ตอนที่ 602 รหัสลับเซราฟิม
ตอนที่ 602 รหัสลับเซราฟิม
ณ แผนกวิจัยพันธุกรรมบริษัทควอนตัมภายในภูมิภาคดาวเหวทมิฬ
แม้ว่าเซี่ยเฟยจะไล่ตามความฝันเข้าไปในดินแดนของผู้ใช้กฎที่คนธรรมดาไม่สามารถก้าวเท้าเข้าไปได้ แต่การพัฒนาของบริษัทควอนตัมก็ไม่ได้หยุดลงเนื่องมาจากการจากไปของผู้ก่อตั้งอย่างเซี่ยเฟย
ในระหว่างการก่อตั้งบริษัทเซี่ยเฟยได้ใช้เวลาหลายปีในการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพและเขาสามารถให้ความไว้วางใจได้ โดยในขณะที่ชายหนุ่มกำลังก้าวหน้าในดินแดนของผู้ใช้กฎอย่างรวดเร็ว บริษัทควอนตัมก็กำลังเติบโตได้ดีในเขตของพันธมิตรเช่นเดียวกัน
ชาร์ลี, พอตเตอร์และซาร่าคือ 3 บุคลากรหลักที่คอยนำบริษัทอยู่ในขณะนี้ โดยซาร่ามีหน้าที่รับผิดชอบด้านการขนส่งและกองกำลังรักษาความปลอดภัย พอตเตอร์มีหน้าที่รับผิดชอบทางด้านการพัฒนาเทคโนโลยีและมีอำนาจเต็มที่ในการเจรจา ส่วนชาร์ลีรับผิดชอบหน้าที่ดูแลทางด้านการเงิน, การค้า, การทูตและคอยประสานงานเชื่อมบริษัทจากทั้งสามภูมิภาคเข้าด้วยกัน
นอกจากนี้บริษัทยังมีอันเดร์และฉินหมางเป็นผู้อาวุโสคอยให้คำปรึกษาที่ดีอยู่ตลอดเวลา แล้วมันยังมีพนักงานระดับสูงอีกเป็นจำนวนนับไม่ถ้วนที่คอยดูแลรับผิดชอบด้านอื่น ๆ ของบริษัท
ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดที่ได้กล่าวมานี้เองมันจึงทำให้บริษัทควอนตัม ซึ่งครั้งหนึ่งเป็นองค์กรเล็ก ๆ บนดาวโลกเติบโตขึ้นมากลายเป็นองค์กรชั้นนำของพันธมิตร ที่ไม่มีประชากรคนใดในพันธมิตรสามารถดูถูกพนักงานจากบริษัทแห่งนี้ได้อีกต่อไป
นอกจากนี้เซี่ยเฟยกับแอวริลยังมีความสัมพันธ์ที่โด่งดังไปทั่วทั้งพันธมิตรในระหว่างช่วงสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์ มันจึงทำให้บริษัทควอนตัมและบริษัทสตาร์ลิงได้กลายเป็นพันธมิตรที่คอยช่วยเหลือกันอย่างใกล้ชิดเสมอมา ซึ่งทุกคนก็รู้ดีว่าด้วยความสำพันธ์ระหว่างชายหญิงคู่นี้ มันก็จะเป็นเพียงแค่เรื่องของเวลาก่อนที่บริษัทควอนตัมและบริษัทสตาร์ลิงจะถูกรวมเข้าด้วยกัน
ยิ่งไปกว่านั้นเซี่ยเฟยยังมีกองทัพหุ่นยนต์ซุกซ่อนเอาไว้ภายในดินแดนลับที่กำลังเร่งสร้างสุดยอดยานไททันให้กับเขาตลอดเวลา ซึ่งเรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในไพ่ตายใบสำคัญที่ชายหนุ่มจะเก็บเอาไว้ใช้ในช่วงระยะเวลาที่สำคัญที่สุดในชีวิตของเขาเท่านั้น เพราะถ้าหากว่าเขาตัดสินใจผิดพลาดไปมันก็อาจจะนำมาซึ่งหายนะให้กับเขาได้เช่นกัน
ฟิ้ว
ยานอวกาศค่อย ๆ ลงจอดก่อนที่ชาร์ลีจะเดินลงมาเพื่อสูดอากาศของภูมิภาคดาวเหวทมิฬ
ภาพที่ปรากฏตรงหน้าแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่าพอตเตอร์ได้เปลี่ยนแปลงเรื่องต่าง ๆ ภายในภูมิภาคดาวเหวทมิฬไปแล้วหลายอย่าง แต่น่าเสียดายที่งานของเขายุ่งมากเกินไป เขาจึงไม่ค่อยได้มีเวลาชื่นชมความเจริญก้าวหน้าของภูมิภาคดาวแห่งนี้เลย
เซี่ยเฟยได้มอบหมายงานชิ้นสำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งให้กับชาร์ลี แล้วมันก็ถือว่าเป็นงานที่จำเป็นจะต้องรับรองความปลอดภัยให้ได้มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของควอนตัม นั่นก็เพราะงานชิ้นนั้นคือการพัฒนาน้ำยาปรับสภาพยีนที่มีเอาไว้สำหรับแอวริล ชายหนุ่มจึงจำเป็นจะต้องเดินทางมายังภูมิภาคดาวอันห่างไกลแห่งนี้ด้วยตัวเอง เพื่อมาติดตามการพัฒนาน้ำยาปรับสภาพยีนที่นำโดยหัวหน้านักวิจัยอย่างแฮร์ริส
“ว่าไงชาร์ลี?”
“สวัสดีครับลุงพอตเตอร์”
คนที่ออกมาทักทายชาร์ลีมีเพียงแค่พอตเตอร์เท่านั้น เพราะเนื่องจากความสำคัญของโปรเจคลับ คนที่รู้เรื่องโปรเจคน้ำยาปรับสภาพยีนของแอวริลจึงมีเพียงแค่ชาร์ลี, พอตเตอร์และแฮร์ริสเท่านั้น
“ฉันไม่ได้เจอนายมา 2-3 ปีแล้วสินะ นายดูโตขึ้นกว่าเดิมเยอะเลย ว่าแต่การเดินทางครั้งนี้ราบรื่นดีไหม?” พอตเตอร์เดินเข้าไปตบไหล่ชาร์ลีพร้อมกับกล่าวขึ้นมาด้วยรอยยิ้ม
“ตอนนี้ชื่อเสียงกองยานของเราโด่งดังไปทั่วทุกที่แล้วครับ มันจึงทำให้การเดินทางปลอดภัยกว่าช่วงหลายปีก่อนมาก เท่าที่ผมได้รู้ข่าวมาเส้นทางระหว่างพันธมิตรกับภูมิภาคดาวเหวทมิฬมันก็แทบที่จะไม่เหลือพวกโจรสลัดให้เห็นอีกต่อไปแล้ว” ชาร์ลีกล่าว
“พวกโจรสลัดงั้นเหรอ? พวกนั้นกลายเป็นอดีตไปตั้งนานแล้ว ตลอด 2-3 ปีที่ผ่านมาพวกย่าเหวยกับสามพี่น้องตระกูลหลิงนำกองยานออกไปปราบปรามโจรสลัดตลอด จนไม่มีใครกล้ามาสร้างปัญหาให้กับพวกเราแล้ว” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
ระหว่างนั้นทั้งสองก็เดินเข้าไปภายในศูนย์วิจัยพันธุกรรม ซึ่งพวกเขาก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องระบบรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดของศูนย์วิจัยแห่งนี้
“พนักงานทุกคนในศูนย์วิจัยต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นชาวโลกทั้งหมด ซึ่งทุกคนที่รู้เรื่องงานวิจัยต่างก็ไม่สามารถที่จะออกไปจากศูนย์วิจัยแห่งนี้ได้” พอตเตอร์กล่าว
“ความลับเรื่องนี้สำคัญมาก ถ้าหากว่ามันมีข้อผิดพลาดขึ้นมาพวกเราก็คงจะไปสู้หน้าพี่เซี่ยเฟยไม่ได้” ชาร์ลีกล่าว
“ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยช่วยเหลือพวกเรามามากแล้ว คำขอร้องของเขาจึงเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเราก็จะปล่อยให้เรื่องนี้ผิดพลาดไม่ได้เป็นอันขาด” พอตเตอร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
ในที่สุดทั้งคู่ก็ลงลิฟต์ไปจนถึงชั้นใต้ดินชั้นที่ 7 ก่อนจะต้องเดินผ่านจุดตรวจความปลอดภัยมากกว่า 10 จุด ซึ่งในที่สุดพวกเขาก็เดินทางมาจนถึงห้องวิจัยหลัก
แฮร์ริสกำลังรอพวกเขาอยู่ในห้องวิจัยอยู่แล้ว แล้วเนื่องมาจากหัวข้อการวิจัยในครั้งนี้มันจึงทำให้ผมเผ้าของแฮร์ริสยุ่งเหยิงราวกับรังนก และปัจจุบันเขาก็กำลังแทะเล็บนิ้วโป้งราวกับว่าเขากำลังครุ่นคิดถึงเรื่องอะไรบางอย่าง
หลังจากทักทายกันสั้น ๆ แฮร์ริสก็เปิดหน้าจอขึ้นมา ก่อนที่เขาจะเริ่มอธิบายอย่างจริงจัง
“นี่คือตัวยาที่มีรหัสลับว่าเซราฟิม หรือก็คือน้ำยาปรับสภาพยีนที่ค่อย ๆ ปล่อยสารเร่งปฏิกิริยาออกมาอย่างช้า ๆ”
พอตเตอร์กับชาร์ลีจ้องมองไปยังขวดที่บรรจุของเหลวใส ๆ ภายในภาพ แต่พวกเขาก็ยังไม่เข้าใจรายละเอียดในเรื่องนี้อยู่ดี
“คุณแน่ใจนะว่าน้ำยาขวดนี้มีคุณสมบัติตรงตามที่เซี่ยเฟยได้ระบุเอาไว้ทั้งหมด?” พอตเตอร์กล่าว
“เซราฟิมคือน้ำยาปรับสภาพยีนที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างดี จากสูตรน้ำยาปรับสภาพยีนทั้งหมด 4,179 สูตรที่ฉันกับเซี่ยเฟยช่วยกันคิดค้นขึ้นมา หรือมันอาจจะกล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่าน้ำยาชนิดนี้คือน้ำยาปรับสภาพยีนที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเท่าที่เคยมีมาในพันธมิตรแห่งนี้แล้ว” แฮร์ริสกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“นี่พวกคุณคิดสูตรน้ำยาขึ้นมามากกว่า 4,000 สูตรเลยงั้นเหรอ?!” ชาร์ลีอุทานขึ้นมาด้วยความตกใจ
“อันที่จริงสูตรน้ำยาส่วนใหญ่เป็นสูตรน้ำยาที่เซี่ยเฟยคิดค้นขึ้นมา ฉันมีหน้าที่รับผิดชอบในการทดลองประสิทธิภาพสูตรน้ำยาของเขาเท่านั้น ขอบอกเลยว่าในเรื่องการคิดค้นสูตรน้ำยาความรู้ของเขานำหน้าฉันไปไกลแล้ว” แฮร์ริสกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ
“ฉันไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับการคิดค้นสูตรอะไรพวกนั้นหรอก แต่ฉันรู้เรื่องการทดลองช่วยแสดงผลการทดลองน้ำยาชนิดนี้กับมนุษย์ให้ฉันดูที” พอตเตอร์กล่าว
การทดลองกับมนุษย์เป็นสิ่งต้องห้ามในพันธมิตร แต่เซี่ยเฟยก็ยังคงยืนกรานทำการทดลองที่บ้าคลั่งแบบนี้โดยไม่สนใจผลลัพธ์ที่จะตามมาเลยแม้แต่น้อย เพราะท้ายที่สุดแอวริลก็มีค่ากับเขามากเกินไปและเขาก็พร้อมที่จะแลกทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยของคนที่เขารัก
“พวกเราทำการทดสอบกับอาสาสมัครทั้งหมด 12,305 คน โดยมีอัตราส่วนเป็นเพศชาย 6 ส่วน เพศหญิง 4 ส่วน ในช่วงอายุตั้งแต่ 16-170 ปี ซึ่งผลจากการทดลองไม่มีใครแสดงอาการถึงผลข้างเคียงของน้ำยาเลยแม้แต่คนเดียว อัตราการเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 สำเร็จอยู่ที่ 100% ส่วนอัตราเฉลี่ยพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ที่ถูกเปิดออกอยู่ที่ 49%” แฮร์ริสกล่าวพร้อมกับแสดงกราฟการทดลองขึ้นมาบนหน้าจอ
ระหว่างคำอธิบายดวงตาของแฮร์ริสเต็มไปด้วยความตื่นเต้น เพราะนี่คือน้ำยาปรับสภาพยีนที่สามารถเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ให้กับมนุษย์ได้ด้วยอัตราความสำเร็จ 100% และมันยังเป็นน้ำยาที่ไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ อีกด้วย!!
น้ำยาปรับสภาพยีนที่ทรงพลังที่สุดและปลอดภัยที่สุดในประวัติศาสตร์ได้ถือกำเนิดขึ้นมาแล้ว!
เหตุการณ์นี้ทำให้ชาร์ลีกับพอตเตอร์ต่างก็ล้วนแล้วแต่ขมวดคิ้วขึ้นมาโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะพวกเขารู้ดีว่าการที่มันได้มีน้ำยาชนิดนี้ถือกำเนิดขึ้นมา มันก็หมายความว่าพวกเขาสามารถเปลี่ยนเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้ก้าวข้ามขีดจำกัดดั้งเดิมกลายไปเป็นเผ่าพันธุ์ยอดมนุษย์ได้โดยสมบูรณ์
“ลุงพอตเตอร์ พวกเรามีหนูทดลองทั้งหมดกี่คนครับ?” ชาร์ลีถาม
“ประมาณ 120,000 คน ทุกคนต่างก็ล้วนแล้วแต่เป็นโจรสลัดหรืออาชญากรทั้งหมด”
“เอาล่ะ พวกเรามาเริ่มทดลองน้ำยาสูตรนี้กับหนูทดลองพวกนั้นกันเถอะ พี่เซี่ยเฟยเน้นย้ำเรื่องความปลอดภัยมาโดยตลอด พวกเราจะปล่อยให้มีความผิดพลาดเกิดขึ้นไม่ได้เป็นอันขาด” ชาร์ลีกล่าวด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง
คำยืนยันของชาร์ลีถึงกับทำให้พอตเตอร์และแฮร์ริสกลืนน้ำลายอึกใหญ่ลงไปในคอโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะการทดลองน้ำยาล้ำค่ากับอาชญากรจำนวนมากกว่า 100,000 คนย่อมก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายมูลค่ามากมายมหาศาลอย่างแน่นอน แต่ถึงกระนั้นชาร์ลีก็ยังคงสั่งให้เริ่มการทดลองโดยไม่คำนึงถึงค่าใช้จ่ายใด ๆ
“ชาร์ลี นายเข้าใจดีใช่ไหมว่าการมีอยู่ของเซราฟิมมันหมายถึงอะไร?” พอตเตอร์กล่าวถามหลังจากที่พวกเขาเดินออกมาจากห้องทำงานของแฮร์ริส
“เข้าใจสิครับ เพราะน้ำยานี้สามารถที่จะพลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์ของมนุษย์จากเดิมได้อย่างสิ้นเชิง” ชาร์ลีกล่าวพร้อมกับพยักหน้าอย่างหนักแน่น ก่อนที่เขาจะกล่าวต่อไปว่า
“ถึงยังไงพี่เซี่ยเฟยก็เป็นคนสร้างน้ำยาชนิดนี้ขึ้นมา ดังนั้นเขาจึงมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะตัดสินใจว่าเราควรจะใช้มันไปในทิศทางไหน”
พอตเตอร์พยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่เขาก็ยังคงกังวลว่าน้ำยานี้อาจจะนำมาซึ่งความอันตรายให้กับบริษัทควอนตัม
“คุณยังจำบุชเชอร์ได้ไหม?” ชาร์ลีพยายามพูดเปลี่ยนเรื่องเพื่อสลัดบรรยากาศน่าหดหู่ออกไป
“จำได้สิ เขาเป็นนักสู้ที่มีฝีมือดีมากแต่เราไม่ได้ข่าวคราวอะไรเขาเลย หลังจากที่เขาบอกว่าพวกเขาจะเดินทางออกไปสำรวจสวนเอเดน”
ครั้งหนึ่งข่าวเรื่องสวนเอเดนเคยเป็นกระแสหลักที่สร้างความตื่นเต้นให้กับมนุษย์ทุกคนในพันธมิตร แต่เนื่องมาจากสงครามระหว่างเผ่าพันธุ์มันจึงทำให้เรื่องนี้เลือนลางไปตามกาลเวลา
“เมื่อไม่นานมานี้ทางบริษัทได้รับการติดต่อมาจากพวกเขา โดยพวกเขาบอกว่าพวกเขากำลังกลับมาและต้องการรายงานความคืบหน้าในการสำรวจให้พี่เซี่ยเฟยฟังด้วยตัวเอง แต่น่าเสียดายที่ระยะทางการสื่อสารค่อนข้างไกลมากและกองยานของพวกเขาไม่ได้ติดตั้งระบบเรดาร์แบล็คแบท พวกเขาเลยไม่สามารถติดต่อไปหาพี่เซี่ยเฟยโดยตรงได้” ชาร์ลีกล่าว
“ทีมสำรวจของพวกเขาได้พบกับสวนเอเดนแล้วงั้นเหรอ?!” พอตเตอร์อุทานขึ้นมาด้วยความตกตะลึง
“พวกเขาไม่ยอมบอกรายละเอียดเรื่องอื่นเลย พวกเขาแค่บอกว่าพวกเขาจะรายงานเรื่องนี้กับพี่เซี่ยเฟยเท่านั้น ผมเดาว่าพวกเขาไม่น่าจะพบสวนอีเดนหรอกแต่พวกเขาน่าจะพบกับเงื่อนงำอะไรบางอย่าง” ชาร์ลีกล่าว
“ถ้าเซี่ยเฟยรู้เรื่องนี้เขาคงจะตื่นเต้นมาก ถ้ามีโอกาสพวกเราค่อยรายงานเขาทั้งเรื่องบุชเชอร์กับเรื่องเซราฟิมก็แล้วกัน” พอตเตอร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ช่วงนี้เราไม่สามารถติดต่อไปหาพี่เซี่ยเฟยได้เลย ไม่รู้ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ที่นั่นบ้าง?” ชาร์ลีกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
—
ในระหว่างที่ชาร์ลีกับพอตเตอร์กำลังตรวจสอบเรื่องน้ำยาปรับสภาพยีน และในขณะที่แอวริลกำลังออกกำลังกายอย่างจริงจังในทุก ๆ วันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเปิดพื้นที่สมองส่วนที่ 7 เซี่ยเฟยก็กำลังรู้สึกทุกข์ทรมานราวกับว่าเขากำลังตกลงไปในนรก
ปั่ก! ปั่ก!
ร่างของผู้สมัครล้มลงกับพื้นพร้อมกับหอบหายใจออกมาอย่างหนัก
เซี่ยเฟยจ้องมองไปยังทะเลทรายอันว่างเปล่า ด้านหลังของเขามีพื้นที่ทอดยาวมากกว่า 100,000 กิโลเมตร จากนั้นเขาก็หยิบคริสตัลต้นกำเนิดออกมาฟื้นฟูพลังงานพร้อม ๆ กับขนอุยและพยายามปรับลมหายใจให้กลับมาหายใจเข้าออกได้ด้วยอัตราปกติ
“ยังเหลืออีก 605 คน พวกคุณนี่มันเป็นพวกตัวขี้เกียจจริง ๆ การประเมินรอบที่ 3 กำลังจะเริ่มต้นขึ้นแล้ว หากใครเข้าประตูมิติช้า 10 อันดับสุดท้ายจะถูกคัดออกจากการประเมิน!” บรูซกล่าวด้วยน้ำเสียงอันเย็นชา
การประเมินรอบแรกบรูซให้เวลาผู้สมัครพักเพียงแค่ 30 วินาที แต่ในการประเมินรอบที่ 2 นี้อีกฝ่ายกลับไม่ให้พวกเขาพักเลยแม้แต่วินาทีเดียว
แต่ถึงแม้ว่าชายหนุ่มจะเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจ แต่เซี่ยเฟยก็ยังจำเป็นจะต้องกัดฟันมุ่งหน้าตรงไปยังประตูมิติและบอกตัวเองภายในใจอย่างซ้ำ ๆ ว่าเขาจะต้องอดทน
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 195
แสดงความคิดเห็น