ถนนเส้นเดียวกัน
มนัทเดินโซเซออกมาจากบาร์เหล้าร้านประจำ ร้านนี้เป็นร้านที่ชายหนุ่มและเพื่อนๆ นัดกันมาสังสรรค์กันแทบทุกคืน เนื่องเพราะทางบ้านค่อนข้างมีฐานะ ดังนั้นเมื่อมนัทเรียนจบชั้นมหาวิทยาลัยด้วยเกรดต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เขาจึงไม่ต้องดิ้นรนหางานทำเหมือนกลุ่มเพื่อนคนอื่นๆ เพราะต่อให้เขาไม่ทำอะไรเลยทั้งชีวิต มนัทก็เชื่อว่าทางบ้านคงมีเงินให้เขาใช้อย่างสบายๆ อยู่แล้ว
ร่างสูงที่เต็มไปด้วยกลิ่นเหล้าและกลิ่นควันบุหรี่ก้าวโซซัดโซเซตรงเข้าไปยังลานจอดรถของบาร์ เมื่อเขาเข้าไปนั่งในรถเก๋งยี่ห้อดังที่เขาภูมิใจหนักหนา มนัทก็สตาร์ทรถแล้วเร่งเครื่องออกจากร้านเหล้าไปด้วยความเร็วอย่างคะนองในอารมณ์
ถนนที่ปลอดรถในยามเที่ยงคืน ประกอบกับเสียงเพลงแนวร็อคที่ปลุกใจ ทำให้มนัทเพิ่มความเร็วของรถคู่ใจขึ้นไปอีกหลายระดับ เขาเชื่อว่าด้วยความเชี่ยวชาญในการขับของเขา ความเร็วแค่นี้ยังถือว่าช้าไปด้วยซ้ำ เรื่องที่กลัวรถจะเสียหลักหรือไปชนใครเข้า ไม่ได้อยู่ในหัวสมองของชายหนุ่มเลยแม้เพียงนิดเดียว
มนัทไม่ใช่พวกไก่อ่อนที่มักจะคุมรถไม่อยู่ในเวลาเมา เพราะตั้งแต่สมัยเรียนจนถึงบัดนี้ เขายังไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนั้นมาก่อน และเขาเชื่อว่าด้วยความสามารถของเขา ไอ้เรื่องพันนั้นไม่มีทางจะเกิดขึ้นกับคนอย่างเขาได้แน่นอน
เชิดชัยใช้เวลาขณะรออาหาร นั่งดูข่าวที่กำลังฉายผ่านทางทีวีในร้านขายข้าวต้มในยามดึกไปพลางๆ ซึ่งข่าวที่ถูกนำเสนอก็มีแต่เรื่องไม่ดีในสังคมทั้งนั้น ทั้งข่าวคนฆ่าตัวตาย ข่าวคนใช้อาวุธสังหารกันอย่างเลือดเย็น ข่าวเด็กวัยรุ่นที่ได้ชื่อว่าเป็น ‘อนาคตของชาติ’ ไล่ฟันแทงกันไม่เว้นแต่ละวัน
เชิดชัยได้แต่ต้องถอนหายใจ อย่าว่าแต่เป็นอนาคตของชาติเลย ในความคิดของชายวัยกลางคน แม้แต่เป็นอนาคตของตัวเองหรือของครอบครัว เด็กพวกนี้ยังทำไม่ได้เลยด้วยซ้ำ
เชิดชัยนั่งรอข้าวต้มที่สั่งไปราวสิบนาที พนักงานของร้านก็เดินถือถุงอาหารที่สั่งไปมาให้ที่โต๊ะ เขารีบจ่ายเงินแล้วขับรถมอเตอร์ไซค์กลางเก่ากลางใหม่ออกจากร้าน แล้วมุ่งหน้าไปตามถนนเพื่อกลับบ้าน
สายลมเย็นในยามเที่ยงคืน ทำให้ชายวัยกลางคนอดเผลอตัวสั่นเพราะความหนาวเสียไม่ได้ ทีแรกคิดว่าคงไม่ได้ไปที่ไหนใกล แต่เพราะร้านขาประจำที่อยู่ละแวกบ้านดันไม่เปิด เขาเลยต้องถ่อขับรถมาซื้ออีกซอยหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างบ้านออกมาไกลอีกพอสมควร
นึกแล้วก็ชักเป็นห่วงคนที่เชิดชัยซื้อข้าวต้มไปให้ เพราะเขารู้ว่าป่านนี้ คนคนนั้นคงยังไม่ได้กินข้าวปลามาแน่ๆ แค่ขับเลยผ่านแยกข้างหน้านี้ไปอีกราวห้านาทีก็จะถึงบ้านของชายวัยกลางคนแล้ว
มนัทกระทืบเบรกจนเกิดเสียงล้อรถเสียดสีกับพื้นถนนดังแหลมบาดหู เขาหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็กๆ อย่างหน้าหวาดเสียว แทนที่ชายหนุ่มจะตระหนักถึงอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตน ทว่าเขากลับผุดรอยยิ้มสมใจขึ้นมาบนใบหน้าเสียอย่างนั้น
ถึงแม้ถนนเส้นนี้จะไม่ได้มีขนาดกว้างขวางเหมือนถนนหลวงเส้นที่ชายหนุ่มเพิ่งผ่านมา แต่ความเร็วของรถก็ไม่ได้ลดน้อยลงเท่าใดนัก ด้วยเพราะถนนเส้นนี้เขาขับผ่านมันมาแทบทุกคืน ทำไมเขาจะไม่รู้ว่า ถนนเส้นนี้ดูว่างเปล่าแค่ไหน นอกจากเขาแล้ว ก็คงไม่มีใครใช้ถนนเส้นนี้อีกแล้ว
ชายหนุ่มคิดแบบนั้นจนกระทั่งเมื่อขับมาถึงสี่แยกแห่งหนึ่ง ในเวลานั้นเอง เขาก็มองเห็นรถมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งขับเลี้ยวออกมาจากซอยใหญ่ด้านซ้ายมืออย่างกระทันหัน รถคันนั้นกำลังมุ่งหน้าไปทิศเดียวกันกับที่ชายหนุ่มกำลังไป
ที่จริงแล้วจะไม่เกิดปัญหาอะไรขึ้นเลย หากรถของเขาจะไม่วิ่งมาด้วยความเร็วจนเกินไป เพราะด้วยระยะห่างเพียงเท่านี้ จะอย่างไรย่อมเบรกได้ทันอยู่แล้ว หากทว่าในเวลานี้ และเหตุการณ์นี้...มันไม่ได้เป็นแบบนั้น!
เพราะด้วยความคาดไม่ถึง ด้วยความเมาที่ยังตกค้าง ด้วยความเร็วของรถ สมองของชายหนุ่มกลับสั่งการให้ท้าวของเขาเหยี่ยบเบรกช้าไป
เพียงเสี้ยววิ ก่อนที่รถเก๋งของเขาจะพุ่งเข้าปะทะกับรถมอเตอร์ไซค์เบื้องหน้า แสงไฟหน้ารถก็สะท้อนให้เขาเห็นแผ่นหลังอันคุ้นเคย ใบหน้าที่หันกลับหลังมามองด้วยความตกใจนั้นก็ช่างดูคุ้นเคยเหลือเกิน
...ภายในใจกรีดร้องว่า ‘ไม่ๆๆๆ’ หัวใจราวถูกแรงอันมหาศาลจากการพุ่งชนฉีดแยกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย เสี้ยววิก่อนที่จะหมดสะติ มนัททำได้เพียงหลุดปากเรียกคนที่เขาช่างคุ้นเคยออกมาได้เพียงครึ่งคำ ก่อนที่เสียงโครมจากการกระแทกชนจะดังสนั่นลั่นไปทั้งยามวิกาล
มนัทนั่งเหม่อลอยอย่างคนไร้สติอยู่ภายในห้องขัง หากเขารู้ว่าเพราะความคึกคะนอง เพราะความประมาทในการใช้ชีวิตของเขา ต้องทำให้ ‘พ่อ’ ของเขาต้องตายในคืนนั้น เขาก็คงไม่ต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้
เขารู้แล้วว่าการกระทำของเขามันเลวร้ายแค่ไหน เพราะคนที่จะกระทบกับการใช้ชีวิตของเขามันไม่ได้มีแค่ตัวเขาเพียงคนเดียว แต่มันยังรวมไปถึงคนอื่นๆ ด้วย คืนนั้นหากเขาไม่เมา หากเขาไม่ประมาทจนยากจะแก้ไข พ่อของเขาก็คงไม่ตาย ตายด้วยน้ำมือของเขาเองแบบนี้
ในคืนนั้นเขาน่าจะคิดได้ว่า ‘ถนน’ เส้นนั้น หรือถนนทุกเส้นไม่ได้มีเขาใช้มันอยู่แค่คนเดียว แต่มันมีไว้สำหรับทุกคน และคนที่ใช้มันควรระมัดระวัง เพื่อตัวเอง...และเพื่อคนอื่นด้วย
เพราะหากเหตุการณ์ร้ายๆ มันเกิดขึ้นกับครอบครัวตัวเองเหมือนที่มันเกิดขึ้นกับเขา...มันก็คงจะกลับไปแก้ไขอะไรอีกไม่ได้แล้ว
- 👁️ ยอดวิว 1866
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น