ตอนที่ 253 การเปลี่ยนแปลงของเฉินตง
ตอนที่ 253 การเปลี่ยนแปลงของเฉินตง
ค่ายฝึกจัสทิสลีกถือได้ว่าเป็นสถานที่ที่เซี่ยเฟยทั้งรู้สึกคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยในเวลาเดียวกัน เพราะถึงแม้ว่าเขาจะได้เข้าฝึกภายในค่ายแห่งนี้จริง ๆ แต่เขากลับไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนหนึ่งกับค่ายแห่งนี้เลย
คนหลาย ๆ คนภายในค่ายฝึกจดจำเซี่ยเฟยได้จากการต่อสู้ระหว่างเขากับเฉินตง ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดที่สุดนับตั้งแต่ที่ได้มีการประเมินของค่ายฝึกจัสทิสลีกมา นอกจากนี้ชายหนุ่มยังได้รับชัยชนะในการแข่งขันรถเอ็กซ์ตรีมก่อนที่เขาจะสามารถเข้าสู่ค่ายชั้นในได้สำเร็จ
แต่ข่าวลือเรื่องเซี่ยเฟยไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องในแง่บวก เพราะมันมีข่าวลือว่าชายหนุ่มคนนี้เคยหายตัวขณะสำรวจซากปรักหักพังโบราณไปเป็นเวลาถึง 1 ปี ทุกคนจึงคิดว่าเขาเป็นคนบ้าที่ไม่อยากฝึกฝนภายในค่ายชั้นใน
ยิ่งไปกว่านั้นมันยังมีข่าวลือเรื่องที่เซี่ยเฟยไม่ยอมเซ็นสัญญากับสมาพันธ์ เพราะเขามีภูมิหลังที่มีความยิ่งใหญ่มากกว่านั้นเขาจึงไม่จำเป็นจะต้องดักดานอยู่ในค่ายฝึกแห่งนี้
ตลอดเวลาตั้งแต่ที่เซี่ยเฟยเข้าค่ายฝึกมามันได้มีข่าวลือในเรื่องต่าง ๆ เกี่ยวกับเขาอย่างมากมาย แต่สิ่งที่น่าประหลาดใจคือคนส่วนใหญ่คิดว่าเขาเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าอัศจรรย์ เพราะคนธรรมดาที่ไหนจะเข้ามาภายในค่ายเพื่อไปเป็นบรรณารักษ์ของห้องสมุด
แน่นอนว่าเซี่ยเฟยไม่ได้สนใจข่าวลือไร้สาระพวกนี้เลย เพราะนี่คือชีวิตของตัวเขาเองและเขาก็ไม่จำเป็นจะต้องไปอธิบายเรื่องตัวเองกับใคร ตราบใดก็ตามที่เขาคิดว่าสิ่งที่เขาทำคือสิ่งที่ถูกต้องเขาก็ไม่เคยคิดว่าคนอื่นจะมองเขาในรูปแบบไหน
ค่ายชั้นในยังคงดูว่างเปล่าเหมือนเช่นเคย ซึ่งเซี่ยเฟยก็ได้ลากทั้งเฉินตงและเยว่เกอออกมาจากห้องฝึก แล้วมานั่งภายในร้านอาหารเหมือนกับตอนที่พวกเขามาที่นี่เป็นครั้งแรก
เยว่เกอยังคงเป็นคนอารมณ์ดีเหมือนเช่นเคย ซึ่งเธอก็สั่งอาหารเครื่องดื่มมาวางไว้บนโต๊ะอย่างมากมาย และแน่นอนว่าภายในมือของเธอยังคงมีแตงกวาอยู่
ดูเหมือนว่าเธอคนนี้จะรู้สึกเกลียดชังแตงกวาเข้ากระดูกดำ เพราะเธอมักจะหยิบแตงกวาออกมาแทะเสมอ เซี่ยเฟยเคยคาดเดาว่าแตงกวาสำหรับเธอมีไว้เป็นอาหารฉุกเฉิน แต่เขาก็ยังไม่มีโอกาสได้ยืนยันในเรื่องนี้สักที
เฉินตงดูสูงกว่าเดิมเล็กน้อยและไม่ว่าเขาจะไปที่ไหนเขาก็มักจะไม่สวมเสื้อของเขาอยู่เสมอ ครั้งเดียวที่เซี่ยเฟยได้เห็นเฉินตงแต่งตัวเหมือนคนปกติ คือตอนที่พวกเขาได้สวมใส่ชุดเครื่องแบบของค่ายฝึกในวันปฐมนิเทศ
เซี่ยเฟยไม่ได้เจอกับเฉินตงมาสักพักใหญ่แล้วและดูเหมือนว่าออร่าของชายคนนี้จะดูเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมเล็กน้อย เพราะทันทีที่เฉินตงได้เดินเข้ามาบรรยากาศภายในโรงอาหารก็ดูเหมือนจะเยือกเย็นลง
ชายหนุ่มคาดเดาเหตุผลว่าการที่เฉินตงเปลี่ยนไปแบบนี้ นั่นก็เพราะว่าเขาได้ดูดซับพลังงานจากหัวใจจักรวาลเข้าไปมากเกินไป แต่โชคดีที่นิสัยของชายคนนี้เป็นคนตรง ๆ ผลกระทบของการดูดซับพลังงานจึงยังไม่ทำให้เขาได้กลายเป็นคนที่มีนิสัยดุร้าย
เยว่เกอกัดแตงกวาพร้อมกับพูดคุยอย่างสนุกสนาน แล้วเธอก็พูดคุยประสบการณ์ภายในค่ายด้วยรอยยิ้ม
“คราวนี้นายจะอยู่ในค่ายนานแค่ไหน?” เยว่เกอกล่าวพร้อมกับนำขาเรียวขาวของเธอขึ้นมาพาดไว้บนโต๊ะ
มันย่อมเป็นเรื่องไม่เหมาะสมที่หญิงสาวจะยกขาขาว ๆ เมื่อมีชายหนุ่มอยู่ตรงหน้าของเธอถึงสองคน และถึงแม้ว่าผู้ชายเหล่านี้จะเป็นคนที่ไม่ค่อยสนใจอะไร แต่สายตาของพวกเขาก็อดจะเหลือบมองไปยังใต้กระโปรงของเธอไม่ได้
“แป๊บเดียว เดี๋ยวฉันก็ไปแล้ว” เซี่ยเฟยกล่าวพร้อมกับแสร้งทำเป็นมองไม่เห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้า
“อะไรกันนายเพิ่งจะมาแต่นายก็จะไปอีกแล้วเหรอ? ถ้าจะมาแค่นี้ไม่ต้องมาก็ได้ไหม” เยว่เกอกล่าวด้วยความหงุดหงิด
“ที่บ้านเกิดฉันมีสุภาษิตว่ามิตรภาพระหว่างบุรุษเบาบางเหมือนกับหยดน้ำ ถึงแม้ว่าพวกเราจะไม่ได้เจอกันบ่อยแต่พวกเราก็มีความคิดถึงกันอยู่ภายในใจ ส่วนเหตุผลที่ฉันกลับมาในครั้งนี้ส่วนหนึ่งก็เพราะฉันมาทำธุระให้คุณตา แต่อีกเหตุผลหนึ่งนั่นก็เพราะว่าฉันอยากจะมาเตือนพวกนายด้วยตัวเอง” เซี่ยเฟยกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“การที่นายไม่พูดเรื่องนี้ผ่านทางระบบสื่อสาร แต่มาหาพวกเราเป็นการส่วนตัวแสดงว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญมากเลยใช่ไหม?” เฉินตงกล่าวอย่างจริงจัง
“เดี๋ยวก่อนไอ้เบิ้ม!” เยว่เกอกล่าวพร้อมกับยื่นมือไปหยุดเฉินตงเอาไว้ ก่อนที่เธอจะหันไปถามเซี่ยเฟยอย่างจริงจัง
“ใครคิดถึงใครภายในใจนะ?”
“ฉันมีเพื่อนอยู่ไม่มากนักหรอก แน่นอนว่าฉันยอมคิดถึงพวกนายสองคน ท้ายที่สุดพวกเราก็ผ่านเรื่องต่าง ๆ ด้วยกันมาอย่างมากมาย แล้วฉันจะลืมพวกนายสองคนได้ยังไง” เซี่ยเฟยกล่าว
เฉินตงพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ขณะที่เยว่เกอเผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ
“โอเคฉันจะยกโทษให้นายก็ได้ เอาล่ะบอกมาสิว่านายมีเรื่องอะไรจะคุยกับพวกเรา”
หลังจากนั้นเซี่ยเฟยก็อธิบายถึงความอันตรายของการดูดซับพลังจากหัวใจจักรวาลอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งสีหน้าของเฉินตงก็เปลี่ยนแปลงจากเดิมไปมาก แต่สีหน้าของเยว่เกอกลับเหมือนเดิมราวกับว่าเรื่องนี้ไม่ได้มีผลกระทบกับเธอเลย
“นายพูดจริงเหรอ?!” เฉินตงถามด้วยสีหน้าอันเคร่งขรึม
“ฉันจะโกหกพวกนายไปทำไม” เซี่ยเฟยกล่าวอย่างจริงจัง
เฉินตงใช้มือตบเข้าไปที่โต๊ะอย่างรุนแรง และถ้าหากไม่ใช่เพราะโต๊ะไม้ตัวนี้ถูกสร้างขึ้นมาอย่างแข็งแรง มันก็คงจะถูกบดจนแลกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยไปแล้ว
“ไม่นานมานี้ฉันเริ่มรู้สึกว่าตัวเองหงุดหงิดง่ายมากขึ้นเรื่อย ๆ ถ้าไม่ใช่เพราะพลังของฉันคือน้ำแข็งฉันก็คิดว่าความโกรธภายในใจของฉันคงจะปะทุออกมาแล้ว มันพอจะมีวิธีแก้ไขปัญหานี้ไหม?” เฉินตงกล่าวออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่สู้ดี
คำอธิบายนี้เพิ่งทำให้เซี่ยเฟยได้ตระหนักว่าพลังพิเศษสามารถดับความโกรธภายในใจของผู้ฝึกได้ แล้วคงจะด้วยเหตุนี้เฉินตงจึงสามารถอดทนมาจนได้ถึงปัจจุบัน และการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของเขาจึงไม่มากจนเกินไป
“มันพอจะมีวิธีแก้ไขอยู่บ้าง แต่มันก็ค่อนข้างยุ่งยากอยู่พอสมควร” เซี่ยเฟยกล่าว
วิธีการดูดซับพลังจากหัวใจจักรวาลที่เงาอำมหิตได้ทิ้งเอาไว้มีทั้งสิ้น 3 วิธี โดยวิธีการที่ 3 เป็นวิธีการที่มีอันตรายน้อยที่สุด แต่มันก็จำเป็นจะต้องใช้หัวใจจักรวาลสีม่วงในการดูดซับ ซึ่งหัวใจจักรวาลชนิดนี้เป็นสิ่งที่หาได้ยากเป็นอย่างมาก
เหตุการณ์นี้ทำให้เฉินตงรู้สึกไม่สบายใจ เพราะท้ายที่สุดสิ่งที่เขาสนใจก็มีเพียงแค่การฝึกฝนและการต่อสู้เท่านั้น ดังนั้นเมื่อเขาได้ยินว่าวิธีการที่เขากำลังฝึกฝนมีอันตรายต่อร่างกาย เขาจึงเริ่มเกิดความไม่มั่นใจขึ้นมาในทันที
“ฉันก็นึกว่านายจะพูดอะไร ฉันรู้ตั้งนานแล้วว่าวิธีการฝึกแบบนี้มันส่งผลกระทบต่อร่างกาย” ทันใดนั้นเยว่เกอก็พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เมินเฉย
“เออใช่สิ! เธอไม่ได้มีพลังเกี่ยวกับน้ำหรือน้ำแข็งแล้วทำไมเธอถึงดูไม่เป็นอะไรเลยล่ะ?” เฉินตงกล่าวถามหลังจากที่ตระหนักได้ถึงความปกติของเยว่เกอ
***************
สารบัญ / นำทาง
- 👁️ ยอดวิว 205
แสดงความคิดเห็น