แนวทางการพิจารณาแบรนด์แฟรนไชส์ก่อนลงทุนธุรกิจ เล็ก ๆ

เชื่อว่าหลายคนที่อ่านบทความชิ้นนี้อาจจะกำลังมองหาการลงทุนธุรกิจ เล็ก ๆ เพื่อจุดประสงค์ในการสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับตนเอง แต่รู้สึกกังวลว่าเราจะเลือกแบรนด์แฟรนไชส์สำหรับการลงทุนธุรกิจอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ไม่ให้ถูกหลอกจากมิจฉาชีพ วันนี้เราจึงมีสาระน่ารู้เกี่ยวกับการพิจารณาแบรนด์แฟรนไชส์ ก่อนตัดสินใจเลือกธุรกิจนั้น ๆ มาฝากกัน ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกสินค้าหรือบริการที่เราสนใจ ถ้าพร้อมแล้ว ไปติดตามรายละเอียดกันได้เลย

- ศึกษาประวัติของแฟรนไชส์

แฟรนไชส์แต่ละประเภทย่อมมีประวัติการลงทุนธุรกิจที่ยาวนาน ล้มเหลวหรือประสบความสำเร็จที่แตกต่างกัน ซึ่งในฐานะผู้สนใจมีธุรกิจเป็นของตนเองควรศึกษาประวัติต่าง ๆ ว่าที่ผ่านมาความสำเร็จและยอดขายกำไรสำหรับการลงทุนธุรกิจ แฟรนไชส์ของแบรนด์นั้น ๆ เป็นอย่างไรบ้าง เพื่อให้เราประเมินถึงความน่าสนใจเบื้องต้นของธุรกิจดังกล่าว และจะได้รู้ว่าเจ้าของแบรนด์มีแนวทางในการรับมือกับวิกฤตในแต่ละช่วงอย่างไรบ้าง

- สำรวจกลุ่มเป้าหมาย

เราควรประเมินกลุ่มเป้าหมายหรือลูกค้าก่อนลงทุนธุรกิจ แฟรนไชส์ที่ให้ความสนใจ ว่ามีโอกาสเติบโตหรือขายได้กำไรมากน้อยแค่ไหน เพื่อให้เรารู้สึกมั่นใจเบื้องต้นว่าธุรกิจของเราจะมีลูกค้าเข้ามาซื้อและใช้บริการอย่างต่อเนื่อง รวมถึงไม่หลุดกระแสแม้จะมีสินค้าหรือบริการใหม่ ๆ เข้ามาเป็นทางเลือกในตลาดอนาคตอันใกล้ ดังนั้น เจ้าของกิจการควรทราบรายละเอียดของกลุ่มเป้าหมายก่อนลงทุนธุรกิจ แฟรนไชส์ ว่าเป็นไปตามสิ่งที่เราคาดหวังหรือไม่

ในทางกลับกันหากธุรกิจดังกล่าวมีกลุ่มเป้าหมายที่ไม่ชัดเจน สามารถขายได้เฉพาะบางช่วงเวลา สินค้าที่นำมาตุนไว้มีโอกาสเน่าเสียเร็วกว่าปกติ การลงทุนธุรกิจนั้นก็มีแนวโน้มไม่ประสบความสำเร็จ ซบเซา และเกิดช่วงเวลาจมทุนได้ในท้ายที่สุด

- มีเงินทุนสำรองเพียงพอ

ผู้ที่ต้องการมีธุรกิจเป็นของตนเองต้องตระหนักถึงเรื่องการมีเงินทุนสำรองเพียงพอ ตัวอย่างเช่น การลงทุนธุรกิจ ซักผ้า เป็นแฟรนไชส์ที่ต้องใช้เวลาจนกว่าจะประสบความสำเร็จ ซึ่งอาจนาน 6 เดือน หรือ 1 ปีกว่าจะเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ และเริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้า ดังนั้น การมีเงินทุนสำรองสำหรับธุรกิจแฟรนไชส์ของเราจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในการประคองค่าใช้จ่ายต่าง ๆ สำหรับช่วงเริ่มต้นของการดำเนินกิจการ

- มีการศึกษาคู่แข่งอยู่เสมอ

เราควรศึกษารายละเอียดธุรกิจแฟรนไชส์ของคู่แข่งอยู่ตลอดเวลา แม้การลงทุนธุรกิจที่เราเลือกจะประสบความสำเร็จมาอย่างยาวนานก็ตาม เนื่องจากคู่แข่งในสายใกล้เคียงก็ต้องการดึงดูดลูกค้าจากเราไปเช่นเดียวกัน ดังนั้น การรู้จุดอ่อนจุดแข็งของแต่ละแบรนด์แฟรนไชส์ที่เป็นคู่แข่งของเรา จะทำให้สินค้าและบริการเกิดการพัฒนาอยู่เสมอ และลูกค้าก็อยากที่จะหันไปใช้บริการจากแบรนด์อื่นด้วยเช่นกัน 

สรุป

แนวทางการพิจารณาแบรนด์แฟรนไชส์ก่อนลงทุนธุรกิจ เล็ก ๆ ตามข้อมูลข้างต้น ผู้สนใจสามารถนำไปปรับใช้กับแบรนด์แฟรนไชส์ต่าง ๆ ที่ต้องการลงทุนธุรกิจได้ทันที ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่สำคัญคืออย่าลืมเปรียบเทียบแบรนด์ประเภทเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้เลือกลงทุนกับธุรกิจให้เหมาะสมกับงบลงทุน และความต้องการของเราให้มากที่สุด