ตอนที่ 461 การตัดสินใจของหงส์คราม

-A A +A

ตอนที่ 461 การตัดสินใจของหงส์คราม

หมวดหนังสือ: 

ตอนที่ 461 การตัดสินใจของหงส์คราม

ทันทีที่ปลายนิ้วของเซี่ยเฟยสัมผัสกับหงส์คราม มันก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้นมาอย่างกะทันหัน

ทันใดนั้นชายหนุ่มก็รู้สึกราวกับว่าเขาได้ถูกดึงเข้าไปในห้วงความคิด ขณะที่ภาพด้านนอกเป็นภาพที่เซี่ยเฟยกำลังยื่นมือออกไปแตะหญ้าสีฟ้าราวกับว่าเวลาได้หยุดนิ่ง

ภาพถ่ายในความทรงจำของชายหนุ่มถูกขุดค้นย้อนกลับไปเรื่อย ๆ นับตั้งแต่วันที่เขาได้เข้ามาในไซเรนฮิลล์, วันที่เขากับแอวริลยังคงอยู่ด้วยกัน, วันที่เขาบังเอิญเข้าไปในดาวมรดก, วันที่เขาได้เข้าไปในค่ายฝึกจัสทิสลีก, วันที่เขาได้สูญเสียเซียวรั่วหยูไปและวันที่เขายังคงเป็นเพียงแค่เด็กปั่นจักรยานส่งของ

ภาพความทรงจำในอดีตปรากฏขึ้นมาซ้ำแล้วซ้ำเล่าเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เซี่ยเฟยพยายามกัดฟันต่อสู้กับสถานการณ์ต่าง ๆ อย่างไม่ยอมแพ้ ซึ่งภาพเหตุการณ์เหล่านี้ก็ทำให้แม้แต่ตัวชายหนุ่มเองก็ยังประหลาดใจ เพราะเรื่องบางเรื่องเป็นแค่เพียงเรื่องเล็กน้อยที่แม้แต่ตัวเขาเองก็ลืมเลือนมันไปหมดแล้ว

ขณะที่กำลังอ่านความทรงจำหงส์ครามก็ได้เห็นว่าชายหนุ่มคนนี้ได้ผ่านพ้นความยากลำบากมามากแค่ไหน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงตัวเองจากเด็กปั่นจักรยานส่งของที่ต่ำต้อย จนกลายมาเป็นยอดนักสู้เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ผจญภัยในดินแดนเซิร์กเพียงลำพัง

หญ้าสีฟ้าค่อย ๆ อ่านความทรงจำลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะภาพเหตุการณ์ที่เซี่ยเฟยพยายามทำทุกอย่างเพื่อแอวริล ในที่สุดหงส์ครามก็เหมือนจะตัดสินใจได้เรียบร้อยแล้ว ภาพความทรงจำทุกอย่างจึงถูกเก็บกลับไปยังส่วนลึกของความทรงจำอยู่เช่นเดิม

ปัจจุบันไม่มีหญ้าสีฟ้าอันโดดเดี่ยวบนยอดเขาอีกต่อไป มีเพียงแต่ชายหนุ่มที่กำลังนั่งอยู่บนนั้นด้วยแววตาที่เศร้าหมอง

หงส์ครามช่วยเซี่ยเฟยระลึกถึงความทรงจำหลาย ๆ อย่าง แน่นอนว่าความทรงจำบางอย่างที่เขาอยากจะลืมก็ถูกดึงขึ้นมาฉายภาพชัดให้เขาได้เห็นอีกครั้งหนึ่งด้วย

ไม่มีความทรงจำของสิ่งมีชีวิตไหนที่มีเพียงแต่ความสุข และความโศกเศร้าที่ถูกขุดค้นขึ้นมาใหม่ก็ยังคงเด่นชัดภายในใจไม่สามารถจะลืมเลือนไปได้ง่าย ๆ

ชายหนุ่มลุกยืนขึ้นพร้อมกับใช้มือปัดกางเกงเล็กน้อย ก่อนที่เขาจะเดินลงจากเนินเขาด้วยท่าทางที่เคร่งขรึม

อย่างไรก็ตามชายหนุ่มก็สามารถที่จะจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้เป็นอย่างดี เพราะเมื่อถึงเวลาที่เขาเดินกลับออกมาจากประตูลึกลับ เขาก็สามารถเก็บซ่อนความโศกเศร้าไว้ในความทรงจำได้เช่นเดิมและสามารถเผยรอยยิ้มออกมาบนใบหน้าได้อีกครั้ง

“นายโอเคไหม?” อันธที่รู้เห็นทุกอย่างถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

“โอเคสิ ตอนนี้ฉันควรจะต้องมีความสุขด้วยซ้ำที่ฉันได้ครอบครองหงส์ครามเรียบร้อยแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางที่เฉยเมย

“ฉันเกือบจะลืมไปแล้วว่านายมันเป็นพวกขี้งก” อันธเม้มริมฝีปากพึมพำกับตัวเอง

“ขอแสดงความยินดีด้วยที่คุณได้รับการยอมรับจากหงส์คราม 1 ใน 30 อาวุธมายา ซึ่งเป็นอาวุธที่เก่าแก่ที่สุดในจักรวาล” แบล็คกี้กล่าวต้อนรับด้วยรอยยิ้มหลังจากที่เซี่ยเฟยเดินกลับมายังวิหาร อย่างไรก็ตามไวท์ตี้กลับกระทืบเท้าด้วยความโกรธก่อนที่เธอจะบินจากไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

“ถึงเธอจะปากร้ายแต่เธอก็ภักดีกับเจ้านายของตัวเองมาก ขอให้คุณอย่าใส่ใจเรื่องของเธอเลย” แบล็คกี้พูดขึ้นมาด้วยความลำบากใจ

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะท้ายที่สุดผู้หญิงก็มักจะมีความอ่อนไหวทางด้านอารมณ์มากกว่าผู้ชาย ซึ่งเรื่องนี้ก็คงจะเป็นความจริงของสิ่งมีชีวิตทุกชนิดแม้แต่นกก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น

“ฉันขอดูหงส์ครามหน่อยได้ไหม? ถึงแม้ว่าฉันจะได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแล แต่ฉันก็ไม่เคยเห็นมันด้วยตาตัวเองมาก่อนเลย” แบล็คกี้กล่าวอย่างสงสัย

เซี่ยเฟยยื่นมือขวาออกไปก่อนที่มันจะมีใบหญ้าสีฟ้าค่อย ๆ งอกออกมาจากแขนขวาของเขา อย่างไรก็ตามใบหญ้านี้ก็ดูอ่อนแอมากเพียงแต่มันเป็นใบหญ้าที่มีสีฟ้าสดใส

“มันช่างสวยงามจริง ๆ สมแล้วที่เป็น 1 ใน 30 อาวุธมายา แม้แต่รูปร่างหน้าตาของมันก็ยังน่าทึ่ง” แบล็คกี้กล่าวด้วยดวงตาอันเป็นประกาย ซึ่งในความจริงแล้วมันก็ยังมีดวงตาอีกคู่หนึ่งที่กำลังแอบมองอยู่ในระยะไกล และแน่นอนว่าสายตาคู่นั้นย่อมเป็นสายตาของไวท์ตี้นั่นเอง

“ถึงแม้ว่าผมจะได้ครอบครองมันแล้วแต่ทุกอย่างก็เป็นเหมือนกับที่พวกคุณได้บอกเอาไว้ ว่ามันยังคงอ่อนแอมากและคงยังไม่สามารถช่วยเหลือผมได้ในระยะเวลาสั้น ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเก็บหงส์ครามเข้าไปในแขน

“แต่คุณก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่าการมีหงส์ครามมันก็เทียบเท่าได้กับการที่คุณมีความหวัง” แบล็คกี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เมื่อหักคะแนนที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนหงส์คราม, ชุดต่อสู้ฮัสซิ่งสตาร์และดาบดราก้อนสเกล เซี่ยเฟยก็ยังคงเหลือคะแนนให้แลกเปลี่ยนอยู่อีก 2,500 ล้านแต้ม ชายหนุ่มจึงเริ่มหาของรางวัลเพื่อแลกเปลี่ยนอีกครั้ง

“ผมต้องการชุดโกลเด้นสปิริตอีกชุดหนึ่ง” เซี่ยเฟยกล่าว

แบล็คกี้ชะงักไปเล็กน้อย เพราะการแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ค่อนข้างจะเกินความคาดหมายของเขาไปมาก

“ชุดโกลเด้นสปิริตเป็นชุดเกราะเวทมนตร์ที่ทรงพลังมาก มันสามารถทำให้ผู้สวมใส่ล่องหนได้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งแม้แต่นักสู้ระดับอิมมอทอลลิตี้ก็แทบที่จะไม่สามารถมองเห็นการอำพรางของชุดเกราะชุดนี้ได้ ยกเว้นว่าพวกเขาจะมีพลังหรืออุปกรณ์พิเศษที่เอาไว้สำหรับการค้นหาโดยเฉพาะ เอาล่ะตอนนี้คุณยังเหลือคะแนนอีก 1,500 ล้านแต้ม เชิญคุณเลือกของรางวัลชิ้นต่อไปได้เลย” แบล็คกี้กล่าวอย่างสุภาพ

อันธสามารถทำความเข้าใจได้ในทันทีว่าการเลือกชุดเกราะนี้มันหมายถึงอะไร เพราะท้ายที่สุดชายหนุ่มก็ไม่ได้เลือกชุดโกลเด้นสปิริตให้กับตัวเอง แต่มันจะต้องเป็นชุดสำหรับแอวริลหรือเซียวรั่วหยูคนใดคนหนึ่งอย่างแน่นอน

มหกรรมการแลกเปลี่ยนของรางวัลดำเนินไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งหลังจากเวลาได้ผ่านพ้นไปประมาณ 1 ชั่วโมง แหวนมิติขนาด 1,000 ลูกบาศก์เมตรของเซี่ยเฟยก็ถูกเติมเต็มไปด้วยวัตถุต่าง ๆ เกือบ 1 ใน 3 ของพื้นที่

“ก่อนจะจากกันไปฉันมีคำแนะนำให้คุณเล็กน้อย” แบล็คกี้กล่าวกับเซี่ยเฟยหลังจากปิดหน้าจอแลกของรางวัล

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างหนักแน่น เพราะท้ายที่สุดนกตัวนี้ก็เป็นสัตว์เลี้ยงของนักสู้ในดินแดนกฎ แล้วมันก็จะยิ่งมีประโยชน์สำหรับเขาถ้าหากว่าเขาได้รับข้อมูลมากยิ่งขึ้น 

ที่สำคัญไปกว่านั้นคืออีก 2 ปี 9 เดือนนับจากนี้เขาจะต้องเดินทางไปหาหยูเจียงและ หยูฮัว แล้วสถานที่ปลายทางมันย่อมเป็นดินแดนกฎอย่างแน่นอน

“ข้อแรกอย่าพึ่งด่วนตีความกฎแห่งความโกลาหล กฎนี้เป็นกฎที่ลึกลับมากเกินไป ดังนั้นถ้าหากว่าคุณยังมีพื้นฐานไม่เพียงพอการตีความอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าอาจจะนำพาหายนะมาให้คุณได้” แบล็คกี้กล่าว

“แล้วเมื่อไหร่ถึงจะเรียกว่าเพียงพอ?” เซี่ยเฟยถาม

“อย่างน้อยคุณก็ควรจะมีพลังอยู่ในระดับอิมมอทอลลิตี้ เพราะนักสู้ที่มีพรสวรรค์บางคนก็จะเริ่มใช้พลังของกฎได้หลังจากที่ได้มีพลังอยู่ในระดับนี้ แต่กรณีนี้เป็นกรณีที่หาได้ยากมากและเท่าที่ฉันรู้คนที่ใจร้อนมากเกินไปก็มักที่จะได้รับผลลัพธ์อันเลวร้ายติดตามมา” แบล็คกี้กล่าว

“ถ้าฉันจำไม่ผิดระดับอิมมอทอลลิตี้คือระดับพลังสูงสุดในพันธมิตรมนุษย์แล้วนะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว

“นั่นเป็นเพียงแค่สิ่งที่คุณรู้แต่มันไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่คุณรู้จะคือความจริงทั้งหมด จำเอาไว้ว่าจักรวาลยิ่งใหญ่มากและคุณก็เป็นเพียงแค่สิ่งมีชีวิตตัวน้อย ๆ ในจักรวาลอันกว้างใหญ่แห่งนี้เท่านั้น” แบล็คกี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

เซี่ยเฟยพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ เพราะถ้าหากว่าเขาไม่ได้เจอนักรบผู้ใช้กฎด้วยตัวเอง เขาก็คงจะไม่เชื่อว่ามันได้มีตัวตนระดับนี้หลบซ่อนตัวอยู่ในจักรวาลอันกว้างใหญ่ด้วย

“ข้อที่ 2 กฎแห่งความโกลาหลไม่ใช่กฎที่มีอยู่โดยทั่วไปและตราสัญลักษณ์ที่อยู่บนแขนซ้ายของคุณก็มีเพียงแค่คุณ, เทพเจ้าขาวกับเทพเจ้าดำเท่านั้นที่สามารถมองเห็นได้ ดังนั้นถ้าหากว่าคุณไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายจริง ๆ ห้ามให้ใครรู้ว่าคุณครอบครองกฎแห่งความโกลาหลอย่างเด็ดขาด”

เมื่อได้รู้ว่าตราสัญลักษณ์บนแขนซ้ายของเขาเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้ง่าย ๆ ชายหนุ่มก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะเขาแอบกังวลอยู่เสมอว่ามันจะมีคนมาตัดแขนซ้ายของเขาไปเพื่อฉกฉวยกฎแห่งความโกลาหลไปจากเขา

“ข้อสุดท้ายคือข้อที่สำคัญที่สุดคืออย่าไว้ใจใครในดินแดนกฎอย่างเด็ดขาด ไม่มีใครในดินแดนกฎเป็นพวกไร้เดียงสา เพราะคนไร้เดียงสาไม่สามารถเอาชีวิตรอดในดินแดนปลาใหญ่กินปลาเล็กแบบนั้นได้”

“แม้แต่เทพเจ้าขาวกับเทพเจ้าดำก็ไว้ใจไม่ได้งั้นเหรอ?” เซี่ยเฟยกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม

“นายท่านดำกับนายท่านขาวเป็นข้อยกเว้น” แบล็คกี้ถึงกับพูดไม่ออกไปชั่วขณะเมื่อเซี่ยเฟยเล่นลิ้นกับคำเตือนของเขา

เซี่ยเฟยยิ้มโดยไม่พูดอะไร เพราะท้ายที่สุดไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาก็ไม่เคยไว้ใจใครง่าย ๆ อยู่แล้ว

ก่อนที่ประตูแห่งความว่างเปล่าจะเปิดออกเซี่ยเฟยก็ตัดสินใจเดินทางออกจากที่นี่ก่อนเวลา เพราะท้ายที่สุดเขาก็ไม่เหลือเป้าหมายในการอยู่ในดินแดนแห่งนี้แล้ว เขาจึงเลือกที่จะเดินทางออกไปจัดการเรื่องราวต่าง ๆ ในโลกภายนอก

แบล็คกี้เดินไปส่งเซี่ยเฟยที่ประตู ซึ่งหลังจากที่เซี่ยเฟยเดินทะลุประตูแห่งความว่างเปล่าออกไป นกสีดำตัวใหญ่ก็เริ่มพึมพำขึ้นมากับตัวเอง

“ในที่สุดก็ถึงเวลาปิดพื้นที่มิตินี้ลงสักที ถึงเวลาที่ฉันจะได้กลับบ้านแล้ว”

ณ ดาวเคราะห์ดวงสีแดงเพลิงสักที่แห่งหนึ่งในจักรวาลอันกว้างใหญ่

ในหุบเขาของดาวเคราะห์ดวงนี้คือสถานที่พักผ่อนของร่างสองร่าง โดยร่างหนึ่งเป็นร่างสีดำและร่างหนึ่งเป็นร่างสีขาว แต่พวกเขาได้สวมหน้ากากเอาไว้ทำให้ไม่สามารถมองเห็นใบหน้าของพวกเขาได้อย่างชัดเจน

“น่าเสียดายจริง ๆ ที่หงส์ครามได้ไปอยู่กับมนุษย์ที่ชื่อเซี่ยเฟย และเขาก็เป็นคนคนเดียวกันกับที่นายได้มอบกฎแห่งความโกลาหลให้กับเขา” เทพเจ้าขาวกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

“เขาได้มันไปก็ดีแล้วนี่ ถึงยังไงเราก็ไม่สามารถรับอาวุธชิ้นนั้นได้ ดังนั้นไม่ว่าใครจะได้มันไปก็ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเราอยู่ดี” เทพเจ้าดำกล่าว

“นายรู้ไหมว่าฉันไม่ชอบอะไรมากที่สุด?” เทพเจ้าขาวถาม

“อะไร?”

“ทุกสิ่งที่เราทิ้งไว้ให้เซิร์กถูกเซี่ยเฟยเอาไปจนเกือบหมด”

“พวกเราอุตส่าห์ทิ้งมรดกล้ำค่าเอาไว้ให้เซิร์กตั้ง 3 ชิ้น แต่ 2 ใน 3 นั้นกลับกลายเป็นของเซี่ยเฟยและการที่ไฮเอนด์กับไซเรนฮิลล์ถูกปิดตัวลงไป มันก็หมายความว่าหลังจากนี้เซิร์กจะไม่มีสถานที่เอาไว้สำหรับฝึกฝนอีกต่อไป โชคดีที่เซี่ยเฟยไม่ได้เอาสมบัติของนายไปด้วย ไม่อย่างนั้นพวกเซิร์กก็คงจะไม่ได้รับมรดกอะไรจากเราเลย” เทพเจ้าดำกล่าว

“นายลืมไปแล้วเหรอว่ามรดกของฉันถูกมอบให้กับพ่อของเลยูตี้ และพ่อของเลยูตี้ก็มอบมันให้กับเลยูตี้ในภายหลัง แต่น่าเสียดายที่เลยูตี้ไม่ได้มีความคิดแบบนักรบปกติเลย เขาเป็นพวกใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงมากเกินไป และถึงแม้ว่าเวลาจะผ่านพ้นไปอีกหลายหมื่นปี แต่เขาก็ยังจะไม่มีคุณสมบัติขึ้นไปยังดินแดนกฎได้” เทพเจ้าขาวกล่าว

“หลังจากที่เซี่ยเฟยสร้างความวุ่นวายขึ้นมาในครั้งนี้ เผ่าพันธุ์เซิร์กก็คงจะไม่มีทางขึ้นไปยังดินแดนกฎได้อีกเลยสินะ” เทพเจ้าดำกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

เมื่อพูดมาจนถึงจุดนี้ทั้งสองก็พูดไม่ออกไปชั่วขณะ ก่อนที่พวกเขาจะสัมผัสได้ถึงพลังงานที่ผันผวนอย่างแผ่วเบามาจากระยะไกล

“พวกมันไล่ตามเรามาจนถึงที่นี่แล้ว” เทพเจ้าดำกล่าวพร้อมกับรีบลุกยืนขึ้น

“ฉันไม่เข้าใจจริง ๆ ว่านายจะเผยแพร่เรื่องกฎแห่งความโกลาหลออกไปทำไม? นี่พวกเราจะต้องหลบหนีไปอีกนานแค่ไหนกันเนี่ย!” เทพเจ้าขาวกล่าวด้วยความหงุดหงิด

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะว่าไอ้พวกผู้เฒ่านั่นจะมีปฏิกิริยาที่รุนแรงแบบนี้ ฉันแค่หวังว่าเซี่ยเฟยคงจะไม่ฝึกกฎแห่งความโกลาหลขึ้นมารวดเร็วเกินไป และหวังว่าเขาจะไม่เปิดเผยเรื่องนี้ให้ใครได้รับรู้” เทพเจ้าดำกล่าวอย่างหมดหนทาง

“เขาเป็นเพียงแค่นักสู้ระดับลีเจนด์ตัวเล็ก ๆ และพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาก็พิการ มันไม่มีทางที่เขาจะขึ้นไปในดินแดนกฎได้ แล้วมันก็ไม่มีทางที่เขาจะเรียนรู้กฎแห่งความโกลาหลได้ด้วย ว่าแต่นายยังมีกะจิตกะใจไปเป็นห่วงคนอื่นอีกเหรอ? ตอนนี้พวกเรารีบหนีกันก่อนดีกว่า” เทพเจ้าขาวกล่าว

“เฮ้อโชคร้ายจริง ๆ พวกเรารีบหนีกันเถอะ” เทพเจ้าดำกล่าวพร้อมกับถอนหายใจ

ทันทีที่พูดจบเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ของชาวเซิร์กก็หลบหนีไปด้วยความกลัว

แน่นอนว่าทั้งเทพเจ้าขาวและเทพเจ้าดำยังไม่รู้ว่าเซี่ยเฟยจะได้เดินทางเข้าสู่ดินแดนกฎในอีก 2 ปี 9 เดือน และชายหนุ่มยังได้พบสมุนไพรที่เอาไว้ใช้การรักษาพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาแล้ว

***************

ดินแดนกฎหรอ? สนุกแน่! 555

สารบัญ / นำทาง

แสดงความคิดเห็น

 
 

ข้อควรทราบ เนื่องจากผู้ดูแลหลักของเว็บไซต์เป็นคนตาบอด หากพบการแสดงผลที่ผิดเพี้ยนและสร้างความไม่สะดวกต่อการใช้งาน โปรดแจ้งทีมงานได้ในทุกช่องทาง

เราอยากให้สมาชิกทุกท่านอยู่กันอย่างครอบครัวที่อบอุ่น ให้สังคมภายในเว็บ เป็นสังคมที่ดี ดังนั้น สมาชิกทุกท่านโปรดเคารพในสิทธิของตนเองและผู้อื่น

ผลงานที่ถูกเผยแพร่บนเว็บ ให้ถือว่าลิขสิทธิ์เป็นของผู้เผยแพร่เอง ห้ามมิให้บุคคลอื่นนำไปเผยแพร่ ก็อปปี้ หรือนำไปดัดแปลง โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงานโดยเด็ดขาด หากมีการฝ่าฝืน แล้วถูกดำเนินคดีจากเจ้าของผลงาน ทางเว็บมิขอเกี่ยวข้อง เพราะได้แจ้งเตือนเอาไว้อย่างชัดเจนแล้ว

หากพบบทความที่มีเนื้อหาไปในทางใส่ร้ายผู้อื่น หรือทำให้ผู้อื่นเสียหาย แจ้งเข้ามาได้ตามช่องทาง Email keangun2018@gmail.com ได้ตลอด 24 ชั่วโมง ทางทีมงาน จะทำการตรวจสอบ และหากเป็นจริง จะนำผลงานดังกล่าวออกจากเว็บไซต์ ไม่เกิน 1 วัน

Copyright © 2018-2024 keangun. All Right Reserved.