บทที่ 193: ทำสิ่งสุดท้ายให้เขา
หยินชางหลบสายตาไปจ้องมองหน้าอกที่เปื้อนเลือดของพี่ชาย พร้อมทำท่าพยายามขจัดคำพูดของคนตรงหน้าที่ยังดังก้องอยู่ในหูออกจากความคิด
พอหยินกู่มองไปที่ท่าทางดื้อรั้นของน้องชายจึงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้
เขารู้จักร่างกายของตัวเองดีกว่าใคร ๆ มันกำลังนับถอยหลังในขณะที่เหลือเวลาอีกไม่มาก…
“ชาง ความปรารถนาเดียวของข้าคือหวังให้เจ้าเติบโตอย่างปลอดภัย ในตอนที่เจ้าโตขึ้นเท่านั้นถึงจะสามารถต่อกรกับพวกมันได้ เข้าใจไหม?”
“เจ้าต้องมีชีวิตอยู่ ต้องมีชีวิตอยู่ต่อไป…”
หยินกู่พูดประโยคข้างต้นซ้ำ ๆ เขารู้ว่าน้องชายตัวน้อยฟังอยู่ เสียงพูดจึงดังต่อไปจนในที่สุดเขาก็อ่อนแรงแล้วผล็อยหลับไป
ส่วนหยินชางยังคงยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ คนเจ็บ ดวงตาสีดำมืดของเขาสงบนิ่งไม่หวั่นไหวกับอะไรทั้งนั้น
จากนั้นชายหนุ่มหลับไปนานเท่าไหร่ก็ไม่อาจทราบได้ จนกระทั่งเขาได้ยินเสียงฝีเท้าดังมาจากนอกประตู
“ท่านผู้เฒ่าสั่งให้ข้านำอาหารมาให้พวกเจ้า” ทันใดนั้นเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งก็ดังขึ้น
หยินชางมองไปที่ประตูด้วยท่าทางตั้งรับทันที และหยินกู่ที่อยู่ข้าง ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นมาใช้มือตบหลังมือเด็กหนุ่มเพื่อปลอบประโลมเขา
“นางคงเป็นผู้หญิงของเผ่านี้ เจ้าอย่ากังวลไปเลย...”
ทว่าดวงตาที่เหมือนสัตว์ร้ายของหยินชางไม่เปลี่ยนไปเลย เขาเอาแต่จ้องลู่เมี่ยนเอ๋อที่เดินเข้ามาเขม็ง
ทันทีที่กวางสาวเข้ามาในห้อง นางก็ต้องตกใจที่เห็นดวงตาดุร้ายคู่หนึ่งกำลังมองมาที่ตน
พอหญิงสาวสังเกตดูดี ๆ ก็พบว่าเขาเป็นเพียงเด็กผู้ชายคนหนึ่ง
นางจึงถอนหายใจด้วยความโล่งอก ก่อนจะวางเนื้อและผลไม้ในมือไว้ข้างเตียง “พวกเจ้าหิวหรือเปล่า? ท่านผู้เฒ่าขอให้ข้าหาอะไรให้พวกเจ้ากิน เอาไปกินสิ”
ลู่เมี่ยนเอ๋อพูดพลางเช็ดผลไม้ลูกใหญ่ด้วยมือตัวเองและมอบให้หยินชางเพื่อแสดงความเป็นมิตร
ทว่าเด็กหนุ่มทำเพียงแค่มองหญิงสาวอย่างเฉยเมย ซึ่งเขาไม่มีท่าทีว่าจะขยับเข้าไปใกล้นางเลย
“อะแฮ่ม... ขอบคุณ น้องชายของข้าเป็นคนเก็บตัว ไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับภูตคนอื่นนอกจากข้า ข้าต้องขอโทษด้วยที่เขาเสียมารยาท” หยินกู่อธิบายเสียงแผ่ว
“ไม่เป็นไร” กวางสาวส่ายหัวอย่างรวดเร็ว ก่อนจะมองไปที่หยินชางอีกครั้งพลางคิดในใจว่าดวงตาของเด็กชายดูดุร้ายพอ ๆ กับของหลงโม่
นางสงสัยว่าเด็กอายุเท่านี้จะมีแววตาน่ากลัวเช่นนั้นได้อย่างไร
“ข้าฝากขอบคุณท่านผู้เฒ่าแทนด้วย ภูตในเผ่าของเจ้าใจดีมาก ขอบคุณที่รับพวกข้าเข้ามา”
คำพูดหยินกู่ดึงความคิดของลู่เมี่ยนเอ๋อกลับมา
“ด้วยความยินดี ท่านผู้เฒ่าบอกแล้วว่าพวกเจ้าสามารถอยู่ที่นี่ได้อย่างสบายใจ เผ่าของเราปลอดภัยแน่นอน” กวางสาวกล่าวด้วยรอยยิ้ม
หยินกู่เองก็ยิ้มตอบอย่างอ่อนโยนเช่นกัน
“เผ่าของเจ้าดูเหมือนจะไม่ปฏิเสธพวกภูตต่างถิ่น นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เห็นเผ่าแบบนี้” น้ำเสียงของชายหนุ่มคล้ายงุนงงปนไม่แน่ใจ
“แน่นอน เจ้ายังไม่รู้ใช่ไหมว่าเผ่าของเราเป็นเผ่าผสม ที่นี่มีภูตทุกสายพันธุ์อาศัยอยู่ด้วยกัน” ลู่เมี่ยนเอ๋ออธิบาย
พอหยินกู่ได้ยินคำอธิบายของหญิงสาวก็รู้สึกโล่งใจ
เผ่าผสมเป็นเผ่าเดียวที่ไม่กีดกันคนต่างถิ่นหรือต่างเผ่าพันธุ์ แม้ว่าความแข็งแกร่งจะเทียบเท่ากับเผ่าอื่น ๆ ไม่ได้ แต่มันคงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับหยินชาง ณ ตอนนี้แล้ว
ถัดมา ลู่เมี่ยนเอ๋อเอ่ยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่า “เจ้าเคยไปมาหลายเผ่าแล้วหรือ?”
“เผ่าของเราถูกฝูงภูตหมาป่าโจมตี ข้าพาน้องชายของข้าหนีมาจนสุดทาง จนกระทั่งมาถึงที่นี่ ก่อนหน้านี้ข้าได้พบกับเผ่าต่าง ๆ ระหว่างทาง แต่...”
หยินกู่ยกยิ้มมุมปากพลางเล่าประสบการณ์ที่ตนพบเจอมาระหว่างการหลบหนี
หลังจากกวางสาวได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย นางก็แสดงสีหน้าเศร้าโศก
“เสียใจด้วยนะ ข้าไม่รู้ว่าพวกเจ้าเคยผ่านเรื่องโหดร้ายแบบนี้มาก่อน”
“ไม่เป็นไร” ชายหนุ่มส่ายหัวก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย “ผู้หญิงที่ช่วยข้าไว้ นางเป็นหมอผีหรือเปล่า?”
“เจ้ากำลังถามเกี่ยวกับเจียวเจียวใช่ไหม? นางไม่ใช่หมอผี แต่ทักษะทางการแพทย์ของนางได้รับมาจากเทพอสูรที่มามอบนิมิตในความฝัน เจียวเจียวเก่งมากเลยนะ เจ้าจะไม่เป็นอะไรอย่างแน่นอน”
ทันทีที่ลู่เมี่ยนเอ๋อพูดถึงหูเจียวเจียว นางก็กลายเป็นคนที่พูดได้น้ำไหลไฟดับกันเลยทีเดียว
นับตั้งแต่ที่พวกหูชิงเกาอวดอ้างว่าน้องสาวของตนเป็นหมอผี ทุกคนก็รู้เรื่องนี้กันทั้งเผ่า ดังนั้นจิ้งจอกสาวจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องออกมาชี้แจงและบอกว่าทุกอย่างมันเกี่ยวกับเทพอสูร
ตอนนี้ภูตในเผ่าคิดว่าเทพอสูรมาสอนทักษะทางการแพทย์ให้นางเอง
ทางด้านหยินกู่หลุบตาลงเพื่อครุ่นคิดบางอย่างในใจ
“โชคดีมากที่เจียวเจียวพบเจ้าและช่วยชีวิตเจ้าไว้ ถ้าไม่ใช่เพราะเจียวเจียว เจ้าอาจถูกสัตว์ป่ากินไปแล้วก็ได้”
“เจียวเจียวมีจิตใจดี นางเป็นดาวนำโชคของเผ่าเรา...”
เมื่อชายหนุ่มได้ยินคำชมไม่รู้จบของลู่เมี่ยนเอ๋อ สีหน้าของเขาก็ดูมุ่งมั่นมากขึ้น
“ข้าขอพบนางอีกได้ไหม?” หยินกู่ที่นอนเจ็บอยู่บนเตียงถามขึ้นมาอีกครั้ง
“เจ้าอยากเจอเจียวเจียวหรือ?” กวางสาวชะงักไป แต่พอได้เห็นความจริงใจของอีกฝ่าย นางก็คิดว่าเขาคงแค่อยากจะขอบคุณหูเจียวเจียว ดังนั้นนางจึงพยักหน้าตอบรับ “ข้าจะไปบอกนางให้”
“ขอบคุณ” หยินกู่เอ่ยขอบคุณหญิงสาวผู้ใจดีอย่างสุดซึ้ง
เขาอยากทำสิ่งสุดท้ายเพื่อหยินชางก่อนที่ตนจะตาย
นี่เป็นสิ่งเดียวที่เขาทำได้ในตอนนี้
...
ในช่วงเวลายามบ่าย
เมื่อหลงโม่กลับมาจากการล่าสัตว์ เขาก็พบว่าหูเจียวเจียวกำลังให้อาหารกระต่ายด้วยหญ้าสดอยู่ในลานบ้านของบ้านไม้หลังเก่า
“หลงโม่ เจ้ากลับมาแล้วหรือ?” จิ้งจอกสาวที่เห็นมังกรหนุ่มก็วางสิ่งที่ตนทำและวิ่งไปช่วยเขาขนเหยื่อ
“อ้อ จริงสิ หลงโม่ เจ้าเห็นเนื้อที่ข้าเก็บไว้ในครัวไหม ดูเหมือนว่าในครัวจะมีเนื้อหายไป 2 ชิ้น”
คำพูดของหญิงสาวทำให้คนตัวสูงชะงักไป
จากนั้นเขาตอบอย่างไม่ลังเลว่า “ไม่เห็น”
หูเจียวเจียวที่ได้ยินเช่นนั้นทำหน้างุนงง “แปลกจริง ข้าจำได้ว่าวางไว้ในครัว...”
“อาจมีคนหิวแล้วเข้าไปแอบกินมันก็ได้” บัดนี้ใบหน้าของหลงโม่เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อ และหัวใจของเขาก็เต้นระรัวเพราะกลัวความแตก
“นั่นสินะ บางทีเหยาเอ๋ออาจจะแอบกินมัน” จิ้งจอกสาวพยักหน้าเห็นด้วยและไม่ถามคำถามอะไรอีก
จังหวะนั้นมังกรหนุ่มสัมผัสได้ถึงกลิ่นเลือดสด ๆ ในอากาศ แล้วเขาก็คว้าข้อมือของคนตรงหน้ามาถามอย่างกระวนกระวายว่า “เจ้าได้รับบาดเจ็บหรือ?”
“เปล่า” หูเจียวเจียวส่ายหัวปฏิเสธในขณะที่เธอไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ เขาถึงถามแบบนั้น
“ข้าได้กลิ่นเหมือนเลือด” ชายร่างสูงพูดพร้อมขมวดคิ้วแน่น
ทางด้านหญิงสาวก้มศีรษะลงเพื่อดมกลิ่นกายของตัวเอง “ยังมีกลิ่นอยู่หรือ? ข้าล้างมันแล้ว ทำไมข้าไม่ได้กลิ่นเลย...”
ทำไมผู้ชายคนนี้จมูกดียิ่งกว่าสุนัขอีก?
“วันนี้ข้าพบภูตบาดเจ็บ 2 คนอยู่นอกเผ่า หัวหน้าเผ่านำพวกเขากลับมา ข้าก็เลยไปช่วยรักษาบาดแผลของพวกเขา ตอนนี้อาจจะมีกลิ่นเลือดติดมาบ้าง” เจ้าของดวงหน้าสะสวยอธิบาย
“ผู้ชายหรือ?” หลงโม่ถามด้วยใบหน้าที่มืดมน
หูเจียวเจียวประหลาดใจกับคำถามของอีกฝ่าย “เจ้ารู้ได้ยังไงว่าพวกเขาเป็นภูตชายกับเด็กผู้ชาย?”
สีหน้าของมังกรหนุ่มมืดมนยิ่งขึ้นยามที่ได้ยินคำตอบของเธอ
เขากัดฟันกรามแน่นโดยไม่ได้พูดอะไรต่ออีก
ในไม่ช้า จิ้งจอกสาวก็กล่าวต่อไปว่า
“แต่เขามีพิษอยู่ในตัว เขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่เกิน 3 วัน เขาน่าจะเป็นญาติคนเดียวของเด็กคนนั้น ถ้าเขาตาย เด็กคนนั้นคงน่าสงสารมาก…”
ร่างสูงเลิกคิ้วขึ้น
ตาย?
แล้วใบหน้าที่หม่นหมองบัดนี้กลายเป็นสว่างขึ้นในทันที
“ช่างน่าสงสาร” เขาตอบกลับคำพูดของหูเจียวเจียวด้วยน้ำเสียงแจ่มใส
นั่นทำให้หญิงสาวเหลือบมองมังกรหนุ่ม เธอจะได้ยินว่าเขามีความสุขได้อย่างไร เธอคงหูฝาดไปเอง...
“เจียวเจียว!”
เมื่อจิ้งจอกสาวได้ยินว่ามีคนเรียกตน เธอก็มองกลับไปและพบว่าลู่เมี่ยนเอ๋อกำลังยืนอยู่นอกลานบ้าน
ทำไมนางถึงมาอยู่ที่นี่ในเวลานี้?
“ข้าจะไปดูว่าลู่เมี่ยนเอ๋อมีธุระอะไร” หูเจียวเจียวพูดกับคู่ของตน จากนั้นเธอก็เดินไปหานางเอกสาว “มีอะไรหรือ?”
“เจียวเจียว ผู้ชายที่เจ้าช่วยชีวิตดูเหมือนจะชื่อหยินกู่ เขาต้องการพบเจ้า” กวางสาวถ่ายทอดคำพูดของชายหนุ่มคนนั้น
อีกด้านหนึ่งไม่ไกลนัก ทันทีที่หลงโม่ได้ยินชื่อของหยินกู่ นัยน์ตาที่เคยมีร่องรอยของความตื่นเต้นก็มีแสงสีดำส่องประกายในดวงตาลึกล้ำ
จากนั้นเขาเดินไปข้างหลังหูเจียวเจียวอย่างรวดเร็ว และถามด้วยเสียงทุ้มว่า “ผู้ชายที่เจ้าช่วยคือหยินกู่หรือ?”
--------------------------------------------------
พูดคุยท้ายตอนกับเสี่ยวเถียว: พอพ่อมังกรได้ยินชื่อคนเจ็บแล้วทำตัวแปลกไปมาก มีอดีตอะไรกันหรือเปล่านะ ; - ;
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 217
แสดงความคิดเห็น