บทที่ 7...1/3
จอมขวัญวางกระเป๋าเป้ที่สะพายใส่หลังมาตั้งแต่แรก ซึ่งนอกจากมีสิ่งที่ต้องใช้สำหรับทำงานแล้ว ยังมีเสื้อผ้าสำหรับค้างคืนที่มักมีติดกระเป๋าไว้เสมอเผื่อมาทำงานต่างจังหวัด แต่ว่าคราวนี้เธอไม่ได้ตั้งใจจะค้างคืน อย่างน้อยมันก็ยังมีประโยชน์ตรงที่เธอไม่ต้องซักแห้งในคืนนี้ หญิงสาววางเสื้อผ้าไว้ที่ปลายเตียงก่อนควานหาโทรศัพท์เพื่อโทรหาลลิตา การกลับบ้านช้าเป็นเรื่องปกติของเธอ แต่หากไม่กลับบ้านอย่างไรก็ต้องโทรบอกให้แม่คลายความห่วง
รอเพียงครู่เดียวลลิตาก็รับสาย จอมขวัญบอกเหตุผลที่ยังไม่กลับบ้าน
“แม่ไม่ต้องเป็นห่วงจอมหรอกนะ พอดีคุณปรานต์ป่วยนิดหน่อย จอมก็เลยเกรงใจไม่อยากรบกวนพาไปส่งที่บ้าน เอาไว้พรุ่งนี้เช้าจอมจะรีบกลับบ้านนะคะ”
“จ้า แต่ถ้าคุณปรานต์...” แม้ลลิตาจะรู้จักคฑาดี แต่กับปรานต์ นางเป็นฝ่ายรู้จักเขาผ่านการบอกเล่าของคฑา “ ดูแลตัวเองนะลูก จำไว้นะว่าเป็นผู้หญิงอย่างทำตัวให้คนอื่นว่าเอาได้ แต่ถ้ามีอะไร วิชาป้องกันตัวที่แม่ส่งไปเรียนก็เอาออกมาใช้ให้หมด”
จอมขวัญหัวเราะให้แม่สบายใจ แม้ความทรงจำในอดีตจะทำให้เธอรู้สึกกลัวขึ้นมา เพราะเหตุการณ์ในตอนนั้นแม่ถึงได้ส่งเธอไปเรียนทั้งมวยไทย ทั้งเทควันโด อะไรก็ตามที่สามารถทำให้เธอปกป้องตัวเองได้ แม่ส่งเธอไปเรียนจนมั่นใจว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นจะไม่มีใครรังแกเธอได้อีก เช่น คนเมาในซอยบ้านเก่า
“แหม แม่ไม่กลัวจอมจะไปทำมิดีมิร้ายคุณปรานต์บ้างหรือไงคะ”
ลลิตาหัวเราะตามลูกสาว “เซี้ยวจริงๆ ยัยจอม ไปอาบน้ำแล้วนอนได้แล้ว ล็อคห้องให้เรียบร้อยนะลูก”
“ค่ะแม่ ฝันดีนะคะ”
จอมขวัญกดวางสายแล้วหยิบเสื้อผ้าที่วางไว้ไปเข้าห้องน้ำ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะออกมาแล้วเลื่อนเก้าอี้มาไว้ที่ประตูห้อง หากใครเข้ามาโดยที่เธอไม่ได้อนุญาต เก้าอี้ตัวนี้จะล้มให้เธอได้ยินเสียง แม้จะคิดว่าปรานต์คงไม่ทำแบบนั้น แต่เธอต้องดูแลตัวเองให้ดี การที่เขาบังคับให้เธออยู่ที่นี่ นอกจากเรื่องความปลอดภัยและการเอาแต่ใจแล้วยังมีจุดประสงค์อื่นอีกไหม เธอไม่รู้ แต่เธอต้องปกป้องตัวเองให้ได้ก่อน
ความแปลกที่แน่ๆ ถึงทำให้จอมขวัญนอนไม่หลับ ทั้งๆ ที่วันนี้มีหลายอย่างเกิดขึ้นและมีหลายอย่างที่เธอได้ทำ แต่ทำไมเธอถึงไม่เหนื่อยจนหลับไปเหมือนกับทุกที หญิงสาวขยับลุกขึ้นนั่งพลางมองหา จำไม่ได้ว่าตัวเองมีน้ำในกระเป๋าบ้างไหม พอลองหาดูก็ไม่มีจริงๆ หากออกจากห้องไปเพื่อหาน้ำมาดื่มสักแก้วจะอันตรายเกินไปไหมนะ พอคิดว่าจะทนหิวน้ำคอแห้งไปถึงเช้า การออกไปหาน้ำดื่มสักแก้วคงไม่อันตรายเท่าไหร่หรอก...มั้ง
ภายนอกห้องค่อนข้างเงียบ ทางเดินจากหน้าห้องเพื่อลงไปที่บันไดสว่างทำให้พออุ่นใจได้ว่าจะไม่เจอทั้งผีและคนง่ายๆ แต่หากมองออกไปภายนอกกระจก เธอเห็นชายชุดดำเฝ้าตามจุดต่างๆ
นี่มันดงมาเฟียชัดๆ !!!
คืนนี้เธอจะหลับตาลงได้ยังไง หากเฝ้ากันอย่างแข่งขันขนาดนี้ ปรานต์มีศัตรูรอบทิศทางคงไม่เกินจริง หญิงสาวเข้ามาในครัวรีบดื่มน้ำ แล้วหยิบน้ำมาขวดหนึ่งด้วยเผื่อไว้ก่อน
จอมขวัญพยายามเดินลงที่ปลายเท้าให้เงียบที่สุด ช่วงเวลาดึกๆ แบบนี้การไม่พบใครหรืออะไรคงเป็นเรื่องดีที่สุด แต่ตรงระเบียงที่เธอต้องเดินผ่านกลับมีร่างสูงที่เธอไม่ได้อยากเจอยืนอยู่ตรงนั้น เธอเดินกลับไปข้างล่างก่อนดีไหมนะ แต่คงไม่ทันแล้วเพราะเขาหันมาพอดี เราสองคนคงทำเป็นว่าไม่เห็นกันคงไม่ได้กระมัง
“เอ่อ ฉันไม่รู้ว่าคุณอยู่ตรงนี้ ขอโทษด้วยค่ะ”
เพียงเสียงเปิดประตูของห้องข้างกันก็ทำให้ปรานต์ที่หลับไปเมื่อตอนหัวค่ำลืมตาตื่นได้ทันที เขาชินแล้วกับการที่รู้สึกเพียงได้ยินเสียงแม้จะเบา เขาออกมาจากห้องเพื่อคลายความสงสัยว่าทำไมจอมขวัญออกมาจากห้องในเวลาเที่ยงคืน ตอนนี้เขาได้คำตอบแล้ว มันอยู่ในมือของเธอนั่นเอง
“น่าแปลกนะ ก่อนหน้าที่ผมจะรู้ว่ามีคุณอยู่ในโลก เราแทบไม่เคยได้พบกันเลย แต่พอได้พบกันแล้วก็มีเรื่องราวต่างๆ ตามมาเหมือนกับโชคชะตา แต่ว่าผมรู้ดีเกินกว่าจะคิดว่าเป็นอย่างนั้น”
จอมขวัญมั่นใจแล้วว่าไม่ได้คิดไปเองแน่ๆ ว่าปรานต์ตีรวนเธอมาหลายครั้งแล้ว แต่เมื่อคิดถึงเหตุผลที่เขาทำแบบนั้น เธอกลับไม่รู้เลยว่าทำไม
“คุณปรานต์ต้องการจะบอกอะไรฉันหรือคะ”
“บางทีผมก็สงสัยนะว่าคุณไม่รู้หรือว่าแกล้งไม่รู้กันแน่” ปรานต์เดินเข้าไปใกล้ร่างเพรียวที่จับขวดในมือเอาไว้แน่น สายตาของเธอมองเขาไม่กะพริบ
ทว่าในวินาทีนั้นเองปรานต์กลับดึงปืนออกมาจากซองหนังที่สีข้างของเขาแล้วส่องปลายกระบอกปืนซึ่งมีที่ซับเสียงมาที่เธอ!
ปรานต์จะฆ่าเธองั้นหรือ?!?
จอมขวัญรู้ว่าจะสู้กับคนมือเปล่าอย่างไร แต่ไม่เคยฝึกว่าต้องสู้กับคนมีปืนแบบไหน หญิงสาวตะลึงค้าง แต่ยังมีสติพอจะก้าวถอยหลัง แต่ปรานต์กลับเข้ามาใกล้ แล้วคว้าข้อมือเธอไว้
“คุณจะทำอะไร จะฆ่ากันง่ายๆ แบบนี้เหรอ”
ปรานต์ไม่ตอบที่ปาก แต่นิ้วของเขากำลังสับไกของปืนลง เขาจะยิงเธอใช่ไหม? จอมขวัญสะบัดมือของปรานต์ออกพร้อมๆ กับเสียงปืนดังขึ้น ขวดน้ำหล่นลงพื้น
คลิกๆๆ
เธอถูกยิงแล้วใช่ไหม?
จอมขวัญไม่แน่ใจเพราะรู้สึกชาไปทั่วร่าง หายใจติดขัด พอจะก้มลงมองตัวเองก็ราวกับศีรษะหนักจนไม่อาจประคองได้ จนกระทั่งล้มลงเสมือนแขนขาไม่มีแรง เธอกำลังเลือดไหลออกมาจากบาดแผลที่ถูกยิง 3 นัดใช่ไหม อีกไม่นานเธอจะตายหรือเปล่า เธอจะจากไปแบบนี้โดยที่ไม่มีโอกาสได้สู้เลยหรือ แม่จะรู้ไหมว่าเธอตายอยู่ที่นี่ ทำไมเขาต้องฆ่าเธออด้วย อย่าหลับเชียวนะ อย่าหลับ...อย่าหลับ
ปรานต์ประคองกอดก่อนจะอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของจอมขวัญขึ้นมากระหวัดไว้แนบอกพลางเดินไปที่ห้องของหญิงสาวพร้อมกับตะโกนไปด้วย
“คุณพยาบาล นน ใครก็ได้มาที่นี่เร็วๆ เข้า”
ป่านนี้คนของเขาที่ด้านล่างคงสกัดจับคนขี่มอเตอร์ไซค์ที่ยิงเข้ามา ปลายกระสุนเฉียดแก้มเขาไปนิดเดียวเท่านั้น ดีเท่าไหร่แล้วที่กระสุนไม่เจาะหลังของจอมขวัญไปเสียก่อน เขาแค่ยิงสวนกลับไปให้คนร้ายหนีได้ยากขึ้นเท่านั้น แต่ทำไมจอมขวัญมองเขาอย่างกับเป็นฆาตกรโรคจิตอย่างไรอย่างนั้น
“คุณปรานต์ไม่เป็นอะไรใช่ไหม การ์ดตามรถมอเตอร์ไซค์ไปแล้วครับ คนร้ายน่าจะบาดเจ็บไม่น่าไปได้ไกล แล้วคุณจอมขวัญเป็นอะไรครับนั่น”
เรื่องคนร้ายเอาไว้ก่อนถ้าจับตัวได้ค่อยเค้นถาม ตอนนี้ปรานต์เป็นห่วงว่าที่เจ้าสาวที่ไม่รู้สึกตัวของเขามากกว่า เธอช็อกเพราะเห็นปืนในมือเขางั้นหรือ
“จอมขวัญเป็นลมหรืออะไรฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”
“แล้วทำไมคุณจอมขวัญถึงเป็นลมล่ะครับ”
ชานนช่วยเลิกผ้าห่มบนที่นอนในห้องพักแขกออก ร่างของจอมขวัญถูกปรานต์ค่อยๆ ทอดวางลงอย่างเบามืออ่อนโยน
“คงคิดว่าฉันจะยิงใส่ละมั้ง ฉันดูเป็นคนโหดเหี้ยมแบบนั้นเลยหรือนน” ปรานต์นั่งลงข้างเตียงพลางมองไปที่ประตูเพราะได้ยินเสียงเดิน “คุณพยาบาลมาพอดี ช่วยทีครับจอมขวัญคงตกใจจนเป็นลม ต้องไปโรงพยาบาลไหม”
“เดี๋ยวฉันขอปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนนะคะ”
ปรานต์ขยับออกมาเพื่อให้พยาบาลได้ช่วยจอมขวัญ พยาบาลใช้สำลีชุบแอมโมเนียมาอังที่จมูกของจอมขวัญและวัดชีพจรไปด้วย ชานนเห็นว่าตรงนี้เขาอยู่ก็ไม่น่าจะช่วยอะไรได้จึงขอตัวไปตามเรื่องคนร้ายก่อน
ปรานต์พยักหน้าให้ชานนเป็นเชิงรับรู้ว่าอีกฝ่ายจะไปจัดการเรื่องคนร้าย ชายหนุ่มมองใบหน้าซีดเผือดที่เปลือกตาปิดสนิทของจอมขวัญ เขาไม่ได้ตั้งใจให้เธอตกใจจนกลัว ตอนนั้นมันจวนตัวหากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างคนร้ายคงมีโอกาสยิงซ้ำ แน่นอนว่าเป้าหมายนั้นคือเขา แต่เธอยืนเยื้องกับร่างของเขาอยู่ โอกาสที่เธอจะถูกยิงมีมาก ทำให้เขาต้องยิงตอบโต้ไปแบบนั้น
จอมขวัญใจเย็น ปรานต์มันปากหนัก แต่ไม่ไม่ใช่คนโหดขนาดนั้น
ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านนะคะ
อัมราน_บรรพตี
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 157
แสดงความคิดเห็น