ตอนที่ 259 ชาวเกาหลี
ตอนที่ 259 ชาวเกาหลี
บริษัทควอนตัมจ่ายภาษีตามระเบียบอยู่เสมอและไม่เคยคิดจะเลี่ยงภาษีเลยแม้แต่ครั้งเดียว แล้วมันก็อาจจะกล่าวได้ว่างบประมาณเกือบ 1 ใน 3 ของรัฐบาลกลางมาจากการสนับสนุนจากบริษัท ซึ่งถ้าหากไม่ได้เงินภาษีจากบริษัทควอนตัมในช่วง 2 ปีนี้รัฐบาลกลางอาจจะไม่เหลืองบเอาไว้ให้ผลาญแล้วก็ได้
ท้ายที่สุดภาษีส่วนใหญ่ที่ถูกนำไปใช้กับโครงการที่ไม่ก่อให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นอาคารขนาดใหญ่ของรัฐบาลทั้ง 16 แห่ง ซึ่งอาคารแต่ละแห่งต่างก็มีความสูงมากกว่า 30 ชั้น มีลิฟต์คอยให้บริการมากกว่า 30 ตัวและภายในยังถูกตกแต่งอย่างหรูหรา
โครงการแต่ละอย่างของรัฐบาลต่างก็ขาดทุนอย่างไม่เป็นท่า ยกตัวอย่างเช่น สนามบินในรัฐโคโลราโดที่ทุกวันนี้มียานอวกาศจากมนุษย์ต่างดาวลงมาจอดไม่มากนัก และแม้แต่ครั้งสุดท้ายที่เซี่ยเฟยได้เดินทางไปยังสนามบินแห่งนั้น เขาก็เป็นแขกเพียงแค่คนเดียวของทั้งสนามบิน
การใช้จ่ายภาษีอย่างฟุ่มเฟือยของรัฐบาลไม่ต่างไปจากการก่ออาชญากรรมขึ้นมากลางแจ้ง และในตอนนี้พวกเขาก็ยังคิดที่จะรีดภาษีจากบริษัทควอนตัมเพิ่ม ซึ่งแน่นอนว่าในครั้งนี้เซี่ยเฟยย่อมไม่ปล่อยคนพวกนั้นไป
“ภาษีพวกนั้นคือภาษีอะไรครับ?” เซี่ยเฟยถามพร้อมกับสีหน้าที่เปลี่ยนไปอย่างน่าเกลียด
“พวกเขาบอกว่าบริษัทของพวกเราได้ผูกขาดเศรษฐกิจของสหพันธ์เอาไว้ พวกเขาจึงเก็บภาษีเพื่อเป็นบทลงโทษบริษัทเป็นจำนวน 1,000 ล้านสตาร์คอยน์ ซึ่งถ้าหากพวกเราตอบปฏิเสธพวกเขาก็จะทำการยึดบริษัทของเราทันที” อันเดร์กล่าว
ปัง!
เซี่ยเฟยตบโต๊ะลงไปอย่างแรงด้วยความโกรธ
“ผูกขาดบ้านมันสิ! ตอนนี้สหพันธ์โลกได้เข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์แล้ว ขอบเขตของกฎหมายการผูกขาดก็ควรจะกำหนดขอบเขตไปทั่วทั้งพันธมิตรไม่ใช่กระจุกอยู่แต่ในดาวโลกดวงเล็ก ๆ นี่พวกเขาถึงกับต้องการจัดเก็บภาษีพวกเรา 1,000 ล้านสตาร์คอยน์เลยงั้นเหรอ!!”
ช่วง 2 ปีมานี้เซี่ยเฟยขอให้ชาร์ลีจ่ายภาษีแบบเต็มจำนวนโดยไม่ต้องทำการลดหย่อนอะไร เนื่องมาจากเขาต้องการช่วยให้โลกผ่านสถานการณ์ที่ยากลำบาก และเข้าร่วมกับพันธมิตรมนุษย์ได้อย่างสง่าผ่าเผย
แต่สิ่งที่เขาคิดกลับกลายเป็นการทำให้คนในรัฐบาลใช้จ่ายอย่างสุรุ่ยสุร่าย และในเมื่อรัฐบาลยังมีความต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยเฟยก็คงจะต้องลงมือจัดการกับคนพวกนั้นด้วยตัวเองเสียที
ไม่ว่ายังไงเซี่ยเฟยก็ไม่ใช่คนที่ชอบถูกรังแก ด้วยเหตุนี้เขาจึงคิดวางแผนเพื่อจะจัดการเรื่องนี้อย่างรอบคอบ
“ในบรรดาสมาชิกวุฒิสภาทั้ง 128 คนมีคนของเราอยู่ไม่น้อย คุณช่วยให้พวกเขาขัดขวางกฎหมายฉบับนี้ไปก่อน และพยายามสืบหาว่าใครกันแน่ที่กำลังคิดจะหาผลประโยชน์จากพวกเรา เป็นไปได้ผมต้องการรู้ถึงชื่อของทุกคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ทั้งหมด" เซี่ยเฟยกล่าวอย่างใจเย็น
อันเดร์พยักหน้าอย่างหนักแน่นพร้อมกับถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะถ้าหากเซี่ยเฟยออกคำสั่งระดมพลบุกทำลายรัฐบาลจริง ๆ มันก็คงจะไม่มีใครสามารถหยุดชายคนนี้เอาไว้ได้ เพราะท้ายที่สุดทั่วทั้งโลกก็มีกองยานอวกาศอยู่เพียงแค่กองเดียว โดยกองยานอวกาศพวกนั้นก็คือกองยานคุ้มกันของบริษัทควอนตัมนั่นเอง
แต่ถ้าหากว่ามันได้เกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมาบริษัทควอนตัมก็คงจะเสียชื่อเสียงของบริษัทไปครั้งใหญ่ เพราะท้ายที่สุดคนทั่วไปก็ไม่รู้ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังที่เกิดขึ้น ดังนั้นถ้าหากเซี่ยเฟยเคลื่อนไหวอย่างหุนหันพลันแล่น มันก็จะทำให้เขาได้กลายเป็นเป้าโจมตีของคนทั้งโลก
โชคดีที่เซี่ยเฟยยังสามารถคงความสงบของเขาเอาไว้ได้ ซึ่งมันเห็นได้ชัดเลยว่าหลังจากที่ชายหนุ่มได้ผ่านพ้นประสบการณ์มาอย่างมากมาย เขาก็มีความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้นเรื่อย ๆ
“เหตุผลที่ฉันรีบมาหาคุณนั่นก็เพราะว่าฉันได้เตรียมข้อมูลที่คุณต้องการเอาไว้จนหมดแล้ว” อันเดร์กล่าวด้วยรอยยิ้ม
ในความเป็นจริงถ้าหากเซี่ยเฟยเป็นจิ้งจอกน้อยอันเดร์ก็คงจะเป็นจิ้งจอกเฒ่า เพราะชายชราคนนี้ได้คิดแผนการโต้ตอบเบื้องต้นเอาไว้แล้ว เพียงแต่เขาได้เดินทางมาเพื่อหารือกับเซี่ยเฟยเท่านั้น
“เหตุการณ์ครั้งนี้ค่อนข้างจะเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย เพราะคนที่เสนอร่างกฏหมายขึ้นมาไม่ใช่สมาชิกวุฒิสภาแต่เป็นประธานาธิบดีมูรติ ซึ่งถ้าหากข้อเสนอของเขาถูกสมาชิกปัดตกไปเขาก็ยังสามารถใช้สิทธิ์ของประธานาธิบดีบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้ได้อยู่ดี” อันเดร์กล่าว
“มูรติเป็นใครครับ? ถ้าผมจำไม่ผิดประธานาธิบดีคนก่อนไม่ใช่คนนี้นิ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับขมวดคิ้ว
“คุณไม่ค่อยอยู่ที่โลกเลยไม่ค่อยรู้ข่าวที่เกิดขึ้นบนโลกเท่าไหร่ เมื่อไม่นานมานี้มันเพิ่งมีการเลือกตั้งครั้งใหญ่และเขาก็ได้ถูกรับเลือกเป็นประธานาธิบดีโดยเสียงข้างมาก”
“มูรติเติบโตขึ้นมาในเยอรมันแต่ความจริงแล้วเขาเป็นลูกครึ่งเยอรมันเกาหลี ส่วนเหตุผลที่เขาได้รับเลือกให้กลายเป็นประธานาธิบดี เพราะในระหว่างการเลือกตั้งจู่ ๆ ผู้ท้าชิง 2 คนก็มีข่าวอื้อฉาวขึ้นมา”
“ว่ากันว่าข่าวพวกนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของมูรติทั้งหมด และเขาก็ได้เตรียมการสำหรับเรื่องพวกนี้มาเป็นเวลานานแล้ว เขาแค่รอให้ถึงช่วงเวลาการเลือกตั้งเพื่อทำการเปิดเผยข่าวและจู่โจมคู่ต่อสู้ ทำให้ในท้ายที่สุดเขาก็ได้รับเลือกแต่งตั้งให้กลายเป็นประธานาธิบดี” อันเดร์กล่าว
“เขาเป็นพวกงูพิษเจ้าเล่ห์สินะ ถึงขนาดเก็บหลักฐานชิ้นสำคัญเอาไว้เป็นเวลานานและคอยจู่โจมในช่วงเวลาที่สำคัญ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“มันไม่มีนักการเมืองคนไหนเป็นคนที่มือสะอาดหรอก ท้ายที่สุดเบื้องหลังของคนพวกนี้ก็มีเรื่องดำมืดที่คนทั่วไปไม่สามารถจะจินตนาการได้ ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีกลุ่มอำนาจคอยหนุนหลังพวกเขาอยู่อย่างลับ ๆ สิ่งที่ประชาชนได้รู้เห็นมีเพียงแค่ฉากหน้าที่พวกเขาตกแต่งเอาไว้เท่านั้น” อันเดร์กล่าว
“ไม่ว่าจะยุคสมัยไหนคนที่รู้ความจริงก็มีเพียงแค่ส่วนน้อยเสมอนั่นแหละครับ ว่าแต่คุณรู้แล้วหรือยังว่าใครคือผู้อยู่เบื้องหลังมูรติ?” เซี่ยเฟยถาม
“เบื้องหลังของเขาค่อนข้างซับซ้อนมาก ซึ่งคนหนึ่งเป็นชาวเกาหลีที่คอยจัดหาเงินทุนให้กับเขา ส่วนอีกคนเป็นมาเฟียอิตาลีที่คอยจัดการเรื่องต่าง ๆ อย่างลับ ๆ และถึงแม้ว่าพวกมาเฟียจะไม่ได้มีอำนาจเหมือนเมื่อก่อน แต่พวกเขาก็ยังคงมีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลในครั้งนี้อยู่ดี”
“ย้อนกลับไปในตอนที่บริษัทควอนตัมพยายามเข้าซื้อกิจการของบริษัทชั้นนำภายในโลก แม้แต่พวกชาวญี่ปุ่นที่ดื้อรั้นก็ยังต้องยอมศิโรราบให้กับเรา มีเพียงแต่คนเกาหลีกับอิตาลีเท่านั้นที่ไม่ยอมให้บริษัทของพวกเราเข้าไปซื้อกิจการของพวกเขาเลย”
“สำหรับบริษัทในอิตาลีส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทของครอบครัว การที่พวกเขาปฏิเสธจึงเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ แต่พวกคนเกาหลีต่อต้านบริษัทของพวกเราอย่างหัวชนฝาและไม่อยากให้พวกเราไปยุ่งกับพวกเขาด้วยซ้ำ” อันเดร์กล่าว
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 196
แสดงความคิดเห็น