บทที่ 10...1/3
สายตาของจอมขวัญล็อคเป้าไปแล้ว แต่ถ้าปรี่เข้าไปหาปรานต์ตอนนี้เธอคงโมโหแน่ๆ จึงไปหยิบน้ำผลไม้ที่เทใส่แก้ววางไว้ เธอหยิบมาดื่ม แต่กลับถูกมองหน้าไม่ใช่ว่าเธอหยิบแก้วที่มีคนเล็งไว้แล้วหรอกนะ เธอส่งแก้วเหมือนจะคืนให้ แต่ผู้หญิงคนนั้นบอกว่าไม่เป็นไร แล้วหยิบน้ำผลไม้จากแก้วอีกใบก่อนจะเดินไป เธอเองก็ดื่มน้ำผลไม้ไปจนหมดแก้วแล้วจึงเดินไปหาปรานต์ เพื่อบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่ปกติไม่เจือความโกรธอย่างที่ตั้งใจไว้
“ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณค่ะ”
“ตอนนี้ผมยังไม่ว่าง” ปรานต์กำลังคุยกับหัวหน้าคนงานทั้งหมด แต่ชายหนุ่มเห็นแก่ที่จอมขวัญทำเพื่อแม่จึงคิดว่าคืนนี้จะพานั่งเรือไปดูวิวที่เขามักไปคนเดียวสักหน่อย “เอาอย่างนี้ เดี๋ยวผมจะไปขับเรือเล่น คุณไปรอที่เรือก่อนแล้วกัน ลำที่ 4 จากซ้ายมือ เดี๋ยวผมจะตามไป”
จอมขวัญถอนใจลึกๆ พยายามไม่โมโหออกไป “ได้ค่ะ ถ้าคุณไม่มา ไม่ว่าคุณอยู่ไหน ฉันจะตามไปคุยกับคุณ”
ปรานต์ขมวดคิ้วแปลกใจเพราะสีหน้าจอมขวัญดูเหมือนโกรธใครมา เธอเป็นอะไร ทำไมทำหน้าอย่างกับอยากหักคอใครสักคน ไม่สิ น่าจะคอของเขานี่ล่ะ แต่ว่าเขาไปทำอะไรให้เธออยากทำแบบนั้นเมื่อไหร่กัน ชายหนุ่มดื่มน้ำผลไม้ที่ใครสักคนเพิ่งวางใส่ถาดไว้พอดี แต่หันมาอีกทีถาดกลับถูกเก็บไปแล้ว พร้อมกับแก้วน้ำผลไม้ที่เขาเพิ่งดื่มไปไม่กี่อึก เขาไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร พอผ่านไปสัก 10 นาทีและหมดเรื่องคุยแล้ว ปรานต์จึงขอตัวออกมาจากวงสนทนา โดยมีสายตาของใครบางคนมองตาม
ปรานต์เดินมาเรื่อยๆ แม้จะรู้สึกว่ามีคนตามเขามา แต่ว่าจากสัญชาตญาณของเขารู้สึกได้ว่าไม่ได้อันตรายอะไร เอาไว้กลับจากไปขับเรือเล่น เขาจะไปตรวจดูจากกล้องวงจรปิดว่าใครที่ตามเขา แล้วพอมองไปที่เรือเขาเห็นจอมขวัญกำลังยืนรอเขาอยู่ เรียวปากหนายิ้มกว้าง
“มารออยู่จริงๆ ด้วย เรื่องสำคัญอะไรของเค้ากัน”
จอมขวัญเห็นปรานต์แล้วจึงเตรียมคำพูดไว้รอ พอเขาเดินขึ้นมาบนเรือก็ไม่รอช้า ถ้ารีบคุยให้เสร็จเรื่อง เขาจะได้ออกเรือ เธอจะได้กลับไปนอน
“เรื่องที่คุณ...”
ปรานต์มองไปข้างหลังจึงเห็นว่ามีใครบางคนยังตามเขามาอยู่ เขายกมือห้ามจอมขวัญ แล้วรีบพูดว่า
“เดี๋ยวก่อนนะ ถ้าไม่รีบออกเรือตอนนี้ เราสองคนคงไม่สงบสุขในการดูวิวสักเท่าไหร่”
ชายหนุ่มจัดการถอนสมอทันที ก่อนจะสตาร์ทเครื่องยนต์อยู่หลายครั้งกว่าจะได้ แล้วพาเรือออกมาจากท่า เพียงเท่านี้คนที่ตามเขาก็ทำอะไรไม่ได้ ปรานต์เห็นจอมขวัญที่มองเขาหน้าตาตื่น คิดว่าเขาออกเรือจะพาไปทิ้งกลางทะเลหรือยังไงถึงได้ทำหน้าแบบนั้น
ปรานต์ขับเรือไปเรื่อยๆ จนกระทั่งจัดการให้เรือแล่นไปตามที่หมายโดยอัตโนมัติแล้วจะกลับเข้ามาด้านในเพราะรู้สึกร้อนวูบๆ เหมือนจะเป็นไข้ แต่ตัวเขากลับเย็น บางทีหากได้ดื่มอะไรสักหน่อยคงทำให้เขาดีขึ้นบ้างกระมัง
ชายหนุ่มเดินไปยังห้องเล็กๆ ที่แบ่งไว้เป็นโซนห้องครัวซึ่งอยู่ด้านล่างของเรือเพื่อที่จะเปิดตู้เย็นแล้วหยิบน้ำดื่มมา เขาหยิบน้ำมาเผื่อจอมขวัญอีกขวดแล้วเดินขึ้นมาตรงโซนที่นั่งด้านในซึ่งกั้นกระจกไว้เพื่อใช้สำหรับชมวิว โดยที่ไม่ต้องเอาหน้าไปตีกับลมด้านนอก
ทว่าสภาพของจอมขวัญที่ปรานต์เห็นกลับทำให้แปลกใจ เธอกำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนที่โซฟา หายใจแรงเหมือนกับเพิ่งไปวิ่งมา ใบหน้าของเธอมีเหงื่อพราว ชายหนุ่มวางขวดน้ำ แล้วยกมือมาจับไหล่บางให้นั่งดีๆ พลางนั่งลงข้างๆ เว้นระยะห่างพอสมควร แล้วถามด้วยความเป็นห่วง
“คุณเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมเหงื่อออกแบบนั้น”
“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ มันร้อนวูบๆ มึนๆ” จอมขวัญตอบพร้อมกับถอดเสื้อเชิ้ตที่ใส่ทับเสื้อกล้ามด้านในออก “ไม่ไหวแล้ว ร้อนมากๆ”
ปรานต์เริ่มรู้สึกไม่ชอบมาพากลรีบใส่เสื้อเชิ้ตกลับไปให้จอมขวัญพร้อมกับอุ้มร่างของหญิงสาวขึ้น แล้วเดินเร็วๆ ไปยังห้องที่แบ่งไว้เป็นห้องนอน เขาเปิดประตูแล้วเดินเข้าไป ก่อนจะวางร่างโงนเงนนั่งลงบนเตียง
“คุณอยู่ในห้องนี้ก่อนนะ แล้วอย่าออกมาเด็ดขาด”
จอมขวัญพยักหน้า แต่กลับเปลี่ยนมาส่ายหน้าพร้อมกับจับข้อมือของปรานต์ไว้ เธอจำได้นะว่ามารอเขาด้วยเรื่องอะไร ทำไมเขาจะชิ่งหนีไปแบบนั้นล่ะ
“แต่ฉันมีเรื่องสำคัญต้องคุยกับคุณ”
ปรานต์ปลดมือของจอมขวัญออก แล้วจับให้เธอนอนลงนิ่ง ก่อนจะห่มผ้าให้ แม้ว่าเธอจะปัดผ้าห่มออก
“มีเรื่องอะไรก็เอาไว้ก่อน ผมจะรีบขับเรือกลับเข้าฝั่ง”
จอมขวัญจะเถียงว่าไม่ได้ ปรานต์ก็ออกไปจากห้องแล้ว ทว่าเธอเองกลับรู้สึกมึนๆ แต่มีความสุขทั้งที่ไม่รู้ว่ามีความสุขจากเรื่องอะไร ริมฝีปากบางยิ้มด้วยความไม่เข้าใจตัวเองนัก เธอร้องเพลงเบาๆ ราวกับเห็นดาวพร่างพรายเต็มท้องฟ้า แต่ก็ร้อนจนต้องถอดเสื้อเชิ้ตตัวเดิมออกอยู่ดี ทำไมที่นี่ถึงร้อนอบอ้าวจนเธออยากไปอาบน้ำแช่ตัวแบบนี้ก็ไม่รู้
ปรานต์เดินมาห้องเครื่องเพื่อกดถอนสมอ แล้วจะพาจอมขวัญกลับเข้าฝั่ง แต่เขากลับพบว่าน้ำมันในลำเรือหายไปจนเหลือแทบจะก้นถัง มันเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเขาสั่งให้คนดูแลเติมน้ำมันให้เต็มถังเอาไว้ตลอด อีกทั้งตอนนี้น้ำมันกำลังลดลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเครื่องดับไปภายในนาทีเดียว เขาพยายามติดต่อกับยามฝั่ง แต่ก็ติดต่อไม่ได้ เพราะฉะนั้นการโทรหาใครสักคนให้มาพาเราสองคนกลับฝั่งน่าจะเป็นทางออกเดียว
ชายหนุ่มเดินกลับมาที่ห้องรับรองภายในเรือชั้นบนเพื่อหาโทรศัพท์ที่เขาจำได้ว่าวางมันไว้บริเวณนี้ ทว่าตัวเขาเองกลับรู้สึกร้อนและมีเหงื่อซึมออกมาจากหน้าผาก ทั้งๆ ที่อากาศในตอนนี้กำลังเย็นสบายมีลมพัดโชยน่าสดชื่น มีบางอย่างผิดปกติในตัวเขา
“วางยา...!”
ปรานต์คิดว่ามีเพียงคำตอบเดียว ตอนนี้เขามีอาการคล้ายๆ กับจอมขวัญ แต่เราสองคนไม่ได้ดื่มอะไรบนเรือสักอย่าง ภายในงานเลี้ยงเขากับเธอนั่งกันคนละโต๊ะ เขาโดนวางยาอะไร แล้วไปโดนตอนไหน ชายหนุ่มควานหาปืนที่ซ่อนไว้ในเรือเพราะไม่แน่ใจเลยว่าจะมีใครเข้ามาบุกยิงบนเรือหรือส่องมาจากระยะไกลบ้างหรือเปล่า เขาระแวดระวังพลางหาโทรศัพท์ของตัวเองไปด้วย เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าวางบนนี้หรือว่าใส่ในกระเป๋าเสื้อ ถ้าเป็นอย่างนั้นการที่มันจะร่วงตกน้ำอาจเป็นไปได้ ซ้ำร้ายตอนนี้ฝนกำลังตกปรอยๆ เขาหวังว่าจะไม่กลายเป็นฝนที่ตกหนัก
“คุณออกมาจากห้องทำไม กลับเข้าไป”
ปรานต์รีบเดินไปดันหลังให้จอมขวัญที่ถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออกจนเหลือแต่เสื้อกล้ามให้กลับเข้าไปในห้อง เธอกลับดันมือเขาออกทำสีหน้าไม่พอใจ นี่ไม่ใช่จอมขวัญเวอร์ชั่นปกติที่เขารู้จัก เธอเองก็น่ะจะถูกวางยาเช่นกัน
“จะออกไปดูท้องฟ้า อยากดูวิว ทำไมพื้นมันโคลงเคลงจัง” จอมขวัญจะเดินออกไปด้านนอกที่หน้าเรือ
ปรานต์เข้าไปประคอง แล้วพาหญิงสาวเดินกลับเข้ามาด้านใน แม้เจ้าตัวจะยื้อตัวไว้ แล้วมองเขาเหมือนถูกขัดใจ แถมยังถอนใจยาวใส่เสียด้วย
“คุณเมาเหรอ ผมไม่เห็นว่าคุณดื่มเหล้าสักหน่อย”
จอมขวัญกอดปรานต์แล้วยิ้มกว้างทุกอย่างที่เธอเห็นดูฟรุ้งฟริ้งไปหมด น่าแปลกที่ผู้ชายคนนี้หน้าเหมือนใครสักคนที่เธอรู้จัก เธอจำได้ว่าเค้าคนนั้นดุมาก เธอกอดแขนเขาไว้พลางสูดกลิ่นที่หอมเหมือนกุหลาบ ทำให้เธอยิ้มหวานออกมาทันที
“ฝันอยู่แน่ๆ เลย เหมือนพระเอกหนังชะมัด คุณเป็นใคร ทำไมหน้าคุ้นๆ กลิ่นหอมจัง”
ปรานต์ยืนนิ่งไม่ขยับเพราะรู้แล้วว่าอะไรก็ตามที่จอมขวัญทำอยู่ไม่ใช่ตัวเธอ อีกทั้งตัวเขาเองก็ต้องพยายามประคองสติที่กระพร่องกระแพร่งของตัวเองไว้ แม้ว่าในทุกการกอด การขยับแก้มมาแขบแขนของเขาจากความไม่รู้ตัวของจอมขวัญจะทำให้เขาจิตใจเตลิดเปิดเปิงไปแล้วก็ตาม เขารวบแขนและมือของเธอ แล้วพยายามดันเธอออกห่างจากตัวให้มากที่สุด ตอนนี้เขาก็ไม่รู้ว่าจะฝืนความต้องการในร่างกายของตัวเองได้ถึงเมื่อไหร่ ทางที่ดีเขากับจอมขวัญควรอยู่ห่างกันไว้ดีที่สุด
“อย่าทำแบบนี้ ผมคิดว่าตัวเองถูกวางยาอาจทำบางอย่างที่คุณจะมาเสียใจได้ บางทีคุณอาจถูกวางยาเหมือนกัน ไม่งั้นไม่มากอดผมหรอก”
จอมขวัญรู้สึกเหมือนกับว่าสมองตัวเองถูกแช่งแข็งไว้ จนทำให้ฟังคำพูดของปรานต์แล้วต้องใช้เวลาคิดอยู่เป็นวินาทีกว่าจะเข้าใจว่าเขากำลังบอกอะไร เรียวคิ้วของหญิงสาวขมวด แล้วมองปรานต์เขม็ง
“เราถูกวางยาทั้งคู่งั้นเหรอ คุณไม่ได้วางยาฉันใช่ไหม” จอมขวัญถามไปแล้วก็หัวเราะ เธอไม่เข้าใจว่าตลกอะไรเหมือนกัน
“แล้วผมจะทำแบบนั้นทำไม” ปรานต์ส่ายหน้า แต่รู้สึกได้ว่าตัวเองวูบๆวาบๆ ไปตามผิวกายทุกสัมผัสจากมือเย็นๆ ของจอมขวัญ
จอมขวัญเม้มปากอย่างที่ไม่มีวันทำกับปรานต์ หากว่าไม่ตกอยู่ในฤทธิ์ยาที่เธอไม่รู้ว่ามันคืออะไร ปรานต์ยิ้มขำหน้าบึ้งๆ เรียวปากที่เป็นสีมชมพูน่ามองเสียจริง
ชายหนุ่มสะบัดใบหน้า เขาจะคิดแบบนี้ไม่ได้!
ทั้งปรานต์ทั้งจอมขวัญจะหยุดตัวเองได้ไหม ถ้าอยากรู้คำตอบไวๆ ไป MEB จ้า
ซ้อนกลรักเจ้าสาวมาเฟีย วางจำหน่ายใน MEB แล้วหมวด นิยายโรมานซ์ (มันจะโรมานต์ในบทที่ 10 ค่ะ เลยต้องมาอยู่หมวดนี้ ไม่แน่ใจว่าลงฉากนั้นเต็มๆ ในแต่ละเว็บจะถูกแบนไหม) โบว์ทำโปรโมชั่นราคาหนังสือเต็มๆ 329 เหลือ 149 เป็นเวลา 21 วันค่ะ โบว์จะลงให้อ่านถึงบทที่ 15 นะคะ แล้วจะหยุดอัพนิยาย
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 127
แสดงความคิดเห็น