บทที่ 8...1/3
สัปดาห์หน้าจะมีงานเปิดตัวแบรนด์เครื่องประดับไข่มุกจากฟาร์มมินธรา ทำให้วันนี้ปรานต์กับนพดลได้นัดกันไว้แล้วว่าจะให้ทางไทยสารส่งนักข่าวมาถ่ายงานต่างๆไว้และนางแบบที่จะมาเป็นแบบใส่เครื่องประดับด้วย โดยเลื่อนจากช่วงบ่ายเป็นช่วงเช้าแทน ซึ่งการเตรียมการนี้จะเป็นความลับเพราะจะเห็นพร้อมกันกับแขกในงานวันเปิดตัว
ชานนจึงสั่งประชาสัมพันธ์ไว้ว่าถ้าจอมขวัญมาถึงแล้วให้พาเข้ามาที่ห้องรับรอง แล้วเขาจะเป็นคนพาเธอไปโชว์รูมด้านในและพาไปสตูดิโอที่นางแบบคนสำคัญกับช่างภาพคงใกล้เริ่มงานแล้ว ทินต้องอยู่ในการประชุมกับปรานต์ในฐานะเลขา ส่วนชานนมาช่วยดูแลนักข่าวจากไทยสารในฐานะผู้ช่วยเลขา
แต่ชานนกลับแปลกใจที่กลายเป็นมินตรา แทนที่จะเป็นจอมขวัญ แต่เขาคิดว่าปรานต์กับนพดลคงคุยกันแล้วเรื่องการเปลี่ยนนักข่าว ปรานต์คงไม่อยากใกล้ชิดกับจอมขวัญกระมัง แล้วทำให้คฑามีความหวังว่าจะได้ลูกสะใภ้
ทว่าแล้วสายตาประหลาดใจของปรานต์ที่เดินมาเพื่อตรวจงานในโชว์รูมยามมองนักข่าวจากไทยสารก็ทำให้ชานนประหลาดใจยิ่งกว่า ปรานต์ไม่น่าจะรู้เรื่องการเปลี่ยนตัวนักข่าวกระมัง
“สวัสดีค่ะคุณปรานต์” มินตรายกมือไหว้ แล้วยิ้มให้ปรานต์ด้วยความดีใจที่พบกับเขา
ปรานต์ยิ้มให้มินตรา ทว่าในใจกลับเดือดปุดๆ “สวัสดีครับคุณมินตรา ทำไมเป็นคุณมินตราที่มาล่ะครับ จอมขวัญส่งคุณมาก่อนหรือครับ”
“เปล่าหรอกค่ะ พี่จอมขอให้มินมาทำข่าววันนี้แทนน่ะค่ะ คุณปรานต์สะดวกพาไปเยี่ยมชมการทำงานไหมคะ”
“เหตุผลที่จอมขวัญไม่มาคืออะไรหรือครับ” ถ้าสมเหตุสมผล ปรานต์จะปล่อยผ่านเพราะทุกคนมีบางเรื่องที่จำเป็นมากกว่าได้เสมอ
“มินก็ไม่ทราบค่ะ”
ปรานต์พยักหน้า คราวนี้เขาคงมองจอมขวัญผิดไป เธอแยกเรื่องงานกับเรื่องส่วนตัวไม่ได้ เขาไม่ชอบเหตุการณ์แบบนี้เสียด้วย
“เห็นทีผมคงต้องไปเยี่ยมสำนักงานไทยสารของคุณมินตราสักหน่อย ไปด้วยกันไหมครับ”
มินตราหน้าเหวอทันที ปรานต์จะไปสำนักงานของเธอทำไม เธอทำงานบกพร่องงั้นหรือ
“แล้วเรื่องงานล่ะคะ”
“ขอโทษนะครับ ไม่ใช่ว่าคุณมินตราไม่เก่งหรือไม่ดี” ปรานต์รู้ดีว่าไม่ใช่ความผิดของมินตราเลย แต่เขายอมให้ผ่านเลยไปแบบนี้ไม่ได้ “ผมไม่ชอบให้เปลี่ยนนักข่าวระหว่างทางแบบนี้ บางอย่างในธุรกิจของผมเป็นความลับเกินกว่าจะให้บุคคลภายนอกรู้มากกว่าหนึ่งคน”
มินตราฟังแล้วก็พอจะเข้าใจได้ แต่เธอก็เสียใจอยู่มาก ทั้งที่จะได้ใกล้ชิดกับเขาอยู่แล้ว ซึ่งเธอจะดึงดันคงไม่ได้
“ถ้างั้นมินขอกลับด้วยนะคะ”
ปรานต์สั่งให้การถ่ายแบบยังดำเนินต่อไป ชานนอมยิ้มเพราะปกติแล้วปรานต์ไม่ค่อยโมโหอะไรง่ายๆ การที่จอมขวัญไม่มาในวันนี้โดยที่ไม่มีเหตุผลรองรับ ทำให้ยอมไม่ได้ แล้วทำไมปรานต์ถึงยอมไม่ได้ นอกจากเรื่องความลับของธุรกิจแล้ว มีเหตุผลอื่นอีกไหมนะ ชานนได้แต่ขับรถพาปรานต์กับมินตรากลับไปที่สำนักงานไทยสาร เขาเองก็อยากรู้ว่าจอมขวัญทำแบบนี้ทำไม
ปรานต์มาถึงสำนักงานไทยสารตอนเที่ยงกว่าๆ จอมขวัญเพิ่งเดินทางมาถึงเช่นกัน ชายหนุ่มสังเกตว่าสีหน้าของเธอเหมือนคนเหนื่อยและเพลียมาก เธอขอให้มินตราไปทำงานแทน แต่เธอไปที่ไหนทำไมถึงยอมผิดนัดทั้งๆ ที่นพดลเป็นคนที่เลือกให้มาทำข่าวนี้ หากว่าไม่สะดวกเพราะการเลื่อนเวลาให้เร็วขึ้น จอมขวัญก็น่าจะบอกกันไม่ใช่หรือ เธอมีความเป็นมืออาชีพอย่างที่นพดลบอกไว้จริงๆ หรือเปล่า
มินตรากลับมาที่โต๊ะของตัวเอง ก่อนหน้านี้เธอส่งข้อความบอกจอมขวัญแล้ว แต่สีหน้าเคร่งเครียดของนพดลทำให้เธอไม่สบายใจ นักข่าวในไทยสารวานให้ช่วยงานกันเองบ่อยๆ เพราะบางครั้งติดเรื่องส่วนตัวบางอย่าง แต่ไม่อยากให้งานที่นัดไว้เสียไป แต่คราวนี้ดูท่าจะเป็นเรื่องใหญ่เสียแล้ว
“มีอะไรกันน่ะมิน ทำไมกลับสำนักงานมาพร้อมกับคุณปรานต์ แล้วยัยจอมก็ถูกเรียกเข้าห้องพี่ดลไปอีก” มาวินถาม แม้จะเป็นคู่แข่งในเรื่องงาน แต่บางอย่างก็ขออยากรู้สักหน่อย
“มินก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน รู้แต่ว่าคุณปรานต์ไม่ยอมให้เปลี่ยนนักข่าว” มินตราจงใจบอกเพราะจริงๆ แล้วมาวินก็อยากไปทำข่าวของปรานต์เหมือนกัน แต่นพดลไม่ได้เลือก
มาวินมองไปที่ห้องทำงานของนพดล ดูเหมือนปรานต์จะไม่พอใจอย่างมาก แต่จอมขวัญไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ทำไมคราวนี้ถึงทำ หาเรื่องไม่ทำข่าวนี้หรือเปล่า หากเป็นอย่างนั้นคงเข้าทางเขาพอดี
นพดลได้สอบถามจอมขวัญถึงสาเหตุที่เธอทำแบบนั้นในวันนี้ ก่อนที่ปรานต์จะเดินทางมาถึง ความที่รู้จักกับรุ่นน้องคนนี้มาตั้งแต่ที่เธอเรียนปีหนึ่ง ทำให้บางเรื่องจอมขวัญก็มักจะยอมเล่าให้ฟัง รวมทั้งครั้งนี้ด้วย แต่มันคงเป็นเหตุผลที่เขาบอกคนนอกไม่ได้ แต่หากปรานต์ไม่พอใจแล้วขอเปลี่ยนนักข่าวหรือขอยกเลิกทุกอย่างที่ได้คุยกันไว้ เขาก็จะเข้าใจไม่มีเงื่อนไขทันที
จอมขวัญนั่งรอฟังว่าปรานต์จะตัดสินใจอย่างไรและพร้อมขอโทษ แม้จะโมโหเขาที่ทำเหมือนแกล้งในคราวก่อนจนคิดว่าจะขอเปลี่ยนตัวนักข่าว แต่มันเป็นแค่ความรู้สึกในตอนนั้น เธอไม่เอาอารมณ์มาเหนือเหตุผลจนกระทบกับงานแบบนี้แน่นอน
“ผมไม่อยากจะเอาแต่ใจหรอกนะครับ แต่จอมขวัญน่าจะเข้าใจว่าธุรกิจของผมมีการแข่งขันที่สูง สิ่งที่ผมให้เข้าเยี่ยมชมเป็นความลับของธุรกิจที่ยอมให้ออกไปเผยแพร่ก่อนการเปิดตัวแบรนด์มินธราไม่ได้” ปรานต์ไม่ได้โกรธจอมขวัญ แต่เขาไม่ชอบใจในเรื่องที่เขาเข้มงวด
“ผมขอโทษแทนจอมด้วยนะครับ เรื่องในครั้งนี้ทางผมเอง ถ้าคุณปรานต์ต้องการเปลี่ยนนักข่าวหรือยกเลิก...”
“ผมไม่ได้มาเพื่อขอยกเลิกหรือเปลี่ยนนักข่าวครับ” ปรานต์พูดแทรกขึ้นเสียก่อนที่นพดลจะพูดจบ “บางเรื่องผมก็ต้องการความแน่ใจ ขอแค่ความลับทางธุรกิจของผมยังคงเป็นความลับจนกว่าจะถึงวันเปิดตัว”
“ฉันขอโทษสำหรับเรื่องในวันนี้ด้วยค่ะ” จอมขวัญยกมือไหว้จากใจจริง เธอไม่ได้มีอีโก้สูงส่งจนไม่รู้ว่าตัวเองผิดอะไร “แต่เรื่องที่คุณกังวลคงไม่เกิดขึ้นหรอกนะคะ มินมีจรรณยาบรรณของนักข่าวค่ะคุณปรานต์”
“ผมขอให้เลือกนักข่าวแค่คนเดียว ทำโปรเจคนี้จนจบ เป็นการตัดสินใจของคุณนพดลครับ ผมมั่นใจในการทำข่าวของพวกคุณ จึงเลือกที่นี่” ปรานต์มีทางเลือกอีกมากมาย แต่เหตุผลเดียวที่เขาเลือกไทยสารเพราะมั่นใจว่าที่นี่ดีที่สุดแล้ว
นพดลเข้าใจในเหตุผลเพราะเรื่องงาน ไม่ใช่เรื่องไม่พอใจส่วนตัว
“จอมทำมาตั้งแต่แรก เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา ผมจะไม่เปลี่ยนนักข่าว จอมคิดเห็นยังไง”
“ได้ค่ะ จอมจะไม่ทำให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก”
เห็นหน้าซีดๆ ของจอมขวัญแล้ว ปรานต์เลยไม่อยากจะพูดอะไรให้เธอรู้สึกไม่สบายใจอีก แม้จะสงสัยว่าเพราะอะไรเธอถึงทำแบบนี้ มีเรื่องบางอย่างที่สำคัญกว่าไปตามนัดหมายของงานอย่างนั้นหรือ
“ถ้างั้นก็ตกลงตามนี้ ถ้าวันนี้คุณไม่ว่างก็ไม่เป็นไร พรุ่งนี้ผมจะส่งรถมารับ”
จอมขวัญสบตากับปรานต์ เธอไม่ได้โกรธเคืองเขาในเรื่องนี้ มันเป็นสิ่งที่เธอต้องรับผิดชอบ การที่เขาไม่ยกเลิกทุกอย่างเป็นสิ่งที่น่าขอบคุณมากกว่าสิ่งใด
“ได้ค่ะ แต่ว่าฉันไปเองน่าจะสะดวกกว่า ขอบคุณนะคะ”
ปรานต์พยักหน้าแล้วเอ่ยปากขอตัวกับนพดลที่เดินตามไปส่งที่หน้าสำนักงาน การสนทนาที่ใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์จึงจบลงด้วยดี จอมขวัญเดินตามนพดลเข้าไปในห้องทำงานเพราะรู้ว่ามีบางเรื่องที่พูดต่อหน้าคนอื่นไม่ได้ เธอเองก็รู้ดีถึงเหตุผลนั้น
“ช่วยๆ กันหน่อยนะจอม ถ้ามีปัญหากับคุณปรานต์ ค่าโฆษณาที่ตกลงกันไว้กับคุณปรานต์คงเหลวแน่ๆ เลย ตอนนี้เศรษฐกิจไม่ค่อยดี” นพดลวางเรื่องงานมาก่อน แต่เรื่องส่วนตัวที่จอมขวัญจำเป็น เขาเองก็เข้าใจ “ปัญหาเรื่องนั้น ถ้ามีอะไรให้พี่ช่วย จอมบอกพี่ได้เลยนะ”
หากไม่จำเป็นจอมขวัญไม่มีทางผิดนัด แต่เมื่อชั่งใจแล้ว เธอเห็นว่านัดในวันนี้ของเธอสำคัญมากกว่า จึงส่งงานต่อให้รุ่นน้องชั่วคราวเพราะไม่ทันคิดว่าจะเป็นปัญหา บทเรียนในเรื่องนี้สอนเธอได้มากจริงๆ
“ค่ะ พี่ดล จอมขอโทษนะคะที่ทำให้เกิดความยุ่งยากขึ้น”
“ไม่เป็นไรหรอก พี่มีเรื่องอื่นๆ ให้ปวดหัวทุกวันนั่นแหละ แค่นี้เล็กน้อยมาก”
จอมขวัญฟังแล้วยิ่งรู้สึกว่าคิดไม่ผิดที่มาทำงานกับนพดล เขาเป็นรุ่นพี่ที่ไปบรรยายที่มหา’ลัย ตอนนั้นเธอเรียนอยู่ปีหนึ่ง แต่เขามาติดต่อให้ไปทำงานด้วยตอนใกล้จะจบปีสี่ เธอจะหาเจ้านายที่เข้าใจลูกน้องขนาดนี้ได้จากที่ไหน เขาเป็นที่ปรึกษาให้เธอได้ รวมทั้งปัญหาในครอบครัวของพนักงานในบริษัท
มินตราขยับเข้ามาถามจอมขวัญเพราะไม่อยากให้มีเรื่องอะไรแล้วทำให้งานถูกยกเลิก พอจอมขวัญบอกว่าทุกอย่างเรียบร้อยดี มินตราก็ค่อยเบาใจ มีแต่มาวินที่คอยเงี่ยหูฟังนั่นล่ะที่คงผิดหวัง จอมขวัญหันไปเห็นพอดีเลยได้แต่ส่ายหน้า มาวินจะเป็นคู่แข่งกับเธอทุกเรื่องหรือไง
จอมขวัญหายไปไหนมา ทำไมถึงยอมผิดนัดนะ เรื่องนั้นต้องสำคัญมากๆ
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 115
แสดงความคิดเห็น