยกล่าวแนะนำตนเองต่อที่ประชุม ซึ่งมีทั้งหมดสามคน หนึ่งในนั้นเพิ่งพบกันครั้งแรก คือชายหนุ่มที่นั่งเป็นประธาน
“คุณ มุกวารี มีอะไรจะเล่าให้ที่ประชุมฟังได้ไหมครับ ตัวเลขปิดงบบัญชีที่ผมได้รับไม่ตรงกับของคุณมนวราที่ส่งมาให้ก่อนหน้า” น้ำเสียงของชายหนุ่มกล่าวต่อที่ประชุมอย่างเคร่งเครียด
“มัมมี้ เข้าใจว่าต้องมีอะไรผิดพลาด ตัวเลขมันกระโดดข้ามไปบางตัว” มนวรานั่งอยู่ข้างลูกสาวคนเล็กกำลังไล่เช็คตัวเลขที่อยู่ในเอกสารสองฉบับ
“ขอ สิระ...ช่วยตรวจสอบให้ด้วยนะคะ” ลูกสาวคนเล็กของมนวราเอ่ยขอร้องชายหนุ่มประธานในที่ประชุม ขณะกำลังจ้องหน้าพี่สาวคนสวยปากคมของเธอ
“ผมกำลังให้ผู้ช่วยผมที่ลอนดอน เช็คความถูกต้องอีกครั้ง ไม่ต้องห่วง” สิระตอบกลับ แชรี่ ทั้งคู่ดูสนิทสนมกันดี
มุกวารีเพิ่งจะเข้ามาอาศัยอยู่ในคฤหาสน์ ‘วงศ์ระวี’ ของ ‘ภพธารา’ นักธุรกิจเจ้าพ่อบริษัทประมูลวัตถุโบราณที่กรุงเทพ เพราะมนวราแม่ของมุกวารีและแชรี่ ได้เข้ามาเป็นภรรยาคนใหม่ของเจ้าพ่อนักธุรกิจผู้นี้
“อา...ว่าบริษัทบัญชีที่ฮ่องกงไม่น่าผิดพลาด”
“... มุก ลูกตรวจดูละเอียดหรือเปล่า” มัมมี้ของมุกวารีทำหน้าสงสัย ไม่เชื่อว่าจะผิดพลาดได้ขนาดนี้
“มัมมี้คะ...มุก ตรวจดูดีแล้วค่ะ”
“ผมว่า...ต้องให้ตัวเลขที่ไม่ถูกต้องนะครับ บริษัทถึงได้สรุปไม่ถูกต้อง!!!” ชายหนุ่มหันไปมองคนที่นั่งถัดจากเขา
“Sorry… ขอโทษนะ กล่าวหากันชัดๆ ฉันไม่เคยทำอะไรพลาด All of you blame me! ทุกคนกำลังกล่าวหาฉันอยู่!!!” มุกวารีตอบโต้อย่างแรง
“ผมว่า...คุณต้องทำให้ตัวเลขมันไม่ตรง” เขายังกล่าวหาเธอ
สิระโยนเอกสารทั้งหมดที่ส่งเข้ามายังอีเมล์ของเขา ให้เธอนำไปตรวจสอบอีกครั้ง มันได้ถูกปรินต์เตรียมไว้ตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อคาดคั้นเอาผิดกับเธอ
ภพธาราอาของชายหนุ่มขอร้องให้เขามาร่วมประชุม ในฐานะลูกชายของ ‘ก้องภพ’ พี่ชายของภพธารา เขาเป็นส่วนหนึ่งในธุรกิจของวงศ์ระวี จึงรับทำหน้าที่นี้เพราะบริษัทของ Frankie Wang ที่กำลังปิดตัวลง บริษัทวงศ์ระวีได้ถือหุ้นอยู่ด้วยครึ่งหนึ่ง
“Remember. I never do anything wrong! จำไว้ด้วยฉันไม่เคยทำอะไรผิด”
“ผมจะ จำให้ขึ้นใจ ... คุณมุกวารี เป็นคนที่ไม่เคยผิดพลาด” เขากระแนะกระแหนสาวมั่นอย่างเธอ
“ฉันอยู่ฮ่องกง ทำงานหนักมาก ไม่เหมือนคนที่นี่ I’ m not like people here!!!” เธอหันหน้าฉะกลับชายหนุ่ม ยักไหล่ไม่แคร์อีกด้วย
สิระจ้องหน้าเธอ...และคิดในใจว่า สาวฮ่องกงคนนี้ต้องตกแต่งตัวเลขให้ขาดทุน จนงบดุลตัวเลขกลายเป็นติดลบอย่างเหลือเชื่อ
“ตัวเลขในบัญชีที่ผู้ช่วยของผมในลอนดอนบอกว่า มันถูกบิดเบือนเกินความจริงในบางรายการ”
“for example, please ยกตัวอย่างมาให้ด้วย อย่ากล่าวหาลอยๆ …” เธอหันหน้าไปปะทะสายตา
“ผมขีดเส้นใต้ในเอกสารทั้งหมดแล้ว... please recheck กรุณาตรวจสอบ พรุ่งนี้เชิญมาพบผมส่วนตัว” เขาคงไม่อยากให้คนอื่นๆ ในที่ประชุมรับรู้
“ผมขออีเมล์คุณด้วย... จะส่งเอกสารที่ mark ไว้ทั้งหมดให้” เขาขอนัดเวลาเธอไปทางอีเมล์
“Huh… What’ s that serious? อะไรกันนักหนา ฮะ” มุกวารีเริ่มฉุน
มนวรากับแชรี่เห็นว่าไม่มีอะไรจะหารืออีกต่อไป จึงปล่อยสิระจัดการกับมุกวารีเอง เท่าที่สังเกตเห็นการทำงานของชายหนุ่ม มนวรากระหยิ่มอยู่ในใจว่า มุกวารีไม่รอดแน่นอนจากตัวเลขบัญชีที่ผิดพลาด
“I don’ t want you to lose face… ผมไม่อยากให้คุณเสียหน้า เลยขอคุยกันสองคนน่าจะเหมาะสม”
“ทำไม... ตัวเลขบัญชีฉันตรวจสอบดูแล้วนะ จะมีอะไรนักหนา ก่อนคุณพ่อเสียชีวิต งบดุลปีก่อนก็ขาดทุน ฉันไม่เห็นว่าจะมีกำไรเลย”
“ผมไม่อยากกล่าวหา.. คุณทำพลาด ไม่ละเอียด ทำงานหยาบ” ชายหนุ่มเน้นคำพูดแต่ละคำ ทำหญิงสาวโกรธหน้าแดง
“No one ever blames me like you…very bad guy!!! ไม่เคยมีใครตำหนิฉันเหมือนคุณ ...แย่มาก” ด้วยนิสัยของหญิงสาวที่เติบโตในต่างประเทศ เธอจึงพูดตรงแรง และทุบโต๊ะเสียงดัง
“...คุณจะยังดื้อรั้น... …. Bull head” คำนี้ทำให้มุกวารีหมดความอดทน เพราะมันแปลว่า งี่เง่ารั้นดันทุรัง เธอโกรธจนต้องยกกำปั้นไปดุนปากชายหนุ่ม
สิระจับแขนเธอออกยื้อยุดกันอยู่สักพัก จนเธอโกรธผรุสวาทออกมา
“Bullshit... สะตอ...เป็นเหมือนกันนะ ผู้ชายอย่างคุณ”
“ด่าผมขนาดนี้เลย!!!...” ชายหนุ่มขึ้นเสียง
“Yes or no?!!… หรือไม่ใช่ล่ะ” ตอนนี้เธอโกรธจนอยากชกหน้าเขาให้ลงไปกองกับพื้น
“อย่างนี้ไม่สวยแน่... Don’ t think I’ m always polite… อย่าคิดว่าผมจะผู้ดีตลอด ผมชั่วเป็นเหมือนกัน” ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ มุกวารีโยนเอกสารทั้งหมดลงบนพื้นกระจาย
เพลิงแห่งอารมณ์โกรธของคนทั้งคู่ ทำให้เสียงดังลอดออกไปจากห้องประชุม พนักงานด้านนอกตกใจต้องรีบวิ่งเข้ามาดู แต่แล้วสิระยกมือห้ามเข้ามา
“ผมขอสั่ง...ให้คุณไปตรวจสอบเอกสารให้เรียบร้อย พรุ่งนี้มาพบผมที่นี่อีกครั้ง”
เขาพูดเสร็จรีบเดินออกจากห้องไปทันที ไม่อยากเสียอารมณ์กับเธอไปทั้งวัน
มุกวารีเดินออกจากห้องประชุม น้ำตาซึมขอบตา เธอไม่เคยเจอใครแรงกับเธอขนาดนี้ เรื่องตัวเลขงบดุลคงเป็นปัญหาใหญ่สำหรับบริษัทของตระกูลวงศ์ระวี
ภพธารา อาของสิระ ได้กลายเป็นพ่อเลี้ยงคนใหม่ของเธอ ซึ่งมุกวารีเรียกเขาว่า ‘คุณอา’ คงสั่งให้เขามาจับผิดเธอ
... ... ... ...
สาวน้อยเดินใจลอยออกมา กดลิฟท์ลงมายังชั้นล่าง ออกประตูหน้าบริษัทไปเรียกแท็กซี่ ให้ไปส่งที่ยิมชกมวย วันนี้ขอชกปากนายคนนี้ให้ฉ่ำหน่อย... เธอฉีกยิ้มขณะเช็ดน้ำตา ในใจคิดเลยไปถึงกระสอบทรายที่ยิม...
ระหว่างทางในรถแท็กซี่ ใจก็ยังหวนนึกไปถึงค่ำวันวาน มื้อแรกที่เธอลงจากเครื่องบินมาร่วมโต๊ะกินข้าวในบ้านหลังใหม่...
“มน...ผมว่างบดุลมันมีอะไรหมกเม็ดอยู่นะ” เขาเอ่ยกับภรรยาคนใหม่แล้วหันมาจ้องตาของมุกวารี
“ค่ะ... มนจะให้มุกกลับไปเช็คดูอีกครั้ง บริษัทบัญชีที่โน่นอาจได้ข้อมูลไม่ตรง”
มนวราหันไปซบอกชายวัยหกสิบกว่า รูปหน้าเหลี่ยมเหี้ยมดุดัน ยิ้มยาก มองมายังมุกวารี ราวกับมีอะไรลึกลับซ่อนอยู่ในใจ
“ไม่ต้องห่วง ผมให้สิระจัดการ พรุ่งนี้จะนัดประชุม หนูมุกเตรียมตัวล่ะ” เขาสั่งเธอสั้นๆ แล้วลุกขึ้นยืน โอบเอวมนวราเดินออกจากห้องกินข้าวขึ้นบันไดไปยังห้องนอนชั้นบน
“You’ ll get chewed out!!! แชรี่...ว่า มุกโดนด่าแหลกแน่ๆ” น้องสาวตัวดีของเธอหันหน้ามาสำทับอีก แต่ไหนแต่ไรนางไม่เคยเป็นพวกกับมุกวารีเลย ทำตัวเป็นนางร้ายคอยยุแหย่ให้พ่อกับแม่ตำหนิว่ากล่าวเธอมาตลอด อย่างกับตัวอิจฉา ‘เฉินตูหลง’
“Brush your teeth… อย่าลืม... ไปแปรงฟันซะ...เธอ!!!”
มุกวารีทิ้งท้ายด้วยคำพูดเจ็บแสบ ก่อนเดินออกจากโต๊ะกินข้าว หมดอารมณ์กับครอบครัวนี้ที่หลงเหลือแม่กับน้องสาว ทั้งสองคนชอบทำตัวเป็นศัตรูกับเธอตลอด แม้ว่ามนวราพอจะเข้าข้างเธออยู่บ้าง ด้วยเกรงใจ Frankie Wang พ่อที่รักและเอาใจใส่มุกวารีเป็นอย่างดี
“คิดถึง Papa ป๊ะป๊าที่สุด มัมมี๊มีผัวใหม่ ไม่เหมือนแต่ก่อนแล้ว”
สาวน้อยรำพันถึงพ่อที่เพิ่งจากไปยังไม่ถึงเดือน เธอคิดว่ามัมมี๊เปลี่ยนไปเพราะมีสามีคนใหม่นั่นเอง
... ... ... ...
สาวน้อยลงจากแท็กซี่เปิดประตูโรงยิมชกมวยเล็กๆ ที่เธอสั่งซื้อคอร์สออนไลน์มาจากแดนไกล วันนี้เพิ่งเหยียบเข้ามาครั้งแรก
มุกวารีเดินออกจากห้องเปลี่ยนชุดด้านในที่จัดเตรียมไว้ให้ในล็อกเกอร์ เป็นยิมที่เพิ่งเปิดได้ไม่นาน การตกแต่งใหม่เอี่ยมลุคดูเก๋ไก๋ มี gimmick เล็กๆ ตามมุมไว้บริการ เธอเดินไปหยิบนวมเล็กๆ ที่วางไว้สำหรับแถมหากมาใช้บริการจนครบ 10 ครั้งภายในหนึ่งเดือน เป็นอะไรที่ช่วยกระตุ้นหัวใจอยากออกกำลังกาย
“คุณมาชกมวยเหมือนกัน???!!!” เสียงคุ้นๆ อยู่ด้านหลัง เธอหันหน้ากลับมาเกือบกระแทกปากนายคนเมื่อเช้าในที่ประชุม
“แล้วนายล่ะ...มาที่นี่เหมือนกัน???”
“อืมม... What a surprise! แปลกใจล่ะสิ!!!” เสียงยั่วยุของเขา ยังเป็นคนนั้น นายหน้าหล่อปากดี... carping ... ปากหมาดีนะ เธอคิดอยู่ในใจ
“Oh…oh… โอ๊ะ โอ... โอย Absolutely not!!!” มุกวารีพูดไทยปนอังกฤษไป ยังไงเขาก็รู้เรื่องเพราะเพิ่งมาจากอังกฤษ ได้ยินเมื่อเช้า...น่าหมั่นไส้ จะให้ผู้ช่วยที่ลอนดอนตรวจสอบข้อมูลของเธอ
“ฉันอยากซ้อมกระสอบทราย ชกปากคนนิดๆ หน่อยๆ ... hit someone’ s mouth!!!” เธอเอ่ยลอยๆ แล้วเดินเลี่ยงไปจัดการกระสอบทราย ตรงด้านซ้ายของพื้นที่ซึ่งจัดไว้ให้คนที่เพิ่งเริ่มต้น
ครึ่งชั่วโมง...เธอพอได้เหงื่อชุ่มเสื้อทรงชั้นในและเลกกิ้งออกกำลังกาย ขณะกำลังจะเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องน้ำด้านใน เขาเดินเข้ามา stop เธอตรงทางเข้าทันที
“ไปรถผม... เย็นนี้คุณอานัดทานข้าวที่บ้าน” เขามองจ้องตาเธอหยั่งเชิง
“No…no… ฉันมีธุระก่อน” เธอตอบเลี่ยงๆ
“ไม่เป็นไร ผมไปส่ง...รอรับกลับ good chauffeur หาไม่ได้ง่ายๆ”
“but bad mouth แต่ปากเสียก็หาไม่ได้สินะ” เธอทำเขาสตั้นไปพักหนึ่งไม่รู้จะต่อคำยังไง
แล้วเขาทิ้งท้ายด้วย...วลีเด็ด พร้อมเสียงเยาะเบาๆ
“I learn this kind of your words by heart!!! ผมเรียนรู้คำแบบนี้จากคุณ”
“จะจำไว้ให้ขึ้นใจ...เลย อะฮ่า ฮ่า!!!”
❣️❣️
พระเอกเบาๆ หน่อยนะ นางเอกเราโผงผาง แถมรั้นด้วย … จะโดนหมัดแย็บสวนกลับง่ายๆ นะ ขอเตือน
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 160
แสดงความคิดเห็น