สมัคร Adsense ยังไงให้เว็บไซต์ผ่าน ต้องมีบทความกี่บทความ มีเคล็ดลับมาฝาก

เมื่อเรามีเว็บไซต์เป็นของตัวเองแล้ว สิ่งที่เจ้าของเว็บหลายคนนึกถึงก็คือ จะทำยังไงให้เว็บไซต์ของเรามีรายได้ หากเป็นเว็บขายสินค้า แน่นอนว่าเราก็ควรจะเน้นไปที่ตัวสินค้าบนเว็บไซต์ของเรา แต่สำหรับเว็บไซต์จำนวนมาก เนื้อหาส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อหาประเภทข่าว บทความ หรือเว็บบล็อกทั่วไป ดังนั้นช่องทางการหารายได้ที่หลายคนนึกถึงก็คงเป็นการติดโฆษณาบนเว็บไซต์

ซึ่งผู้ให้บริการติดโฆษณาบนเว็บไซต์มีหลายเจ้าพอสมควร แต่เจ้าที่ได้รับความนิยมมากที่สุดก็คือ Google Adsense เนื่องจากมีระบบการจัดการที่ดี ได้รับความนิยมจากผู้ลงโฆษณาจำนวนมาก รวมถึงเป็นผู้ให้บริการวางโฆษณาบนหน้าเว็บยอดนิยมที่เจ้าของเว็บไซต์ส่วนใหญ่เลือกใช้บริการ

ปัญหาก็คือ การที่เจ้าของเว็บไซต์จะสมัครบริการของ Adsense ไม่ใช่ว่าพอมีเว็บไซต์แล้วจะสมัครผ่านได้เลย เพราะแม้ว่าเราจะส่งเว็บไซต์ให้ทาง Adsense ตรวจสอบไปแล้ว ก็มีโอกาสที่ทางนั้นเขาจะปฏิเสธไม่ยอมรับเว็บไซต์เราได้เช่นเดียวกัน ด้วยสาเหตุดังกล่าว จึงมักมีเจ้าของเว็บไซต์จำนวนมากสงสัยว่า แล้วจะต้องทำยังไง ถึงจะสมัคร Adsense ผ่าน เว็บไซต์ที่ยื่นคำขอไปจะต้องมีบทความเท่าไหร่กันแน่ ทาง Adsense ถึงจะยอมอนุมัติ

ทุกครั้งที่มีคนตั้งคถามทำนองนี้ คำตอบที่ได้รับมักจะแตกต่างกันออกไป บางคนก็ว่าเว็บไซต์จะต้องมีบทความอย่างน้อย 50 บทความขึ้นไป บางคนก็ว่า แค่มีบทความ 20 กว่าบทความก็ผ่านแล้ว เล่นเอาใครหลายคนงงตาแตกไปเลย ว่าสุดท้ายแล้วมันยังไงกันแน่

จริงๆ แล้วการที่ Adsense จะอนุมัติให้เว็บไซต์เราผ่านหรือไม่ ไม่ได้วัดกันแค่ว่าเว็บไซต์นั้นๆ มีบทความอยู่เท่าไหร่กันแน่ แต่ทาง Adsense จะให้ความสำคัญไปที่คุณภาพเว็บไซต์ของเรา ว่าเว็บไซต์ของเรามีคุณภาพตรงตามเกณฑ์ของ Adsense หรือเปล่า

สิ่งที่เว็บไซต์ของเราควรมีก่อนจะส่งเว็บไซต์ให้ Adsense พิจารณามีดังนี้

1. เว็บไซต์ของเราควรจะมีเนื้อหาที่ได้คุณภาพ

คุณภาพที่ว่านี้ก็คือ บทความของเราควรจะเป็นบทความที่เขียนขึ้นมาแบบสดใหม่ ไม่ไปก๊อบปี้ใครเขามา และปริมาณของเนื้อหาข้างในบทความ ไม่ควรจะน้อยจนเกินไป รายละเอียดของบทความจะต้องละเอียด จับใจความได้ ยิ่งมีเนื้อหาดีเท่าไหร่ โอกาสจะผ่านก็ยิ่งสูง

2. เว็บไซต์ของเราจะต้องมีหน้ารายละเอียดที่เกี่ยวกับตัวเว็บไซต์ที่ชัดเจน

หน้ารายละเอียดที่ว่านั่นก็คือ หน้า Homepage หรือหน้าแรกเว็บไซต์, หน้าเกี่ยวกับเรา, หน้านโยบายความเป็นส่วนตัว, หน้าเงื่อนไขการใช้งาน, หน้าข้อมูลติดต่อ เป็นต้น

หากสงสัยว่าหน้าที่เอ่ยไปควรจะใส่รายละเอียดอะไรบ้าง แนะนำให้ไปดูตามเว็บต่างๆ แล้วลองสังเกตดูได้เลยครับ เว็บส่วนใหญ่มีเหมือนกันแทบทุกเว็บ

ถ้าเราไม่มีหน้ารายละเอียดตรงนี้ แม้ว่าเราจะมีบทความเยอะแค่ไหน โอกาสที่ Adsense จะไม่ยอมให้ผ่านก็มีสูงมากครับ เพราะทาง Adsense เขาจะมองว่าเว็บเราเป็นเว็บเถื่อนและไม่ได้มาตรฐานนั่นเอง

3. จำนวนบทความ

แม้ว่าเราจะทำตาม 2 ข้อแรกได้ครบ แต่มีจำนวนบทความในเว็บไซต์เยอะ ก็ย่อมเพิ่มโอกาสให้กับเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น เพราะหากมีแต่รายละเอียดเว็บไซต์ บทความคุณภาพก็มีแค่ไม่ถึง 5 บทความ ทาง Adsense ก็อาจมองว่าเว็บเรายังมีเนื้อหาน้อยและไม่ยอมให้ผ่านก็ได้ ดังนั้นถ้าให้แนะนำ ก่อนที่จะส่งคำขอ Adsense เราควรจะมีบทความคุณภาพอยู่ในเว็บของเราอย่างน้อย 20 บทความขึ้นไป

เมื่อทำตามคำแนะนำในบทความไปแล้ว รับรองว่าโอกาสที่เว็บไซต์จะได้รับการอนุมัติจาก Adsense จะมีสูงแน่นอน

สรุป

โปรดอย่าลืมว่า ถึงแม้เราจะสมัคร Adsense ผ่านแล้ว แต่สิ่งที่จะทำให้เราเกิดรายได้ก็คือคนคลิกชมโฆษณา หรือคนที่เขามองเห็นโฆษณาบนเว็บไซต์ของเรา ดังนั้นเนื้อหาที่มีคุณภาพ ย่อมเรียกจำนวนคนเข้าชมเว็บได้มากกว่าเนื้อหาที่ขอไปทีอย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เนื้อหาที่ดีมีคุณภาพ ยังจะส่งผลดีในหลายด้าน อาทิเรื่องการติดอันดับผลการค้นหา (SEO) ในหน้าแรกๆ ของบริการเสิร์ชเอนจินต่างๆ อีกด้วย