ตอนที่ 258 ภาษีพิเศษ
ตอนที่ 258 ภาษีพิเศษ
ไม่กี่วันต่อมาแวมไพร์ก็ได้เดินทางมาจนถึงวงโคจรรอบโลก ซึ่งทั้งเซี่ยเฟย, เฉินตงและเยว่เกอก็กำลังยืนมองออกไปนอกหน้าต่างเพื่อมองไปยังดาวเคราะห์ดวงสีฟ้า
“นั่นคือดาวบ้านเกิดฉันเอง เป็นยังไงบ้าง? สวยเหมือนกับที่ฉันได้บอกเอาไว้ไหม?” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับยืนเอามือกอดอก
“ไม่เห็นมีอะไรเป็นพิเศษเลย ถ้าพิจารณาจากเมฆสีเทาบนดาวแล้วแสดงว่าบ้านเกิดนายมีมลพิษ แต่โชคดีที่ระดับของมลพิษไม่สูงมากและยังพอมีวิธีฟื้นฟูมลพิษพวกนี้ได้” เยว่เกอกล่าว
“ฉันคิดปัญหาเรื่องนี้เอาไว้ตั้งแต่เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ตอนนี้บริษัทของฉันได้สร้างโรงไฟฟ้าพลังงานฟิวชั่นขึ้นมามากกว่า 20 โรงงาน ซึ่งมากพอที่จะป้อนพลังงานไปทั่วทั้งโลกกว่า 90% ส่วนเรื่องปัญหาสารพิษที่ปนเปื้อนก็กำลังแก้ปัญหาอยู่เช่นกัน ฉันคิดว่าอีกไม่นานโลกคงปราศจากมลพิษโดยสมบูรณ์” เซี่ยเฟยกล่าว
ในตอนแรกแผนของเซี่ยเฟยกับอันเดร์คือต้องการจ่ายไฟฟ้าให้กับคนทั้งโลกด้วยโรงไฟฟ้าพลังงานใหม่เพียงแค่ 4 แห่ง แต่หลังจากที่ได้พิจารณาต้นทุนในการขนส่งแล้วพวกเขาจึงตัดสินใจสร้างโรงไฟฟ้ากระจายกันไปทั้งสิ้น 21 แห่ง
ปัจจุบันโรงไฟฟ้าได้สร้างเสร็จทั้งสิ้น 19 แห่งแล้วส่วนอีก 2 แห่งก็จะสร้างเสร็จในเวลาอีกเพียงแค่ไม่กี่เดือน ซึ่งในเวลานั้นโลกจะไม่จำเป็นต้องผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินอีกต่อไป และราคาของไฟฟ้าจะลดลงมากกว่าเดิม 2-3 เท่า อีกทั้งการใช้ไฟฟ้าพลังงานใหม่นี้ยังไม่สร้างปัญหามลพิษให้กับโลกอีกด้วย
ปัจจุบันบริษัทควอนตัมกลายเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก และได้ควบคุมเศรษฐกิจของโลกเอาไว้ถึง 13.15% นอกจากนี้บริษัทชั้นนำในอดีตยังทยอยเข้าร่วมกับบริษัทควอนตัมอย่างต่อเนื่อง ทำให้อัตราการควบคุมเศรษฐกิจของบริษัทค่อย ๆ เพิ่มจากเดิมเช่นเดียวกัน
“นายเป็นเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกใช่ไหม? ถ้าเดาไม่ผิดนายก็น่าจะเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกด้วยเหมือนกัน” เยว่เกอถาม
“ก็ประมาณนั้น” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับเกาศีรษะด้วยความเขินอายเล็กน้อย
“ดาวบ้านเกิดของนายยากจนจริง ๆ บริษัทควอนตัมมีทรัพย์สินเพียงแค่ประมาณ 10,000 ล้านสตาร์คอยน์ แต่กลับกลายเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดภายในโลก ถ้าเทียบกับพันธมิตรอย่างมากที่สุดบริษัทควอนตัมก็เป็นได้เพียงแค่บริษัทขนาดกลางเท่านั้น” เยว่เกอกล่าวพร้อมกับหัวเราะออกมาเสียงดัง
ทั่วทั้งพันธมิตรมนุษย์มีประชากรอยู่อย่างมากมายมหาศาลและบริษัทควอนตัมก็ยังไม่สามารถเทียบชั้นกับบริษัทชั้นนำภายในพันธมิตรได้จริง ๆ ยกตัวอย่างเช่นบริษัท สตาร์ยูไนเต็ดของตระกูลแอวริลที่สามารถผลิตกำไรได้มากกว่า 10,000 ล้านสตาร์คอยน์ต่อนาที ทำให้ตัวตนของเซี่ยเฟยไม่ได้อยู่ในสายตาของสังคมระดับจักรวาลเลย
ขณะเดียวกันเฉินตงก็เป็นลูกชายคนโตของตระกูลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายในอาณาจักรเหมันต์ เขาจึงเติบโตขึ้นมาในฐานะของคุณชายที่ไม่เคยขาดแคลนเรื่องเงินทอง ส่วนเบื้องหลังของเยว่เกอนั้นเซี่ยเฟยก็ไม่รู้จักเช่นเดียวกัน แต่เมื่อพิจารณาจากที่เธอใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายเธอก็น่าจะเติบโตขึ้นมาในตระกูลที่ไม่ธรรมดา ด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นกับบริษัทควอนตัมของเซี่ยเฟยมากนัก
“พวกเรารีบไปบ้านของนายกันเถอะ” เยว่เกอพูดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น
“ฉันว่าจะพาพวกนายไปที่ฮาวายก่อน คุณตาฉินหมางที่อยู่ในห้องสมุดกำลังพักฟื้นอยู่ที่นั่นและผลไม้กับชายหาดในฮาวายก็ให้บรรยากาศที่ดีมาก” เซี่ยเฟยกล่าว
“ไหน ๆ พวกเราก็มาบ้านเกิดของนายแล้ว พวกเราก็ควรจะต้องไปเยี่ยมบ้านของนายก่อนสิ ส่วนสถานที่อื่นพวกเราค่อยไปในวันหลัง ถึงยังไงพวกเราก็ยังพอมีเวลาอยู่” เฉินตงกล่าว
เยว่เกอพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เนื่องมาจากเธออยากไปเยี่ยมชมบ้านของเซี่ยเฟย
“แต่ฉันไม่มีบ้านนะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับแบมือออกทั้งสองข้าง
“ถ้าไม่มีบ้านแล้วนายอาศัยอยู่ที่ไหน?” เยว่เกอถามขึ้นมาด้วยความสงสัย
“บางครั้งฉันก็พักในคฤหาสน์ของลุงอันเดร์ บางครั้งก็พักในโรงแรม บางครั้งฉันก็พักในยานอวกาศลำนี้ ฉันคิดว่าแวมไพร์น่าจะเป็นเหมือนบ้านของฉันมากที่สุดแล้ว เพราะฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นี่” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยท่าทางสบาย ๆ ราวกับว่าการไม่มีบ้านไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขาเลย
เฉินตงพยักหน้าอย่างเข้าใจ เพราะอันที่จริงเขาก็ไม่ได้สนใจการมีบ้านมากเป็นพิเศษ ท้ายที่สุดเขาก็ใช้เวลาส่วนใหญ่อาศัยอยู่นอกบ้านไม่ต่างไปจากเซี่ยเฟย
ในทางกลับกันเยว่เกอก็ยังถือว่าเป็นผู้หญิงและถึงแม้ว่าเธอจะเป็นผู้หญิงที่แปลก ๆ ไปสักหน่อย แต่สัญชาตญาณของผู้หญิงก็ทำให้เธอรู้สึกใส่ใจเรื่องครอบครัวมากกว่าผู้ชาย
“อ๋อ ถึงว่าพวกนายถึงหาเมียไม่ได้สักที ที่แท้ถึงแม้ว่าพวกนายจะมีเงินแต่ก็ไม่รู้จักหาซื้อบ้านช่องเป็นของตัวเองนี่เอง ถ้าผู้หญิงคนไหนหลงกลมาแต่งงานกับพวกนายเข้า ฉันก็คิดว่าตระกูลของพวกเธอคงจะโชคร้ายไป 9 ชั่วอายุคน” เยว่เกอบ่นออกมาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“ฉันเกี่ยวอะไรด้วย?” เฉินตงถามอย่างสงสัย
“ทำไมจะไม่เกี่ยว! ไม่ว่าจะนายหรือเซี่ยเฟยก็เป็นไอ้บ้าเหมือนกันนั่นแหละ ฉันคิดไม่ออกจริง ๆ ว่าคนแบบพวกนายจะหาเมียได้ยังไง!!” เยว่เกอบ่นออกมาด้วยความหงุดหงิด
“ถึงฉันจะเป็นแบบนี้ แต่บางทีอาจจะมีผู้หญิงมาชอบฉันก็ได้นะ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับนึกถึงแอวริล
“นายกำลังพูดถึงแอวริลใช่ไหม? นี่ตกลงนายคบกับเธอแล้วงั้นเหรอ?” เยว่เกอถามออกมาด้วยเสียงที่เศร้าหมอง
เมื่อได้เห็นปฏิกิริยาของเยว่เกอที่เปลี่ยนไป เซี่ยเฟยก็เริ่มเปลี่ยนหัวข้อบทสนทนาและหยุดพูดคุยในเรื่องส่วนตัวของแต่ละคน
—
ณ เกาะที่ไม่มีชื่อในฮาวาย
อันเดร์ซื้อเกาะแห่งนี้เอาไว้ในนามของบริษัท ดังนั้นมันจึงถือว่าเกาะนี้เป็นหนึ่งในทรัพย์สินของเซี่ยเฟย แต่สำหรับชายหนุ่มคนนี้แล้วสิ่งเดียวที่เขาเรียกว่าบ้านได้ก็น่าจะเป็นห้องทรุดโทรมในเขตชานเมืองของเมืองปักกิ่ง ตั้งแต่สมัยที่เขายังคงมีอาชีพเป็นเด็กปั่นจักรยานส่งของ
สภาพแวดล้อมภายในเกาะแห่งนี้ดีมาก เพราะมันมีหาดทรายขาวละเอียดทอดออกไปยาวสุดลูกหูลูกตา และมันก็ยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่ 3 หลังถูกสร้างเอาไว้บนเกาะ โดยคฤหาสน์แต่ละหลังต่างก็ล้วนแล้วแต่มีสิ่งอำนวยความสะดวกสบายอยู่อย่างครบครัน
ตอนแรกเซี่ยเฟยก็ไม่คุ้นเคยกับการใช้ชีวิตในสภาพแวดล้อมที่หรูหรา แต่ในตอนนี้เขาก็เริ่มปรับตัวได้แล้วทำให้เขาสามารถใช้ชีวิตได้อย่างสบาย ๆ ไม่ว่าสภาพแวดล้อมในบริเวณนั้นจะเต็มไปด้วยความหรูหราหรือความซอมซ่อมากก็ตาม
บริเวณริมชายหาดมีเก้าอี้ผ้าใบถูกกางเอาไว้เรียงกัน และในปัจจุบันก็มีเซี่ยเฟย, เยว่เกอ, เฉินตงและฉินหมางนอนอยู่บนเก้าอี้พวกนั้น พร้อมกับก้อนน้ำแข็งบริเวณรอบ ๆ ที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนแอร์ตามธรรมชาติ
เยว่เกอสวมชุดทูพีซสุดเซ็กซี่เพื่ออวดรูปร่างอันโค้งเว้าของเธอ นอกจากนี้เธอยังคอยสั่งให้เฉินตงผลิตน้ำแข็งให้กับเธอตลอดเวลา จนทำให้ในตอนนี้เฉินตงดูไม่ต่างไปจากเครื่องผลิตน้ำแข็งไปแล้ว
ขณะเดียวกันเฉินตงก็เริ่มปรับตัวได้กับทฤษฎี ‘YES’ ที่เซี่ยเฟยได้สอนไว้ เขาจึงตอบตกลงกับเรื่องทุกอย่าง ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ฉินหมางมองไปทางเฉินตงด้วยความประหลาดใจ
แน่นอนว่าในตอนนี้เซี่ยเฟยก็เริ่มรู้สึกเสียใจที่ได้สอนทฤษฎี ‘YES’ ให้กับเฉินตง เพราะชายหนุ่มคนนี้เป็นคนที่ซื่อบื้อจริง ๆ ถึงขนาดไม่รู้จักที่จะปฏิเสธเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เลย
“เขาคือเฉินตงจากตระกูลเฉินในอาณาจักรเหมันต์ใช่ไหม?” ฉินหมางหันไปถามเซี่ยเฟยอย่างสงสัย
“ใช่ครับ เขาคือเฉินตงคนนั้นนั่นแหละครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“เฉินตงที่สู้กับนายก่อนเข้าค่ายจนได้ฉายาว่าไอ้บ้าเฉินอ่ะนะ?” ฉินหมางถามอีกครั้ง
“คุณตาจำคนไม่ผิดหรอกครับ เนี่ยแหละคือเขาจริง ๆ” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“เอิ่ม…แล้วเขากลายเป็นคนแบบนี้ได้ยังไง?” ฉินหมางพยักหน้ารับพร้อมกับพึมพำออกมาด้วยความครุ่นคิด
คำถามนี้ถึงกับทำให้เซี่ยเฟยพูดไม่ออกอยู่พักหนึ่ง เพราะสาเหตุที่เฉินตงกลายเป็นแบบนี้ส่วนหนึ่งมันก็เป็นเพราะคำแนะนำของเขา
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากนั้นก็เป็นสิ่งที่เซี่ยเฟยไม่คาดคิด เพราะจู่ ๆ ฉินหมางก็เริ่มออกคำสั่งเฉินตงเหมือนกับเยว่เกอจนทำให้ชายร่างใหญ่คนนี้วิ่งวุ่นไปทั้งวัน
ขณะเดียวกันมันก็ได้มีเครื่องบินทะเลแล่นลงจอดห่างจากพวกเขาไปไม่ไกล ซึ่งเซี่ยเฟยก็รู้ดีว่าอันเดร์น่าจะรีบเดินทางมาหาเขา เขาจึงขอตัวจากฉินหมางเพื่อไปพบกับอันเดร์
อันเดร์ลงมาจากเครื่องบินพร้อมกับแหงนหน้าขึ้นไปมองดูท้องฟ้า
“จริง ๆ ฮาวายก็สวยดี แต่น่าเสียดายที่มันร้อนเกินไปหน่อย”
“ทำไมคุณลุงถึงไม่โทรมาล่ะครับจะรีบบินมาหาผมทำไม จริง ๆ ถ้ามีเรื่องด่วนอะไรผมแค่วิ่งไปหาคุณแค่แป๊บเดียวก็ได้” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“นาน ๆ ทีคุณถึงจะมีโอกาสได้พักการเดินทางแค่นี้ไม่ได้ยากลำบากอะไรสำหรับฉันหรอก ฉันได้เตรียมห้องทดลองของแฮร์ริสที่คุณต้องการเอาไว้ให้แล้วนะ มันถูกสร้างเอาไว้ที่อลาสก้าอย่างที่คุณได้ขอเอาไว้” อันเดร์กล่าว
“ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมค่อยไปที่นั่นพรุ่งนี้เช้า ช่วงนี้รบกวนคุณลุงช่วยดูแลบริษัทแทนผมไปก่อนนะครับ” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับพยักหน้า
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ตั้งแต่ที่พอตเตอร์เข้ามางานของฉันก็ง่ายขึ้นเยอะ เขาไม่เพียงแต่จะมีฝีมือในเรื่องงานช่างเท่านั้นแต่เขายังมีฝีมือทางด้านงานบริหารอีกด้วย ฉันว่าฉันจะหาโอกาสดี ๆ ดันเขาขึ้นมาเป็นคณะกรรมการ ท้ายที่สุดร่างกายของฉันก็กำลังอ่อนแอลงเรื่อย ๆ ฉันกลัวว่าฉันคงจะอยู่ช่วยบริษัทได้อีกไม่นาน” อันเดร์กล่าว
เซี่ยเฟยรู้สึกตื้นตันมากที่อันเดร์ยังคงอยู่ช่วยบริษัทแม้ว่าเขาจะมีอายุเกือบ 80 ปีแล้ว ซึ่งชายหนุ่มก็แอบจดจำบุญคุณนี้เอาไว้ในใจเพื่อจะชดใช้ให้กับชายชราในอนาคต
อย่างไรก็ตามอันเดร์ก็แตกต่างจากสัตว์ประหลาดอย่างพอตเตอร์กับฉินหมาง เพราะท้ายที่สุดเขาก็เป็นเพียงแค่มนุษย์บนโลกธรรมดาทำให้ไม่สามารถมีอายุยืนไปได้หลายร้อยปี
ก่อนหน้านี้เซี่ยเฟยได้มอบน้ำยาปรับสภาพยีนให้กับชายชราเพื่อหวังว่าเขาจะสามารถเปิดใช้งานพื้นที่สมองส่วนที่ 7 ของเขาได้ แต่น่าเสียดายที่ถึงแม้อันเดร์จะดื่มน้ำยาเข้าไปแล้วแต่เขาก็ยังคงเป็นเพียงแค่ชายชราที่ไร้พลัง
จากนั้นทั้งสองคนก็เดินไปยังบ้านพักของฉินหมาง ซึ่งหลังจากที่อันเดร์ได้ดื่มน้ำดับกระหายแล้วเขาก็กล่าวขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่จริงจังว่า
“ตอนนี้ทางรัฐบาลกลางต้องการจะเรียกเก็บภาษีพิเศษจากบริษัทของเรา เพื่อนเก่าฉันที่อยู่ในสภาได้เล่าให้ฟังว่าภาษีข้อนี้ถูกร่างขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อใช้กับบริษัทของเราโดยเฉพาะ”
“ภาษีพิเศษที่เก็บเฉพาะบริษัทเรางั้นเหรอ?!” เซี่ยเฟยอุทานด้วยความสงสัย
“ใช่ มันเป็นภาษีสำหรับบริษัทควอนตัมเพียงบริษัทเดียว และอัตราภาษีที่พวกเขาเรียกเก็บก็ไม่ใช่น้อย ๆ” อันเดร์กล่าวพร้อมกับพยักหน้า
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 131
แสดงความคิดเห็น